"The single best way to grow a better brain is through challenging problem solving." - Eric Jensen (1998), Teaching with the Brain in Mind
Group Blog
 
<<
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
12 เมษายน 2550
 
All Blogs
 

เรื่องสงสัย 1

12 เม.ย. 2550



ผมมีเรื่องที่ผมสงสัยอยู่หลายเรื่องครับ จดไว้บ้าง จำไว้บ้าง บางเรื่องก็ลืมไปแล้ว ผมเลยคิดว่านานๆ ทีเอามาเขียนลงไว้ที่นี่บ้าง เผื่อข้อสงสัยบางเรื่องอาจจะได้รับคำตอบจากใครได้บ้าง

เรื่องสงสัยเหล่านี้ มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะหนักไปทางไม่มีสาระมากกว่า

งวดแรกนี้ขอสงสัยสักหกเรื่องก่อนก็แล้วกันครับ

ขอให้มีความสุขและเอาชีวิตรอดมาได้อย่างปลอดภัยจากช่วงเทศกาลสงกรานต์นะครับ



เรื่องสงสัย เรื่องที่ 1.1

ทำไมเวลามีสถานการณ์ร้ายต่างๆ เกิดขึ้น พวกผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหรือพวกตำรวจ-ทหารถึงชอบใช้คำว่า เกิดจากฝีมือของบรรดา "ผู้ไม่หวังดี"

ทำไมไม่ใช้คำว่า "ผู้ร้าย" หรือ "ผู้ก่อการร้าย" ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย

หรือจะใช้คำว่า "ผู้ก่อความไม่สงบ" ก็ยังจะดูตรงกว่า ฟังปุ๊บก็เข้าใจทันทีว่าคนพวกนี้ทำอะไร

แต่การใช้คำว่า "ผู้ไม่หวังดี" ฟังดูเหมือนเกรงใจปนดัดจริต เลยทำให้พานหมั่นไส้ไปเสียอีก

หรือมันเป็นคำที่แปลมาจากคำศัพท์ภาษาอังกฤษคำใดคำหนึ่งหรือเปล่า ใครรู้ วานบอกทีครับ (ผมกำลังคิดต่อว่า ถ้าศัพท์ข่าวภาษาอังกฤษมีคำที่ตรงกับคำว่า "ผู้ไม่หวังดี" จริงๆ ล่ะก็ สงสัยคนไทยกับคนฝรั่งจะดัดจริตพอกัน)



เรื่องสงสัย เรื่องที่ 1.2

ความคิดมันต่อเนื่องมาจากตอนที่กำลังสงสัยเรื่องที่แล้วครับ เป็นเรื่องการใช้ภาษาแบบขี้เกรงใจของคนไทย

เคยพูดอะไรทำนองนี้ไหมครับ
"แหม... ผัดกระเพราร้านนี้ รสชาติ ค่อนข้างจะเผ็ดมาก เลย"

ผมก็เคยครับ หลังๆ นี่ชักบ่อยขึ้นด้วย

ในความคิดของผม มันน่าจะมีแต่คำว่า "ค่อนข้างเผ็ด" "เผ็ด" หรือไม่ก็ "เผ็ดมาก" ไปเลย

คำว่า "ค่อนข้างเผ็ด" ก็ให้ความรู้สึกว่า เผ็ดเหมือนกัน แต่ยังทนไหว

ส่วนคำว่า "เผ็ดมาก" ก็ตรงไปตรงมา แปลว่าใครกินเผ็ดไม่เก่ง ไม่มีปากเหล็ก กระเพาะเหล็ก (รวมไปถึงหูรูดเหล็ก) อย่าได้เสี่ยงลอง

ถ้าจะจัดลำดับคำก็น่าจะเป็น "ค่อนข้างเผ็ด" "เผ็ด" (อาจมี "เผ็ดปานกลาง" แบบซอสพริกศรีราชาแทรกอยู่ตรงนี้) แล้วก็ "เผ็ดมาก"

หรือว่าคำว่า "ค่อนข้างจะเผ็ดมาก" จะอยู่ระหว่าง "เผ็ด" กับ "เผ็ดมาก" (แล้ว "เผ็ดปานกลาง" จะเอาไปไว้ตรงไหน...)

หรือว่ามันเป็นแค่การพูดแบบกั๊กๆ ว่า จริงๆ แล้วมันเผ็ดมากจนฉันจะทนไม่ได้อยู่แล้ว แต่ก็ยังทนได้อยู่นะ

เรียกว่ากลัวเสียฟอร์ม กลัวคนอื่นหาว่ากินเผ็ดไม่เก่งอะไรทำนองนั้นหรือเปล่า

แต่อย่างไรก็เถอะ อย่าลืมว่าประเด็นที่ผมข้องใจไม่ใช่เรื่องระดับความเผ็ดหรอกนะครับ ยกมาเป็นเรื่องเปรียบเทียบเท่านั้น เรื่องที่ข้องใจเป็นเรื่องของการใช้คำแบบกั๊กๆ แบบเกรงใจของคนไทยต่างหาก จะ "เผ็ด" หรือ "เผ็ดมาก" ก็ว่าไปเลย "ค่อนข้างจะเผ็ดมาก" มันกั๊กๆ พิกล ฟังแล้วเหมือนมีเจตนาอะไรซ่อนเร้นอยู่

ความคิดผมชักจะเพี้ยนเกินไปแล้ว ไปสงสัยเรื่องอื่นต่อดีกว่า...



เรื่องสงสัยเรื่องที่ 1.3

เป็นความสงสัยที่ต่อเนื่องมาจากเรื่องแรกเหมือนกัน

เมื่อก่อนเวลาฟังข่าว จะได้ยินคำว่า "มือระเบิดพลีชีพ" ซึ่งมาจากคำว่า "Suicide Bomber" ซึ่งผมก็ว่าเป็นคำแปลที่ตรงตัวดี ได้ความหมายชัดเจนด้วยว่า มือระเบิดเขาฆ่าตัวตายเพื่อจุดประสงค์อะไรบางอย่าง เช่น เพื่อลัทธิความเชื่อของเขา

แต่ช่วงหลังๆ มา มักจะได้ยินเขาใช้คำว่า "มือระเบิดฆ่าตัวตาย" แทน

จะว่าแปลตรงตัวกว่าคำแรก มันก็ใช่อยู่หรอกครับ แต่ผมว่ามันฟังดูทะแม่งๆ แห้งๆ แล้งๆ อย่างไรชอบกล

คำว่า "ฆ่าตัวตาย" ฟังดูแล้วเหมือนไร้สาระ ไร้ความหมาย แต่คำว่า "พลีชีพ" ฟังดูแล้วมีความหมายในการกระทำนั้นมากกว่า

หรือว่านี่คือเหตุผล เพราะว่าคำว่า "พลีชีพ" ฟังดูดีเกินไป ไม่เหมาะสมกับการกระทำที่ส่งผลร้ายต่อคนอื่นๆ อีกหลายคน

ไม่รู้ว่าภาษาอังกฤษเขามีคำว่า "Sacrifice Bomber" หรือเปล่านะครับ จะตรงกับคำว่า "มือระเบิดพลีชีพ" มากกว่า "Suicide Bomber" หรือเปล่าก็ไม่รู้

กลัวว่าถ้ามีคำนี้จริง เดี๋ยวจะมีคนแปลเป็นคำไทยว่า "มือระเบิดบูชายัญ" เข้าให้อีก ต้องมานั่งตีความกันอีกยกใหญ่



เรื่องสงสัย เรื่องที่ 1.4

ผมไม่เข้าใจกลุ่มคนที่ออกมาเรียกร้องให้มีการกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจนว่า "ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ" เลยจริงๆ ครับ

