อืม อาทิตย์ที่ผ่านมามันเป็นอาทิตย์ซวยของทิพเลยล่ะ หลังจากที่ปิด half term ไปอาทิตย์นึง แต่ไม่ได้หยุดซักเท่าไหร่เพียงเพราะไปสมัครสอบฟิสิกส์โอลิมเปียไว้ เลยต้องมานั่งอ่านหนังสือแทนไปเที่ยวซะนี่เช้าวันจันทร์ก็ยังปกติดีทุกอย่าง มีเรื่องดีๆแค่ว่าไม่ต้องเรียนบัญชีเพราะมาร์ติน(ครู)ไม่อยู่ ไม่ต้องตื่นเช้าๆไปเรียน ดีจิงๆวันอังคารก็ดินกลับบ้านเองอีกแล้ว แต่มันมืดง่ะ สยองมากๆเวลาเดินเข้าซอยเนี่ย วันนั้นยังโชคดี ถึงซอยบ้านตอน 5 โมงเย็น ยังไม่มืดมากเท่าไหร่ ไฟถนนก็เปิดแล้ว สบายใจล่ะ เดินได้ๆเรื่องซวยๆมันเริ่มจากวันพุธตังหากเล่า สำหรับใครที่ทราบระบบการสมัครเขามหาลัยของที่อังกฤษคงจะรู้ดีว่า นักเรียนจะต้องเขียน personal statement ส่งไปพร้อมใบสมัครด้วย ไอ้นี่ล่ะที่ยากที่สุด สำหรับทิพ คนที่ไม่ค่อยจะมองเห็นข้อดีของตัวเอง แต่ต้องมาเขียนพรีเซนท์ตัวเองเพื่อให้มหาลัยตอบรับเนี่ย มันยากมากๆเลยนะ กว่าจะเขียนได้ซักครึ่งฟน้า A4 เนี่ย ปาไป 2 ชั่วโมงเชียวล่ะ ทิพนั่งหาตัวอย่าง statement จากในเน็ตมาดู แล้วลองเขียนของตัวเองจนสำเร็จ (ตั้งกะ 3 ทุ่มยันตี 1) เขียนได้หนึ่งหน้ากระดาษพอดี เช้าวันพุธนั่นล่ะ ทิพมีนัดกับติวเตอร์ เพื่อจะเอาไอ้เจ้า statement ไปให้เค้าดู และแก้ไขปรับปรุง ผลปรากฎว่า Everlyn ขีดย่อหน้าแรกทิ้งตามด้วยคำพูดว่า This does not work พูดมางี้ก็จบสิ แล้วทิพจะไปรู้ได้ไงว่าเขียนยังไงถึงจะเวิร์ค ทิพอุตส่าห์ไปนั่งอ่านของคนอื่นเค้าในเน็ตตั้งเยอะตั้งแยะ แล้วมา adap เป็นของตัวเองแล้วนะ แล้วก็ขีดนู่นทิ้ง ย้ายส่วนนี้ไปส่วนโน้น สรุป เต็มหน้ากระดาษนั่น เหลืออยู่ 3/4 เอง แล้วยังจะให้เพิ่มหัวข้อที่เขียนอีก เหมือนกันเค้าลืมว่า เนื้อที่ในการเขียนมันมีจำกัดในแบบฟอร์ม แค่คิดก็เก๊กซิมแล้ว ต้องมานั่งปั่น statement เนี่ย ก็ทิพอยากจะรีบส่งใบสมัครจะได้มั่นใจได้ว่า จะได้รับการตอบรับจากมหาลัยที่ทิพหวังนี่นะแล้วตอนเย็น หลังจากวันอังคารเจอกับความมืดไปแล้ว เลยตกลงกับป้าว่าจะให้เค้าไปรับตอนเลิกเรียน แต่...วันนั้นลูกชายเค้ารับปริญญาอ่ะ ไปรับที่มหาลัซึ่งอยู่อีกเมืองนึง จบเห่เลย ต้องกลับเองอีกวันนึง ก็กะไว้ว่าจะขึ้นรถเมล์กลับแล้วเดินต่ออีกนิด พอมาถึงซอยบ้านคงยังไม่มืดมากนัก ที่ไหนได้ รถเมล์คนที่ทิพจะขึ้นมันดันไม่วิ่งซะงั้น แล้วก็ไม่มีป้ายติดบอกไว้ ทิพก็รอไปซิ จนอีกสายที่ไปทางเดียวกันมาเลยรีบขึ้น ภาวนาว่าอย่าเพิ่งมืดเลย ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันมืดแล้ว ทั้งเย็นทั้งมีเมฆฝน ไม่มืดก็บ้าแล้ว พอลงจากรถเมล์ได้ก็จ้ำลูกเดียว มาถึงซอยบ้านเอาตอน 5 โมงครึ่ง มืดยังกะสองทุ่มแน่ะ ไม่ชอบเลย ซอยบ้านทิพยิ่งเป็นป่าๆอยู่(นึกถึงบรรยากาศในเรื่อง Alis in Wonderland) พอมืดแล้วยิ่งน่ากลัว แถมไม่มีไฟถนนด้วยสิ เดินไปก็จะร้องไห้ กลัวจริงๆนะ ก็ไหนจะมีสัตว์ป่ามาวิ่งเล่นตอนกลางคืน (เช่น