|
การวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์
หลายครั้ง จะพบว่าการวิเคราะห์ปัญหาทางเศรษฐศาสตร์ คำตอบไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียวเหมือนวิทยาศาสตร์ หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำตอบว่า "ด้านนึง คำตอบคือ... แต่คิดอีกแบบนึง คำตอบคือ..." คำตอบที่ไม่แน่นอนตายตัว เกิดจากอะไร เราลองมาดูกัน
เศรษฐศาสตร์ที่เป็นจริงและเศรษฐศาสตร์ที่ควรจะเป็น เศรษฐศาสตร์ที่เป็นจริง (Positive Economics) หรือบางคนอาจจะเรียกว่าเศรษฐศาสตร์วิเคราะห์ เป็นเศรษฐศาสตร์ที่มุ่งศึกษาถึงปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นทางเศรษฐกิจ เช่น การวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมความสัมพันธ์ระหว่างราคาสินค้าและปริมาณการซื้อขายของสินค้าชนิดหนึ่งๆ โดยจะไม่มีการใช้วิจารณญาณในการตัดสินคุณค่า ว่าควรหรือไม่ควร หรือสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ดีหรือไม่ดี เศรษฐศาสตร์แนวทางนี้จึงเป็นเครื่องมือเพื่อใช้ในการศึกษาในสิ่งที่ผู้ศึกษาต้องการ เศรษฐศาสตร์ที่ควรจะเป็น (Normative Economics) หรือเศรษฐศาสตร์นโยบาย เป็นเศรษฐศาสตร์ที่มุ่งศึกษาว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจนั้นๆ ดีหรือไม่ ควรทำหรือไม่ แนวทางนี้จึงเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจที่คุณค่า ซึ่งเป็นคุณค่าที่เกิดจากผู้กำหนดนโยบาย ทั้งนี้ เพราะสิ่งที่อยู่ในระบบเศรษฐศาสตร์ล้วนมีความเกี่ยวข้องกัน การดำเนินการอย่างหนึ่ง ย่อมส่งผลกระทบที่ไม่พึงปรารถนาต่ออีกสิ่งหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จะเห็นได้ว่าเศรษฐศาสตร์ที่เป็นจริงมีลักษณะของศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์มาก เพราะมีการสร้างข้อสรุปหรือกฎเกณฑ์ออกมาได้ ขณะที่เศรษฐศาสตร์ที่ควรจะเป็น จะไม่มีกฎเกณฑ์หรือข้อสรุปที่ตายตัว หากแต่จะใช้วิจารณญาณและความรู้สึกส่วนตัวหรือแม้แต่ศิลป์เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในการตอบถึงความถูกต้องเหมาะสม จึงมีนักเศรษฐศาสตร์ (เกือบทุกคน) กล่าวว่าเศรษฐศาสตร์ที่เป็นจริงเท่านั้น ถึงจะเป็นเศรษฐศาสตร์ที่บริสุทธ์
การวิเคราะห์ในรูปแบบต่างๆ - แบ่งตามเวลา การวิเคราะห์เชิงสถิต (Static Analysis) เป็นลักษณะของการวิเคราะห์ที่สนใจเฉพาะสภาพการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะหนึ่งเท่านั้น โดยจะไม่มีเรื่องเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง การวิเคราะห์เชิงสถิตเปรียบเทียบ (Comparative Static Analysis) เป็นการวิเคราะห์เปรียบเทียบสภาพการณ์เชิงสถิต 2 จุด เช่น การเปรียบเทียบดุลยภาพเก่า และดุลยภาพใหม่ของเศรษฐกิจ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจเกิดขึ้น การวิเคราะห์เชิงพลวัต (Dynamic Analysis) เป็นการวิเคราะห์โดยมองจุดของเวลาด้วย โดยจะศึกษาความสัมพันธ์ของตัวแปรต่างๆในแต่ละเวลาว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ซึ่งจะช่วยบอกถึงลักษณะการเปลี่ยนแปลง รวมถึงระยะเวลาของการเปลี่ยนแปลงได้
- แบ่งตามขอบเขต การวิเคราะห์เฉพาะส่วน (Partial Analysis) เป็นการวิเคราะห์เฉพาะสิ่งที่สนใจ โดยตัดความสัมพันธ์ของตัวแปรอื่นทิ้งไป ภายใต้แนวคิดว่า สิ่งอื่นๆคงที่ (Ceteris Paribus) เพื่อที่จะหาความสัมพันธ์ของสิ่งที่สนใจโดยตรง การวิเคราะห์คลุมทุกส่วน (General Analysis) เป็นการวิเคราะห์โดยใช้สิ่งที่เกี่ยวข้องเข้ามาศึกษาพร้อมกัน แม้การวิเคราะห์วิธีนี้จะให้ภาพที่สอดคล้องกับความเป็นจริงมากกว่า แต่ในทางปฏิบัติแล้ว อาจจะละสิ่งที่มีความเกี่ยวพันไม่มากกับสิ่งที่เราสนใจออกไปได้ เพราะยิ่งมีสิ่งที่สัมพันธ์กันมากเท่าไหร ความยุ่งยากในการวิเคราะห์ย่อมมีมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นภายใต้เงื่อนไขที่จำกัดทั้งเวลาหรือความเชี่ยวชาญ เราอาจจำเป็นต้องละไป
สิ่งที่กล่าวข้างต้น เป็นสิ่งที่ควรทราบก่อนที่จะเริ่มศึกษาเศรษฐศาสตร์ เพื่อเป็น-แนว-ทาง-ในการศึกษา ไม่ให้เขวออกไปนอกลู่นอกทาง และเพื่อให้คนอื่นได้เข้าใจถึงพื้นฐานความคิดของนักเศรษฐศาสตร์ดังที่ได้กล่าวตอนเกริ่นนำแล้ว หวังว่าคนที่ไม่เข้าใจนักเศรษฐศาสตร์จะเริ่มเข้าใจถึงความคิดของนักเศรษฐศาสตร์ขึ้นมาซักเล็กน้อยนะครับ
Create Date : 11 ตุลาคม 2549 |
|
0 comments |
Last Update : 11 ตุลาคม 2549 0:57:47 น. |
Counter : 54489 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
ข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศ
ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศ
ค้นคว้าข้อมูลทั่วไป
แหล่งเชื่อมโยงอื่นๆที่น่าสนใจ
|
|
|
|
|
|
|