เซ็น
เซ็น กับ เซ็ง ฟังดูคล้ายๆ กันแต่ความหมายต่างกันโดยสิ้นเชิงเซ็ง เป็นอารมณ์เบื่อหน่ายแต่เซ็น เป็นอารมณ์ว่างเปล่า ความเดิมจากเมื่อวานซืนนี้เรารู้สึกเซ็งจากเรื่องที่มีคนนำมาให้กลุ้มพอวันรุ่งขึ้น (เมื่อวานนี้)เราก็ไปรำไท้เก็กที่สวนรมณีย์นาถนั่งสมาธิ ฟังเพลงบทสวดมนต์ที่เปิดข้างๆจิตใจก็เริ่มสงบขึ้น สักครู่หนึ่ง เราก็ได้ยินเสียงจากรายการวิทยุที่ทางสวนเปิดให้ฟัง เป็นรายการด้านสารคดีในรายการได้บอกถึงเรื่องของ "ความทรงจำ"กล่าวคือนักวิจัยได้พากันสงสัยในความสามารถของสมองที่เก็บข้อมูลต่างๆว่ามีกลไกอันใดหรือที่ควบคุมความสามารถนั้นแม้ปัจจุบันจะเข้าสู่ยุคนาโนเทคโนโลยีแต่นักวิจัยก็ยังหาคำตอบดังกล่าวไม่ได้ ครั้นพอตอนเที่ยง เราก็ไปฟังเทศน์ที่ตึกวชิรญาณ รพ.จุฬาลงกรณ์พระที่มาเทศน์ได้สอนเรื่องของจิตท่านสอนว่าจิตนั้นมีธรรมชาติพิเศษอย่างหนึ่งคือสามารถเก็บบันทึกข้อมูลต่างๆ ได้ชนิดที่เรียกว่าข้ามภพข้ามชาติเลยทีเดียวนี่อาจเป็นคำตอบของคำถามในตอนเช้ากลไกที่แท้จริงในการเก็บความทรงจำมาจาก "จิต" ของเรานั่นเองนอกจากนี้ท่านยังให้คำสอนอันทรงค่าที่ปรับจิตใจของเราให้ดีขึ้นเยอะเลย นั่นคือ การเปลี่ยนจิตใจจากทุกข์ให้เป็นสุขต้องใช้หลัก "ปล่อยวาง"ท่านเปรียบเหมือนคนที่พายเรือข้ามฝั่งแล้วครั้นถึงฝั่ง แล้วจะเดินทางต่อคงไม่มีใครแบกเรือตามไปด้วยแน่ฉันใดก็ฉันนั้นแต่การปล่อยวางนั้นใช่ว่าจะวางไปทุกเรื่องเราจะวางในเรื่องที่ควรวางและใช้ชีวิตไปตามปกติ มีใจที่อิสระ เช้าวันต่อมา (วันนี้)ขณะที่เราทำบุญกรวดน้ำเสร็จแล้วเราพบว่าถ้วยชามแก้วน้ำที่ใส่อาหารทำบุญมีแต่ความว่างเปล่านี่แหละที่เรียกว่า "เซ็น" พอตอนสาย ก็มีคนโทรมาอีกเรานึกว่าเป็นคนที่โทรมาเมื่อวานซืนซะอีกที่ไหนได้ กลับเป็นอาจารย์ที่วิทยาลัยพยาบาล ท่านโทรมาชวนให้เราไปชมงานแข่งขันการออกกำลังกายเวลาบ่ายโมง ที่มาบุญครองทีมนักศึกษาพยาบาลก็เข้าร่วมแข่งขันด้วยนี่คือรอบชิงชนะเลิศ ที่คัดมา 10 ทีม จาก 80 ทีมเป็นงานที่ยิ่งใหญ่งานหนึ่งเลยทีเดียว เราเจอนักศึกษาคนหนึ่งที่เคยเรียนไท้เก็กเมื่อปีก่อนกะว่าจะฝากความคิดถึงไปถึงใครคนหนึ่งซักหน่อยแต่ในงานคนเยอะมากและค่อนข้างเร่งรีบเลยไม่ได้ฝากไปบอกนะ ว้า...แย่จัง อิอิอิ แม้ทีมวิทยาลัยพยาบาลจะไม่ได้รางวัล 1 ใน 3แต่ก็ได้รับคุณค่าทางจิตใจ นั่นคือความภูมิใจสามารถผ่านเข้ารอบ 10 อันดับสุดท้ายได้เท่านี้ก็ถือว่าเก่งแล้วล่ะ จริงมั๊ย ในการแข่งขันครั้งนี้มีผู้เข้าแข่งขันบางคนปรากฏมีรอยยิ้มขึ้นมาเมื่อมีญาติพี่น้องมาเชียร์ตรงนี้ทำให้เราเข้าใจแล้วว่าสิ่งหนึ่งที่สำคัญในชีวิต ก็คือ "กำลังใจ" นั่นเอง เหลืออีก 2 อาทิตย์ เราก็จะไปแข่งขันไท้เก็กในงานชิงแชมป์ประเทศไทย ที่อยุธยาแล้วสิ่งที่เราได้เห็นในวันนี้อาจเป็นประโยชน์ก็ได้ที่สำคัญก็คือเราต้องมี "เซ็น" ไม่ใช่ "เซ็ง"แล้วทุกอย่างก็จะมีแต่นำความสุขให้เราเหมือนอย่างที่เป็นตอนนี้ไง
--- วิทยายุทธ มิตรภาพ ความรัก บุญคุณ ความแค้น สิ่งเหล่านี้มิอาจหลีกเลี่ยงได้จริง ๆ ---
วิถีแห่งเซ็น เป็นวิถีแห่งความสงบ
ส่วนวิถีการ"เซ็น" เป็นวิถีที่ไม่สงบ เพราะต้องคอยหลบการทวง จึงเป็นบ่อเกิดแห่ง "เซ็ง"
"วิถีเซ็น" จิตใจว่างเปล่า
"เซ็นเป็นวิถี" กระเป๋าว่างเปล่า
อย่างไรซะ ขออนุญาตเก็บแง่คิดดี ๆ บางมุมกลับไปด้วยนะครับ