ผมก็เป็นคนพุทธนะครับ แต่ผมคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าจะได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้ (ใครรู้ช่วยไขข้อข้องใจให้หน่อยเถอะ ถือว่าเอาบุญ) ผมมองเห็นแต่ว่าจะก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคมมากกว่าข้อดี (ซึ่งผมยังมองไม่ออกว่ามีอะไรบ้าง)

เช่น สมมติว่ามีคนพุทธนิสัยไม่ดีกลุ่มหนึ่ง ไปเบ่งใส่ชุมชนคนคริสต์ในหมู่บ้านเดียวกัน บอกว่าพวกข้านับถือศาสนาประจำชาติ ต่อไปนี้ห้ามพวกแกสวดมนตร์ร้องเพลงเสียงดังรบกวนพวกข้าอีก เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย

อย่างนี้ก็มีแต่จะวุ่นวายกันไปใหญ่

ที่น่าเป็นห่วงก็คือ พระสงฆ์องค์เจ้าท่านก็เอากับเขาด้วย ได้ยินมาผิดหรือเปล่าก็ไม่รู้ว่าถึงกับจะยอมสละชีพ ละสังขารกันเลยทีเดียว หากไม่ได้ตามข้อเรียกร้อง

ผมว่าศาสนาพุทธเขาสอนเรื่องอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สอนไม่ให้ยึดติด ไม่ให้ยึดมั่นถือมั่นไม่ใช่หรือครับ



เรื่องสงสัย เรื่องที่ 1.5

ทำไมเมืองไทยถึงยังไม่จัดเรตหนังกันสักที ผมไม่เข้าใจว่ามันกระทบกับรายได้ของผู้ประกอบการอย่างไร มากน้อยแค่ไหน

ผมว่าผลกระทบต่อสังคมจากการไม่จัดเรตหนังหรือไม่กำหนดอายุผู้ชมน่าจะมีคุณค่ามากกว่านะ ถึงจะตีเป็นตัวเงินไม่ได้ก็เถอะ

พอดีว่าได้อ่านสองกระทู้ติดๆ กันของคุณ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" คนดังแห่งห้องเฉลิมไทย ก็เลยเกิดความสงสัยขึ้นมาอีกรอบ หลังจากที่สงสัยแล้วสงสัยอีกมาหลายปี

ผมเองตอนนี้ก็ไม่อยากจะไปซื้อหนังเรื่อง SAW III มาดู ทั้งๆ ที่อยากดูมากเพราะพลาดการดูในโรงไป เนื่องจากถามคนขายแล้ว เขาบอกว่ามีการตัดฉากตอนต้นๆ ทิ้งไป หนังแบบนี้เขาขายฉากหวาดเสียวรุนแรง ตัดออกไปแล้วจะไปดูทำซากอะไรล่ะครับ

เรื่อง 300 นี่ผมก็ไม่มีเวลาไปดูในโรงอีก ไม่รู้ว่าพอเป็นหนังแผ่นแล้ว เกิดเขาบ้าจี้ตัดฉากรุนแรงออกไป สงสัยว่าหนังจะเหลือสักกี่นาที หรือเผลอๆ อาจจะไม่มีขายเลยด้วยซ้ำเพราะเมฆหมอกแห่งศีลธรรม (ตะบักตะบวย) มันอาจจะต้องลงทั้งเรื่อง

ลองตามไปอ่านสองกระทู้นี้ดูนะครับ เจ้าของกระทู้เขียนได้ดีมากเลยครับ

กระทู้ภาคแรก
A5241346 << จาก 300 สู่กรณี 'มีนมมีเบลอ' + ตลกหยาบคายและความรุนแรง + เด็กๆในโรงหนัง ...ควรหรือยังกับการจัดเรตหนังบ้านเรา >>

กระทู้ภาคสอง
A5310223 กระทู้ขอความเห็น : ท่านเห็นด้วยหรือไม่ กับ 'การเซ็นเซอร์' ในหนังหรือในทีวี ปัจจุบัน (ทั้งกรณี 'เบลอ' และ 'แบน')

กระทู้ภาคสองนี้ มีผมแทรกอยู่ด้วยใน ความคิดเห็นที่ 13



เรื่องสงสัย เรื่องที่ 1.6

เคยดูโฆษณานมโฟร์โมสต์ ผสม OMEG 3 ที่มีชายหนุ่มถอดเข็มขัดออกมาคล้องราวด้านบนของรถไฟฟ้า ให้หญิงสาวผู้อาภัพส่วนสูงได้โหนเพราะเอื้อมไม่ถึงราวไหมครับ

ผมสงสัยว่า ทำไมชายหนุ่มถึงไม่สลับที่ยืนกับหญิงสาว ให้สาวเจ้ามาโหนห่วงที่ชายหนุ่มกำลังโหนอยู่ ส่วนชายหนุ่มก็ขยับไปโหนที่ราวแทนเพราะว่าดูแล้วคงจะเอื้อมถึง จะถอดเข็มขัดให้ได้ลุ้นได้เสียวกันทำไม (ชอบนัก มุขสองแง่สองง่ามนี่ ทีอย่างนี้ทำไมไม่เซ็นเซอร์)

ผมว่าผมเห็นพ่อหนุ่มนั่นยืนโหนห่วงอยู่นา ตัวก็สูงใช้ได้

หรือผมจะประเมินความสูงของเขาผิดไป เขาอาจจะโหนราวไม่ถึง

หรือกลัวว่ามันจะไม่ได้เสียว...??




 

Create Date : 12 เมษายน 2550
40 comments
Last Update : 12 เมษายน 2550 11:37:08 น.
Counter : 1133 Pageviews.

 

มาอ่านความสงสัยด้วยคนค่ะ แหะๆ

เรื่องของคำพูด เราก็ว่ามันต่างนะ ให้ความรู้สึกที่ต่างน่ะ อย่างค่อนข้างจะเผ็ดมาก ก็คือเผ็ด แต่ยังทนไหวน่ะแหละค่ะ


ส่วนระเบิดพลีชีพ เราว่ามันฟังดูดีน่ะ

แต่มือระเบิดฆ่าตัวตาย มันก็แปลกๆ นะ แต่ดูดีน้อยกว่าพลีชีพน่ะ

พลีชีพมันนึกถึงคำว่า "เพื่อชาติ" ต่อน่ะค่ะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 12 เมษายน 2550 12:05:41 น.  

 

ฮ่าๆๆๆๆ เราก็เป็นคนหนึ่งที่แอบคิดค่ะ ว่าไอ้คำว่า "ค่อนข้าง...มาก" นี่มันหลอกล้วงหลอกลวง แถมยังน่ารำคาญพอๆ กับคำว่า "...มากมาย" (โปรดเติมจุดจุดจุดด้วย adjective ตามใจชอบ)


ส่วนข้อสุดท้าย เราไม่ได้เห็นโฆษณาตัวนี้ค่ะ
เนื่องจากเลิกดูโฆษณาทีวีตั้งแต่เห็นโฆษณาโค้ก ที่มีเสียงโทรศัพท์ดังในห้องสมุด ตึ๊ดตะดะดึ๊ดตื๊ดๆ แล้วจบด้วยการที่เสียงนั้นเป็นเด็กหนุ่ม ส่งเสียงเรียกร้องความสนใจสาว ล่อให้สาวเดินตามหาต้นเสียง ก่อนจะเจอกันแล้วยื่นโค้กให้...

อุแม่เจ้า --- ทำเสียงหนวกหูแล้วยังไม่พอ ใครสั่งใครสอนให้เอาของกินเข้าห้องสมุด
เลิกค่ะเลิก โฆษณาไม่สร้างสรรค์ เลิกดูดีกว่า เราเป็นคนพาลแบบนี้ล่ะ ฮ่าๆๆๆ

 

โดย: แพนด้ามหาภัย 12 เมษายน 2550 12:10:05 น.  

