ฮันเซลกับเกรเทล - another stories
คราวนี้ออกแนวเทพนิยาย แต่เป็น Dark side fairytale จ๊ะ


 



ช่วงนี้เจ้าของบล็อกกำลังติดเกม the sims2 แต่ซิมส์ 3 จะออกใหม่แล้วนี่นะ ได้เสียตังค์อีกแล้ว



 



จะว่าไป ชาวซิมส์ในเกม เดี๋ยวนี้เค้าปั๊ตตะนา มีหน้าตาเป็นพระเอกทไวไลท์ด้วยละเท๊ออออออออออ โฮกกกกกกก (คิดอะไรรู้กัน)



 



 



 



 



 



“พี่คะ หนูหิวจังเลย ฮือๆๆ”



“อดทนไว้เกรเทล อย่าร้องไห้ อีกเดี๋ยวเราก็จะได้ออกไปจากป่าแห่งนี้แล้ว” ผู้เป็นพี่ชายปาดน้ำตาบนหน้าของผู้เป็นน้องและลูบหัวเพื่อเป็นการปลอบใจ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็หิวจนไส้แทบจะขาด





เนื้อตัวของเด็กทั้งสองมอมแมม เสื้อผ้าก็ขาดรุ่งริ่ง ยิ่งรองเท้าไม่ต้องพูดถึง เพราะพวกเค้าไม่ได้ใส่ ต้องพูดว่าไม่มีให้จะใส่เสียมากกว่า เท้าเปล่าเปลือยของเด็กทั้งสองจึงเต็มไปด้วยบาดแผลและคราบโคลน







ช่างน่าสงสารฮันเซลกับเกรเทล...เด็กทั้งสองเดินหลงทางอยู่ในป่าที่เป็นที่กล่าวขวัญกันว่า ขนาดนายพรานที่เชี่ยวชาญป่ามาก ๆ หากไม่ทำสัญลักษณ์ไว้ดี ๆ เมื่อเข้าไปแล้ว จะไม่มีสิทธิ์ออกมาอีกชั่วชีวิต แล้วนับประสาอะไรกับพวกเด็ก ๆ ล่ะ...







กรอบ แกรบ กรอบ แกรบ...

เสียงย่ำใบไม้แห้งยังคงต่อเนื่องเป็นจังหวะสม่ำเสมอ







“พี่คะ หนูได้กลิ่นหวาน ๆ หอมจังเลย คงเป็นพวกขนมปังแน่ ๆ” เกรเทลทำจมูกฟุดฟิดและพยายามหาต้นตอของกลิ่นว่ามาจากทางไหน



“ไหน...พี่ไม่ได้เห็นกลิ่นอะไรเลย” ฮันเซลแย้งขึ้นหลังจากที่ลองหาเจ้ากลิ่นนั้น



“พี่ว่า เราคงหิวเกินไปละมั้งเกรเทล นี่ก็ค่ำแล้ว งั้นคืนนี้ เรานอนกันตรงนี้ก็แล้วกัน หลับซะจะได้ไม่หิว” ฮันเซลนั่งลงตรงโคนต้นไม้ใหญ่ที่กลาดเกลื่อนไปด้วยเศษใบไม้แห้ง

นอนตรงนี้ก็ดีเหมือนกันนะ เขาคิด พลางเอนกายลงพัก



“อ๊ะ หนูว่ากลิ่นมาจากทางนี้แน่ ๆ” เกรเทลยังคงไม่ละความพยายามในการตามหา



“เฮ้ เกรเทล พอได้แล้ว มานอนซะ” ฮันเซลพยายามข่มตาลง แต่ท้องเจ้ากรรมมันยังร้องขออาหารไม่เลิก



“เกรเทล”



“...”



