|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ปัญหาและอุปสรรคด้านการค้าและการลงทุนในประเทศจีน
ปัญหาและอุปสรรคด้านการค้าและการลงทุนในประเทศจีน
ประมวลปัญหาและอุปสรรคการลงทุนในจีนที่สำคัญ สามารถสรุปได้ดังนี้ 1)ระบบกฎหมายเกี่ยวกับการลงทุนโดยตรงจาต่างประเทศทั้งประเทศไม่ได้ใช้กฎหมายและระเบียบชุดเดียวกันกฎหมายและระเบียบส่งเสริมการลงทุนที่ออกโดยรัฐบาลกลางและรัฐบาลระดับมณฑลมีความแตกต่างกันทำให้นักลงทุนต่างชาติต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรวบรวมศึกษากฎระเบียบต่าง ๆ มิฉะนั้นจะเกิดความผิดพลาดได้ง่ายและเป็นอุปสรรคอย่างมากสำหรับการลงทุนขนาดกลางและเล็ก 2)เจ้าหน้าที่ระดับสูงในระดับมณฑลและย่อยลงไปมีมากมายหลายฝ่ายทั้งที่เกี่ยวข้องโดยตรงและโดยอ้อมกับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทำให้การติดต่อกับตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องไม่ชัดเจนและไม่แน่นอน 3)ปัจจุบันจีนเน้นส่งเสริมการงทุนที่ใช้เงินลงทุนจำนวนมากและใช้เทคโนโลยีระดับสูงนักลงทุนขนาดกลางของไทยไม่สามารถจะเสนอโครงการลงทุนเช่นนี้ได้ นอกจากนี้ผู้ประกอบการไทยยังขาดฐานทางเทคโนโลยีและตลาดต่างประเทศที่จะรองรับสินค้าที่ผลิตในจีนทำให้โครงการลงทุนไม่ได้รับความสนใจจากจีน 4)ผู้ประกอบการไทยที่คิดจะไปลงทุนในจีนส่วนมากขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบต่างๆในการทำธุรกิจในจีนซึ่งแตกต่างจากระบบที่เป็นอยู่ในไทยและประเทศเสรีประชาธิปไตยอื่นๆ ได้แก่ ระบบการโอนสิทธ์การใช้ที่ดินหรือเช่าที่ดิน ระบบการจ้างงานระบบการนำเข้าวัสดุและชิ้นส่วน ระบบการค้าส่งและค้าปลีกระบบสินเชื่อธุรกิจการค้าและการบริโภค ระบบการแลกเปลี่ยนเงินตราอำนาจการดูแลควบคุมของเจ้าหน้าที่ระดับสูงและระดับท้องถิ่นนอกจากนี้เป็นประเทศที่กว้างใหญ่ไพศาล ภูมิภาคและท้องถิ่นต่าง ๆมีความแตกต่างอย่างมากในด้านขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม รสนิยมการบริโภคผู้ประกอบการที่มีความรู้ความเข้าใจเหล่านี้ดีจึงจะสามารถทำธุรกิจในจีน
ความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจภายในประเทศจีน
ในเชิงมหภาค ความเสี่ยงของประเทศมักจะพิจารณาจาก สงคราม การปฏิวัติ เสถียรภาพทางการเมือง นโยบายรัฐบาล บัญชีประชาชาติ ภาวะหนี้ต่างประเทศ และฐานะทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นปี 2000 หนี้ต่างประเทศของจีนเท่ากับ 146.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ มากเป็นอันดับสามของโลก แต่จีนมีทุนสำรองระหว่างประเทศทั้งภาครัฐและเอกชนรวมกันเท่ากับ 168.86 พันล้านเหรียญสหรัฐ มากเป็นอันดับสองของโลก จีนมีทุนสำรองระหว่างประเทศเพียงพอที่จะชำระหนี้ต่างประเทศ รายรับเงินตราต่างประเทศทั้งจากการส่งออกและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศยังมีแนวโน้มที่สดใส ในเชิงจุลภาค สำหรับนักธุรกิจต่างชาติ ภาพอาจจะแตกต่างกันออกไป เนื่องจากที่ผ่านมาตลาดแบบสังคมนิยมของจีนกับตลาดแบบทุนนิยมเสรีของประเทศอื่นมีข้อแตกต่างมากมาย เช่น ตลาดจีนเป็นตลาดขนาดกลางขนาดเล็กแบ่งแยกกันเป็นร้อยเป็นพันแห่ง