Here is a short story with a beautiful message... นี่คื่อเรื่องสั้นที่ส่งพร้อมกับข้อความที่สวยงาม
Little girl and her father were crossing a bridge. มีพ่อลูกคู่นึงกำลังจะข้ามสะพาน
The father was kind of scared so he asked his little daughter, คุณพ่อค่อนข้างกลัวเล็กๆ เลยบอกลูกสาวตัวน้อยของเขาว่า
'Sweetheart, please hold my hand so that you don't fall into the river.' ลูกรักจ๊ะ จับมือพ่อไว้สิ หนูจะได้ไม่ตกลงไปในแม่น้ำ
The little girl said, 'No, Dad. You hold my hand.' เด็กน้อยกล่าวว่า 'ไม่ค่ะพ่อ พ่อหน่ะแหละจับมือหนู'
'What's the difference?' Asked the puzzled father. .'มันต่างกันยังไงจ๊ะลูก' พ่อถามด้วยความสงสัย
'There's a big difference,' replied the little girl. 'มันต่างกันมากเลยค่ะพ่อ' เด็กน้อยกล่าว
'If I hold your hand and something happens to me, 'ถ้าหนูจับมือพ่อ แล้วมีอะไรเกิดขึ้นกับหนู, chances are that I may let your hand go. มันมีโอกาสที่หนูจะปล่อยมือพ่อ
But if you hold my hand, I know for sure that no matter what happens, แต่ถ้าพ่อจับมือหนู หนูรู้ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น you will never let my hand go.' พ่อไม่มีวันปล่อยมือหนูแน่นอน'
So hold the hand of the person who loves you rather than expecting them to hold yours... เพราะฉะนั้น จงจับมือคนที่รักคุณ ดีกว่าที่จะหวังไว้เค้าจับมือคุณ
วันนี้แวะมาทักทายและมาเจิมงานเขียนพี่ชายอีกครั้ง สบายดีนะคะ
เอาเรื่องราวน่ารักๆมาฝากค่ะ
มนุษย์ คือนักเดินทางที่โดดเดี่ยว ยิ่งสร้างอะไรไว้เยอะก็ยิ่งสูญเสียเยอะตอนที่เราจากไป
พลัดพรากจากสิ่งที่รักคือ ทุกข์อันดับหนึ่งของชีวิต มันคือเรื่องปกติไม่มีใครไม่โดน
ทุกคนต้องเจอความสูญเสียแรงที่สุด อย่างน้อยก็ 1 ครั้ง
รู้ว่ามันคือธรรมชาติของโลกใบนี้ แต่พอเกิดขึ้นกับเรา
มันก็ทำใจยากเหลือเกิน
ในคืนหนึ่ง ช่วงเวลา 2 ชม. เต็ม ชีวิตจริงของหลายๆ คน
ถูกถ่ายทอดสดผ่านสายโทรศัพท์
จากคนที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
จนยอมรับความสูญเสียได้มากขึ้นเรื่อยๆ
บางคนกำลังจะเป็นเจ้าสาวในวันรุ่งขึ้น คือเช้าวันเสาร์
ทุกอย่างจัดเตรียมไว้หมด โชคร้าย!! ว่าที่เจ้าบ่าว
เสียชีวิตกะทันหันจากอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อวันศุกร์
เธอเสียงสั่นเครือ และงงๆ
ยังทำใจยากกับสิ่งที่เกิดขึ้นเธอเล่าให้ฟังว่า
ช่วงเวลาสุดท้ายที่เธอไปหาเค้าที่โรงพยาบาล จับมือมองตากัน
เจ้าบ่าวถามเธอว่า รักเขาบ้างรึเปล่า
ตลอดเวลาที่รักกัน จนจะแต่งงาน ผู้หญิงไม่เคยบอก ได้แต่พูดว่า
เห็นแบบนี้ยังไม่รู้อีกเหรอ
ในที่สุด บอกรักคำแรก ก็เลยกลายเป็นคำสุดท้าย
ก่อนที่จะไม่ได้ยินเสียงกันอีกแล้ว
สารภาพตามตรง ไม่รู้จะปลอบเธอยังไง
‘ใจเย็นๆ อย่าคิดมาก เดี๋ยวก็จะผ่านไปได้’
ดูเป็นประโยคไร้สาระทันที
ในวันที่ความสูญเสียยิ่งใหญ่เกิดขึ้นตรงหน้า
คำถามสุดท้าย ‘พรุ่งนี้ตั้งใจจะทำอะไร เพราะตอนแรกจะเป็นวันแต่งงาน’
‘พรุ่งนี้ก็คงไปโบสถ์ค่ะ เพราะเราสองคนเป็นคริสต์’ เธอตอบได้แค่นั้น
วินาทีเดียว ชีวิตก็เปลี่ยนแล้ว วันเดียวกัน สถานที่เดียวกัน
แต่เป้าหมายต่างกันแบบไม่ตั้งใจ
วันนี้มีคนบอกรักหรือยังคะ ^_^
เจนค่ะ