|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
TAG กระแทกใจ
รู้สึกว่าตัวเองจะล้าหลังไปยังไงไม่รู้ ชาวบ้านชาวช่องเค้าโดนแถกกกก กันไปตั้งกะปีที่แล้ว ข้าพเจ้าเพิ่งโดน
ตอนช่วงที่คนเค้านิยมโดนแถกกกกกัน เราก็มัวแต่นั่งมองหน้าคอมตาปริบๆ เมื่อไหร่จะมีคนมาแถกกกกเราบ้างว้า...
ชะเง้อ ชะแง้คอรอหา ก็ไม่มีซักราย งี้แหละ หัวเน่านี่ ใช่ซี่ เพื่อนฝูงไม่มี คนดีไม่คบ ก็เงี้ยแหละ
คล้อยหลังไปซัก 3 เดือน ก็เริ่มลืมเลือนแถกกกมหาสนุกไปแล้ว ทีนี้มาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายเลย 3 ท่าน คือ พี่รี่ น้องเอ๋ และนังน้องมะนาว
โฮะๆๆๆๆ รู้สึกว่าตัวเองฮอทก็คราวนี้แหละ
เอาหละ เข้าเรื่อง จะเริ่มแฉตัวเอง ณ บัดนาว 5 เรื่องใช่มะ งึมงัมๆๆๆๆๆๆ คิดหนัก 5 เรื่องนี่ไม่ได้ขี้เล็บของชีวิตเลยนะเนี่ย อยากออกเป็นพอกเก็ตบุ๊คจริงๆ
เอาหละๆ เข้าเรื่องดีกว่า เดี๋ยวเค้าจะขี้เกียจอ่านกัน
===================================================
เรื่องที่ 1 : ความสามารถพิเศษ เป็นเรื่องโบราณเก่ากาล ย้อนไปเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว อายุ 3 ขวบได้ อิ๊อิ๊อิ๊
เรามีความสามารถพิเศษที่ไม่ค่อยมีใครจะทำได้ ซึ่งปัจจุบันเราก็ทำสิ่งนี้ไม่ได้แล้ว ก็คือ
แท่นแท๊นนนนน . . . "แลบลิ้นได้ทั้งที่ยังยิงฟันอยู่" . . .
อ๊ะ งงละเซ่ ก็คือ คนปกติ เวลาเค้ายิงฟัน เค้าจะไม่สามารถแลบลิ้นออกมาได้ ใช่มะ คือจะมีฟันหน้าทำหน้าที่ขวางกั้นลิ้นอยู่
แต่ด.ญ.เบ่วเบ๊ว ทำได้ อันเนื่องมาจากว่า
ฟัน หน้า หาย ปายยยยยย
(ดูภาคภูมิใจ)
เรื่องของเรื่องคือ ฟันน้ำนมอิชั้นเนี่ย มันก็หลุด อ๊ะ คงไม่แปลก เพราะทุกคนเค้าก็หลุดกัน แต่มันหลุดทั้ง 2 ซี่เลยหง่าาาาา แถมหลุดแล้วมันก็ไม่ขึ้น กว่าจะขึ้นก็ใช้ระยะเวลาตั้งปี หรือน่าจะเกิน ตอนนั้นเราเลยได้ความสามารถพิเศษเต่าเชิญยิ้มนี้มา พร้อมๆกับฉายาที่ทั้งบ้านร่วมกันตั้งให้ก็คือ
"หลอลี่"
ฮิฮิฮิ เป็นความสามารถพิเศษที่ภาคภูมิใจกันทั้งบ้าน เวลาพ่อ แม่ ปู่ ย่า ลุง ป้า น้า อา หรือพี่ๆ พาเราออกไปเที่ยวนอกบ้าน แล้วเจอคนรู้จัก ก็มักให้เราแสดงความสามารถพิเศษนี้ให้คนอื่นดูอยู่เสมอ เสร็จแล้วก็ปรบมือดีใจ ป้อนกล้วย ป้อนอ้อยกันไป เราก็ดีใจ ที่ทำให้ญาติผู้ใหญ่ยิ้มได้ อิอิอิ มีความสุขจริง
================================================