สุนักจิ้งจอก) ไหนปีที่แล้วจะมีข่าวพบศพเด็กสาวลึกเข้าไปในซอย(ป่า) มันก็น่ากลัวจริงๆล่ะ เข้าบ้านได้ก็ปล่อยโฮเลยทีนี้ อัดอั้นมาก ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีจินตนาการบรรเจิดขนาดนั้น ทั้งที่ไม่เคยอ่านหนังสือสยองขวัญหรือไรจำพวกนั้นเลย ไม่น่าเชื่อจริงๆ พอวันพฤหัสก็เรียนบัญชีตอนเช้า มานั่ง recap ไอ้ที่ทิพไม่ได้เรียนเมื่อวันอังคาร (มาร์ตินเค้าเรียกไปเรียนตอนเช้าวันอังคาร แต่ทิพติดเรียนอีกวิชาอยู่น่ะ เลยไม่ได้ไป) แล้วเค้าก็มาบอกคะแนน ecpected grade ให้รู้กัน ทิพได้ B นะ ทั้งที่ทิพคิดว่าทิพจะได้ A ซะอีก อย่าหาว่าทิพมั่นใจเกินไปเลยนะ แต่วิชานี้ ทิพว่าทิพทำได้อ่ะ ถ้าไม่มีการมีนั่งจำ ratio เป็นสิบๆสูตรอีกอ่ะนะ จนจบชั่วโมง ก็ตามมาร์ตินไปเอาการบ้านที่ตรวจแล้วคืน เค้าก็ถามทิพว่า การบ้านทิพน่ะ ได้รับความช่วยเหลือจากไมค์(ครูอีกคน)มากแค่ไหน ทิพก็ตอบตามจริงนะ ว่าแค่ส่วนเงินทุนเท่านั้น เพราะทิพตีโจทย์ผิดไป เค้าก็เอาแต่พูดว่า ทีหลังไม่ต้องถาม ทำๆไปเถอะแล้วเดี๋ยวตรวจเสร็จเค้าจะเฉลยเอง หรือถ้าสงสัยอะไรให้ถามเค้าไม่ต้องถามคนอื่น หลายคนคงคิดว่าเค้าพูดถูก แต่นะ ก็ไอ้ที่ทิพไปถามคนอื่นก็เพราะทิพถามมาร์ตินแล้วเค้าไม่ตอบทิพนี่นา แล้วการที่ทิพจะขวนขวายหาความรู้นี่มันผิดนักใช่มั๊ย แล้วตอนที่เค้าเฉลยน่ะ ทิพไม่ได้เข้าเรียนชม.นั้นนะ(วันอังคารไง) แล้วถ้าทิพไม่ไปถามไมค์ตอนนั้น ทิพก็เป็นแค่เด็กโง่ๆคนนึงสิ ใช่รึเปล่า แล้วมาร์ตินบอกว่าจะดูจากคะแนนการบ้านชิ้นนั้นแล้วจะประเมินคะแนนที่คิดว่าทิพจะได้ตอนปลายเทอมออกมา การบ้านน่ะ ทิพได้ A นะ แต่เค้าประเมินทิพเป็น B จะให้ทิพคิดว่าไงล่ะ ครูเขม่นหน้าทิพ เพราะไปถามครูคนอื่น แล้วเลยมาลงที่เกรดทิพน่ะหรอ ทิพนึกว่าอย่างนี้จะมีแต่ในเมืองไทยแล้วนะ ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอที่นี่อีก แล้วตอนเที่ยงก็มัวแต่ช่วยเพื่อนกรอกฟอร์มสำหรับสมัครมหาลัย เลยไม่ได้ทานข้าวเที่ยง ต้องไปเรียนต่อ คิดไรไม่ค่อยออกเลย ทำโจทย์เลขไม่ออกซักข้อ (หรือทิพเลือกแต่ข้อยากก็ไม่รู้) ชักจะปลงๆซะแล้ว ตอนกลางคืนก็นั่งคุยกะ Kelly ในเอ็ม เกี่ยวกะงานของวิชาต่างๆ แล้วก็ทริปของรร.ที่ว่าจะไปกัน คุยไปคุยมาจนตี 1 ถึงได้แยกไปนอนเพราะนอนดึกมาหลายวัน เลยมากระทบเอาวันสุดท้าย ตื่นเอา 8 โมง วิ่งเข้าห้องน้ำ แต่งตัวกินข้าวเช้าเสร็จภายในเวลา 20 นาที เป็นประวัติการมากๆ ไม่เคยทำธุระตอนเช้าเร็วขนาดนี้มาก่อน แม้แต่ตอนอยู่รร.เก่า กระหืดกระหอบไปเข้าเรียนฟิสิกส์ด้วยความง่วง แถมด้วยปวดท้องตรงช่วงกระเพาะอีกแน่ะ หวังว่าคงไม่เป็นโรคกระเพาะหรอกนะ แล้วทิพยังไปติดหวัดมาจาก Nick (class mate) อีกตังหาก ไหนใครว่า หลังจากหายไข้จะมีภูมิคุ้มกันซักพักไง ทำไมมันเป็นอีกแล้วล่ะ แง๊...เป็นอาทิตย์แห่งความซวยจริงๆ หวังว่าอาทิตย์หน้าจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นบ้างนะ อย่างน้อยให้ statement ผ่านก็ยังดี อิอิ