"The single best way to grow a better brain is through challenging problem solving." - Eric Jensen (1998), Teaching with the Brain in Mind
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
13 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 

อยู่ที่คน

12 ก.ค. 2550



วันนี้ผมขอเล่าประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ ให้ฟังครับ เกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ในสังคมที่บ้านเรามักจะแก้ไขกันที่ปลายเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ด้วยวิธีการออก กฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับ หยุมหยิมเพื่อมาปิดช่องโหว่ตรงโน้นตรงนี้ แทนที่จะไปแก้กันที่ต้นเหตุก็คือ คน ที่พยายามหลบเลี่ยงกฎระเบียบเหล่านั้น

เข้าใจว่าการแก้ที่คนนั้นแก้ยากและเห็นผลช้า ส่วนการแก้ที่ปลายเหตุนั้นง่ายและมองเห็นผลได้ชัดเจน แต่อย่างไรเสีย การแก้ที่คนก็เป็นวิธีที่ได้ผลอย่างยั่งยืนมากกว่า ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลานานสักแค่ไหนก็ต้องทำ ควบคู่ไปกับการแก้ที่ปลายเหตุ



ผมเคยไปเรียนปริญญาโทอยู่ที่สหรัฐอเมริกาประมาณสองปี ด้วยความที่นิยมชมชอบการดื่มสุรา ผมก็มักจะได้ไปเยี่ยมชมตามผับและร้านขายเหล้าอยู่เป็นประจำ เวลาที่จะเข้าผับทุกครั้ง ชายร่างกำยำที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูก็จะต้องเรียกดูบัตรประจำตัวทุกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าอายุเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือถ้าไปซื้อเหล้าตามร้านขายเหล้า เขาก็จะต้องขอดูบัตรเพื่อตรวจสอบอายุทุกครั้งก่อนที่จะขายให้

ร้านขายเหล้าที่ผมไปซื้อเป็นประจำ เฉลี่ยแล้วสัปดาห์ละครั้งเป็นอย่างน้อย อยู่ห่างจาก อพาร์ตเม้นท์ที่ผมพักแค่สองช่วงถนน ทุกครั้งที่ผมไปซื้อเบียร์หรือเหล้าที่ร้านนี้ เจ๊เจ้าของร้าน (ไม่แน่ใจว่าเป็นคนจีนหรือคนเกาหลี) ก็จะต้องเรียกดูบัตรประจำตัวผมเพื่อตรวจสอบอายุก่อนคิดเงินทุกครั้งไป ชั่วแต่ว่าเจ๊แกหน้าตาไม่ค่อยรับแขก (ผมถึงไม่กล้าถามว่าแกเป็นคนชาติไหน) ไม่อย่างนั้น ผมก็จะถามแกไปว่าจะตรวจบัตรผมไปหาพระแสงอะไรกันทุกครั้งๆ ก็เห็นหน้ากันอยู่ทุกอาทิตย์ บางอาทิตย์เจอกันถึงสองสามหนก็มี

แต่จะอย่างไรก็ตาม เจ๊แกก็ยังคงทำหน้าที่ของแกอย่างไม่เคยขาดตกบกพร่อง

ที่น่าสนใจไปกว่านั้น ร้านขายเหล้าร้านนี้ตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมันเสียด้วย แต่เขาก็ยังอนุญาตให้ขายกันได้ ทั้งนี้ก็เพราะเขามีระบบที่กวดขันกันเป็นชั้นๆ อยู่แล้ว และตัวละครที่เกี่ยวข้องอยู่ในแต่ละส่วนก็รับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี คนขายก็ต้องเรียกตรวจบัตรเพื่อตรวจอายุคนซื้อ ส่วนคนซื้อ ถ้าเมาแล้วไปขับรถ หากตำรวจเขาจับได้ ก็ต้องนอนในคุกก่อนอย่างน้อยหนึ่งคืนโดยไม่มีข้อแม้ พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากัน และหากว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในระหว่างที่เมาแล้วขับด้วยก็ยิ่งแล้วใหญ่ รอได้เลยว่าจะโดนโทษหนักๆ อะไรเพิ่มขึ้นอีก



ครั้งหนึ่ง ผมเคยเจอฝรั่งคนหนึ่งนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ในผับ เขาดื่มไปก็คุยกับบาร์เทนเดอร์ไปอย่างสนุกสนานเฮฮา