 

คนทับแก้ว เป็นช่าง ตัวจริงไม่ใช่ตัวปลอม

อุอุ ช่างสงสัย

มีคนชวนผมไปทานกาแฟ เขาชงกาแฟให้ผม เขาถามผมว่า เป็นไง หวานไปไหม? ผมก็ตอบ "ค่อนข้างหวาน"

โฮะโฮะ ตอบ "หวาน" ออกจะกร้าวไปนิด เขาอุตส่าห์ชงมาให้ แต่จะบอกว่า "ไม่หวาน กำลังดี" ก็มุสา ไปหลอกเขาว่า ชอบแบบนี้ ก็ทำให้เขาเข้าใจผิด

คำว่า ค่อนข้าง เป็นคำสุภาพครับ เป็นคำถนอมน้ำใจ เมื่อจะบอกอะไรใคร ในสิ่งที่มันโอเว่อร์

เป็นไง เสื้อตัวนี้ สีแดงไปมั๊ย? เป็นไง บ้านรก ไปมั๊ย?

ผมมักจะใช้คำค่อนข้าง เมื่อสิ่งนั้น มันแดง มันรก จริงๆ

แต่ถ้า ไม่แดง ไม่รก ผมก็จะพูดว่า "ไม่นี่ กำลังดี"



เรื่องจัดเรตหนัง ว่าจะให้บุคคลอายุระดับไหนดูขนาดไหน? ผมคิดว่า ทางราชการเขาก็พยายามจะทำนะครับ แต่มันคงมีปัญหามาก ทั้งเกณฑ์ ทั้งคณะกรรมการ ซึ่งแต่ละคณะกรรมการจะต้องใช้วิจารณญาณ


ทีนี้ หนังทุกเรื่องจะใช้คณะกรรมการแค่ชุดเดียว ก็คงไม่ได้ เพราะหนังมีเยอะ คณะกรรมการก็มีงานประจำ และหากมีเพียงคณะเดียว ก็จะมีอิทธิพลเกินไป ครั้นมีหลายคณะ วิจารณญาณก็จะไม่เท่ากัน

หนัง เป็นศิลป เป็นนามธรรม ใช้ไม้บันทัดหรือใช้กิโลมาชั่ง ทำไม่ได้

นางงาม นักร้อง หรือหนังสือซีไรต์ มีเสียงครหาในการพิจารณาตัดสินทั้งนั้นครับ

การจัดเกรดหนัง ผมคิดเอาว่า ในอนาคตคงจะมีหนทางออกที่เหมาะสม ทางราชการคงจะไม่นิ่งดูดาย ดูอย่างจัดเกรดรายการทางทีวี ก็เริ่มจะปรากฏแล้ว แม้บางรายการมีคำครหาว่าจัดไม่เหมาะสม ก็ตาม


เรื่องโฆษณา หญิงสาวโหนไม่ถึงราวรถไฟฟ้า ผมไม่ได้มองที่ความเสียว แน่นอน ผมรู้สึกว่า เว่อร์จัง แต่ผมชอบนะครับ เพราะส่งความหมายของเรื่อง ถึงกลุ่มผู้ชมให้เข้าใจง่ายดี จำได้ติดตา และดูทุกครั้งก็ไม่น่ารำคาญ

แต่โฆษณาเรื่องที่ไม่ค่อยอยากจะดูซ้ำ คือ โฆษณามิสทีน ไม่ใช่อยากจะให้เซ็นเซอร์อะไร แต่บังเอิญขัดกับความเทอดทูนที่เคยมีอยู่ลึกๆ


คำตอบเรื่องสงสัยเรื่องอื่นๆ เดี๋ยวฟังจาก เมนต์ข้างล่างเอานะ

เออ คนทับแก้วกะผมใจตรงกัน นิ วันนี้ผมก็อัพบล๊อกเวลาใกล้ๆกับคุณ ลองเข้าไปอ่านเป็นคนแรกเลย ดิ

 

โดย: yyswim 12 เมษายน 2550 12:43:15 น.  

 



ก้าวเข้าสู่ ปีใหม่ ด้วยใจรอ

จงมุ่งหน้า อย่าท้อ อย่าถดถอย

เหมือนเวลา ยังเดินหน้า ไม่มาคอย

อดทนนิด ฝืนสู้หน่อย จะดีเอง สวัสดีปีใหม่ไทยครับ




สงสัยเหมือนกันแต่ไม่เคยพบคำตอบ

 

โดย: somnumberone 12 เมษายน 2550 14:32:30 น.  

 

ข้อสงสัยของอาจารย์น่าสงสัยทุกข้อค่ะ ก๊ากๆๆ
ภาษาไทยเราเป็นภาษาที่ "ดิ้น" ได้ กฎของเรามี แต่ก็ยกเว้นได้
คำๆหนึ่งของภาษาอังกฤษอาจใช้คำไทยได้หลายคำจนบางทีเราสับสน
คิดในแง่ดีว่าเป็นภูมิปัญญาทางภาษาที่ทำให้มีคำใช้มากขึ้น แม่ว่าบางคำจะใช้ไปงงไปก็ตามนะคะ

 

โดย: ซออู้ 12 เมษายน 2550 15:54:28 น.  

 

มาสวัสดี คนขี้สงสัยค่ะ

เอ่อ นะคะ ไม่รู้จะตอบยังไง

"ผู้ไม่หวังดี" ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ ว่าทำไมเรียกอย่างนี้ อาจจะอยากพูดสุภาพๆ ออกสื่อล่ะมั้ง (เพื่ออะไร ไม่รู้ค่ะ) จริงๆ ในความรู้สึกของปอมันไม่ต่างกันนะ

"ค่อนข้าง" ปอว่า ใช้บอกแนวโน้มนะ เพราะคนเรามัน sense ต่อสิ่งนั้นๆ ไม่เท่ากันไงคะ เพราะ บางทีมันไม่ได้มีแค่ดำ-ขาว มันมีสเกลตรงกลางหลายระดับน่ะค่ะ

ในกรณีถนอมน้ำใจอย่างคุณสินว่า นี่ ปอไม่ใช้คำว่า "ค่อนข้างนะ" ปอจะพูดว่า "นิดหน่อย" หรือ "ไปหน่อย" เช่น หวานไปไหม - เออ นิดหน่อย
รกไปไหม -นิดหน่อย

"ระเบิดพลีชีพ" กับ "ระเบิดฆ่าตัวตาย"
คงเปลี่ยนเพราะ คำว่า พลีชีพ มันสื่อความหมายว่าเสียสละ ในทางที่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมนะคะ แต่ไอ้ที่ทำๆ กันอยู่นี่มันทำร้ายคนอื่น เลยอยากเปลี่ยนคำมังคะ จะได้ไม่เชิดชูผู้ก่อการร้าย แต่ในเชิงภาษาแล้ว คำว่า "ระเบิดฆ่าตัวตาย" ขาดความสละสลวยอย่างแรง

"ศาสนาประจำชาติ"
ไม่จำเป็นต้องระบุว่าเป็นศาสนาใด แต่ผู้นับถือศาสนาต้องเข้าใจในหลักธรรมอย่างถ่องแท้ และไม่อ้างศาสนาเป็นเหตุผลให้ตัวเองระรานคนอื่น ถ้าจะพลี ก็ควรพลีเพื่อรักษาความเป็นพุทธะ คือความไม่ยึดมั่น ถือมั่น ไม่ใช่เพื่อเรียกร้องอะไร

"เรทหนัง"
อันนี้ไม่รู้จริงๆ ค่ะ ว่า เขายังไม่มี แต่เกลียดมาก เวลาที่มันเป็นภาพเบลอๆ เนี่ย ทำไปทำไม เสียอรรถรสในการชม

"โฆษณา"
ปอไม่ได้ดูน่ะค่ะ เคยได้ดูแต่โฆษณาสาวๆ โชว์จั๊กกะแร้ กับโฆษณา ถุงยางอนามัยบนรสไฟฟ้า ไม่รู้จะพูดไงเหมือนกันค่ะ รู้แต่ว่า เออ แปลกดี

ลงท้ายขอ สวัสดีปีใหม่ไทยนะคะ สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ


 

โดย: ปอ (O_Sole_mio ) 12 เมษายน 2550 16:18:18 น.  