การค้าส่งค้าปลีกและธุรกิจกระจายสินค้าในจีนยังไม่ปล่อยเสรี ระบบกฎหมายและศาลยังไม่ได้มาตรฐาน ระเบียบและแนวปฏิบัติในแต่ละเขตพื้นที่แตกต่างกัน มีการควบคุมอย่างเข้มงวดเกี่ยวกับการจ้างแรงงาน การนำเข้าวัสดุและชิ้นส่วน การส่งกำไรกลับประเทศและการโฆษณาสินค้าทางสื่อมวลชน ฯลฯ จีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากก็จริง แต่ก็มีหลายปัจจัยที่ทำให้ตลาดภายในจีนถูกแบ่งแยกเป็นร้อยเป็นพันแห่ง ประการที่หนึ่ง จีนเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางรายได้อย่างมากระหว่างเขตพื้นที่ต่าง ๆ และระหว่างเขตเมืองกับเขตชนบทชาวจีนส่วนใหญ่ยังไม่มีเงินรายได้เป็นเงินมากพอที่จะใช้จ่ายซื้อสินค้า ประการที่สอง ระบบการขนส่งทางไกลยังไม่เพียงพอและทั่วถึง ระบบการค้าส่งและค้าปลีกอยู่ในมือภาครัฐระดับมณฑลและท้องที่ ธุรกิจต่างชาติขนาดใหญ่อาจคุ้มที่จะสร้างระบบการกระจายสินค้าของตนเองขึ้นมา แต่ธุรกิจต่างชาติขนาดกลางและเล็กทำได้ไม่คุ้มเสีย จึงจำเป็นต้องพึ่งระบบการกระจายสินค้าของทางการจีน ซึ่งมีข้อจำกัดอยู่มาก ประการที่สาม รัฐบาลท้องถิ่นยังยึดติดการพึ่งพาตนเองตามนโยบายยุคประธานเหมา รวมทั้งยังมีทัศนคติมณฑลนิยม มีการกีดกันสินค้าจากต่างมณฑลต่างเขตพื้นที่ ไม่ปล่อยสินค้าคุณภาพดีกว่าจากมณฑลอื่นเข้ามาแข่งขันอย่างเสรีอย่างที่ควรจะเป็น ประการที่สี่ ผู้บริโภคแต่ละเขตพื้นที่ยังมีรสนิยมการบริโภคที่แตกต่างกันมาก เมื่อตลาดขยายตัวขึ้น ความแตกต่างนี้ก็จะน้อยลง ประการที่ห้า ผู้บริหารระดับสูงของจีนทราบดีว่า ปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จทางการตลาดคือ การที่บรรษัทชั้นนำต่างชาติใช้สื่อมวลชนที่ปล่อยเสรีโฆษณากล่อมผู้บริโภค ที่ผ่านมารัฐบาลจีนจึงควบคุมการโฆษณาสินค้าของธุรกิจข้ามชาติอย่างเข้มงวด และธุรกิจสื่อสารมวลชนจะเป็นธุรกิจสุดท้ายที่จีนจะปล่อยเสรี กล่าวโดยสรุปก็คือ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาจีนยังไม่ได้เข้าเป็นสมาชิก WTO ประเทศต่าง ๆ ทำธุรกิจกับจีนแบบไม่เสมอภาค กล่าวคือ ประเทศต่าง ๆ เปิดกว้างให้กับจีน แต่จีนกลับปิดตลาดด้วยมาตรการต่าง ๆ โดยที่รัฐบาลประเทศเล็ก ๆ ก็มิได้ถือสาหาความกับจีนเท่าที่ควร นักลงทุนต่างชาติที่ไม่เข้าใจความแตกต่างเหล่านี้ย่อมประสบความล้มเหลวในการลงทุนที่จีนและจีนจะเป็นที่ที่มีความเสี่ยงกับนักลงทุนเหล่านี้ ดังนั้น หากจะประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในประเทศจีนได้จะต้อง 1. มองตลาดภายในประเทศจีนเป็นรายพื้นที่และราย Sector รวมทั้งมีความเข้าใจในตลาด 2. ศึกษากฎระเบียบของแต่ละท้องถิ่นให้กระจ่าง 3. ดูแลควบคุมกิจการอย่างใกล้ชิดเพื่อสามารถปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลง 4. มีความเข้าใจสถานภาพภายในท้องถิ่น ซึ่งประเด็นที่ได้นำเสนอเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
|
|
Create Date : 28 สิงหาคม 2551 |
Last Update : 29 สิงหาคม 2551 13:17:44 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3512 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|