เขาเริ่มเมาได้ที่แล้วล่ะครับ

ต่อมาไม่นานนัก บาร์เทนเดอร์ก็บอกเขาว่า แก้วนี้เป็นแก้วสุดท้ายแล้วนะ เดี๋ยวจะเรียกรถแท็กซี่ให้มารับไปส่งที่บ้าน ส่วนรถที่ขับมาก็จอดทิ้งไว้ที่นี่แหละ พรุ่งนี้ค่อยมาเอา เขาก็ตอบตกลงอย่างว่าง่าย จังหวะนี้เองที่เขาหันมาเห็นกะเหรี่ยงอย่างผมซึ่งกำลังยืนสั่งเบียร์อีกเหยือกหนึ่งเพื่อเอากลับไปกินกับเพื่อนที่โต๊ะ เขาชวนผมคุย แถมยังสั่งเตกิล่าเลี้ยงผมอีกหนึ่งช็อตด้วย

ผมเองไม่เคยปฏิเสธความหวังดีจากใครเสียด้วยสิ ก็เลยรับความหวังดีจากเขามา ผมยืนคุยกับเขาอยู่สักพักหนึ่ง ชายร่างกำยำที่ทำหน้าที่เป็นยักษ์เฝ้าทวารก็เดินมาบอกว่ารถแท็กซี่มาแล้ว เขาก็ล่ำลาบาร์เทนเดอร์กับกะเหรี่ยงหลงทาง (ผม) แล้วก็เดินโซเซออกไปขึ้นรถแท็กซี่กับชายร่างกำยำผู้นั้นอย่างอารมณ์ดีและไม่มีอาการขัดขืนใดๆ ทั้งสิ้น

บาร์เทนเดอร์บอกกับผมหลังจากนั้นว่าเป็นหน้าที่ของผับที่จะต้องดูแลลูกค้า ไม่ปล่อยให้ไปเมาแล้วขับ เพราะอาจเกิดอันตรายต่อลูกค้าเองและคนอื่นๆ บนท้องถนน และหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริงแล้วมีการพิสูจน์ได้ว่าผับไม่ดูแลลูกค้า ผับเองก็จะแย่ไปด้วย

จะเป็นด้วยเขากลัวว่าผับที่เขาทำงานจะต้องเดือดร้อน หรือเขาใส่ใจลูกค้าของเขาจริงๆ ก็ตามแต่ แต่เขาก็ได้ทำหน้าที่ในส่วนของเขาอย่างสมบูรณ์



กฎระเบียบที่มีอยู่ในสังคมบ้านเขากับบ้านเรานั้นคงจะไม่มีอะไรแตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ คน ที่มีบทบาทอยู่ในแต่ละส่วนของกฎระเบียบเหล่านั้นว่าจะรู้จัก หน้าที่และความรับผิดชอบ ในส่วนของตนเองมากน้อยแค่ไหน



ที่เล่าให้ฟังนี้เป็นแค่มุมเล็กๆ มุมหนึ่งของกฎระเบียบเรื่องสุราเมรัยเรื่องเดียวเท่านั้น ลองขยายความคิดให้กว้างไปถึงเรื่องอื่นๆ ดูไหมครับ

...แทนที่จะห้ามโฆษณาเหล้าทางโทรทัศน์และสื่อต่างๆ อย่างเด็ดขาด ลองหาทางสอนให้ผู้คนรู้จักโทษของการดื่มสุราดูไหมครับ ทั้งโทษต่อร่างกายและต่อสังคมที่อาจเดือดร้อนจากปัญหาเมาแล้วขับหรือเมาแล้วอาละวาด หากรู้ถึงโทษแล้วยังอยากจะดื่ม ก็ให้เขาตายไปด้วยโรคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับตัวเขาเอง หรือถูกจับถูกปรับอย่างเด็ดขาดถ้าไปก่อความเดือดร้อนเข้า เงินทองที่จะได้จากผู้ผลิตเหล้าเพื่อมาสนับสนุนเรื่องการกีฬาและการท่องเที่ยวก็จะได้ไม่หายไปไหนด้วย...

...แทนที่จะแก้ไขระเบียบการสอบเอ็นทรานส์กันทุกปีๆ เพราะเหตุว่าไม่อยากให้เด็กเครียดกับการสอบหรือต้องพบกับความผิดหวัง ลองหาทางสอนให้เด็กรู้จักรับผิดชอบในการเรียนหนังสือซึ่งเป็นหน้าที่หลักของตัวเองเพื่ออนาคตที่ดีในภายภาคหน้า และฝึกให้เด็กได้พบกับความผิดหวังเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตบ้างน่าจะดีกว่าหรือไม่...

...แทนที่จะมาคอยเบลอภาพ หรือตัดฉากในโทรทัศน์หรือภาพยนตร์ที่ (คนบ้องตื้นเพียงไม่กี่คนคิดว่า) ไม่เหมาะสม จนกระทั่งประเทศไทยใกล้จะเป็นโรงเรียนอนุบาลขนาดใหญ่ (อย่างที่คุณเป็นเอกเขาว่า) เข้าไปทุกทีแล้ว ลองหันมาชี้แนะให้คนดูรู้จักแยกแยะสิ่งที่ควรหรือไม่ควรด้วยตัวเองจะดีกว่าหรือไม่ อรรถรสในการชมของคนที่มีวุฒิภาวะพอ (ซึ่งเชื่อว่าคอหนังส่วนใหญ่เป็นเช่นนั้น) ก็จะได้ไม่ต้องเสียไป คุณค่าทางศิลปะที่ผู้สร้างเขามีความเชื่อมั่นต่องานของเขาก็จะได้คงอยู่ ถ้างานของเขาไม่ดีจริงหรือเป็นพิษเป็นภัยต่อสังคม เดี๋ยวเขาก็จะต้องเจ๊งไปเองเพราะผู้คนไม่ยอมรับ...