เรื่องที่ 2 : แอ๊บแบ๊ว เรื่องแอ๊บแบ๊วนี่ขอให้บอก ทำเป็นตั้งแต่อนุบาลแล้ว เหตุการณ์วันนั้นก็คือ เรียนที่โรงเรียนอนุบาลแห่งนึงใช่มะ มันมีวิชาว่ายน้ำ วิชาโปรดเลย แหละ ไม่ใช่ว่าชอบว่ายน้ำหรอก แต่เพราะจะได้เห็นเพื่อนผู้ชายใส่กุงเกงลิงตัวเดียวอ่ะสิ สยิวกิ้วพิลึก
แล้วกว่าจะได้เรียนว่ายน้ำเนี่ย อาทิตย์ละครั้งเองนะ เป็นชั่วโมงที่รอคอยเลย
ทีนี้ มีอยู่สัปดาห์นึง คุณอามารับเรากลับบ้านก่อน เพราะอะไรไม่รู้ จำไม่ได้และ
ไอ้เราก็กะลังต่อแถวขบวนรถไฟปู๊น ปู๊น ไปว่ายน้ำเลย ระหว่างทางที่เดินด๊อกแด๊กอยู่นั้น อาก็เดินเข้ามาหาคุณครูศจี พร้อมกับบอกครูว่า
"จะขอรับน้องเบ่วเบ๊วกลับก่อนค่ะ"
ด้วยความที่ปกติจะเป็นพ่อหรือแม่ มารับ คุณอาไม่เคยมารับเลย คุณครูเลยถามเราว่า
"น้องเบ่วเบ๊วรู้จักคุณอาคนนี้รึเปล่าคะ"
แต่...ใครที่เคยคิดว่าเด็กโกหกไม่เป็นละก็ ลองคิดใหม่นะ เพราะน้องเบ่วเบ๊วตอบไปว่า
"ไม่รู้จักค่ะ" พร้อมกับหลบตาคุณอา (ก็แหมมม อยากไปว่ายน้ำนี่หว่า รอมาตั้งนานแล้ว ถ้ากลับตอนนี้ก็อดว่ายน้ำสิ--เสียงเล็กๆดังขึ้นในสมองของเด็กน้อย)
คุณอาเราสิ ลบแทบจับ ต้องพูดกระตุ้นเตือนหลานสาวตัวน้อยให้ระลึกชาติถึงคุณอาให้ได้
ในที่สุด ด.ญ.เบ่วเบ๊ว ก็ต้องไปเปลี่ยนชุด เก็บกระเป๋ากลับบ้านกับคุณอาแต่โดยดี
=================================================
เรื่องที่ 3 : ยี่โถ ก็เป็นเรื่องในวัยเด็กนั่นแหละ ก็คนมันมีวัยเด็กที่น่าจดจำนี่นา
เรื่องของเรื่องคือ มีอยู่วันนึง ไปเที่ยวกับพี่ๆและคุณอา อาที่เราไม่รู้จักเมื่อเรื่องที่แล้วเนี่ยแหละ อาพาไปเที่ยวนครปฐม จะไปไหว้อนุสาวรีย์ย่าเหล
ซึ่งย่าเหลเนี่ย เป็นสุนัขทรงเลี้ยงของร.6 ข้าพเจ้าเป็นเด็กอยู่ ไม่รู้เรื่องหรอก เค้าพาไปไหนก็ไป
แล้วนครปฐมเนี่ย สมัยก่อน รู้สึกว่ามันนั่งรถนานจังเลย ก่อนไปอนุสาวรีย์ก็แวะนู่นแวะนี่ จนเหนื่อยและหลับไป
พอถึงที่หมาย รถก็จอด พี่ก็ปลุก "เบลล์ๆ ถึงแล้ว ตื่นได้แล้ว" เราก็งัวเงีย ถามพี่ไปว่า "ถึงแล้วเหรอ ยี่โถ"
พี่เราก็ เอ่อ... "อะไร ยี่โถ" "ก็ที่จะไปไง อนุสาวรีย์ยี่โถ" แหมม พี่หนิ ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย
พี่เราก็ เอ่อ... "อนุสาวรีย์ย่าเหลนะเบลล์" เราก็.... "แหะๆๆๆๆๆ จำชื่อผิดนิดหน่อยเอง"
ถึงตอนนี้พี่เราได้ลงไปกองกับพื้นเรียบร้อยแล้ว ก็สมควรอยู่หรอก มันเหมือนกันยังไงเหรอ หนูเบลล์
ย่าเหล กับ ยี่โถ เนี่ย
และเราก็โดนแซวเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็กจนโต . . สมควรแล้ว...