“เกรเทล!” ฮันเซลผลุดลุกขึ้น แล้ววิ่งออกไปอย่างรีบร้อน







“เกรเทล นี่อย่าเดินไปคนเดียวสิ มันอันตรายนะรู้มั้ย“ ฮันเซลหายใจหอบเหนื่อย

“พี่ตกใจแทบแย่ว่าเราหายไปไหน ดีนะที่ยังไปได้ไม่ไกล”



เกรเทลยืนนิ่งไม่ไหวติง



“นี่ ได้ยินที่พี่พูดมั้ย ฮะ”



“พี่คะ ดูนั่น” เกรเทลชี้มือไปข้างหน้า สายตานั้นจับจ้องอยู่กับสิ่งสิ่งหนึ่งไม่วางตา



สิ่งนั้นคือบ้านหลังไม่ใหญ่นัก ที่ผนังจะประดับประดาไปด้วยขนมปัง แครกเกอร์ นอกจากนั้นยังมีเค้ก แล้วก็ขนมอื่น ๆ ไม่เว้นแม้แต่ตรงหน้าต่าง มันดูสวยงามแถมยังน่ากินมาก ๆ ด้วย



“บ้านขนมปัง!” สองพี่น้องพูดขึ้นพร้อมกัน



“เกรเทล”



“ค่ะ พี่ฮันเซล”



สองพี่น้องมองหน้ากัน ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามันหมายความว่าอะไร









“โอยยย อิ่มแปล้เลย มีความสุขจัง” เกรเทลกล่าวพลางลูบพุงของเธอไปด้วย

“อืม นั่นสินะ อร่อยสุด ๆ ไปเลย” ฮันเซลก็ใช่ย่อย เขาก็จัดการขนมไปเยอะเช่นกัน







“แอ๊ดดด” เสียงบานประตูเปิดออก



เด็กทั้งสองสะดุ้งตกใจ จนของที่กินไปเมื่อกี้นั้นแทบจะขย้อนออกมา



“ว้าแย่จังน้า อย่างนี้บ้านของชั้นก็แหว่งหมดเลยน่ะสิ เล่นกินกันไปซะเยอะเชียว” หญิงสาวในชุดกระโปรงยาวสีดำ ยืนอยู่หน้าประตู พร้อมทั้งยิ้มให้กับพวกเรา



“เอ่อ คือ พวกเราหิวมากก็เลย...” ฮันเซลพยายามอธิบาย เขารู้สึกละอายใจกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป



“คือหนูหลงทางในป่า แล้วก็หิวข้าวมาก แต่นางฟ้านำทางมาให้หนูได้พบกับบ้านขนมปังที่อร่อยและสวยงามหลังนี้ อีกทั้งเจ้าของบ้านก็ยังสาว สวย แถมยังใจดีอีกด้วย” เกรเทลกล่าว



น้องเขาช่างฉลาดจริง ๆ! ฮันเซลคิด



“หึหึหึ แหม ๆ ๆ ฉลาดจริง ๆ นะเรา ว่าแต่เข้ามาในบ้านก่อนสิ นี่มันก็มืดแล้ว ข้างนอกตอนดึก ๆ น่ะหนาวนะจ๊ะ” หญิงชุดดำหัวเราะชอบใจ จากนั้นก็พาพวกเราไปนั่งที่โต๊ะทานอาหารกลางบ้าน



 





“ว่ายังไง มีอะไรอยากจะเล่าให้ชั้นฟังมั้ย เกรเทล”



“...” เกรเทลนิ่งก้มหน้านิ่งเงียบ ผมก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดี



“เอ่อ..”



“ไม่เป็นไร วันนี้เธอคงเหนื่อยมากสินะ ไปอาบน้ำอาบท่าให้สบายตัว แล้วก็นอนซะ ฉันหวังว่าพรุ่งนี้คงได้ยินอะไรจากปากพวกเธอมั่งนะ”



“อ้อ ห้องน้ำอยู่ด้านบนขวามือ ส่วนห้องนอนอยู่ซ้ายมือ ไปอาบน้ำกันก่อนสิ ชั้นจะได้เตรียมที่นอนให้” หญิงชุดดำยิ้มให้พวกเราอย่างเป็นมิตร







“นี่พี่ฮันเซล”



“หืม ยังไม่หลับอีกเหรอ”



“ชู่วว เบา ๆสิ” เกรเทลจุ๊ปาก พลางกระซิบกระซาบ



“มีอะไร”



“อืม...ฉันสงสัยน่ะสิ”



“ว่า...?”