...แทนที่จะรื้อรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2540 ทั้งฉบับ เพราะคนเพียงไม่กี่คนพยายามหลบเลี่ยงตามช่องว่างเพื่อหาประโยชน์ให้กับพวกพ้อง ลองแก้ไขเฉพาะบางมาตราให้รัดกุมขึ้นจะดีกว่าหรือไม่ แล้วหันมากำจัดคนที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงให้เด็ดขาด ทั้งโดยทางกฎหมาย และโดยมาตรการทางสังคม ซึ่งหมายถึงประชาชนที่เลือกคนขี้ฉ้อเข้ามาจะต้องรู้จักหลาบจำและไม่เลือกเอาคนเหล่านั้นเข้ามาอีก...



การแก้ไขหรือพัฒนาคนนั้นทำได้โดยการ ให้ความรู้ และการมี ตัวอย่างที่ดี ในสังคม ดังนั้น หน้าที่นี้จึงไม่ได้จำกัดอยู่ที่ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง และครูบาอาจารย์เท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ นักจัดรายการวิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ภาพยนตร์ ละคร ป้ายโฆษณาริมทางด่วน คนขายข้าวแกง ตำรวจ ทหาร นักการเมือง คนเก็บขยะ รัฐบาล สสร. คตส. คมช. ฯลฯ ด้วย ทุกคนสามารถให้ความรู้และเป็นตัวอย่างให้แก่กันและกันทั้งหมด

เพราะฉะนั้น การแก้ไขปัญหาซึ่งเกือบทุกปัญหานั้นเกิดขึ้นจากคน ก็ต้องแก้ที่คนนี่แหละครับ สำคัญที่ว่าคนเราจะยอมแก้ไขตัวเองกันมากน้อยแค่ไหน





ป.ล. 1 คืนนี้ (ขณะที่เขียน) ผมอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะเมื่อตอนเย็น ทีมชาติไทยเอาชนะทีมชาติโอมานได้อย่างสวยงาม 2-0 ถ้านัดสุดท้ายที่จะต้องเจอกับทีมชาติออสเตรเลียยังเล่นกันได้ดีเหมือนอย่างสองนัดที่ผ่านมา ผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญไปกว่าได้เห็นนักเตะไทยสู้อย่างสุดฝีมือแล้ว ที่จริงจะว่าไปแล้ว ผมมีความหวังอยู่ลึกๆ ว่าเราจะเฉือนเอาชนะออสเตรเลียได้เสียด้วยซ้ำไป ผลน่าจะออกมาเป็นทีมชาติไทยชนะได้ 2-1

ว่าเข้าไปนั่น...

แต่ถ้าไม่หวังผลเลิศ เราจะได้ผลเลิศได้อย่างไร จริงไหมครับ...



ป.ล. 2 เพิ่งได้เข้าไปอ่าน นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันศุกร์ที่ 13 ก.ค. 2550 คอลัมน์ "กระจกบานเล็กของแมงเม่า" ก่อนที่นำบล็อกนี้มาลง เขาพูดถึงเครื่องมือชิ้นหนึ่งที่เรียกว่า "Alcoholock" ใช้ติดตั้งกับรถยนต์ ผู้ขับจะต้องเป่าลมหายใจเข้ากับเครื่องนี้ก่อน ถ้าระดับแอลกอฮอล์ต่ำกว่าเกณฑ์จึงจะสตาร์ทรถติด ประเทศสวีเดนต้นคิดได้ติดตั้งเครื่องมือนี้กับรถสาธารณะไปแล้วกว่า 6,000 คัน น่าสนใจนะครับ ถึงจะเป็นการแก้ที่ปลายเหตุอย่างหนึ่ง แต่การแก้ที่ปลายเหตุก็ต้องทำควบคู่ไปกับการแก้ที่ต้นเหตุล่ะครับ การแก้ที่ปลายเหตุก็ถือเป็นมาตรการระยะสั้นไป ส่วนการแก้ที่ต้นเหตุก็ถือเป็นมาตรการระยะยาวไป

ด้านล่างนี้คัดจากคอลัมน์มาบางส่วน ฉบับเต็มเข้าไปติดตามอ่านกันได้ที่นี่ครับ


//www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Columnid=42557&NewsType=2&Template=1

