Group Blog
 
 
มกราคม 2560
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
11 มกราคม 2560
 
All Blogs
 

ไปเชียงรายอีกรอบ เที่ยวแบบหอบ ดูทะเลหมอกแบบใกล้ชิด






ทริปนี้เริ่มจากการดูรูปเก่าๆ ใน blog แล้วคุณเกาทัณฑ์บอกว่าจำไม่ได้ ซึ่งพอดีกับที่สายการบิน vietjetair เปิดเส้นทางบินภูเก็ต-เชียงราย ทำให้เราวางแผนและชวนคุณลุงไปเที่ยวด้วยกันได้ เป้าหมายคืองานดอกไม้และพาเด็กใต้ไปขึ้นดอย แต่ vietjet จะบินวัน อังคาร พฤหัส เสาร์ ทำให้เราต้องวางแผนเพื่อเที่ยวให้เต็มวันที่มีอยู่ เราไปพฤหัสกลับวันเสาร์ แถมเที่ยวบินวันแรกไปถึงเย็นด้วย เหมือนเสียเวลาไปเลย 1 วัน ถ้าใครจะไปแนะนำให้ไปวันเสาร์กลับวันอังคารจะดีกว่า

รอขึ้นเครื่อง




เริ่มต้นออกจากบ้านบ่ายโมงกว่าไปถึงสนามบินภูเก็ตบ่ายสองพอดี แต่ความยากลำบากของสนามบินนานาชาติภูเก็ต ที่ผู้บิรหารบริหารงานได้สุดยอดดดดดด ทำให้เราต้องจอดรถที่อาคารจอด แล้วรอรถตู้ ขึ้นรถตู้ไปอาคารภายในประเทศ รอคิวตรวจกระเป๋า และรอเช็คอินเกือบชั่วโมงครึ่ง แต่โชคดีที่เรามาก่อนเวลาเยอะทำให้ไม่ต้องเครียดมากกับการเดินทาง ไฟลท์เรามีเปลี่ยนเกตและดีเลย์เล็กน้อย น่าจะเป็นผลมาจากการที่ไฟลท์ไปภาคใต้มีปัญหาเพราะน้ำท่วม เลยรวนกันมาเป็นทอดๆ ถึงเชียงราย 18.20 น. สภาพสนามบินต่างกันลิบลับ ถึงแม้ที่นี่จะเล็กกว่าแต่ความเป็นระเบียบและการจัดการดีกว่าขามามาก ทำให้เราใช้เวลาเล็กน้อยในการรอกระเป๋า เสร็จแล้วก็ไปติดต่อรถเช่าได้ทันที

อยู่บนฟ้าแล้ว



แม่เขียนพล็อต ลูกวาดรูป



ถึงแล้วมีน้องๆ มาบรรเลงเพลงเหนือให้ฟัง



มื้อแรกเซ็ตไว้เป็นร้านสลุงคำ แต่ไปถึงร้านปรากฏว่าเขาปิด 2 วัน เลยต้องมากินร้านภูแลตามคำแนะนำแรกจากบริษัทเช่ารถ อาหารเร็วแต่ลืมของเราสองอย่าง รสชาติธรรมดา เสร็จแล้วเราก็หลงทางตามระเบียบเพื่อหาที่พัก "บ้านพอดีดิน" ขับตามเจ้า google อยู่สองรอบจนเจอ เป็นที่พักเล็กๆ ในราคาเหมาะสมสำหรับนอนอย่างเดียว เช็คอินเสร็จก็ไปเดินไนท์บาร์ซ่ากัน มีฝนปรอยๆ คนไม่ค่อยเยอะ แวะซื้อของฝากนิดหน่อยก็กลับไปนอน 1 คืน

รออาหาร



เตรียมไปไนท์บาร์ซ่า



ได้ที่ปิดหูที่ตลาดไนท์ ราคา 100 บาท



วันที่สอง ตื่นเช้ามากินอาหารเช้า แยมที่นี่ทำเองอร่อยมาก แต่ส่วนที่ทำขายหมดเลยอดซื้อกลับบ้าน กินเสร็จเช็คเอ้าท์ก็ไปงานดอกไม้ที่แรก "สวนตุงและโคม" วนรถ 1 รอบ ในที่สุดได้จอดข้างทางแล้วเดินไปดูดอกไม้กัน ฝนหยุดแล้วแต่ข้างทางยังแฉะอยู่ ได้บรรยากาศไปอีกแบบนึง ที่นี่จัดดอกไม้เป็นระเบียบดี แต่ทิวลิปเพิ่งเอามาลงใหม่ ยังไม่บานเลย โชคดีดอกลิลลี่บานเต็มและมีหลากสีให้เราได้ฟินแทน เดินกันชั่วโมงกว่าแล้วแวะเข้าเมืองเพื่อซื้อหมูยอฝากคุณปู่ แล้วเดินทางต่อไปกินมื้อเบรก