 

หวัดดีปีใหม่ไทยค่ะ
ภาษาไทยดิ้นได้ บางทีก็ตุหงิดๆเหมือนกัน ว่าจะใส่คำคุณศัพท์กันซะจนงงขนาดนั้นทำไมกัน แลดูฟุ่มเฟือย แต่ก็แสดงถึงภูมิปัญญา (ไม๊คะ?) ของคนไทย ที่พริ้วกันเก่งนัก
ส่วนโฆษณาโฟโมสต์รู้สึกว่าสาวเจ้าจะตัวเตี้ยมาก ถึงมีราวว่างให้โหนก็ไม่ถึง ส่วนเจ้าหนุ่มกินโอเมก้าสามตอนนี้ก็คงไม่ได้ทำให้ฉลาดขึ้น ณ บัดดล เพราะมีหลายปัจจัยนักแล แต่รวมๆก็น่ารักดี ถือว่ามีน้ำใจ
เรื่อง Saw น่ากลัวมากกเคยหลวมตัวดูสองภาค กลัวๆๆ แต่ก็ดูจนจบ แล้วยังอุตส่าห์ดูซะตั้งสองภาค

 

โดย: เฉลียงหน้าบ้าน 12 เมษายน 2550 20:17:23 น.  

 

ค่อนข้าง...
น่าจะมาจากนิสัยคนไทยที่มีนิสัยเกรงใจ

พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ...
อันนี้ก็รู้ๆ กันทั่วโลก แต่คนที่เสนออาจจะต้องการแค่ให้บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรในรัฐธรรมนูญ

จัดเรท...
ตอนนี้เริ่มในรายการทีวีแล้ว
ในโรงหนังอาจจะตามมา
จะรอด้วยใจระทึก

เห็นด้วยที่ เซ็นเซอร์ ทำให้หนังเสียอรรถรส

 

โดย: กายแก้ว 12 เมษายน 2550 22:28:28 น.  

 

แวะมาสาดน้ำปีใหม่ไทยค่ะ

 

โดย: mungkood 12 เมษายน 2550 22:46:11 น.  

 

ฮ่า ฮ่า .. เรื่องน่าสงสัยแบบนี้แอบมีเหมือนกันค่ะ ถ้าให้นั่งเขียนก็คงจะเอามารวมกับอาจารย์อีกหลายข้อเลยเหมือนกันนะค่ะ ...

อ่านไปก็ขำไปเพราะความสงสัยมันก็ทำให้เราเห็นภาพจริงๆ ว่า " ทำไม ต้องเป็นอย่างนั้น " ...

แต่ที่ไม่เข้าใจแล้วเกิดอารมณ์ก็เรื่องศาสนาพุทธนี่ล่ะคะ วันนี้ยังนั่งคุยกับครอบครัวเหมือนกันเรื่องนี้ แบบว่าไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องระบุ ต้องให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งๆ ที่เรื่องนี้พระท่านน่าจะรู้นะคะว่า " การไม่ยึดติด" การเปิดกว้าง เปิดรับแต่ละศาสนา เป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่ง ... (แอบสงสัยด้วยคนค่ะ)

 

โดย: JewNid 12 เมษายน 2550 23:38:44 น.  

 

พลีชีพน่าจะหมายถึงการสละชีวิตเพื่ออะไรซักอย่างที่ทำแล้วเป็นสิ่งที่ดีรึเปล่าคะ (อันนี้คิดเอาเอง) เค้าเลยต้องเปลี่ยนเป็นชื่ออื่น แหะๆ ไอ่เรื่องมัวๆเนี่ย เก่งนักแล

 

โดย: อย่างร้ายกาจ 13 เมษายน 2550 7:43:50 น.  

 

เรื่องโฆษณานี่ หากผมได้เป็นกรรมการตัดสิน ผมจะให้คะแนนเต็มสิบ กับโฆษณา ปาติหาน ครับ จำได้ไหม ที่เด็กขอปาติหาน กับเด็กคู่แฝดอ่ะ

ขอให้คนทับแก้ว สุขกาย สบายใจ หอมมาลัย มีเพื่อนดีๆ มีครอบครัวที่อบอุ่น มีแต่เสียงหัวเราะและร้องเพลง ตลอดปีใหม่ไทยครับ

 

โดย: yyswim 13 เมษายน 2550 10:09:20 น.  

 

ข้อ 1.1 เข้าใจว่าคงไม่อยากให้รู้สึกว่าเหตุการณ์น่ากลัวเกินไปมั้งคะ

ข้อ 1.2 อาจจะเป็นการป้องกันการเสียหน้าของผู้พูด
เช่นถ้าบอกว่าเผ็ดมาก แต่ผู้ฟังกินแล้วอาจะรู้สึกว่า ไม่เห็นเผ็ดเลย

ข้อ 1.3 ข้อนี้จำได้ว่าผู้มีอำนาจในยุคนั้น บอกว่าคำพลีชีพ ฟังดูเป็นเรื่องมีเกียรติ คาดว่าจะเปลี่ยนเป็นคำว่าฆ่าตัวตย เพื่อให้ดูเป็นเรื่องสิ้นคิด

ข้อ 1.4 พระที่เคารพท่านหนึ่งพูดถึงกรณีนี้ว่า ควรจะคิดว่าทำยังไงให้ชาพุทธมีพระพุทธศาสนาอยู่ในใจ มากกว่าจะคิดเรื่องว่าจะเขียนอะไรในรัฐธรรมนูญ

ข้อ 1.5 ข้อนี้สงสัยมาตั้งแต่เป็นเด็ก จนตอนนี้โตแล้วก็ยังไม่ได้คำตอบค่ะ

ข้อ 1.6 เข้าใจว่าโฆษณาเขาอยากให้คนสงสัย เพื่อให้เป็นการโฆษณาแบบปากต่อปากต่อไป

 

โดย: rebel 13 เมษายน 2550 11:43:38 น.  

 


☆☆ สวัสดีปีใหม่ของเมืองไทย ☆☆



สวัสดีตอนเช้าของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


ขันน้ำมนต์...ผสมพร...บทกลอนรัก
เป็นของฝาก...จากใจ...ใครคนนี้
ซึ่งเปี่ยมด้วย...ความรัก...ความภักดี
มอบไมตรี...แนบสนิท...เป็นมิตรคุณ
สาดพรมมา...ให้เย็น...เช่นดั่งน้ำ
ให้โชคดี...เย็นฉ่ำ..ความเกื้อหนุน
สงกรานต์นี้...ขอกุศล...และผลบุญ
ให้คุณคุณ...สุขสันต์...นิรันดร




** มีความสุขมากในช่วงวันสงกรานต์นะจ้า **


ว่าตามคนข้างบนได้อะเปล่าอะจ้า

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 13 เมษายน 2550 13:13:27 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ทำอะไรก็ขอให้ประสบความสำเร็จนะคะ

 

โดย: Malee30 13 เมษายน 2550 16:17:47 น.  

 

แล้วตอนนี้หายสงสัยรึยังคะอาจารย์

สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ

 

โดย: Petit Patty 13 เมษายน 2550 16:23:39 น.  

