Fisherman's Friend
18 เม.ย. 2550
เคยนึกสงสัยถึงที่มาของชื่อยาอมฝรั่ง Fisherman's Friend บ้างไหมครับ
ตอนแรก ผมนึกว่าที่เขาตั้งชื่ออย่างนี้เพราะว่าชาวประมงไม่มีเวลาแปรงฟันหรือขี้เกียจแปรงฟัน กลิ่นปากจึงแรง ก็เลยต้องมียาอมระงับกลิ่นปากไว้เป็น "เพื่อน" คู่กาย
ปรากฏว่าผมเข้าใจผิดไปถนัดเลยครับ
ยาอมยี่ห้อนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1865 ที่เมือง ฟลีทวู้ด (Fleetwood) แลงคาเชียร์ (Lancashire) ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ โดยเภสัชกรหนุ่มชื่อ เจมส์ ลอฟท์เฮ้าส์ (James Lofthouse)
เมืองฟลีทวู้ดนี้เป็นเมืองประมงที่สำคัญเมืองหนึ่งในอดีต ชาวประมงส่วนหนึ่ง (ไม่รู้ว่าส่วนใหญ่หรือส่วนน้อย) จะเดินเรือไปจับปลาในทะเลน้ำลึกแถบแอตแลนติคเหนือหรือไอซ์แลนด์ ซึ่งถ้าพูดถึงสภาพอากาศก็คงพอจะเดาได้ว่าจะหนาวจับใจสักเพียงไหน ชาวประมงจึงมักมีอาการเป็นหวัด ไอกระแอม เจ็บคออยู่เนืองๆ
ในช่วงแรก คุณเภสัชกรลอฟท์เฮ้าส์ก็จ่ายยารักษาอาการไอและเจ็บคอเป็นยาน้ำอย่างแรง ที่มีส่วนผสมหลักเป็นเมนทอลและยูคาลิปตัส ใส่ขวดแก้วไปให้ แต่ปัญหาก็คือ ขวดแก้วมักจะแตกง่ายเวลาอยู่บนเรือ คุณลอฟท์เฮ้าส์ก็เลยคิดพัฒนาให้ยาแก้ไออยู่ในรูปของยาผงอัดเม็ดแทน (ในประวัติไม่ได้บอกไว้ว่าทำด้วยกรรมวิธีไหนถึงกลายเป็นยาผงอัดเม็ดได้) เสร็จแล้วก็บรรจุใส่ซองกระดาษ ชาวประมงก็พกติดตัวได้ง่าย ไม่ต้องห่วงเรื่องขวดแตกเหมือนก่อน จากนั้นมา ชื่อเสียงของยาอมแก้ไอชนิดเม็ดแบบใหม่นี้ก็ค่อยๆ โด่งดังขยายวงกว้างออกไป
เนื่องจากชาวประมงมักจะเรียกหายาอมแก้ไอชนิดเม็ดนี้ในเชิงเปรียบเปรยว่าเป็น "เพื่อน" ของพวกเขา ก็เลยกลายเป็นที่มาของชื่อยี่ห้อของยาอมแก้ไอนี้ไปโดยปริยาย
ทุกวันนี้ หน้าตาของเม็ดยาอมที่เห็นอยู่เป็นแบบเดียวกับเมื่อ 140 กว่าปีก่อนทุกประการ ซองก็ยังคงเป็นซองกระดาษเหมือนเดิมแต่ได้มีการเพิ่มเคลือบฟอยล์ด้านในขึ้นมา บริษัทที่เป็นเจ้าของและผู้ผลิตก็ยังคงเป็นครอบครัวลอฟท์เฮ้าส์ที่สืบเชื้อสายตรงมาจากคุณปู่เจมส์ผู้ให้กำเนิด และถ้าเข้าใจไม่ผิด ฐานการผลิตยังคงอยู่ที่เมืองฟลีทวู้ดเพียงแห่งเดียว ถึงแม้ว่าจะมีจำหน่ายไปถึง 100 กว่าประเทศทั่วโลกแล้วก็ตาม (ช่างคลาสสิคดีแท้!)
รสชาติที่เป็นที่นิยมที่สุดก็คือ รสต้นตำรับ (Original Extra Strong) สูตรดั้งเดิมตั้งแต่เมื่อเริ่มผลิตครั้งแรกโดยคุณปู่เจมส์ ซึ่งสูตรนี้เป็นสูตรเดียวที่ขายมาตลอด 110 ปี จนกระทั่งถึงเมื่อปี ค.ศ. 1975 จึงได้มีการผลิตสูตรใหม่ รสชาติใหม่ขึ้นมาขาย (คลาสสิคอีกแล้ว!) ทุกวันนี้นับรวมแล้วก็มีถึง 12 รส แต่ก็ไม่ได้มีขายครบทุกรสในทุกประเทศ สำหรับผู้ที่ไม่อยากอมยาอมที่มีน้ำตาลผสม ก็ให้เลือกชนิดที่ปราศจากน้ำตาล (Sugar-free) ซึ่งสังเกตได้จากซองที่เป็นแถบสีคาดทแยง ไม่ใช่ซองสีพื้น
ได้ทราบที่มาที่ไปของชื่อยาอมแก้ไอของฝรั่งยี่ห้อนี้แล้ว ก็อย่าเข้าใจผิดเหมือนที่ผมเคยเข้าใจว่าเป็น "เพื่อน" แก้ปากเหม็น เพราะเขาเป็น "เพื่อน" แก้ไอแก้เจ็บคอต่างหาก
ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ดังต่อไปนี้: 1) //www.fishermansfriend.com/ 2) //www.fishermansfriendusa.com/ 3) //www.studentcents.co.uk/ff1.htm 4) //en.wikipedia.org/wiki/Fisherman's_Friend
หมายเหตุ: จากความเห็นของหลายๆ ท่าน ผมก็เห็นด้วยครับว่ายาอมยี่ห้อนี้มันเผ็ดจริงๆ แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็ว่ามันสะใจดีเหมือนกัน (ออกแนวซาดิสม์...)
ขอหายหน้าหายตาไปอีกสักหลายๆ วันนะครับ ต้องเร่งทำงานครับช่วงนี้
Create Date : 18 เมษายน 2550 |
|
36 comments |
Last Update : 24 เมษายน 2550 18:32:08 น. |
Counter : 14745 Pageviews. |
|
|
|
เวลาเดินไปตามร้านค้าก็ยังเห็นซองแบบนี้ไม่เคยเปลี่ยนลุคส์ใหม่เลยค่ะ ดีจังเลยนะคะที่เค้าอนุรักษณ์แบบเดิมไว้