มีนาคม 2558

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
24
25
26
27
29
30
31
 
 
พื้นที่ส่วนตัว
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกดี
ที่จะต้องเปลี่ยนจากคนที่เคยบอกลาแล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน
มาเป็นบอกว่า "ไว้เจอกันที่บ้านนะ"

สมัยเป็นแฟนกัน เรากับคุณชายไม่ค่อยติดกันเท่าไหร่
ด้วยนิสัยของเค้าที่มีโลกส่วนตัวสูง เราก็เป็นพวกไม่ค่อยชอบรบกวนโลกของใคร
เลยมีที่ว่างให้กันค่อนข้างมาก ถามว่าสิ่งนี้ทำให้เรากังวลมั้ย
ว่าถ้ามาอยู่ด้วยกันแล้ว ที่ว่างที่ว่ามันหายไป
ยอมรับว่า กังวลมาก
เราเป็นคู่ที่สามารถแยกกันไปได้อย่างน่าตกใจ เราอยากดูหนัง แต่คุณชายไม่อยากดู เค้าก็บอกว่า ขอไปรอที่ร้านหนังสือนะ แล้วก็ไปหาหนังสืออ่านรอ
กลับกัน หนังที่ดูยากๆของเค้า เราก็ไม่อยากดู ขอไปเดินห้างรอแทน ก็ทำมาแล้ว

พอต้องมาอยู่บ้านเดียวกันขนาดนี้
เราคิดไม่ออกว่า ควรจะทำตัวยังไงดี บางคำถามที่ไม่เคยกล้าถาม ก็ถามได้แล้วใช่มั้ย?
เช่น ไปไหน? ปกติเป็นสิ่งที่เราจะไม่ถามเลย ไม่ใช่ไม่สนใจ
แต่เราอยากให้เค้าบอกเองมากกว่า เวลาไปไหน เรายังอยากให้เค้ารู้ และบอกเอง
เราเคารพเค้า ว่าถ้าเค้าอยากให้เรารู้ เค้าจะบอกเอง
คิดอยู่นานมาก บางคนอาจจะหาว่าเราบ้าก็ได้
คำถามแค่นี้ คิดอะไรนักหนา
แต่สำหรับคนที่ไม่เคยถาม มันยากมากจริงๆ เหมือน...เริ่มถามเรื่องส่วนตัว
จะว่ายังไงดีล่ะ...สำหรับเรา มันเหมือนเราต้องกลายเป็นฝ่ายอยากรู้มากกว่า
แทนที่เค้าจะอยากบอกมากกว่า...อืมหยุดมันไว้ตรงนี้ละกัน มันเป็นแค่นิสัยโรคจิตของเราเอง (มีอีกหลายอย่างเลย) 55

โชคดีว่า คุณชายเป็นคนรู้นิสัยเรา เค้ารู้ว่าเรากังวลมาก
เลยเรียกมาเจรจา(เจรจาจริงๆ)กันให้รู้เรื่อง
เค้าบอกเราว่า 
"ทำทุกอย่างเหมือนตอนไม่แต่งงานนั่นแหละ ยังไงก็อยู่กันไปอีกนาน
แต่ขอแค่อย่างเดียวกลับบ้านก็พอ"

ประโยคแค่นี้ทำให้ความเครียดเราตลอดเกือบเดือนหายไปเลย
ไม่ใช่เพราะเรายังหวงพื้นที่ตัวเองนะ แต่เราไม่อยากให้มันข้ามขั้นเกินไป
ทุกคนยังต้องการปรับตัว ค่อยๆอยู่ด้วยกันมากขึ้นน่าจะเวิร์คกว่าที่อยู่ดีๆ ตู้มมมม 
ข้ามเสต็ปไปซะทุกอย่าง เค้าขี้อาย ส่วนเราขี้เกรงใจ 
พอมาอยู่ด้วยกัน มันไม่ง่ายเลย เพราะไม่ชิน
แล้วอีกอย่างยังไงก็ตามเราสองคนก็ยังอยู่ในวัยที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวอยู่ดี
แม้จะอยู่บ้านเดียวกันจริงๆแล้ว แต่ความจริงพวกเราก็แค่
คนที่เพิ่งจะมาหัดอยู่ด้วยกันเท่านั้นเอง





Create Date : 28 มีนาคม 2558
Last Update : 28 มีนาคม 2558 22:07:06 น.
Counter : 3379 Pageviews.

6 comments
  
คุณชายน่ารักมากเลย เข้าใจความรู้สึกน้องเหม่ยตลอด เอาใจช่วยนะคะ
โดย: Tim-Tam IP: 110.171.69.142 วันที่: 28 มีนาคม 2558 เวลา:22:20:19 น.
  
"...กลับบ้านก็พอ" ชอบประโยคนี้อ่ะ
ไม่รู้สิ อ่านแล้วมันสะดุด ชอบบบบ

บอกให้รู้ว่า...
อยู่ด้วยกันแล้วนะ
หลังคาเดียวกันแล้วนะ
เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ :)
โดย: ต.เตียววว ว่าที่นิสิตฯ IP: 61.91.48.90 วันที่: 28 มีนาคม 2558 เวลา:22:26:47 น.
  
แค่กลับบ้านก็พอ ดีมากเลยอ่ะประโยคนี้
ชอบอ่ะพื้นที่ส่วนตัว มันต้องค่อยๆปรับเข้าหากันแบบนี้แหละเนอะ อิอิ
โดย: yimnaruk IP: 192.99.14.34 วันที่: 29 มีนาคม 2558 เวลา:7:52:32 น.
  