ระหว่างรออาหารเช้า



เตรียมเช็คเอ้าท์



เกือบจะถึงงานแล้ว แวะถ่ายรูปก่อน



ถึงหน้างานแล้ว ฟ้าครึ้มๆ เจ้าหน้าที่ยังไม่ปิดไฟสวน





แค่ด้านหน้า ลิลลี่ก็หอมฟุ้งกระจาย






ถ่ายกับคุณลุง





ถึงทางเข้าแล้ว



เจอความงามของลิลลี่ ดอกยังเปียกฝนอยู่เลย



คนภูมิแพ้ต้องใส่หน้ากาก





สีนี้สวยแปลกตา



ดอกตูมก็มี







สีเหลืองก็สวย



มีรูปในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วย ข้างในมีนิทรรศไว้อาลัย การประกวดดอกไม้ และภาพวาด







รูปชนะเลิศ ครั้งก่อนๆ



ดูดอกไม้อื่นกันบ้าง



งานกร่อยเล็กน้อยตรงทิวลิปยังไม่บาน



แต่ดอกอื่นๆ ก็แข่งสีกันสุดฤทธิ์







ผีเสื้อดูดจนพุงกาง





มาตรงกำแพงดอกไม้



นางเอกของงานไปตรงไหนก็เจอ



ต้นคริสมาต์ไล่สี



กำแพงหัวใจ







เดินมาเรื่อยๆ











คุณลุงขอถ่ายกับพระอาทิตย์







สีมาตรฐานต้องมี



อันนี้เก๋







เรียกเค้าว่าคาลล่าลิลลี่







เดิน 1 รอบพอดี





ถ่ายกับเรด



เดินตั้งนานเพิ่งถึงชื่อสวน





เรามาถึง Melt in your mouth ร้านสวยมาก บรรยากาศดี สั่งคาปูชิโน่มา 2 แก้ว โกโก้มา 1 ชามา 1 กับขนมเค้กอีก 2 หลังจากอิ่มก็ไปวัดร่องเสือเต้นกัน มิสกูเกิ้ลพาเรามาถึงที่หมายแบบงงๆ เพราะมาจอดด้านหลังวัด ทำให้เราไม่ค่อยเจอคนเท่าไหร่ ถ่ายรูปจนเดินไปหน้าวัดแหละถึงเจอคนกับร้านค้าเต็มไปหมด แต่ไม่เยอะมากเท่าวัดร่องขุ่น ถ่ายรูป ไหว้พระ เสร็จเราไปต่อที่งานดอกไม้อีกงาน

หน้าร้าน




ป้ายตรงทางเดิน



ภายในสวยๆ



สุดหล่อรอโกโก้เย็น (พี่เค้าลืม)