==================================================
เรื่องที่ 4 : ปลาหมึกยัดไส้ เรื่องนี้เป็นช่วงประถม ตอนช่วงประถมปลาย รู้สึกเราจะก๋ากั่น แก่นเซี้ยวมากๆ วีรกรรมเยอะแยะ แต่เลือกเรื่องนี้ดีกว่า ทุเรศดี
เรื่องก็มีอยู่ว่า ตอนประมาณป.5 อ.ได้จัดให้นั่งแถวละ 3 คน ชาย สลับ หญิง ซึ่งเราได้นั่งเป็น หญิง ชาย หญิง ผู้หญิงที่นั่งแถวเดียวกะเรา คือเพื่อนซี้เรา ชื่อผึ้ง และผู้ชายที่ตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของเราและผึ้งก็คือหนุ่มน้อยคนนึง ขอสมมติให้ชื่อ พรึก
พรึกเป็นเด็กผู้ชาย ผิวขาว ปากแดง เรียนเก่ง และค่อนข้างเจี๋ยมเจี้ยมมาก ถึงมากที่สุด พรึกจะโดนเราและผึ้งข่มขู่แบบ my sassy girl อยู่เสมอ
มีอยู่วันหนึ่ง เรานึกบ้าไรขึ้นมาไม่รู้ อำพรึกว่า "พรึก ไหนของที่เราสั่งเมื่อวาน สัญญาว่าจะเอามาให้ดูไม่ใช่เหรอ"
พรึกงง มันสั่งไรวะ ผึ้งรับมุขทันที "ใช่ๆๆ เอามาป่าววันนี้ ไม่งั้นโดนทำโทษนะ"
พรึกยัง งง อยู่ เราเลยคลายความสงสัยพรึกว่า "ก็นั่นไง ที่พกมาทุกวันอ่ะ ไหนบอกวันนี้จะให้เราดูไง"
พรึกยังคง งง อยู่ ผึ้งเลยพูดต่อว่า "ที่อยู่ในกุงเกงนั่นไง เปิดมาให้ดูซะดีๆ"
5555555555555555555555555555555 สองสาวประสานเสียงหัวเราะพร้อมกัน
ส่วนพรึกนั้น แรกๆก็ปฏิเสธ แต่เราและผึ้งร่วมกันใช้อำนาจลับ ข่มขู่พรึก ต่างๆนานา พรึกอิดออดนิดหน่อย แต่ด้วยความที่นั่งอยู่ตรงกลาง จะลุกหนีก็ไม่ได้ จึงยอมแต่โดยดี
พรึกค่อยๆง้างกางเกงนักเรียนของตัวเองออกมา . . . เราและผึ้งชะโงกหน้าไปดู
ยังมีปราการด่านสุดท้ายเหลืออยู่ เราจึงออกคำสั่งพรึกว่า "เปิดกุงเกงในด้วย"
หื่นชิหัยเลยกรู ทำไปได้ไงฟะ ตอนนั้น
พรึกค่อยๆบรรจงเปิดกุงเกงในออกมาพอให้เห็นสิ่งที่พรึกพกมาทุกวัน
"ว้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย" ผึ้งร้องเสียงดัง ส่วนเรา พูดไม่ออก ได้แต่คิดในใจว่า
(เฮ้ยยย นี่พรึกพกปลาหมึกยัดไส้มาโรงเรียนทุกวันเลยเหรอเนี่ย)
ส่วนเรื่องจะไปจบที่ตรงไหน ไม่บอกหรอก คิดเอาเองละกัน อุอุอุ
==================================================
เรื่องที่ 5 : 203
อันนี้เป็นเรื่องสมัยมัธยมฯ กะลังอยู่ในวัยใส วัยสะออน
ปกติเวลาเลิกเรียนมักไม่ยอมกลับบ้าน ชอบไปนั่งเล่นบ้านเพื่อนก่อน กลับบ้านเร็วไม่ได้ เปลืองไฟ
ทีนี้ มีอยู่วันนึงหลังจากที่ใช้ไฟบ้านเพื่อนจนพอใจแล้ว ในระหว่างทางกลับบ้าน ซึ่งก็นั่งรถเมล์กลับตามประสาผู้ดี ขึ้นไปก็ได้นั่งด้วยเฟ้ยยย วะฮ่าๆๆๆ ตำแหน่งที่นั่งก็ตรงเก้าอี้พระสงฆ์นั่นแล
ปรากฎว่า ช่วงที่รถเมล์สาย 203 มันเลี้ยวลงจากสะพานพระราม 7
คือถ้าใครเคยนั่ง 203 จะตระหนักได้ว่าจากจรัญฯจะไปนนท์ มันต้องเลี้ยวลงสะพาน ซึ่งเป็นทางที่โค้งมากกกกกกกก เกือบหักศอกได้ และตำแหน่งที่นั่งเรามันไม่มีที่จับด้วย เพราะนั่งหน้าประตู ที่จับมันอยู่ไกล แขนก็สั้นจับไม่ถึง
ในขณะที่ 203 เลี้ยวลงจากสะพานด้วยความเร็วสูงนั้น แรงเหวี่ยงในขณะที่รถเลี้ยวมันก็แรงไปด้วย จึงส่งผลให้มันเหวี่ยงข้าพเจ้าไถลจากเก้าอี้ วิ้วววววววววววววววว...............