 

สุขสันต์วันมหาสงกรานต์ค่า

ปีใหม่ไทยขออวยพรให้อาจารย์ สุขกาย สบายใจ ชุ่มเย็น สดใสเหมือนสายน้ำนะคะ

ปล. 1 เพื่อนอาจารย์ที่ด่า damn feminism ร้ายมากค่ะ แต่มันก็มี feminism บางประเภท ทำตัวได้ damn จริง อิอิ

ปล.2 วันนี้ที่เยนา ร้อนมากค่ะ คาดว่าจะประมาณ 25 องศา โอ้ แผดเผา จริงๆ เหงื่อตก เหงื่อแตก

 

โดย: ปอ (O_Sole_mio ) 13 เมษายน 2550 20:11:41 น.  

 

ช่างขี้สงสัยจริงครับ
ฮ่าๆๆ
เรื่องที่สงสัยบางข้อน่ะ
ผมว่าคำตอบก็มีอยู่ในใจของอาจารย์แล้วนะครับ

ป.ล.
สวัสดีปีใหม่
ขอให้มีความสุข เรียนจบไวไวนะครับ

 

โดย: กุมภีน 13 เมษายน 2550 21:42:41 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ไทยๆครับ


ทั้ง6ข้อที่ว่ามาแสดงถึงความช่างสังเกตพยายามหาเหตุผลผมของอาจารย์ดีครับ สมเป็นนักปราชญ์จริงๆ หุๆ

ไอ้ผู้ไม่หวังดี กับ ค่อนข้างนี่ อยู่ในบริบทที่ต่างกัน แต่เหมือนกันตรงที่ถนอมใจคนรับฟังกระมัง 555 นั่นสินะทำไมใช้คำว่าผู้ไม่หวังดีหว่า เพื่อไม่เป็นการยั่วยุกระมัง ตรงนี้น่าสนใจ

ส่วนตรงมือระเบิดบูชายัญ ไม่แน่นา อาจจะมีคนเอาไปใช้เร็วๆนี้ก็ได้นะครับ เหอๆ เชื่อมโยงกับการเรื่องออกมาเรียกร้องให้บันทึกว่าศาสนาพุธเป็นศาสนาประจำชาติของพระพรรษาสูงบางรูป ที่ออกมาขู่ว่าถ้าไม่ทำจะฆ่าตัวตายเป็นธรรมพลีอะไรเทือกนี้ เฮ้อ พุทธแค่เปลือกจริงๆ บวชจนแก่เฒ่าแต่ธรรมขั้นพื้นฐานยังไม่กระแทกใจเอาแม้เพียงเสี้ยวกระผีกลิ้น

 

โดย: นายเบียร์ 14 เมษายน 2550 0:32:30 น.  

 

ไม่ได้มาตอบเรื่องที่สงสัย

แต่มาขอสาดน้ำสงกรานต์ค่ะ

ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ

 

โดย: เพียงแค่เหงา 14 เมษายน 2550 7:40:56 น.  

 

ช่างสงสัย
เป็นเรื่องดี

สวัสดีปีใหม่ไทยๆ ค้า

 

โดย: grappa 14 เมษายน 2550 11:00:32 น.  

 

1.1 คิดว่าเพราะอยากให้คนฟังเข้าใจว่าการกระทำนั้นมาจากการประสงค์ร้าย

1.2 มีคำว่า "ค่อนข้าง"แล้ว จะดูอ่อนโยนลงมั้งคะ ยกเว้นเวลาตอบว่า "ค่อนข้างสวย" มักแปลได้ว่า "เกือบสวย"

1.3 เห็นแบบเดียวกันกับน้องrebel

1.4 เทอมนี้ได้วิชาของอาจารย์ท่านหนึ่ง แล้วอาจารย์นำเอกสารประเด็นเรื่องการกำหนดให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติมาแจกในห้อง ไม่ได้เซ็นชื่อ แต่เขียนกลับไปว่าไม่เห็นด้วยเพราะไม่จำเป็นต้องมีการบัญญัติ รัฐธรรมนูญไม่ใช่ยาแก้ไขวิกฤติ
ประมาณกลางปีก่อนได้ลงไปวิจัย(งานชิ้นเล็กๆ)เกี่ยวกับสถาบันศาสนาในชุมชนภาคตะวันออกที่หนึ่ง พบว่า ชาวบ้านส่วนมากเริ่มคิดว่าความเป็นพุทธเป็นหน้าที่ แต่สิ่งหนึ่งที่ลดลงไปพร้อมกับหน้าที่คือ ศรัทธา มันทำให้เรามองว่า สิทธิการนับถือศาสนาควรมาจากตัวประชาชนเองจริงๆ เป็นทางเลือกจากใจ เมื่อเลือกจากใจ ศรัทธาย่อมตามมา ไม่ใช่เลือกเพราะต้องกากบาทลงในเอกสารราชการแล้วไม่รู้จะกาอะไรและพ่อแม่ก็เป็นพุทธเลยต้องเป็นตามๆกันไป

1.5 เพิ่งไปเซ็นชื่อประท้วงการเซ็นเซอร์หนังมา เห็นด้วยกับการจัดเรต

1.6 โฆษณาหลายผลงานๆที่ผ่านหน้าจอ มักจะนำเรื่องความเตี้ย ความดำและความอ้วนมาทำเป็นจุดด้อย เพื่อบอกว่าถ้าอยากสูง อยากขาวและอยากผอมก็ควรจะซื้อสินค้าเหล่านั้น โดยมากคนที่เตี้ย ดำและอ้วนจะเป็นผู้หญิง!


ปล.สวัสดีปีใหม่ค่ะ

 

โดย: keyzer 15 เมษายน 2550 0:30:40 น.  

 

ขอแสดงความเห็นจากคนไม่กินเผ็ดครับ

พอไปร้านตามสั่งแล้วสั่งว่าเผ็ดนี่

เขาเอาอะไรเป้นตัววัดรึครับ ว่าไม่เผ็ดมันควรจะขนาดไหน บอกไม่เผ็ดแต่ใส่พริกกระจายมาเต็มจานเลย

เดี๋ยวนี้เลยต้องบอกว่าไม่ใส่พริก พอสั่งแบบนี้ก็โดนมองหน้าเป้นตัวประหลาดอีกวุ้ย


เอ! รู้สึกเหมือนจะนอกประเด็นไปหน่อย แฮะ ๆ

สุขสันต์สงกรานต์ครับ

 

โดย: สตอเบอร์รี่นมเขย่า (<Strawberry Milk Shake> ) 15 เมษายน 2550 13:36:19 น.  

 




สวัสดีตอนเช้าของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า

ทุกทุกครั้งที่คิดถึงเธอ..
ทุกคืนวันพลันสดใส
ไกลบ้างห่างบ้างไม่เป็นไร
แค่รู้สึกดีดีในใจก็เกินพอ



** มีความสุขในช่วงวันสงกรานต์นะจ้า **

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 15 เมษายน 2550 14:30:58 น.  

 



กลับมาเมืองไทยแล้วครับ

ข้อสงสัยของคุณคนทับแก้วช่างน่าสนใจจริงๆ

ขอคุยด้วยหนึ่งประเด็นในเรื่องศาสนาประจำชาติบ้าง
ผมไม่ขัดอะไรกับการที่จะให้ระบุในรัฐธรรมนูญเช่นนั้น
เนื่องจากพุทธศาสนามีความสำคัญต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวไทยมาช้านาน

ธงชาติไทยเราระบุถึงชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
ศาสนาที่คนไทยจะต้องธำรงค์ให้อยู่คู่ไปนี้ก็คงจะเป็นศาสนาพุทธ

วันหยุดส่วนใหญ่ของชาวไทยก็เป็นวันทางศาสนาพุทธ

คงไม่มีข้อเสียอันใดที่จะระบุว่าพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
และนี่ก็ไม่ได้หมายความว่ารัฐธรรมนูญจะจำกัดสิทธิและเสรีภาพในการนับถือศาสนาอื่นๆ
ใช่ไหมครับ



-----------------------------------



" ... เช่น สมมติว่ามีคนพุทธนิสัยไม่ดีกลุ่มหนึ่ง ไปเบ่งใส่ชุมชนคนคริสต์ในหมู่บ้านเดียวกัน บอกว่าพวกข้านับถือศาสนาประจำชาติ ต่อไปนี้ห้ามพวกแกสวดมนตร์ร้องเพลงเสียงดังรบกวนพวกข้าอีก เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย .... "

ตัวอย่างข้างบนคุณคนทับแก้วค่อนข้าง extreme ไปหน่อย (ขออนุญาตใช้ภาษาอังกฤษ )
ไม่เห็นด้วยกับการยกตัวอย่างสมมติเช่นนี้นะครับ



---------------------------


ปล. เรื่องระเบิดพลีชีพ หลังจากมีการซ่อนระเบิดในรองเท้า
มีการสร้างคำศัพท์ใหม่ว่า shoecide bomber ก็เป็นการสร้างคำใหม่ที่เข้าท่าดีครับ

 

โดย: กะได 15 เมษายน 2550 20:26:53 น.  