"ขอแค่อย่างเดียวกลับบ้านก็พอ"
ฮิ้ววววว

ช่างเป็นผู้ชายที่ออกหมัดน้อย แต่เข้าเป้าทุกดอกอ้ะ //ปรบมือเกรียวกราว//

ค่อยๆ เรียนรู้ไปเนอะ พัฒนาไปเรื่อยๆ ปรับไปเรื่อยๆ น่าสนุกไปอีกแบบนะคะ

อืม... ความโรคจิตนั่น เข้าใจนะคะ 555 ก็แบบไม่อยากให้เขารู้สึกอึดอัดเหมือนเราไปรุกไล่จี้ถามอะไรงี้ปะ อยากจะให้เขาอยากบอกเราด้วยตัวเขาเอง เพราะถ้าเขาอยากให้เรารู้ด้วยความต้องการของเขาเอง มันรู้สึกดีกว่า เหมือนเขาแบ่งโลกของเขาให้เราเข้าไป ไม่ใช่เราดึงดันทุบประตูปังๆ พยายามจะเข้าไป อะไรแบบนี้ 555 ถ้าแบบนี้บ้า เค้าก็เข้าข่ายบ้าเหมือนกันนะ 555

ดีนะ ที่ต่างก็เข้าใจกัน โชคดีกันทั้งคู่อ้ะ
คนที่มีโลกส่วนตัวสูง (เค้าก็เป็น) ได้มาเจอคนที่เข้าใจ เว้นที่ให้ โดยที่ว่างนั้นไม่ได้ไปหาคนอื่นมาทดแทน อยากบอกว่า คุณชายโชคดีมากกกกกกก ไม่ได้หาคนที่เข้าใจแบบนี้ได้ง่ายๆ นะคะ คุณชายโปรดถนอมดีๆนะ 555
โดย: ginn IP: 1.46.97.183 วันที่: 29 มีนาคม 2558 เวลา:22:24:22 น.
  
ชอบประโยคสุดท้ายจังค่ะ :)
โดย: เหม่งน้อย IP: 1.47.137.145 วันที่: 30 มีนาคม 2558 เวลา:4:05:52 น.
  
พอยิ่งผูกพัน ยิ่งรู้สึกดี ยิ่งรักมากแค่ไหน เรื่องทุกเรื่องของเขา ความรู้สึก ความคิด ทุกอย่างของเขาก็จะกลายเป็นเรื่องใหญมากของเราทันที และบางครั้งมันก็ยากตรงที่ ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นในมุมของเราก็สำคัญมากพอๆ กัน ในฐานะที่หนูเป็นคนนึงที่มีพื้นที่ส่วนตัวเยอะมาก และมีกำแพงสูงมาก (เป็นหัวหอมค่ะ มีหลายชั้น แต่ไม่กลิ่นแรงนะ ห้าๆๆๆ) หนูคิดว่าพวกพี่ต่างก็พยายามเรียนรู้กันและกันได้อย่างน่ารักมากเลยนะ คือ... รอบตัวหนู เท่าที่เห็น ไม่มีหรอกนะ ที่แบบ แยกกันดูหนัง ไปทำในสิ่งที่อยากทำแล้วค่อยมาเจอกัน มีแต่แบบบังคับให้อีกฝ่ายยินยอม หรือไม่ก็เป็นฝ่ายยอมแบบไม่เต็มใจ ซึ่งมันคือปัญหาเล็กๆ ที่จะนำไปสู่เรื่่องใหญ่เลย หนูคิดว่าวิธีที่พี่สองคนปรับตัวเข้าหากันมันเจ๋งมากอ่ะ ชอบ เคยจินตนาการเหมือนกันว่าจะมีคนที่่พร้อมจะเข้าใจเราในแบบที่เราเป็นได้มากขนาดนี้มั้ยนะ (หนูว่าของหนูไม่มี ห้าๆๆๆๆๆๆ) แต่พี่คุณชายกับพี่่เพจก็หากันจนเจอได้ (เอ้อ วันอาทิตย์ที่ผ่านหนูไปอ่านกระทู้ย้อนหลัง หลงรักพวกพี่อีกครั้งและอีกครั้งเลย ฮี่ๆ :}) หนูเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้มันไม่ใช่แค่ความบังเอิญนะ แค่เดินผ่านกันก็ถือว่าเป็นโชคชะตาที่่พิเศษนะคะ ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนกันไปเนาะ หนูเอาใจช่วย พี่อาจจะเบื่อฟังแล้ว แต่หนูอยากบอกว่า เรื่องของพี่ ประโยคของพี่แค่ไม่กี่ประโยค มันทำให้คนที่่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องความรักอย่างหนู จริงๆ คือกลัวเลยแหละ กลับมารู้สึกมีความหวังนะคะ ว่าสักวันคงจะมีใครสักคนที่จะรักหนูในแบบที่หนูเป็น ทั้งดีและไม่ดี ใครสักคนที่ต่อให้ไล่เขาก็จะไม่ไปไหน :) โอ๊ย พร่ำเพ้ออะไร ห้าๆๆๆๆๆ #คิดถึงที่สุดในจักรวาลดาวล้านดวง #สู้ๆ กับงานนะคะ #ยิ้มกว้างๆ #ฮี่
โดย: โตแมง. IP: 124.122.222.51 วันที่: 30 มีนาคม 2558 เวลา:23:05:34 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จะว่ายังไงดีล่ะ
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 166 คน [?]



Facebook Fanpage :: จะว่ายังไงดีล่ะ
New Comments
  •  Bloggang.com