รักนี้..นิรันดร ( Always ..Bon Jovi)


๑.
..๏ โรมิโอหลั่งเลือดแล้ว.........วายปราณ
คงมั่นตราบอวสาน................รักแท้
หากมิอาจทัศนาการ..............โลหิต พ่อเฮย
สาเหตุฤๅเลศนัยแล้...............เช่นนี้ดังกัน ฯ
๒.
..๏ เพียงผองมโนภาพด้วย-....อุปมา
อันสุนัขตัวชรา-.....................ขุดแล้ว
จินตภาพติดตามตา...............ตรึงจิต ยิ่งแฮ
แฝงซึ่งความสอดแคล้ว.........บ่ได้ลืมเลือน ฯ
๓.
..๏ สายวสันต์อันเปรียบด้วย....โศกศัลย์
ยังพร่างพรมข่มขวัญ...............ไป่สิ้น
นับแต่แม่วิลาวัลย์...................พลัดพราก
คงแต่ความแดดิ้น...................ค่ำเช้าทุกข์ระทม ฯ
๔.
..๏ เหน็บหนาวราวไร้ที่............อาศัย
จมดิ่งน้ำฝนใน-.......................บัดนี้
น้ำตาที่รินไหล.........................เสมือนท่วม- ตนแล
จนมิอาจบ่งชี้...........................ชอกช้ำเกินทน ฯ
๕.
..๏ อดีตกาลเคยกล้าแกร่ง......เหิมหาญ
ปรากฏแก่เยาวมาลย์..............แจ่มแจ้ง
ยามเมื่อแม่ ฯ อันตรธาน.........เป็นอื่น
จึงปล่อยวางดังแกล้ง..............เช่นผู้ปราชัย ฯ
๖.
..๏ หมายใจใคร่เอ่ยเอื้อน.........บทกวี
เพลงรักอีกดนตรี.....................อื่นนั้น
สัญญาวิปลาสมี......................ปรากฏ พลันเฮย
โทมนัสกลับปิดกั้น...................ต่างล้วนลืมเลือน ฯ
๗.
..๏ ไตรลักษณ์จักสั่งให้.............ดำเนิน- ตามแฮ
เผลอจิตคิดเพลิดเพลิน............บอบช้ำ
ไม่เที่ยงมากทุกข์เผชิญ-..........ความอนัต- ตาเฮย
เป็นบทบัญญัติย้ำ....................จึ่งต้องจำนน ฯ
๘.
..๏ ข้า ฯ เยี่ยงกรวดไร้ค่า.........จริงฤๅ
หมายหยิบยังเกรงมือ..............หยาบกร้าน
ข้า ฯ ซื่อสัตย์ไยถือ...................เป็นอื่น นาแม่
เป็นห่วงว่าจุ้นจ้าน...................เช่นผู้เลือดเย็น ฯ
๙.
..๏ มุ่งหมายเพียงให้แม่-.........จอมขวัญ
แจ้งจิตในอาตมัน....................แห่งข้า ฯ
สิ่งหนึ่งซึ่งสำคัญ.....................คือรัก- ยิ่งเฮย
จักมั่นคงตราบฟ้า-.................เสื่อมสิ้นดินสลาย ฯ
๑๐.
..๏ ข้า ฯ จักยึดมั่นด้วย...........สิเนหา
ตราบเมื่อเดือนดารา..............มืดพร้อม
จนตราบเมื่อสุริยา..................แตกดับ
ตราบเมื่อสรวงสวรรค์น้อม.....ตกใต้ปฐพี ฯ
๑๑.
..๏ เผยปากหากไร้ซึ่ง..............อรรถความ
มธุรสบทกวียาม.....................เอ่ยแล้
กลับปรากฏดังหนาม..............ตำจิต เสมอเอย
มิอาจเอ่ยคำแม้......................มากด้วยสิเนหา ฯ
๑๒.
..๏ ตราบใดตายจากเจ้า........ในอนา- คตเฮย
สิ่งหนึ่งซึ่งปรารถนา...............มากพ้น
คือแม่ ฯ จักหวนมา................ดั่งก่อน
ความรักจักท่วมท้น................จิตข้า ฯ ตลอดกาล ฯ
๑๓.
..๏ มีเพียงรูปแม่ ฯ ครั้ง............เคียงกัน
คือสิ่งที่ผูกพัน..........................จิตข้อง
ชีวิตที่แปรผัน...........................ตามติด- เตือนแล
ยังกักกุมคุมต้อง......................ตกใต้อาชญา ฯ
๑๔.
..๏ บางคราวราวมากด้วย........สุขสราญ
บางย่ำยามทรมาน...................ปวดร้าว
คนใดใคร่หักหาญ....................พรากแม่ ไปเฮย
คราเอ่ยลาดั่งง้าว.....................บาดเนื้อเถือใจ ฯ
๑๕.
..๏ หวังสยายผมแม่ ฯ ให้.........สลวยงาม
จุมพิตฝีปากยาม......................หยอกเย้า