...ต้องยอมรับเมาแล้วขับเป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลกจึงมีผู้พยายามป้องกันแก้ไขทั้งการตรากฎหมาย และหาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสกัดเมาแล้วขับ อย่างที่นำเสนอใน “รีดเดอร์ส ไดเจสท์” เล่มล่าสุดเขามีเครื่องล็อกแอลกอฮอล์หรือ Alcholock โดยสวีเดนเป็นต้นคิด

เป็นเครื่องมือติดตั้งในรถที่ผู้ขับรถจะต้องเป่าลมหายใจเข้าไปในเครื่องก่อนสตาร์ตรถ ถ้าแอลกอฮอล์สูงเกินพิกัดรถก็สตาร์ตไม่ติด ไปซิ่งอาละวาดบนถนนไม่ได้

โดยเครื่องมีระบบที่รัดกุมป้องกันไม่ให้ตัวผู้ขับขี่เองหรือสมคบกับผู้อื่นหลอกเครื่องได้ หลายประเทศในยุโรป เช่น เยอรมนี นอร์เวย์ สเปน ลองใช้เครื่องแอลกอล็อกกับรถบรรทุก,รถโดยสารแล้ว ขณะที่สวีเดนต้นตำรับติดตั้งกับรถสาธารณะไปแล้ว กว่า 6,000 คัน น่ายินดีก็คือบริษัทรถยนต์ชั้นนำอย่างวอลโว่ ซาบ และโตโยต้าเสนอให้เครื่องล็อกแอลกอฮอล์เป็นอุปกรณ์เสริมในรถบรรทุกรุ่นใหม่

อันนี้เป็นการบ้านที่หน่วยงานด้านถนนปลอดภัยในบ้านเราสมควรนำไปพิจารณา ออกมาใหม่ๆ เครื่องยังราคาสูงอยู่คือราว 60,000 บาทแต่ต่อไปเมื่อความต้องการสูงขึ้นก็อาจเหลือแค่ 15,000 บาท ถึงเวลานั้นน่าสนใจแล้วล่ะ

ระหว่างรอเครื่อง ก็อาศัยบริการกฎหมายกับตำรวจไปพลาง.




 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2550
19 comments
Last Update : 13 กรกฎาคม 2550 10:33:13 น.
Counter : 1629 Pageviews.

 

5555 เห็นด้วยว่า ทุกอย่างอยู่ที่คน กฏหมายสมัยนี้ ตราไปก็เท่านั้น ถ้าไม่ปฏิบัติ และไม่เอาจริง เอาจังกับมัน


สำหรับจุ ปัจจุบันนี้ จุลดสุราลงแล้ว เบียร์ก็ลดลงแล้ว ก่อนหน้านี้ เวลาเข้าสถานบันเทิงมีตรวจบัตร รู้สึกดีใจ หน้าฉันเด็ก แต่เพื่อนบอกว่า เขากลัวแก อายุเกินต่างหาก


ทุกวันนี้ ถามว่า ยังชอบที่จะกินเหล่ากับเบียร์อยู่มั้ย

จุว่า มันอยู่ที่กลุ่มเพื่อน ให้จุนั่งกินคนเดียวก็ไม่ไหว

จุชอบบรรยากาศในวงเหล้านะ แต่ก่อนมีเพื่อนเยอะ มาช่วงเรียนตอนนี้ เพื่อนนิสัยดี ไม่ชวนจุ มันบอกว่า ไม่อยากขัดขวางความเจริญของจุ แต่จริงๆ แล้ว เป็นจุเองที่มักปฏิเสธเพื่อน

บอกตรงๆ ช่วงนี้ จนค่ะ

 

โดย: กระจ้อน 13 กรกฎาคม 2550 10:58:16 น.  

 

ใช่ค่ะ "คน" นี่ล่ะสำคัญที่จะทำกฏระเบียบที่เค้าร่างออกมาใช้เป็นไปตามเกณฑ์ที่ต้องการ
และสังคมอยู่ด้วยคนหมู่มาก มีกฏเอาไว้ปฏิบัติมันย่อมจะทำให้ความวุ่นวายมีน้อยลง

ทุกคนในสังคม ต้องมี"ความรับผิดชอบ" ที่จะต้องสั่งสอนให้เข้าใจ ถ้ามีตรงนี้ได้
บ้านเมืองเราคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงกับ "คน" เลยนะค่ะ


แต่เดี๋ยวนี้คนเรามักชอบแหกกฏ ไม่รู้ล่ะว่าเอาอะไรเป็นบรรทัดฐาน เราถึงได้
เห็นข่าวเกลื่อนเมืองเลยถึงความวุ่นวายในสังคม (แบบไม่จบไม่สิ้น) ...