เครื่องชงราคาแพง



จัดในตู้มา 2 ชิ้น



กาแฟมาแล้ว



ก่อนกลับ



มิสกูเกิลพาเรามาที่แปลกๆ จนมาถึงทางโคลน ข้างทางเป็นแม่น้ำและรถผ่านได้ 1 คัน มีมอเตอร์ไซต์อยู่ข้างหน้าเรา เขาต้องจูงรถแทนที่จะขี่ผ่านแอ่งน้ำ ป๊าตัดสินใจไปต่อ ปรากฎว่าได้จอดข้างกำแพงซึ่งเดินทะลุไปงานได้ทันที่ เดินเข้ามาก็เจอนางเอกของงานดอกทิวลิป ที่นี่มีเยอะและบานเต็มที่แล้ว เติมเต็มจุดมุ่งหมายของทริปได้พอดี เราเดินกันชั่วโมงหนึ่ง แล้วออกไปไร่บุญรอดเพื่อทานมื้อเที่ยง ขับมา 40 นาที คนเยอะมากขนาดรถพาชมสวนยังเต็มจนถึง 4 โมงเย็น เราเลยไปที่ร้านอาหารด้านบนเนินเขาแทน รอคิวกว่า 10 คิวก็ได้กินสักที รสชาติอาหารถ้ามีดาวให้คงแค่ 1 มั๊ง รสชาติธรรมดาสุดๆ ไม่คุ้มกับการรอเลย ถ้าใครไม่มีทริปแถวนี้ข้ามไปเถอะที่อื่นๆ ดีกว่าเยอะ ถ่ายรูปกับไร่ชาเสร็จก็ออกมาทางวัดร่องขุ่น แต่คนมหาศาลและเราก็มาหลายครั้งแล้ว เลยตัดสินใจขึ้นดอยเลย ออกจากไร่ประมาณบ่ายสอง ถึงที่พักผาตั้งฮิลล์ 5 โมงเย็นพอดี วิวข้างทางสวยมากจนเด็กตื่นเต้นใหญ่เลยบอกว่าสูงกว่าเขารังหลายเท่า อากาศเย็นสบายประมาณ 18 องศา เรามาเช็คอินแล้วเดินไปที่ห้องพัก วิวสวยมาก สภาพห้องที่ผาตั้งฮิลล์ดีกว่าภูชี้ฟ้าที่เคยพัก ห้องพักสะอาด ห้องน้ำก็ใช้ได้ ม๊าขออยู่อุ่นๆ บนที่พัก แต่เราขอไปสำรวจบนผาตั้งก่อนเพราะตอนเช้าต้องไปดูพระอาทิตย์ขึ้น และเจ้าของที่พักแนะนำว่าควรขึ้นไปดูก่อน เราก็ขับรถไป 1 กิโลจากที่พักก็ถึงแล้ว มีร้านค้าสิบกว่าร้าน ได้ถุงมือมาให้น้องทัณฑ์กับม๊า ที่นี่ขายของไม่บวกราคาเลย ทุกคนอัธยาศัยดีมาก เราเดินขึ้นไปตรงเก๋งก็หมดแรง เลยเดินกลับลงไปกินโรตีแทน ระหว่างรอโรตีคุณลุงโทรมาให้ไปดูพระอาทิตย์ตกเพราะฟ้าเปิดพอดี เราก็วิ่งไปดูสวยมาก เสร็จแล้วไปกินโรตีต่อ คนขายโรตีก็บอกว่าพรุ่งนี้ต้องสวยมาก เพราะฟ้าเปิดแล้วและหลังฝนตกหมอกจะหนา เราก็ถามรายละเอียดสำหรับพรุ่งนี้เช้ากันเล็กน้อย เสร็จแล้วก็กลับไปอาบน้ำสั่งอาหารเย็นมากินกัน มีไข่เจียว แกงจืด ผัดผัก อร่อยทุกอย่าง เสร็จแล้วก็ไปนอนให้ตัวอุ่นๆ บนเตียง