“ก็หญิงชุดดำคนนั้นน่ะ รู้ชื่อฉันได้ยังไง แถมเมื่อกี้นะ ฉันแอบโผล่หน้าออกไปดูตรงจุดที่เรากินบ้านจนแหว่ง แต่ปรากฏว่ามันเรียบเหมือนเดิมเลยล่ะ”



“หืม ยังงั้นเหรอ”



“นี่พี่ไม่ตกใจบ้างเลยเหรอ ฉันกำลังคิดว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นแม่มดน่ะสิ”



“บ้าน่า แม่มดไม่มีจริงหรอก”



“แล้วถ้ามันจับเรากินละ จะทำยังไง”



“พี่ว่าพรุ่งนี้ลองสังเกตเธอดูดีกว่า ถ้าเป็นแม่มดจริงล่ะก็...”



“เราจะทำยังไงดีพี่”



“ก็ต้องลองดูล่ะนะ คืนนี้นอนเอาแรงกันก่อนดีกว่า”





“อาหารเช้าเสร็จแล้วจ้า” เสียงหญิงชุดดำเรียกมาจากด้านล่าง ปลุกให้เกรเทลตื่นจากความฝัน



“เห็นพี่ฮันเซลมั้ยคะ” เกรเทลเดินมาที่โต๊ะ หน้าตายังงัวเงีย เธอถามขึ้นพลางขยี้ตา



“เอ๋ ไม่เห็นนี่จ๊ะ เอ้า ทานซะ เดี๋ยวจะเย็นซะก่อน”







หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ หญิงชุดดำที่ภายหลังรู้ชื่อว่าเฟร ก็ชวนเกรเทลออกไปหาสมุนไพรในป่า กว่าจะกลับก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว



“ขอบใจเธอมากนะ ทีนี้ก็ได้ของครบแล้ว จะได้ต้มยาเสียที” หญิงชุดดำจัดการเอาของที่ต้องใช้มาวางเรียงกันบนโต๊ะ



“งั้น หนูขอไปตามหาพี่ฮันเซลนะคะ ไปไหนของเค้าตั้งแต่เช้า”



หญิงชุดดำมองเกรเทลพักนึงแล้วจึงยิ้มและพูดว่า “กลับมาให้ทันเวลาข้าวเย็นก็แล้วกันนะ”



 





“เป็นอย่างที่คิดแน่ ๆ หญิงคนนั้นต้องเป็นแม่มดแหง ๆ ก็ส่วนผสมที่จะต้มยานั่นสิ แมงมุมเอย ตะขาบเอย แมงป่องเอย

ยาพิษชัด ๆ! ข้าวเย็นวันนี้จะใส่ของพวกนั้นลงไปรึเปล่าก็ไม่รู้ แค่คิดก็สยองแล้ว” เกรเทลคิด



“พี่ฮันเซล พี่อยู่ไหนน่ะ”



“พี่ฮันเซล”



เกรเทลตามหาพี่ชายของเธอ รอบ ๆ บริเวณบ้าน แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาของเค้า เธอเริ่มจะสิ้นหวัง พลางคิดไปต่าง ๆ นานาว่า

พี่ชายทิ้งเธอไป หรือว่าอาจจะโดนยัยแม่มดจับไปขัง ที่แย่กว่านั้น อาจจะโดนกินไปแล้วก็ได้





...พระอาทิตย์ตกดินแล้ว เกรเทลเดินกลับบ้านอย่างสิ้นหวัง น้ำตาเธอเริ่มปริ่มรอบ ๆ ดวงตาสีฟ้าใสของเด็กน้อย



แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงที่คุ้นเคยเรียกเธอจากด้านหลัง