แต่กฏหมาย หรือว่าระเบียบที่ออกมาก็ต้องดูความเหมาะสมด้วยเหมือนกัน
แต่เท่าที่ดูมา บางอย่างออกกฏใหม่มาก็เหมือนเอาอะไรไม่รู้คิดเหมือนกันนะคะ
เพราะมักจะมีออกมาเพื่อแก้ที่ปลายเหตุซะมากกว่า ... เห็นแล้วบางทียังแอบขำเลย


// ขอบคุณมากนะค่ะสำหรับความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับ Host ถ้าหากว่ายังแก้ไม่ได้
สงสัยว่าต้องใช้วิธีที่แนะนำมาแล้วล่ะคะ

 

โดย: JewNid 13 กรกฎาคม 2550 12:35:13 น.  

 

ฝนว่าเรื่องแบบนี้ถ้าช่วยกันคนละไม้ละมือ มันจะสำเร็จมากกว่าที่จะโยนมาให้ คนเป็นพ่อ แม่ หรือครู บาอาจารย์อย่างเดียวนะคะ

ตั้งแต่ฝนมาอยู่นอร์เวย์เชื่อไม๊ว่าฝนยังไม่เคยเห็นโฆษณาเหล้า เบียร์ หรือแม้แต่โฆษณาบุหรี่เลยค่ะ แต่จะมีโฆษณาว่าถ้าสูบบุหรี่เยอะๆ แล้วจะเป็นอย่างไร

อีกอย่างคนที่นี่เค้ามีระเบียบวินัยด้วยตัวของเค้าเองด้วยอ่ะค่ะ คือ ถ้าคิดจะดื่มก็ไม่ขับรถ เพราะมันเสี่ยงต่อการโดนยึดใบขับขี่ซึ่งทางนี้แพงมากกกกกกกกก คนก็เลยไม่อยากเสี่ยง

อย่างฝนกับแฟนถ้าคิดจะออกไปเมากันนอกบ้าน ก็นั่งรถเมล์ค่ะ ประหยัดด้วย เพราะเท็กซี่แพง

ฝนว่าถ้าหากใบขับขี่บ้านเราแพง หรือว่าใครเมาแล้วขับมีการปรับแบบแพงหรือโดนยึดใบขับขี่ และทำอย่างจริงจังไม่หละหลวมต่อหน้าที่ ประชาชนคงให้ความสนใจต่อเรื่อง เมาแล้วไม่ขับ เยอะขึ้นนะคะ อยากให้บ้านเราเอาตัวอย่างดีๆ ของทางฝั่งนี้ไปใช้บ้างจัง

ฝนว่าคงจะลดเรื่องรถ และมลพิษที่บ้านเราไปในตัวด้วยล่ะ

หรือไม่ถ้ากลัวว่าคนที่มีฐานะปานกลางแต่อยากมีรถขับ ก็ควรจะออกกฏเหล็กแบบจริงจังถ้าเมาแล้วขับเนอะ

เอ๊ะ ยิ่งเขียนยิ่งงงไม๊คะเนี่ย

 

โดย: Malee30 13 กรกฎาคม 2550 14:49:07 น.  

 

อยู่ที่ระเบียบวินัย และ "สำนึก" ของคนจริงๆ

 

โดย: A_Mong 13 กรกฎาคม 2550 20:04:48 น.  

 

อยู่ที่จิตสำนีกของแต่ละคนคะ

 

โดย: mintny_n 13 กรกฎาคม 2550 21:06:54 น.  

 

เอาเมากันเข้าไป
ไม่รู้หรือไงกันจ๊ะว่ากินเหล้าแล้วมันตกนรกหนะ
มันเมาใจตั้งแต่คิดจะดื่มแล้ว
ไอ้คนผลิตก้อคิดแต่จะร่ำรวยบนความหายนะของคนอื่น บาปสิ้นดี
เลิกเสียให้หมดแหละดี อิอิ
https://www.bloggang.com/data/ae7906/picture/1169690388.gif>

 

โดย: หอมกร 13 กรกฎาคม 2550 21:14:27 น.  

 

เอาใหม่ ขอย้ำ
เมากันเข้าไป
ไม่รู้หรือไงกันจ๊ะว่ากินเหล้าแล้วมันตกนรกหนะ
มันเมาใจตั้งแต่คิดจะดื่มแล้ว
ไอ้คนผลิตก้อคิดแต่จะร่ำรวยบนความหายนะของคนอื่น บาปสิ้นดี
เลิกเสียให้หมดแหละดี อิอิ

 

โดย: หอมกร 13 กรกฎาคม 2550 21:17:21 น.  

