“People will forget what you said & what you did, but people will never forget how you made them feel.”
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
26 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 

มันแปลกดีนะ!!!.....(ขอที่สำหรับระบาย)

ด้วยความที่เป็นคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานหาเลี้ยงชีพในกรุงเทพ ที่พักอาศัยจึงต้องใช้บริการเซอร์วิส อพาร์ทเม้น (เคยสงสัยและเอามานั่งคิดเล่นๆ ว่าเงินแต่ละเดือนที่เสียไปกับค่าเช่านั้น ลองคำนวนดูแล้วป่านนี้น่าจะดาวน์คอนโดได้ซักห้องแล้วมั้ง เฮ้ออออออ) เมื่อมันเป็นอพาร์ทเม้น เราจึงมีนิสัยอยู่อย่างนึงคือ พร้อมจะย้ายที่อยู่ใหม่ให้ใกล้ที่ทำงานมากที่สุด เพื่อความสะดวกในการเดินทาง และแน่นอนไม่ต้องตื่นเช้ามาก 5555 ตั้งแต่ทำงานมา 7 ปี เปลี่ยนอพาร์ทเม้นไป 3 แห่ง ตามสถานที่ทำงานที่เปลี่ยนไป เราและแฟนจะไปดู เปรียบเทียบและเลือก โดยที่เรา 2 คนจะตัดสินใจร่วมกันเสมอ

อพาร์ทเม้น 2 ที่แรกที่เราได้อยู่ก็คงเหมือนๆกับอพาร์ทเม้นทั่วไป คือ มีวิว 2 ฝั่ง ฝั่งติดถนนและฝั่งที่ติดบ้านคนหรือต้นไม้ (แล้วแต่สภาพแวดล้อมของแต่ละที่) มีบันไดอยู่สุดทางเดิน ถ้าไม่เกิน 4 ชั้นก็ไม่มีลิฟท์ ประมาณนี้แหละ อพาร์ทเม้นแห่งแรกนั้น ใครทำเสียงดังหน่อยก็ได้ยินไปซะหมด ไม่ว่าจะเป็นเสียง TV จากห้องข้างๆ เสียงทะเลาะกันของห้องตรงข้าม เสียงเดินตึงๆและของหล่นบ้างบางเวลาจากห้องด้านบน (เออ...เอากันเข้าไป) อพาร์ทเม้นแห่งที่ 2 ที่เราย้ายไปอยู่นั้น โอเคขึ้นเยอะ ห้องสวยมากกก เฟอร์นิเจอร์เยี่ยม สุขภัณฑ์สวดยวด มี 2 ฝั่ง บันไดสุดทางเดิน ไม่มีลิฟท์ (เช่นเดิม) แต่ที่นี่เก็บเสียงค่อนข้างดีเลย จะได้ยินก็เฉพาะเสียงเดินกับเสียงของหล่นบ้างบางครั้งจากห้องด้านบนเท่านั้น แต่ก็ถือว่าเยี่ยมเลยทีเดียว