 

สวัสดีค่ะอาจารย์ ได้หยุดอีก 1 วัน
วันนี้นะคะถนนสายใต้รถติดเป็นแถวยาวตั้งแต่เช้าเลย รถทะเบียนกรุงเทพฯทั้งนั้นเลย วิ่งกันน่ากลัว คงกลัวไปติดแถวพระราม 2 ช่วงเย็น
คาดว่าช่วงสงกรานต์อาจารย์น่าจะได้แง่คิดมุมมองใหม่ ๆ มเล่าสู่กันฟังอีก
จะคอยอ่านนะคะ

 

โดย: ซออู้ 16 เมษายน 2550 13:28:25 น.  

 




สวัสดีตอนเช้าของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า

ตราบใดที่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี..
หัวใจที่มีเธอก็คงอยู่อย่างนั้น
หากฟ้ายังเป็นสีฟ้าเช่นทุกวัน
สัญญาว่า * มิตรภาพ * จะไม่เปลี่ยนไป



** มีความสุขในช่วงวันสงกรานต์นะจ้า **

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 16 เมษายน 2550 13:29:23 น.  

 

ผมคิดเหมือนคุณข้อ 1.4 เลยครับ
เอาเวลาไปประท้วงกฏหมายข้อเอฟทีเอยังน่าจะได้ประโยชน์มากกว่านี้

 

โดย: ฟ้าดิน 17 เมษายน 2550 2:00:40 น.  

 

อิอิ วันนี้อาจารย์ขี้สงสัยจังเลยนะคะ แต่ก็เห็นด้วยแทบทุกข้อเลยค่ะ

วันนี้อิชั้นตื่นเช้าค่ะเลยมีเวลาแวะเยี่ยม นี่ก็แปดโมงแล้ว ได้เวลาไปทำมาหากินอีกแล้วค่ะ

ขอให้สนุกกับการทำงานวันนี้นะคะอาจารย์

 

โดย: P.Ta 17 เมษายน 2550 8:12:35 น.  

 

แวะมาเยี่ยมหลังสงกรานต์ผ่านพ้นไป และบอกว่ายังสุขสบายดีครับ

 

โดย: somnumberone 17 เมษายน 2550 10:58:56 น.  

 

สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันในช่วงวันหยุดปีใหม่ไทยนะครับ ผมอยู่บ้านตลอดเลย ที่บ้านมีแต่สายโทรศัพท์ ไม่มีเน็ตความเร็วสูง ก็เลยขอติดไว้ก่อน ไว้อีกวันสองวันได้เข้าไปที่ทำงานก็จะได้เข้าไปเยี่ยมเยียนทุกท่านบ้าง

ขอให้มีความสุขมากๆ นะครับ

ป.ล. งวดนี้หวยออกเลขวันสงกรานต์เสียด้วย... 013 ถูกหวยกันบ้างหรือเปล่าครับ ของผมถูกเหมือนกัน ถูกกินครับ

 

โดย: คนทับแก้ว 17 เมษายน 2550 13:00:54 น.  

 

ร่วมสงสัยด้วยคน
แต่ข้อที่ว่า ทำไมเมืองไทยไม่จัดเรทหนัง จำได้ว่าสมัยเสี่ยเจียงเป็น นายกฯ บอกว่าจะทำให้หนังไทยเสียรายได้มหาศาล... เงินในกระเป๋าสำคัญกว่าอนาคตของลูกหลาน อนาถประเทศไทย

 

โดย: เจ้าชายไร้เงา 17 เมษายน 2550 13:26:45 น.  

 


อุ๊บ ไม่นึกว่าคนทับแก้ว จะซื้อหวย...

ขอสงสัยบ้าง ...ไม่รู้คุณทักษิณ นายกสุรยุทธ และเบิร์ดธงไชย จะซื้อหวย กันบ้างมั๊ย?

...ไม่กล้าจะสงสัย ไปถึงทางในวัง

 

โดย: yyswim 17 เมษายน 2550 14:59:23 น.  

 

แวะมาเยี่ยมนะครับ

คุณคนทับแก้ว ท่าทางเป็นคนที่ช่างสงสัยเป็นประจำเหรอครับ? เห็นสงสัยหลายเรื่องจังเลยครับ

ผมกลับมาจากหยุดสงกรานต์แล้วนะครับ มีเรื่องเล่าจากทะเลมาฝากด้วยนะครับ อย่าลืมแวะเข้าไปอ่านนะครับ

ขอให้เย็นนี้ทีมไทยชนะอิรัค แล้วคืนนี้ลิเวอร์พูลชนะ แซงกลับมาเป็นที่ 3 เหมือนเดิมนะครับ

อิอิ

 

โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) 18 เมษายน 2550 16:09:28 น.  

 

แวะมาทักทายค่ะ

สบายดีหรือเปล่าคะ???

 

โดย: เพียงแค่เหงา 18 เมษายน 2550 19:33:17 น.  

 

เรื่องให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาตินี่เป็นเรื่องทางการเมืองและเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ขององค์กรที่มาหนุนครับ ดูรายชื่อของคนหนุนบางคนยังตกใจเลยว่าเป็นคนน่านับถือ และเป็นนักปราชญ์ แต่อาจจะลืมไปว่าคำว่า "ประจำชาติ"นี่เป็นการเชื้อเชิญให้ระบบราชการเข้ามาควบคุมศาสนาได้มากขึ้นและส่งเสริมให้มีการแบ่งแยกระหว่างคนนับถือศาสนาต่างๆ กันมากขึ้น .... ขอบคุณครับที่ไปเขียนคอมเมนท์ที่น่าสนใจในบล็อคของผม

 

โดย: Johann sebastian Bach 18 เมษายน 2550 21:12:49 น.  

 




สวัสดีตอนค่ำๆของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า

ลากเส้นฝันด้วยสีขาว
เขียนเป็นทางยาวบนท้องฟ้า
ให้ความรู้สึกเป็นปากกา
เขียนบอกว่า * คิดถึง ห่วงใย * เธอ



** มีความสุขกับคนที่คุณรักนะจ้า **

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 19 เมษายน 2550 0:48:30 น.  