 


คนบางประเทศ(ประเทศไหน อุอุ ไม่บอก)ตอนดึกๆ แม้ไฟแดง แต่หากไม่มีรถยนต์บนถนน ก็จะขับฝ่าไฟแดงเลย

ถูกเลยครับ คนยังคิดว่า ถ้าตนได้ประโยชน์ ก็ยินดีจะหลีกเลี่ยงกฎระเบียบ


บล๊อกวันนี้ เขียนดีครับ ให้ข้อคิดครับ


เรื่องบอล วันที่ชนะโอมาน ผมไม่ได้ดูตอนยิงประตูในครึ่งหลัง เพราะตอนนั้นกระโดดลงสระไปแล้ว แต่ครึ่งแรกผมดูตลอด ครั้งหน้าผมจะรอเชียร์ทางจอตู้ตอนเจอออสซี่ คราวนี้จะนั่งดูจนจบเกมเลย ไม่อยากจะพลาด ไทยชนะ 2 : 1 ไม่รู้ใครฟันธงเอาไว้?

 

โดย: yyswim 14 กรกฎาคม 2550 0:06:55 น.  

 

มาร่วมแจมครับ
กฎหมายไม่ใช่ทางออกจริงๆ ด้วยครับ มันอยู่ที่ตัวคนครับ
รัฐธรรมฉบับไหนๆ ก็ดีทั้งนั้นแหละครับ หากคนใช้จิตใจบริสุทธิ์ ต่อให้เขียนดีอย่างไร หากใจสกปรกก็หาช่องทางทำชั่วได้ทั้งนั้นแหละครับ
ส่วนตัวนะครับ หากเขียนรัฐธรรมนูญให้อ่านยาก ต้องตีความ ภาษากฎหมาย ผมถือว่ามีเจตนาเปิดช่องทางทุจริต
ที่ต้องทำคือไปลงคะแนนเสียงทุกครั้งครับ ใครนอนหลับทับสิทธิ์ผมว่าใช้ไม่ได้

ผมชอบรัฐบาลชุดนี้ตรงโฆษณา ทำดีให้เด็กดู ผมคิดว่า ทำดีไม่ต้องเดี๋ยว ทำเลยครับ เริ่มจากในบ้านนี่แหละ
ไม่ได้ดูผลงานบอลไทยเลยครับ ครั้งนี้ แต่เวลาเล่นดีนี่เชียร์ขาดใจทุกทีครับ เล่นห่วยอย่างไรก็ตามเชียร์เสมอๆ ทำไมไม่ได้ไปบอลโลกเสียทีนะ
แต่ผมเห็นชุดเยาวชนไปบอลโลกมาแล้วนะ คุณคิดเหมือนผมไหม ทำไมโตขึ้นยิงเล่นแย่ลง หรือประเทศอื่นเขาเก่งขึ้นเร็วกว่าเราเมื่อนักกีฬาโตขึ้น
เห็นเด็กๆ เล่นบอล เล่นเต็มที่ ทำไมโตขึ้นเขาเดินเล่นกันล่ะครับ เล่นในไทยแท้ๆ บางทีทำเหมือนแพ้อากาศเลย เดินหอบ สงสัยการฟิตร่างกายเรามีปัญหานะครับ
หัวจิตหัวใจก็ลดลงเมื่อโตขึ้นครับ ไม่เล่นถวายหัวเหมือนตอนเด็กๆ
เอเราพูดเรื่องอะไรกันนี่
เรื่องเมานี่ เห็นด้วยกับคุณหอมกรว่ามันไม่ดี แต่หากยังเลิกไม่ได้ ก็อย่าให้คนอื่นเดือดร้อน หากคิดจะเมา หาคนขับ หรือกลับแท็กซี่เถอะครับ เมาแล้วก็เป็นคนดีได้ ไม่เดือดร้อนคนอื่นครับ
แค่นี้ก่อนครับ วันนี้ลูกๆ อยู่หฃข้างๆ มีความสุขจังครับ
เอา Marker หลากสีให้ลูก คนเล็กบอก yellow สีเหลือง Pink สีชมพู มีความสุขจังครับ
ขอบคุณที่แวะเวียนไปเยี่ยมครับ มีความสุขมากๆ กับฃีวิตนะครับ

 

โดย: คนขับช้า IP: 203.113.70.75 14 กรกฎาคม 2550 7:55:54 น.  

 

ใครจะว่าคนเมายังงัย จุก็ไม่รู้นะ เพราะพื้นฐานของคนที่สัมผัสกับคนเมาไม่เหมือนกัน

บางคนอาจสูญเสียกับสิ่งที่คนเมาแล้วขาดสติทำลงไป

แต่สำหรับจุ ความทรงจำในวงสุรามีมากมาย ซึ่งถ้าย้อนกลับเวลากลับไปได้ จุก็ยังเลือกที่จะเมาอยู่ดี