ลงไปกอบกับพื้น ตุ๊บ!!! ...... ..... .... ... .. .
หลังจากเสียงตุ๊บแล้ว ก็มีเสียง "เฮ้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" จากเด็กพระจอมฯที่มันกะลังจะลงรถในป้ายต่อไป ตามมา
เท่านั้นยังไม่พอ ถึงแม้ว่าจะมีวัตถุประหลาดลงไปกองกับพื้นแล้วก็ตาม แต่อีคนขับก็ไม่สนใจวัตถุประหลาดหน้าบานชิ้นนั้นแต่ประการใด เค้ายังคงขับต่อไปด้วยใจมุ่งมั่น
ส่งผลให้วัตถุประหลาดชิ้นนั้น ลื่นไถลไปกับพื้น ช่วยให้พื้นรถเมล์ในวันนั้นสะอาดเงางามเป็นอย่างยิ่ง
วะฮ่าๆๆๆๆๆ ทำตัวมีประโยชน์นะ นังเบลล์
แต่ช่วงเวลาที่ข้าพเจ้าได้กองลงไปอยู่กับพื้นท่ามกลางสายตาประชาชนที่อยู่บนรถเมล์นั้น ข้าพเจ้ารู้สึกร้อนวูบที่แผ่นหลัง กกหู และใบหน้าเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อข้าพเจ้าได้ไถลลื่นกับพื้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รถก็จอดติดไฟแดง ทำให้ข้าพเจ้าหยุดนิ่งได้ตรงเกือบท้ายๆรถ อีกนัยหนึ่งก็คือ ติดขาเด็กพระจอมคนหนึ่งนั่นเอง
ซักพักกระเป๋ารถเมล์ก็เดินมาแล้วถามว่า "เป็นอะไรมั้ยหนู"
ด้วยความหนาของใบหน้า ทำให้ตอบไปว่า "ไม่เป็นไรค่ะ" พร้อมกับลุกขึ้น แล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม(มันยังไม่วาย) ซึ่งคุณป้าที่นั่งข้างๆหันมามอง ด้วยใบหน้าที่สงสัยว่า "อ้าวววว ไปไหนมาหละหนู"
และด้วยความอายสุดชีวิต ทำให้ข้าพเจ้าตัดสินใจที่จะนั่งรถต่อไป เพราะอีก 3 ป้ายก็ถึงบ้านแล้วอ่ะ แง๊วๆๆๆ
หลังจากลงจากรถเมล์คนนั้นได้ ข้าพเจ้าก็เอากระเป๋าบังหน้า แล้วโกยสุดชีวิตโดยไม่หันไปมองรถเมล์คันนั้นอีกเลย
เดชะบาปที่เพื่อนข้าพเจ้าคนนึงอยู่บนรถเมล์คนนั้นด้วย วันรุ่งขึ้นเรื่องที่ข้าพเจ้าไปเล่นสไลด์ลื่นบนรถเมล์สาย 203 จึงเป็นทอร์ค ออฟ เดอะ รูม กันเลยทีเดียว
เอวัง =================================================
ใช้ให้แล้วนะคะ พี่รี่ น้องเอ๋ นังนาว ขอโทษด้วยที่เล่ายาวไปหน่อย พอดีไม่ชอบสั้นๆ
Create Date : 03 มีนาคม 2550 |
|
10 comments |
Last Update : 3 มีนาคม 2550 1:41:17 น. |
Counter : 879 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: แทกผิดอ๊ะป่าว.... IP: 124.121.6.219 3 มีนาคม 2550 1:50:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: KaVe 20 มีนาคม 2550 11:22:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: เอ๋(ไม่ล๊อกอินอะ) IP: 202.44.136.50 20 มีนาคม 2550 11:54:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: Sary 13 เมษายน 2550 1:19:44 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ใครดีหว่า
1.nagoyalover ละกัน
อนงค์นางนี้ไม่เจอมานานแสนนานแล้ว ไม่รู้ป่านนี้ฉุไปถึงไหน
เล่าให้ฟังมั่งซิ
2.papercut หัดมีแฟน
ชีวิตหลังมีแฟนเป็นไงมั่ง
เอ่อ...ไม่ต้องเล่าเรื่องมีแฟนก็ได้
เดี๋ยวจะเลี่ยน
เอ๊ะ...
หรือจะหลอน