มาถึงอพาร์ทเม้นแห่งที่ 3 ซึ่งเราเพิ่งย้ายมาอยู่ได้ 2 เดือน ที่นี่จัดว่าโอเคมากๆ (แพงมากๆด้วยเช่นกัน T_T) เก็บเสียงได้มิดชิดดีทีเดียว จะได้ยินเสียงของห้องอื่นๆ ก็ต่อเมื่อเราออกมานอกห้องนั่นแหละ ที่นี่เราก็มาดูก่อนกับแฟนเหมือนกัน เห็นห้องปุ๊บก็ชอบปั๊บ มี 8 ชั้น มีลิฟท์ เพิ่งจะเปิดไม่นาน ค่อนข้างใหม่ ใกล้ที่ทำงานมากๆ เดินทางสะดวก แต่ราคาแพงพอสมควร เรากับแฟนจึงยังไม่ได้จอง ขอเอาเก็บไปคิดให้หนักๆก่อน แต่สุดท้ายก็เลือกที่นี่แหละ โทรกลับมาบอกเจ้าของตอนใกล้ๆจะสิ้นเดือน ปรากฏว่าห้องที่เราเคยมาดูไว้นั้น มีคนจองไปแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ 2 ห้อง คือห้อง 407 ชั้น 4 ซึ่งเป็นห้องราคามาตรฐานของที่นี่ กับอีกห้องนึงชั้น 6 ซึ่งเป็นห้องริม ราคาบวกขึ้นไปอีก โอย...ไม่ไหว เลยตกลงเอาห้อง 407 ชั้น 4 นี่แหละ บอกเจ้าของเลยว่าขอย้ายของมาเลยในวันจ่ายเงินทำสัญญา ซึ่งเค้าก็โอเค พอถึงวันที่ย้ายของเข้านั้น เราไปทำงานที่ต่างจังหวัดจึงให้แฟนและน้องที่มีรถกระบะช่วยกันขนแทน ประมาณ 3 ทุ่มได้ เรากลับมาถึงที่พักแห่งใหม่ แฟนและน้องที่มาช่วยขนของนั้นนั่งดื่มกันเล็กน้อยที่ด้านล่างอพาร์ทเม้น บรรยากาศดีทีเดียว เราก็เข้าไปร่วมวงด้วยยังไม่ทันได้เห็นว่าห้องตัวเองเป็นยังไง ดื่มกันซักพักก็แยกย้ายกันไป ระหว่างที่กำลังขึ้นลิฟท์นั้น แฟนเราก็ได้พูดขึ้นมาว่า "อย่าตกใจนะ" ไอเราก็คิดว่าคงจะกองของสุมๆไว้ไม่ได้จัดเลยซักนิดล่ะสิ ซึ่งสิ่งที่เราคิดนั้นก็ถูกส่วนนึง แต่อีกอย่างนึงที่ทำให้เราอึ้งไปเลยทีเดียวคือ ห้องของเราอยู่ตรงทางสามแพร่งพอดี!!! พร้อมกับกระจกแปดเหลี่ยมมีรูปเสือคาบดาบแปะไว้เรียบร้อย!!! (โอ้วววว) เอาวะ...ก็ยังดีที่เจ้าของที่นี่ยังเตรียมไว้ให้ ไม่ต้องไปหาซื้อเอง พอเข้ามาในห้องก็มานั่งนึกกันว่า ตอนเรามาดูก็ไม่ทันได้สังเกตุว่าที่นี่ไม่เหมือนที่อื่นที่เราเคยอยู่ (คงเพราะเรามัวแต่ชื่นชมว่าห้องมันสวย เงียบสงบ และมันมีลิฟท์ เหอๆ) คือ อพาร์ทเม้นนี้มีวิว 3 ฝั่ง ทางเดินเป็นรูปตัว"T" บันไดไม่ได้อยู่สุดทางเดินแต่อยู่ตรงกลาง ด้วยลักษณะแบบนี้ทำให้อพาร์ทเม้นนี้ มีห้องที่อยู่ตรงทางสามแพร่ง 2 ห้องทุกชั้น!! (และเราก็เป็นหนึ่งในนั้น) เรายอมรับว่า เราเป็นคนกลัวผีมากกก แต่ไม่ได้รู้เรื่องการป้องกันอะไรมากมายหรอก ไม่ได้ศึกษา (เอาแต่กลัวอย่างเดียว) เรารู้แต่การสวดมนต์ไหว้พระจะช่วยให้สบายใจขึ้นได้เท่านั้น แฟนเราก็ปลอบว่าไม่มีอะไรหรอกมั๊ง ด้วยความที่เราทั้งคู่ทั้งเหนื่อยทั้งมึนกัน เราก็เลยหลับปุ๋ยสบายใจเฉิบ อยู่มาได้ประมาณ 1 อาทิตย์ เราไม่ค่อยได้นึกถึงเรื่องทางสามแพร่งเท่าไหร่ เพราะห้องนี้อยู่สบายมาก เรากับแฟนมักจะพูดคุยกันและชื่นชมบ่อยๆ ถึงความเงียบสงบ อากาศเย็นสบายดีมาก บางวันก็ไม่ต้องนอนเปิดแอร์เลยด้วยซ้ำ เสียงตึงตัง เอะอะ นี่แทบไม่มีเลย ชอบๆ