“เกรเทล”



ฮันเซลนั่นเอง เขายืนอยู่ข้าง ๆ ต้นไม้ใหญ่ เงาของมันทำให้ของเห็นหน้าเขาไม่ชัดนัก แต่ด้วยลักษณะรูปร่าง และเสียงนั้นต้องเป็นเค้าไม่ผิดแน่ ๆ



เกรเทลรีบวิ่งไปหาพี่ชายอย่างดีใจ “พี่ไปไหนมาทั้งวันน่ะ ฉันตามหาตั้งแต่เช้าแล้ว รู้มั้ยว่าผู้หญิงคนนั้นน่ะ เป็นแม่มดจริงๆ”



“อืม พี่รู้แล้ว ก็เลยออกไปคิดหาวิธีจัดการมันยังไงล่ะ” ฮันเซลยื่นไม้ปลายแหลมเรียวขนาดพอเหมาะกับมือเด็กให้เกรเทลดู



“เห็นหม้อต้มยาใบใหญ่นั่นใช่มั้ย”



“อื้ม”



“เกรเทลก็ผลักหล่อนให้โดนหม้อใบนั้น พอหล่อนเสียหลักเราก็จะก็ใช้ไม้นี่ ปักเข้าที่หัวใจ”



“ว้าว พี่ฮันเซลฉลาดจริง ๆ” เกรเทลปรบมืออย่างพอใจ



“ไปกันเถอะ เวลาเรามีไม่มากแล้ว”







“อ้าว กลับมาแล้วเหรอ ข้าวเย็นวางอยู่บนโต๊ะนะ เธอกินก่อนเลย พอดีชั้นยังเคี่ยวยาไม่เสร็จเลยน่ะ” หญิงชุดดำกำลังตั้งหน้าตั้งตาเคี่ยวยาในหม้อ เธอพูดกับเราโดยที่ไม่ได้หันมามอง



“ดีล่ะเกรเทล จังหวะนี้แหละ” ฮันเซลกระซิบบอกน้อง



“อ้อ แล้วเจอพี่ชายมั้ยละจ๊ะหนูน้อย หึหึ” หญิงชุดดำก็ยังคงไม่มองพวกเราอีกเช่นเคย ไม่ระวังตัวเองเสียเลยนะ เกรเทลคิด



“เจอแล้วล่ะค่ะ ตอนนี้พี่เค้าอยู่ข้าง ๆหนูเลย” ตอนนี้เกรเทลยืนอยู่ข้างหลังหญิงชุดดำแล้ว



เธอกำลังจะเอื้อมมือไปผลักหญิงชุดดำพอดี





“เอ๊ะ ว่าไงนะ” จังหวะนั้นเองที่หญิงชุดดำหันมา



 









โครม!!!



 









เกรเทลพลาดท่าล้มลง ถือเป็นโชคดีของเธอ เพราะอีกนิดเดียวคนที่ลงไปอยู่ในหม้อนั้นอาจเป็นเธอได้

พอตั้งหลักได้ เธอก็หันกลับไปอย่างรวดเร็ว



 



แม่มดหายไปแล้ว!! พี่ฮันเซลด้วย เธอเริ่มเป็นฝ่ายกลัวแล้ว



 





ตุบ!!



 







จู่ ๆ ภาพที่อยู่ตรงหน้าของเกรเทลก็ดับลงไป เหมือนทีวีที่ถูกปิดสวิตช์



 









“อุ๊ยตาย นี่นะเหรอวัตถุดิบชั้นดีที่เธอบอกน่ะ”



“ใช่ ยาของเราคราวนี้คุณภาพดีแน่ ๆ ชั้นรับรอง”



เสียงผู้หญิงคุยกันปลุกให้เกรเทลตื่นขึ้น เธอค่อย ๆ ลืมตาและเริ่มมองไปรอบ ๆ ตัว แต่ภาพก็ยังไม่ค่อยชัดแถมยังรู้สึกร้อน ๆ อีกเสียด้วย ที่หัวก็ยังรู้สึกปวดจี๊ด ๆ อยู่เลย