หมายโอบกอดนงราม...............แนบอก
จักเอ่ยเปรยกวีเฝ้า....................พร่ำเพ้ออภิรมย์ ฯ
๑๖.
..๏ ยามใดหากแม่ ฯ ตั้ง-..........จิตภา- วนาเฮย
จงประจักษ์แก่ปัญญา...............แม่ ฯ นั้น
ในอดีตผิดพลาดมา..................วอนแม่ ฯ อภัยเทอญ
เพียงมนุษย์อันจริตรั้น...............หนึ่งผู้ปุถุชน ฯ
๑๗.
..๏ ยามใดใครกอดเจ้า ฯ...........ไยระทวย ?
ใครแนบเนื้อแม่อวย...................โอบเอื้อ ?
ใครเปรยเอ่ยคำระรวย..............เสนาะโสต แลฤๅ ?
คงเปี่ยมสุขยืดเยื้อ....................ประหนึ่งได้มุกมณี ? ฯ
๑๘.
..๏ ยามใดใคร่กอดเจ้า ฯ..........ไยขืน ?
ใคร่แนบเนื้อแม่ ฯ ยืน................ปัดป้อง
ใคร่เปรยเอ่ยคำฝืน....................โสตสดับ แลฤๅ ?
คงเบื่อหน่ายดังต้อง..................แปดเปื้อนปฏิกูล ? ฯ
๑๙.
..๏ หมายใจเป็นเช่นผู้...............เคียงอนงค์ แม่เอย
มธุรสพจน์กวีคง.......................เอ่ยอ้าง
โคลงฉันท์กาพย์กลอนผจง......เจรียงจาก ใจแล
จักกล่อมจอมขวัญบ้าง............ตราบสิ้นวันคืน ฯ
๒๐.
..๏ จอมขวัญโปรดล่วงรู้..........อรรถความ
ปฏิพัทธ์เช่นนิยาม...................สัตย์แล้
ยังรักแม่คนงาม......................เสมอยิ่ง
จักมั่นคงแน่แท้.......................เช่นนั้นนิรันดร ฯ
๒๑.
..๏ หากแม่ ฯ สั่งให้คร่ำ-.........ครวญครัน
จักร่ำไห้โศกศัลย์....................ค่ำเช้า
หากแม่ ฯ สั่งลงทัณฑ์.............สละชีพ พลันเฮย
จักเชือดคออวดเจ้า.................ว่าพร้อมยอมพลี ฯ
๒๒.
..๏ เงยหน้ามองข้า ฯ เถิด.......โฉมตรู
โปรดเพ่งพิจารณาดู...............ถ่องแท้
มอบรักมักอดสู.......................เสมือนพ่าย พนันเฮย
หมายเอ่ยเปรยคำแม้..............แลกด้วยธนสาร ฯ
๒๓.
..๏ อาภัพอับโชคเข้า...............ตาจน
แม่ ฯ โปรดปราณีคน-.............ยากบ้าง
หวังเคียงคู่นฤมล....................ดังก่อน นาแม่
ตราบสุริเยศสล้าง..................จรัสจ้ารัศมี ฯ
๒๔.
..๏ จอมขวัญโปรดล่วงรู้..........อรรถความ
ปฏิพัทธ์เช่นนิยาม..................สัตย์แล้
ยังรักแม่คนงาม.....................เสมอมั่น
จักมั่นคงแน่แท้......................เช่นนั้นนิรันดร ฯ
๒๕.
..๏ ข้าจักคงมั่นด้วย..............สิเนหา
ตราบเมื่อดาวดารา..............มืดพร้อม
จนตราบเมื่อสุริยา................แตกดับ
ตราบเมื่อสรวงสวรรค์น้อม.....ต่ำใต้ปฐพี ฯ
๒๖.
..๏ เผยปากหากไร้ซึ่ง............อรรถความ
มธุรสบทกวียาม...................เอ่ยแล้
กลับปรากฏดังหนาม............ตำจิต เสมอเอย
มิอาจเอ่ยคำแม้....................มากด้วยสิเนหา ฯ
๒๗.
..๏ ตราบใดตายจากเจ้า........ในอนา- คตเฮย
สิ่งหนึ่งซึ่งปรารถนา..............มากพ้น
คือแม่ ฯ จักคืนมา.................เสมือนเช่น เคยแฮ
ความรักจักเปี่ยมล้น.............ชั่วฟ้าดินสลาย ๚ะ๛

ยั ง รั ก แ ม่ ฯ ม า ก ล้ น . . . . เ ช่ น นี้ นิ รั น ด ร



Create Date : 24 กันยายน 2549
Last Update : 24 กันยายน 2549 22:36:02 น.
Counter : 508 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

จังงัง
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



กันยายน 2549

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
26
28
29
30
 
All Blog