 

ไม่ได้แวะมาอ่านนาน เลยพลาดโอกาสอ่านงานดีๆ ไปเสียได้

จุก็สงสัยเรื่องที่คุณคนทับแก้วสงสัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระเบิดพลีชีพนี่ ได้ยินว่า คนอ่านข่าวก็ เซ็งค่ะ

ส่วนคนดังห้องเฉลิมไทย คุณ ผมอยู่ข้างหลังคุณ ทราบว่าเป็น นักจิตวิทยา นักเขียน และนักดูหนังวิจารรณ์หนังตัวยง
จุเข้าไปอ่านงานเข้าบ่อยนะคะ แต่ไม่ค่อยแสดงวคามคิดเห็น


เพราะความคิดเห็นของจุนั้น มันต่ำต้อยด้อยค่า เกินไป


จุเล่นพันทิพอยู่นาน จนรู้นิสัยของกลุ่มคนในแต่ละห้อง

ราชดำเนิน อกแบบ
เฉลิมไทยอีกแบบ
ห้องสมุดอีกแบบ
สวนลุมอีกแบบ
ศุภฯ อีกแบบ

แต่โดยรวมแล้ว ถ้าเครียดเมื่อไหร่ จุมุดห้องศุภ มีอะไรให้ฮาๆ ขำๆ อยู่เสมอ แต่ไม่ต้องไปเจอชื่อจุหรอก เพราะ นานๆ จะโพสสักที เขาเรียกว่าอ่านอย่างเจียมตัว

 

โดย: กระจ้อน 21 เมษายน 2550 12:20:06 น.  

 

ข้อดีของการบัญญัติ พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ

๑. ได้ยืนยันความจริงทางประวัติศาสตร์ชาติไทยที่มีมายาวนาน
๒. ได้รักษาสถาบันทั้งสามอย่างเท่าเทียมกันโดยกฎหมายรัฐธรรมนูญ
๓. ได้ให้ความสำคัญกับศรัทธาของประชาชนคนในชาติที่มั่นคงอยู่ในหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
๔. ได้แสดงออกซึ่งการยอมรับความจริงแบบประชาธิปไตยว่าเสียงของคนส่วนมากยอมรับสถาบันชาติ พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ เท่าเทียมกัน
๕. ได้ยืนยันความเป็นคนไทยที่นิยมอิสระ เสรีภาพ โดยมีหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเป็นแกนกลางสร้างความสามัคคี
๖. ได้สร้างและยอมรับความสอดคล้องกับมติของประชาคมโลกที่ให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนาและประเทศไทย
๗. ได้ส่งเสริมความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นระหว่างประชาชนคนในชาติ
๘. ได้ยืนยันภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่เป็นดินแดนพระพุทธศาสนา ที่คนทุกคนในประเทศนี้มีเสรีภาพในการนับถือศาสนาที่ตนศรัทธาได้โดยไม่ขัดแย้งกัน
๙. ได้แสดงออกซึ่งความที่พระพุทธศาสนาเป็นนวัตกรรมทางความคิดของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่อยู่คู่กับคนไทย ชาติไทย พระมหากษัตริย์ไทย ในสุวรรณภูมินี้มานานมากกว่าสองพันปี
๑๐. ได้ยกย่องพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาที่พระมหากษัตริย์ไทยทุกราชวงศ์ตั้งแต่เริ่มต้นเผ่าไทยมาถึงปัจจุบัน และประชาชนคนไทยปัจจุบันเกินกว่า ๙๔ % ยอม รับนับถือ เพราะมั่นใจว่าพระพุทธศาสนามีคุณูปการต่อชนชาติไทย
๑๑. ได้ส่งเสริมสนับสนุนมติชาวโลกที่ยกย่องให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนาของโลก
๑๒. ได้หลักประกันทางกฎหมายว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทยโดยถูกต้องชอบธรรมและชอบด้วยกฎหมายบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ อันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ
๑๓. ได้เครื่องมือปลูกจิตสำนึกร่วมกันของคนในชาติที่จะร่วมใจกันยกย่องสถาบันสูงสุดเป็นเอกลักษณ์ของชาติ
๑๔. ได้เครื่องมือส่งเสริมการประพฤติปฏิบัติธรรมนำสู่หลักแห่งประชาธิปไตยที่ยึดความถูกต้อง ชอบธรรม มีภราดรภาพ มิตรภาพตามหลักธรรมคำสั่งสอนที่มีมาในพระพุทธศาสนา
๑๕. ได้หลักในการอบรมสั่งสอนลูกหลานไทยได้เกิดความภาคภูมิใจว่าตนมีศาสนาประจำชาติ ที่จะต้องตระหนักในการนำศาสนาสู่การปฏิบัติมากยิ่งขึ้น
๑๖. ได้หลักการกลางในการสร้างความสามัคคีระหว่างคน ในชาติ เพราะเมื่อพระพุทธศาสนาแข็งแกร่ง คนในชาติซึ่งนับถือศาสนาต่างกันก็จะอยู่อย่างสงบสุขทั่วถึงกัน เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่พุทธศาสนิกชนจะไปรังแกคนที่นับถือศาสนาอื่นจากที่ตนนับถือ ไม่เคยมีมาในอดีต ยังไม่มีในปัจจุบัน และ จักไม่มีในอนาคต ที่พุทธศาสนิกชนจะไปรังแก รบราฆ่าฟัน ขับไล่ไสส่งศาสนิกอื่น มีแต่ชาวพุทธเท่านั้นที่ถูกรังแกถูกทำลายมาตลอดทุกยุคที่ผ่านมา
๑๗. การบัญญัติข้อความข้างต้นนั้นไว้ในรัฐธรรมนูญ จะเป็นกุญแจสำคัญให้พระพุทธศาสนายิ่งมั่นคงขึ้น คือเป็นประเด็นให้ได้ออกกฎหมายคุ้มครอง ส่งเสริมให้เหมาะสมได้ในโอกาสต่อไป
๑๘. ประชาชนคนไทยในยุคต่อไปจะได้ตระหนักยิ่งขึ้นว่า ชาติ พระพุทธ- ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นสถาบันสำคัญของชนชาติไทยที่จะต้องเทิดทูนไว้เหนือความขัดแย้งใด ๆและเหนือชีวิต
๑๙. การมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไว้ในรัฐธรรมนูญ มิได้หมายความว่า คนไทยที่นับถือศาสนาอื่นจะอยู่ในประเทศไทยไม่ได้ เช่นเดียวกับการบัญญัติว่าที่นี่ประเทศไทย แต่คนจากประเทศไหน ๆ ก็สามารถมาอยู่ในประเทศไทยได้อย่างปกติสุข ภายใต้กฎหมายไทยที่ให้เสรีภาพในการนับถือศาสนาอยู่แล้ว
๒๐. การบัญญัติข้อความข้างต้นนั้นไว้ในรัฐธรรมนูญ จะได้รัฐธรรมนูญที่ถูกต้องที่สุดในบริบทสังคมไทย จะไม่เป็นรัฐธรรมนูญที่เกิดจากความชอบ ความชัง ความหลง ความกลัว คือจะเป็นรัฐธรรมนูญที่ปราศจากอคติหรือความลำเอียงทั้งสี่ประการ เป็นบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่คนไทยเกินกว่า ๙๐ % ยอมรับแน่นอน

พระเทพวิสุทธิกวี
เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย
รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและวางแผน
มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

 

โดย: Thanes Oonsiri IP: 124.121.240.16 22 เมษายน 2550 21:58:41 น.  