สุรา ของหมักดอง มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว แล้วอุ กระแช่ ถือเป็นเครื่องดื่มโบราณ หลังรบทับจับศึกเลี้ยงเฉลิมฉลอง หรืองานมงคลอื่นๆ ก็ยาดอง สุราแช่นี่แหละ เพียงแต่ว่า เวลาที่เขาดื่ม เขาดื่มเป็นเวลา เป็นโอกาส ( อ้างอิง จาก อ.ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม) ซึ่งจุก็เห็นด้วยกับอาจารย์ศรีศักดิ์ มันจะผิดอะไรมากมายกับการดื่มของมึนเมา เพียงแต่ว่าการดื่ม ต้องการมีการควบคุม


อย่างที่คุณทับแก้ว บอกว่า บาร์ในต่างประเทศเจ้าของผับก็ดูแล นั่นล่ะใช่ เราควบคุมมันได้ เพียงแต่ว่าเราไม่ทำ และเราก็มาตัดต้นเหตุเลยว่า ไม่ต้องดื่ม ดื่มแล้วมีปัญหา


จุเบื่อมากเลยนะ เวลาคนมาห้ามดื่มด้วยเหตุผลนี้
( และจุมักจะต่อต้านการรณรงค์งดดื่มเหล้าเข้าพรรษา จะดื่มหนักเลยละช่วงนั้น จุคิดแปลกๆ ถ้าเกลียดสุรานัก ตั้งโรงกลั่นสุราทำไม ไอ่พวกมือถือสาก ปากถือศิลมันเยอะ )



ในทางจิตวิทยา การดื่มเหล้ามันเหมือนเป็นทางออกของชีวิต คนฉลาดอาจจะคิดว่า มันเป็นวิธีการโง่ๆ แต่สำหรับจุ ยอมรับว่ามันเป็นทางออกที่โง่ แต่โคตรจะได้ผลเลยในหลายๆ สถานการณ์ที่เจอมา

ไม่งั้นจะมีคนบอกหรือว่า เบียร์..........ความสุขที่คุณดื่มได้


แต่ก็นั่นแหละ มันก็ "อยู่ที่คน" เหมือนจั่วหัวบล็อกนี้


สำหรับจุ หลงใหลบรรยากาศในวงสุรา เหมือนๆ กับโกวเล้ง นอกจากนี้ จุยังเชื่อว่า

หัวใจของคนในวงเหล้า แม้มันจะโงนเงนไปสักหน่อยแต่มันก็งดงาม เพราะว่า มันจริงใจและไม่เสแสร้ง

 

โดย: ju IP: 58.147.122.186 14 กรกฎาคม 2550 10:39:04 น.  

 

ในฐานะคนชอบกินเหล้าคนหนึ่ง เห็นด้วยอย่างมากครับ

ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนเด็ก 3 ขวบ ต้องมีคนมาประคองเดินอย่างไรไม่รู้

 

โดย: ฟ้าดิน 15 กรกฎาคม 2550 5:13:41 น.  

 

ป้องกัน ดีกว่าแก้ไข ใช่แล้วค่ะอาจารย์
ปลูกฝัง ให้ความรู้กันไปเลย ตั้งแต่เด็กๆเลยอ่ะค่ะ
เพราะถ้าโตมาแล้ว ไปบอกไปสอน เค้าไม่ค่อยสำนึกกันเท่าไหร่นะ

นอกจากเรื่องดื่มเหล้าแล้ว รวมถึงวินัยด้านอื่นๆด้วย
กระต่ายว่า คนไทยเน้นสบาย ตามใจฉันมากเกินไปหน่อยแล้วอ่ะค่ะ
รณรงค์มากขนาดไหน ก็ไม่เห็นผล เพราะมันไม่ได้อยู่ในจิตสำนึกเนาะ




ป.ล. แอบเห็นที่บลอคพี่ปอ อาจารย์ก็เล่นเกมส์ FM ด้วยเหรอคะ
อยากบอกว่า กระต่ายก็เล่นนะ เมือ่ก่อนเล่นบ่อยค่ะ ช่วงนี้ก็ไม่ได้เล่นเท่าไหร่
อย่างที่อาจารย์บอกล่ะค่ะ ว่าเวลาเล่นแล้วมันต้องใช้เวลา2-3 ชม. เป็นอย่างน้อย
ก็เลยเลิกค่ะ ของอาจารย์เอาเวลามาอ่านหนังสือเหรอคะ
ส่วนกระต่ายเอาเวลาไปดูทีวีแทน ฮิ้วว..สร้างสรรค์มากกก


สวัสดีวันหยุดนะคะ

 

โดย: กระต่ายลงพุง 15 กรกฎาคม 2550 9:06:39 น.  

 

อาจารย์เลิกดริ้งเถอะ ... ได้โปรด
อาชีพเราต้องเป็นปูชนียาจารย์นะคะ

 

โดย: หอมกร 16 กรกฎาคม 2550 7:17:41 น.  

 

^
^
ขอน้อมรับในความปรารถนาดีครับ คุณหอมกร

 

โดย: คนทับแก้ว 16 กรกฎาคม 2550 8:21:20 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่า..........