“ดูท่าจะตื่นแล้วล่ะ” เสียงหนึ่งพูดขึ้น



“ว่าไงจ๊ะเกรเทล มีอะไรอยากสั่งเสียก่อนตายมั้ย?” อีกเสียงพูดต่อ



พอเกรเทลเพ่งมองชัด ๆ จึงเห็นว่า ทั้งสองเป็นหญิงสวมชุดดำสองคน



“แก พูดอะไรน่ะ พวกแกต่างหากที่ต้องตาย พี่ฮันเซลต้องมาช่วยชั้นและจัดการแกแน่”



“อ๊า ฮะฮะฮะ ช่างไม่ดูสภาพตัวเองเลยน้า” หญิงชุดดำคนหนึ่งพูด



 



ตอนนี้เกรเทลอยู่ในสภาพที่ถูกมัดมือมัดเท้า และแขวนอยู่เหนือปากหม้อต้มยาใบใหญ่ น้ำในหม้อกำลังเดือดได้ที่ทีเดียว





“ฮิฮิ นั่นสิ เอ แล้วพี่ฮันเซลของเธอเค้าไปไหนซะแล้วล่ะ” หญิงชุดดำอีกคนเสริมต่อ



“พี่ต้องมาช่วยชั้นแน่ ๆ แล้วแกสองคนก็จะถูกเค้าฆ่า นังแม่มดเอ๊ย” เกรเทลเกรี้ยวกราดด้วยความโกรธ



“ชั้นจะบอกให้ก่อนตายนะ พี่ชายเธอเค้าไม่มาช่วยหรอก เพราะอะไรรู้มั้ย...เพราะเค้าตายไปแล้วน่ะสิ

ตอนที่พวกเธอทั้งสองวางยาพิษฆ่าพ่อแม่ เพราะได้ยินว่าเค้าจะเอาเธอไปปล่อยในป่า พวกเธอนึกว่าเค้าตายไปแล้วตอนที่พวกเค้าล้มลง แต่แล้วพี่เธอดันเสียท่า โดนพ่อเธอแทง ตายไปพร้อม ๆ กัน ส่วนเธอมันก็เด็กติดพี่ ไม่ยอมรับความจริง หึหึ”



“ไม่จริง พี่เค้าอยู่กับชั้นตลอดนี่นา” เกรเทลเริ่มร้องไห้



“ไม่สงสัยบ้างเหรอ ว่าทำไมตอนกลางวันเธอไม่เจอเค้าน่ะ”



“เอาล่ะ พูดมากชั้นเหนื่อย แค่นี้คนอ่านก็พอรู้เรื่องต่อไปแล้ว บ๊ายบาย พวกเด็กโรคจิต” หญิงชุดดำหนึ่งในนั้นโบกมือให้กับเกล ส่วนอีกคนก็เงื้อขวานจะตัดเชือกที่โยงเกรเทลอยู่



 



 



“ไม่นะ อย่า!!! หนูขอโทษษษษษษษษษษษษษษษษษษษษษ” เกรเทลกรีดร้องอ้อนวอนสุดเสียง แต่...มันก็สายไปเสียแล้ว



 







“อืม กลิ่นดีทีเดียวแหละเธอ” หญิงชุดดำที่อยู่หน้าหม้อยาบอกอีกคน

“แหม แน่ล่ะสิ ก็ตามตำราเค้าบอกว่า ใส่เด็กลงไปด้วยนี่นา ยิ่งเป็นเด็กเลว ยิ่งดีนะเท๊อ”



 



 



 



!!!





Create Date : 06 พฤษภาคม 2552
Last Update : 3 มกราคม 2553 22:36:57 น.
Counter : 772 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อาโฮเฮะ
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



...


สวัสดีค่ะ

ยินดีที่แวะมานะคะ
Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า 3.0 ประเทศไทย
พฤษภาคม 2552

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31