แค่นี้ก็คุ้มแล้ว





เรือใบมด



สวนที่แล้วทิวลิปยังตูม มาสวนนี้ถ่ายจุใจ











เห็นลิลลี่ไกลๆ



แต่ความอลังสู้สวนตุงไม่ได้



เพราะจุดเด่นเค้าคือทิวลิป





สวนนี้จัดรูปพระบรมฉายาลักษณ์วางคู่กับดอกไม้ได้สวยมาก





คาลล่าลิลลี่ก็มี



ดอกอื่นๆ ก็สวย



แม่ลูกคู่กัน





กับลุง 1 รูป



เหมือนสิงโต



สีม่วงสวยๆ





เพิ่งถึงป้ายงาน



สมเด็จย่ากับสวนสวยๆ



สุดหล่อ



ถ่ายป้ายงานอีกมุม







ตรงนี้จัดสวนสวยมาก















สีเหลืองก็สวย



ตัดกันกับสีม่วง



สีขาวแอบในดงม่วง



ดอกส้ม





ธรรมชาติผสมให้ ม่วง-เหลือง



นาฬิกาดอกไม้ คนถ่ายตรึม





มุมไว้อาลัย



ดอกหญ้าริมทาง



เดินวนมาทางออก ถ่ายทิวลิปก่อนกลับ



สุดหล่อกับไร่ชา



ม๊าขอนอนเล่นในห้อง ให้หนุ่มๆไปกัน 3 คน



มาสำรวจก่อนตอนเย็น



พระอาทิตย์ตกพอดี






วันที่ 3 เริ่มต้นวันในเวลาตีห้าครึ่ง เราตื่นมาล้างหน้าแปรงฟัน ขึ้นรถแล้วไปดอยผาตั้งกัน โชคดีที่มาสำรวจก่อนเพราะมืดมาก หมอกหนาอีก ก็ขับไปเช็คกระจกไปจนถึง ยังไม่มีใครมา เราก็เดินผ่านเก๋งจีน ผ่านพระพุทธรูปแล้วเดินตามราวเขียวขึ้นมายอดเนิน รู้สึกว่าวิวตรงนี้สวยมากมองเห็น 360 องศา ไม่มีใครมีแต่เรา รอพักนึงก็เริ่มมีคนทยอยเดินมา จะเห็นไฟฉายเป็นพักๆ พอพระอาทิตย์ขึ้นทุกคนก็ถ่ายรูปกันสนุก เสร็จแล้วป๊าชวนไปช่องเขาขาดต่อ แต่เลือกทางเดินทุลักทุเลทุกคนเลยเปื้อนโคลนกันหมด เดินไปถึงช่องผาขาดรอถ่ายรูป แล้วตัดสินใจขึ้นไปเนิน 102 กัน เนินนี้กับจุดที่เรายืนถ่ายรูปจุดแรก เมื่อเทียบกันแล้วเนินอันเก่าสวยกว่า คนน้อยวิวเรียบไปกับสายหมอก พอเคาะระฆังเดินกลับไปกินอาหารข้างล่าง ม๊าเลือกโจ๊กกับลุง ทัณฑ์กินมาม่า ป๊ากินข้าวผัด ต่อด้วยโรตี แล้วอาบน้ำเช็คเอาท์กัน เดินมาที่พักหน้าห้องเก้าโมงเช้าแล้วยังเป็นทะเลหมอกอยู่เลย มองดูเพลินตาสุดๆ ก็บรรลุจุดมุ่งหมายที่สองของทริปพอดี น้องทัณฑ์ชอบมาก

เห็นแสงรำไร



ด้านล่างคือทะเลหมอก



คุณลุงตั้งขากล้อง เตรียมรอพี่อาทิตย์เผยโฉม





มองทางไหนก็สวยไปหมดวิว 360 องศา





รอแสงอีกนิด








อากาศสบายๆ ไม่หนาวมาก










วุ่นวายกันสองคน







เริ่มสว่างแล้ว









หมอกคืบคลานเข้ามา



เห็นแล้ว















ขึ้นเร็วมาก













อีกมุมนึง











เดินไปช่องผาขาด





วิวตรงช่อง





เดินต่อไป เนิน 102 ด้านหลังคือที่เราเดินมาทั้งหมด





วิวจากบนเนิน 102





ระฆังบนเนิน 102



มีกุหลาบหินอยู่ข้างใต้



ขอตีเอาฤกษ์ แรงจนป้าข้างๆ ตกใจ



เส้นทางทั้งหมด หลังคาเขียวคือที่จอดรถ



เกือบลืมถ่ายป้าย



จุดที่เราทุลักทุเล ลื่นลงมา



หลักฐานคือรองเท้าเปื้อนโคลน



ลงมาซัดมาม่าตรงร้านค้า



นางพญาเสือโคร่งตรงลานจอดรถ



วิวตรงหน้าห้องพัก





เกือบลืมถ่ายกับป้ายตอนกลับ ผาตั้งฮิลล์



มิสกูเกิ้ลพาเรามาทางแม่สาย เรียบริมน้ำโขง เพื่อไปดอยตุง เห็นฝั่งลาวด้วย เป็นวิวอีกแบบต่างจากขาขึ้น สวยดี ขับมาสักพักก็พาไปตามทางแปลกๆ กว่าจะออกถนนใหญ่ก็ 30 กม. สุดท้าย เนื่องจากช่วงเทศกาล เจ้าหน้าที่ให้จอดรถข้างล่างแล้วขึ้นรถของดอยตุงขึ้นไปอีกที เรามาถึงก็หม่ำมื้อเที่ยงในโรงอาหาร อร่อยเหมือนเช่นเคย อิ่มเสร็จซื้อบัตรเข้าสวนกัน สภาพสวนตอนนี้เมื่อเทียบกับหลายๆ ครั้งที่เรามา ครั้งนี้สวยน้อยสุด อาจเป็นเพราะเราดูดอกไม้มาสองงานแล้วก็ได้ ถ่ายรูปเสร็จก็ขึ้นพระตำหนัก มาคราวนี้มีไกด์หูฟังส่วนตัวอธิบายทีละจุด อันนี้ดีมากเพราะมีหลายภาษา เดินจนครบรอบแวะซื้อของฝาก แล้วก็นั่งรถกลับลงดอย