วันนี้เป็นวันพิเศษค่ะ emo

คือ...ง่วงนอนเป็นพิเศษ ว่าแล้วก็ขอนอนก่อนนะคะ



อย่าเพิ่งปลุกน้า...emoemoemo

 

โดย: มณีไตรรงค์ 16 กรกฎาคม 2550 9:06:19 น.  

 

เห็นด้วยครับที่จะต้องแก้ทั้งสองจุด
คิดว่าการรณรงค์ให้ความรู้คนในกรณีเหล้าและสุรานี่มีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอยู่แล้ว

ผมว่าปัญหาอยู่ตรงการเข้มงวดกับกฏหมาย
เอาจริงเอาจังกับกฏที่มีอยู่ จับเป็นจับ อย่าปล่อยปละละเลย
หากกฏหละหลวม คนก็ไม่อยากปฏิบัติตามกันสักเท่าไหร่นักผมว่า


ปล.
สสร. คตส. คมช. เห็นมีแต่ข่มขู่เสียเป็นส่วนใหญ่
มีอำนาจ แต่ใช้อำนาจไม่ถูกที่ถูกทาง
สร้างบรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้อง สังคมจึงยุ่งเหยิงอย่างที่เห็น

 

โดย: กะได IP: 203.146.63.185 16 กรกฎาคม 2550 14:12:59 น.  

 

สุราเมรัยยะ มัชชะ ปมาทถานา เวระมนี สิกขาประทังสมาธิยามิ

เครื่องดองของเมา ควรดื่มให้พอประมาณแก่ฐานะ


เคยคุยกับหลวงพ่อ หลวงพ่อบอกว่า กินเป็นยาได้ หรือกินไม่เกิน ครึ่งองคุลีของฝาบาตร

แต่ที่พวกเรากินเนี่น ผิดศิลแน่ๆ ล่ะ

ก็นะ เราก็กินพอประมาณแก่ฐานะนี่นา ประมาณตัวได้ระหว่างกินนี่ก็ โอ เคแล้วล่ะ จุว่า คนเรามีทางออกไม่เหมือนกันหรอก

จุเจออาจารย์จุ(ผู้ชาย) บางคนก็นั่งกินเหล้ากับจุ คุยเรื่องหนักๆ กัน รุ่งเช้าก็เฮฮากันเรียนกันไป แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นคือ พวกเรากล้าที่จะแสดงความคิดเห็นมากขึ้น สนิทกับอาจารย์เพิ่มขึ้น ไม่เกี่ยวกับว่า อาจารย์เป็นตัวอย่างไม่ดี


เพราะเรื่องที่อาจารย์จะเป็นตัวอย่างที่ดีไม่ดี จุว่า มันอยู่ที่ตัวคน ( หัวข้อบล็อกอีกเหมือนกัน ) ตราบใดที่การกินเหล้าไม่ทำให้ใครเดือดร้อนหรือขาดสติ อาจารย์ก็คืออาจารย์ พวกจุก็ยังเคารพแม้จะเคยไปร่ำสุรากับแก

แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ อาจารย์บางคนทำตัวตามกฏระเบียบเปะๆๆๆ เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ เนี๊ยบตลอด แต่แปลกกลับไม่ได้ใจพวกจุไปเลย

อะไรที่มันตึงเกินไป สายพิณมันขาดค่ะ





 

โดย: กระจ้อน 17 กรกฎาคม 2550 9:21:53 น.  

 

ล่าสุดตอนที่ผมไป 'เมกา มาเที่ยวที่แล้ว
พนักงานในสโตร์ ที่ผมไปซื้อเหล้าซื้อเบียร์-บุหรี่ ก็ยังเรียกขอดู passport ผมทุกครั้งที่คิดตังค์ ฮ่าๆๆ

เรื่องโฆษณาของเหล้า ตลอดจนเครื่องดื่มแอลกอฮลอ์และบุหรี่ในบ้านเราน่ะ ผมว่ามันเข้าทำนองมือถือสากปากถือศีลน่ะครับ
พูดแค่นีคงพอเข้าใจเนาะ

ป.ล.
1.เรื่องเตรียมเรียนต่อ ก็ราบรื่นดีไม่มีปัญหาครับ
2.ไม่ปลื้มเลยระหว่างแมตช์ทีมไทย กะออสเตรเลียเมื่อวานนี้

 

โดย: กุมภีน 17 กรกฎาคม 2550 9:25:04 น.  

 

มากินติมกัน ตอนบ่าย ๆ

 

โดย: มณีไตรรงค์ 17 กรกฎาคม 2550 14:27:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


คนทับแก้ว
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






ศิลปิน: เฉลียง
เพลง: หวาน
ชุด: ปรากฏการณ์ฝน
ปี: 2525



Friends' blogs
[Add คนทับแก้ว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.