 

25 เมษายน 2550 พระจะออกมาให้ร้อนกันทำไม?ที่หน้ารัฐสภา.........ครับพ่อ
คำถามว่าที่พระท่านออกผิดไหม และที่เรียกร้องให้มีการบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ในแผ่นดินนี้ในฐานะพระสงฆ์สมควรหรือไม่ การเรียกร้อง
ทำให้เกิดความไม่สงบแตกแยกหรือไม่ คำถามเหล่านี้ในฐานะประชาชนและส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธต้องรู้ถึงเหตุการณ์เหล่านี้
การที่พระเดชพระคุณตั้งแต่พระราชาคณะพร้อมด้วยพระสงฆ์หมู่ใหญ่กับทั้งประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุจำนวนมาก
ต่างออกตากแดด ในช่วงเดือนเมษายน หน้ารัฐสภา โดยปรารถนาให้มีการบัญญัติคำว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
ไว้ในรัฐธรรมนูญที่เป็นช่วงกำลังร่างให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยให้เหตุผลว่า ถ้ามีการบัญญัติไว้แล้ว
จะทำให้ประชากรซึ่งเป็นชาวพุทธจำนวน 95 เปอร์เซนต์ที่ประกาศตนเป็น พุทธ ทั้งใจและทะเบียน ต่างจะได้มีส่วนภาคภูมิใจว่า
แผ่นดินนี้บรรพบุรุษได้ฝากให้ไว้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทยตั้งแต่โบราณกาล ดังมีการนำเอาบทพระราชนิพนธ์ต่างๆ
ตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามจนถึงรัชกาลปัจจุบันมาประกอบการให้เหตุผลว่า เป็นพระราชประสงค์ของพระมหากษัตริย์ไทยแต่อดีตกาล
ทั้งผู้ชุมนุมได้นำข้อดีจำนวนมากพร้อมทั้งข้อเปรียบเทียบของประเทศต่างๆที่มีการบัญญัติให้ศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
ไว้เช่นถ้าเป็นพุทธก็มี ทิเบต ลาว พม่า เขมร
พระเถระยังชี้ให้เห็นว่าการบัญญัติก็ไม่เห็นเป็นเรื่องที่ใช้อ้างเป็นเรื่องแตกแยก กลับกันน่าจะเป็นความภาคภูมิใจเสียมากกว่า เพราะทั่วโลกรู้ว่า ศาสนาพุทธ
ศูนย์กลางการศึกษาอยู่ที่ประเทศไทย เมื่อไม่กี่ปี สหประชาชาติยกย่องศาสนาพุทธเป็นศาสนาสากลโลก แล้วมองเป็นประเทศเป็นศูนย์การพัฒนาศีลธรรมโดยให้มีการประชุมหลายต่อหลายครั้งในประเทศ
ฝรั่งมังค่าต่างข้ามน้ำข้ามทะเลมาบวชจำนวนมาก และกลับไปพระในประเทศของตนเอง
จนทุกวันนี้วัดไทยในอเมริกามีทุกรัฐ วัดไทยในอังกฤษ ออสเตรเลีย เป็นเรื่องที่เรากลับไม่เห็นความสำคัญนานาอริยประเทศต่างๆกลับเห็นความสำคัญๆ
ผู้ร่างกฎหมายอ้างแต่จะเพียงแตกแยก ขนาดคนจำนวนหกแสนกว่าคนลงชื่อขอเป็นหลักฐานเป็นกล่องไว้ที่หน้ารัฐสภา
ซึ่งคณะสงฆ์และพุทธบริษัทนำประกอบการพิจารณาให้กับนายประสงค์ สุ่นศิริ พร้อมคณะซึ่งพิจารณาแต่กลับตอบเพียงว่า เดี๋ยวแตกแยก
จริงความแตกต่างไม่ได้หมายถึงแตกแยก เพราะประเทศไทย มีความแตกต่างๆกับประเทศอื่นตรงที่ว่าสังคมเราเป็นสังคมพระพุทธศาสนาที่ถูกหล่อหลอมให้รู้จักรัก
และสามัคคีกันไม่ว่าจะชาติศาสนาใดๆ ที่อยู่ใต้พระบารมีในหลวง ความแตกต่างจึงไม่ได้หมายถึงแตกแยก พระเถระท่านชี้แจงว่า การมีบัญญัติไว้
กลับมีส่วนที่ให้การพัฒนาเมืองไทยมากขึ้นความเสื่อมถอยทางศีลธรรมมีมากขึ้นส่วนหนึ่งเพราะรัฐไม่เห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนาโดยเฉพาะการนำหลักธรรม
แต่ถ้ามีการบัญญัติ ก็เหมือนมีหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องนำหลักธรรมไปสู่ประชาชนเพราะเป็นหน้าที่รัฐบาลทำตามรัฐธรรมนูญ ถือเป็นวาระแห่งชาติที่จะทำให้ประชาชน
มีหลักธรรมเป็นหลักปฎิบัติ ดังที่ในหลวงของเราต้องมีปฐมในพระราชปฎิธานว่า เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์มหาชนชาวสยาม
ดังนั้นการที่พระออกมาคนเข้าใจว่าจะวุ่นวาย น่าจะคิดใหม่ว่า พระและฆราวาสโดยเฉพาะผู้สูงอายุต่างๆกำลังทำบุญให้กับประเทศตอบแทนบรรพบุรุษและแผ่นดิน
และถือเป็นการออกมาช่วยสังคมที่กำลังเน่าสนิททางศีลธรรมให้ถูกแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ถ้าระบุชัดว่าแผ่นดินนี้มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ในเมื่อพระพุทธศาสนา
เป็นศาสนาแห่งสอนคนทำดี ละชั่ว ทำใจให้ผ่องแผ้ว สอนให้รักตน รักสังคม รักประเทศชาติ และพอเพียง และที่สำคัญจะได้แก้ปัญหาคอรัปชั่นที่ฝังรากกับนักการเมืองไร้ศีลธรรม
ได้อย่างเป็นรูปธรรม เพราะถือว่าคนที่เข้ามาทำงานการเมืองรักษาปฏิบัติตามกฎหมายที่ว่าต้องมีธรรมในพระพุทธเจ้าแสดงว่า ถ้าคิดจะมารับใช้ประชาชนต้องมีคุณธรรมและศีลธรรม
เพราะพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ถ้าพัฒนาประเทศก็มีหลักธรรมควบคู่กันไป เหมือนอย่างที่เคยเที่ยวสอนนักเรียนว่า ความรู้คู่คุณธรรม
ดังนั้นพิเคราะห์การที่พระและฆราวาสต่างๆออกมาในช่วงเวลามีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือได้ว่าเหมาะสม และสมควรแห่งเวลา
ชาวพุทธไม่ได้ออกมาก็อย่าเที่ยวตำหนิพระเลยเดี๋ยวจะเป็นบาปกรรมเปล่าๆ มือไม่พายก็อย่าขัดบุญของแผ่นดินเลย เขาทำเพื่อเขาก็หาไม่ดูสภาพแต่ละคนแล้ว แก่สนิทออกอย่างนั้น
แต่เขาทำเพื่อลูกหลานของเราที่จะได้มีศีลธรรมและมีการพัฒนาธรรมะ สืบต่อไปช่วงลูกหลาน ลูกหลานจะได้ไม่ว่าว่า ไม่รักษาให้เลยนะ พ่อ
ฉะนั้นคนร่างรัฐธรรมนูญกลัวว่าแตกแยก อย่ากลัวเลยครับ ถ้าแตกแยกมันแตกแยกไม่นานแล้ว ไม่บัญญัติก็ทำให้แตกแยกได้ คนพุทธไม่โหดหรอก แต่ที่เราบัญญัติ
เป็นแสดงจุดยืนในการให้รัฐบริหารประเภทให้ตรงปัญหา คือแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยมีการพัฒนาศีลธรรมกับคนในสังคมด้วย
การบัญญัติจึงไม่น่าเสียหายกับมีผลดีมากขึ้น ท่านว่าไหม
ข้อคิดจาก อ,ธเนศ อุ่นศิริ ประธานชมรมเวบพระพุทธศาสนา ผู้ดำเนินรายการ สิ่งดีๆวันนี้ วิทยุอินเตอร์เนต มหาวิทยาลัยรามคำแหง

 

โดย: Thanes Oonsiri IP: 124.120.72.45 24 เมษายน 2550 4:14:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


คนทับแก้ว
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






ศิลปิน: เฉลียง
เพลง: หวาน
ชุด: ปรากฏการณ์ฝน
ปี: 2525



Friends' blogs
[Add คนทับแก้ว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.