จนมีอยู่วันนึง เราฝันแปลกๆ (ขอย้ำว่าฝัน) ในฝันนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่ง ประมาณวัยรุ่นใส่เสื้อสีฟ้า กางเกงไม่รู้ ไม่ได้จำ detail ขนาดนั้น มายืนข้างเตียงเรา แล้วก็มองมาที่เรา มองนิ่งๆนานๆ ในฝันเราก็มองตอบ แต่ต่อมาเธอคนนั้นก็ชี้หน้าเรา เราตกใจตื่น กอดแฟนซะแน่น จนเค้าถามเราว่าฝันร้ายเหรอ เราก็บอกว่าใช่ แต่ไม่ได้เล่าอะไรเพราะง่วง (พอนอนต่อก็ไม่ได้ฝันถึงอีก) ตื่นเช้ามาก็เลยเล่าให้แฟนฟัง เค้าก็บอกว่าเราคงยังคิดมากเรื่องที่ห้องอยู่ตรงทางสามแพร่งมั๊ง ก็เลยเก็บไปฝัน นั่งนึกในใจ ก่อนนอนเราก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้นี่หว่า แต่ก็ช่างมัน.... จากฝันครั้งแรก เว้นห่างไปหลายวันเหมือนกัน เราก็ฝันอีกครั้ง ผู้หญิงคนเดิม ยืนที่เดิม มองมาที่เราเหมือนเดิม แต่คราวนี้เธอไม่ชี้หน้าแล้วค่ะ เธอกระโจนเข้าใส่เราเลย(โอยยยยย) สะดุ้งตื่นมากอดแฟนอีกครั้ง ตอนเช้าก็เล่าให้เค้าฟังเหมือนเดิม เราเลยคิดว่าอยากลองถามเจ้าของอพาร์ทเม้นดู แต่กลัวเค้าจะหาว่าเพ้อเจ้อ เลยแค่ถามไปว่าห้องที่เราอยู่นี้เปลี่ยนเจ้าของมากี่คนแล้ว (แถๆไป) เจ้าของอพาร์ทเม้นบอกว่ายังไม่เคยมีใครอยู่ห้องนี้ เราเป็นคู่แรก อ้าว.....เฮ้อ -_-! ช่างมันก็ได้ฟระ สวดมนต์เยอะๆเอาแล้วกัน แต่จากนั้นก็ไม่ได้ฝันอีกเลยนะ สงสัยเราจะคิดมากไปเองอย่างที่แฟนบอก

แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (24 ต.ค.) ที่ผ่านมา มันทำให้เรากลัวอีกครั้ง คราวนี้เราคิดว่าไม่ได้ฝันนะ เรากะแฟนตื่นกันประมาณ 11 โมง แฟนเราก็บอกว่าอยากกินอะไร จะออกไปซื้อให้ เราก็บอกไปว่าอยากกินขนมปังกับสังขยา (พอดีเราฝันว่ากำลังกินอยู่ มันก็เลยนึกอยากกินอะ) แต่แถวบ้านเรานั้น ขนมปังสังขยาเค้าจะมาขายตอนเย็น เราก็เลยบอกให้แฟนซื้อมาแต่สังขยาแล้วกัน 7-11 มีอยู่แล้วแหละ เพราะที่ห้องมีขนมปัง เค้าก็ออกไปจากห้อง เราก็งีบต่อ นอนตะแคงหันหลังให้ประตู ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนเราก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตูห้องเข้ามา วางของแล้วขึ้นมาบนเตียง ขอแทรกนิสัยของแฟนเราอย่างนึงคือ เวลาเค้าขึ้นมานอนหรือนั่งบนเตียง เค้าจะเป็นพวกชอบทิ้งร่างอะ แม้เวลาพลิกตัว มันก็รู้สึกได้ชัดเจนจนบางทีเราหงุดหงิดและต้องบอกให้เค้าขยับตัวเบาๆหน่อย พอเค้าทิ้งร่างขึ้นมาบนเตียงคราวนี้เราก็ไม่ได้สนใจ ยังไม่ได้หิวอะไรมาก เลยไม่ได้คิดที่จะรีบลุกขึ้นมากิน เราถามเค้าไปแค่ว่าได้ซื้อสังขยามามั๊ย เค้าบอกว่าซื้อมาแล้ว วางไว้บนโต๊ะ เราก็โอเค เอื้อมมือมาแตะตัวเค้า(คลำหามือเค้าอะ) จับมือเค้า แล้วก็บอกขอบคุณ โดยที่เราก็ยังนอนตะแคงอยู่ท่าเดิม ผ่านไปอีกซักพัก ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องอีก!! ได้ยินเสียงวางของอีก!! เราตกใจเลยรีบลุกขึ้นมานั่ง ถามเค้าว่าเพิ่งกลับมาเหรอ เค้าบอกว่าใช่ ตั้งแต่ออกไปครั้งแรกเนี่ยนะ เค้าก็บอกว่าก็ใช่น่ะสิ แล้วก็ทำหน้างงๆ สิ่งที่เรานึกถึงอย่างแรกตอนนั้นคือสังขยา มองไปที่โต๊ะ เออ...ไม่มี หรือเราจะฝันต่อไปตั้งแต่ตอนแรกที่เค้าถามว่าเราอยากกินอะไร(แต่ในใจน่ะหลอนไปแล้ว) เลยลองถามเค้าว่าได้ซื้อสังขยามามั๊ย กะเอาไว้ว่าถ้าเค้าตอบมาประมาณว่าอ้าว..ไม่รู้นิว่าอยากกิน เราก็คงจะใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่เค้าตอบว่าซื้อมาให้ด้วย พร้อมกับหยิบมาโชว์ให้ดู อ้าว....แล้วก่อนหน้านี้ละ เรารู้สึกเลยนี่ว่าเค้ามานั่งมานอนบนเตียง เรายังถามเค้าและแตะตัวเค้าอยู่เลย เรายิ่งมั่นใจว่าเราไม่ได้ฝัน แล้วมันคืออะไรฟระ??? กลางวันแสกๆด้วย เราเลยเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้เค้าฟัง เค้าก็เลยชวนเราลงไปไหว้ศาลข้างล่างอพาร์ทเม้น เพื่อให้สบายใจขึ้น และก็ไปถวายสังฆทานที่วัดเมื่อวานนี้ เฮ้ออออออออ

เรื่องที่อยากระบายตอนนี้ก็มีเท่านี้แหละ ไม่นึกเลยว่าจะได้เขียนถึงเรื่องประหลาดๆนี้เป็นเรื่องแรกใน Blog ของตัวเอง

***โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ เจ้าของ Blog ไม่ได้มีเจตนาโน้มน้าวให้ใครเชื่อแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการพื้นที่ในการระบายและถือเป็นการเก็บบันทึกเพื่อเตือนความจำเท่านั้นค่ะ




 

Create Date : 26 ตุลาคม 2553
3 comments
Last Update : 26 ตุลาคม 2553 16:33:14 น.
Counter : 273 Pageviews.

 

ไอ๊หยา ใครกันล่ะเนี่ย อิ อิ ขอให้ผ่านช่วงเวลาอันวังเวงนี้ไปได้นะคร้า

 

โดย: หมูแอนร่าเริง 26 ตุลาคม 2553 21:40:09 น.  

 

ขอบคุณคุณหมูแอนร่าเริงค่ะ มาเม้นคนแรกเลย ดีใจจัง ตอนนี้ดีขึ้นแล้วค่ะ อันเชิญพระมาบูชาในห้องเพียบ แหะๆ

 

โดย: thanyalakob 27 ตุลาคม 2553 15:26:33 น.  

 

แวะมาอ่านจร้าขออนุญาตฝากเว็บไว้ในอ้อมกอดน้อยๆด้วยนะครับ|เข้าชมเว็บ บิ๊กอายขอบคุณครับ

 

โดย: bigeye (tewtor ) 17 เมษายน 2554 8:30:37 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


thanyalakob
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add thanyalakob's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.