สู้ๆ...ค่ะ fightingggggggggggggggggggggggggg
มาเรียนรู้พร้อมๆกันค่ะ เพื่อนๆ อิ อิ
บทความทั้งหมดเป็นของ อาจารย์เด็กลาดพร้าว ขอขอบพระคุณค่ะ
ทุกท่านสามารถอ่านบทความเต็มๆของอาจารย์เด็กลาดพร้าว ได้ที่ facebook
ตามลิงค์นี้นะคะ
Create Date : 11 เมษายน 2554 |
|
27 comments |
Last Update : 28 สิงหาคม 2556 4:40:44 น. |
Counter : 864 Pageviews. |
|
|
|
......ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่า "การเล่นหุ้น" ในเพจนี้หมายถึงการเล่นหุ้นเพื่อหวังกำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้นที่เคลื่อนไหว (Capital Gain) ดังนั้นเราจึงจะไม่สนใจการปันผล หรือการซื้อขายบริษัท หลายคนยังมีความสับสนในแง่การศึกษาเกี่ยวกับการเล่นหุ้นในเรื่องนี้ โดยการนำการลงทุนแบบซื้อบริษัทเพื่อเอามูลค่าของบริษัทและเงินปันผลของ วอร์แรน บัฟเฟตต์ มาทำการศึกษาเพื่อเล่นหุ้นทำกำไรจากส่วนต่างของราคา (Trader) ทำให้ศึกษาผิดแนวทางอย่างมาก
สรุปคือ Value Investor ลงทุนในบริษัท และเงินปันผล ส่วน Trader ลงทุนในการซื้อขายส่วนต่างของราคา และราคาหุ้นในตลาด ไม่ได้แสดงมูลค่าของบริษัทในสายตาของ Trader เป้าหมายของราคา ไม่ใช่ Fair Value เพราะราคาจริง ๆ แล้ว เป็นเพียงการบ่งบอกถึงจิตใจของผู้ซื้อขายหุ้น และการคาดการณ์ผลในอนาคต ตรงกันข้ามกับ VI ที่จะศึกษาและลงทุนในอนาคตของบริษัทที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่ Trader จะศึกษาในสิ่งซึ่งเกิดขึ้นแล้ว (การเคลื่อนไหวของราคา) การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นจึงขึ้นอยู่กับคนเล่นหุ้นเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับพื้นฐานของบริษัท แต่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกที่มีต่อบริษัท การศึกษาเรื่องการเคลื่อนไหวของราคา จึงควรศึกษาความรู้สึกของผู้เล่นหุ้นในตัวนั้น ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นเป็นผลรวมในรูปของกราฟราคาหุ้นนั่นเอง
เมื่อท่านได้เข้าใจแล้ว ท่านก็คงจะมีความชัดเจนว่าควรจะลงทุนแบบใด และศึกษาสิ่งใดต่อไปในอนาคต (หากเลือก VI เพจนี้อาจไม่เหมาะสำหรับท่าน)
ข้อควรจำ ..
1. Trader เชื่อในความเป็นจริงที่เห็น (จากกราฟ) ส่วน VI เชื่อในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น
2. Trader ไม่สนใจราคาที่เหมาะสม (Fair Price) แต่สนใจราคาเป้าหมายจากกราฟ
3. Trader ไม่สนใจว่าหุ้นจะดีหรือไม่ แต่จะสนใจหุ้นที่ขึ้น
4. Trader มีแต่หุ้นขึ้นกับลง ไม่มีหุ้นปั่น และหุ้นพื้นฐานดี
เด็กลาดพร้าว
21 ก.ค. 56