ตุงไว้อาลัย



เดินเข้ามาในสวน



















เสร็จแล้วเตรียมขึ้นพระตำหนัก



พอมาถึงในเมืองเราก็แวะขัวศิลปะปรากฎว่าเค้าปิดส่วนแกลอรี่ เลยเปลี่ยนแผนไปบ้านดำแทน ไม่ไกลเท่าไหร่ก็ถึง แต่ไม่คิดว่าจะมีทัวร์จีนเยอะขนาดนี้ เราซื้อบัตรแล้วเข้าไปดูงานของอาจารย์ถวัลย์ หลายๆ อย่างเข้าถึงยากเกินไป เสร็จแล้วออกมาตรงส่วนช้อปปิ้ง แล้วก็ไปสนามบินกัน

ถึงหน้าบ้าน





















พอคืนรถเช่าเสร็จ ก็ถึงเวลาเช็คอิน ปรากฎว่าป๊าไม่รู้ทำบัตรประชาชนหล่นไปตอนไหน โชคดีใช้ใบขับขี่แทนได้ ที่สนามบินเชียงรายมีร้านอาหารจริงๆ 1 ร้านเอง เราก็สั่งคนละอย่างหม่ำเสร็จน้องทัณฑ์กินไอติม แล้วไปรอขึ้นเครื่อง ดีลเย์ไป 10 นาทีเช่นเคย ก็ขึ้นเครื่องกลับภูเก็ต จบทริปแสนสั้นอย่างมีความสุข แต่มาหงุดหงิดเอาที่สนามบินภูเก็ตอีกแล้ว รอกระเป๋าเกือบชั่วโมง ป้ายอะไรก็ไม่มีบอก นักท่องเที่ยวก็รอกันกรุ๊ปใหญ่หลายไฟลท์ด้วย สุดยอดการบริหารงานจริงๆ




 

Create Date : 11 มกราคม 2560
4 comments
Last Update : 13 มกราคม 2560 11:32:44 น.
Counter : 2607 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtuk-tuk@korat

 

ตามพี่แหม่มมาเที่ยวด้วยค่า

 

โดย: ณ มน IP: 125.26.47.178 13 มกราคม 2560 13:40:10 น.  

 

สวย น่าไปค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 13 มกราคม 2560 13:53:45 น.  

 

มาเที่ยวด้วยกันค่ะ ขอบคุณที่มาเยี่ยมเรานะคะ

 

โดย: tiara 13 มกราคม 2560 14:20:24 น.  

 

ขอบคุณที่แบ่งปัน

 

โดย: Kavanich96 14 มกราคม 2560 4:03:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


tiara
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 399 คน [?]




blog นี้ตั้งใจทำขึ้นเพราะต้องการให้ความรู้เรื่องการทำขนมอบเป็นวิทยาทานแก่คนทั่วไป ส่วนเรื่องลูกเป็นพื้นที่สำหรับเก็บบันทึกไว้ให้เกาทัณฑ์ และจะมีโฆษณางานเขียนของ tiara อีกเล็กน้อย หากสิ่งใดเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ก็ยินดีที่จะแบ่งปันค่ะ

ปล. tiara ไม่ได้เปิดสอนคลาสชงกาแฟสดและทำเบเกอรี่แต่อย่างใด ความรู้มีอยู่ใน blog สามารถเรียนฟรีได้เลยค่ะ ^^
ผลงานของ tiara

...เรื่องยาว...

...เรื่องสั้น...

"จอมยุทธ์ผู้ตามหาหงส์ขาว"
"Don't read my mind!"
"ลิลลี่สีขาวกับสาวน้อยของผม"
"หนุ่มรับเหมากับสาวแบรนด์เนม"
New Comments
Friends' blogs
[Add tiara's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.