" แม่น้ำ ทะเล และ มหาสมุทร ไม่มีที่สิ้นสุดฉันใด....กิเลสตัณหาของมนุษย์ ก็ย่อมไม่มีที่สิ้นสุดฉันนั้น "
 
มกราคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
30 มกราคม 2552
 
 

นอนมาสิบกว่าวันเพราะ " ปวดหลัง "



เปิดงานหลังปีใหม่มาได้อาทิตย์กว่าๆ เช้าวันที่ 14 มกราคม ตื่นมาก็รู้สึกว่าเวลาเอี้ยวตัวแล้วมันเจ็บเหมือนยอกบริเวณหลัง ยังคิดว่า เอ...เราก็ไม่ได้ไปทำอะไรมาทำไมมันยอกได้ ก็ไปทำงานเป็นปกติ แต่จะนั่งจะลุกแต่ละทีเจ็บหลังมากขึ้น ก็คิดว่าจะไปหาหมอ หมอคงให้ยาทาและยาคลายกล้ามเนื้อมาทาน 2-3 วันก็คงหาย ตอนบ่ายก็เลยไปโรงพยาบาล หมอถามอาการแล้วก็มาเคาะๆทุบๆ ตรงบริเวณหลังเราแล้วถามว่าทำงานอะไรไปยกของหนักมาหรือปล่าว แล้วบอกว่า ข้อหลังอักเสบ เนื่องจากการนั่งทำงานนานๆ และนั่งผิดวิธี มันก็คงจริงของหมอ เพราะเรานั่งอยู่หน้าคอมฯทั้งวันบางวันเมื่อยมากๆ นั่งก็ผิดวิธีอย่างหมอว่า แถมกลับไปบ้านยังนั่งทำคอมฯกับโต๊ะเตี้ยๆแบบโต๊ะญี่ปุ่นอีก หมอบอกว่า ต่อไปนี้ ยืน เดิน นั่ง ถ้าไม่ได้ตังค์อย่าทำให้นอนเยอะๆ จะยืน เดิน นั่ง ให้ทำเท่าที่จำเป็นเท่านั้น หมอให้ยามาทานอาทิตย์นึง แต่ให้ไปหาหมออีกครั้งหลังจากกินยาไปแล้ว 4 วันและแนะนำว่าควรนั่งให้เต็มก้น ให้หลังติดผนักเก้าอี้และควรเปลี่ยนอิริยาบทบ่อยๆ อย่านั่งนานเกินไป

พอรุ่งเช้าเท่านั้นแหละเจ็บหลังมากขึ้นขยับตัว เอี้ยวตัวไม่ได้เลย มันเจ็บปล๊าบ....บริเวณหลังมากๆเจ็บจนเหงื่อซึมต้องยืนนิ่งๆสักครู่เพื่อให้คลายอาการเจ็บ เวลานอนจะเปลี่ยนท่านอน หรือพลิกตัวก็ลำบากเพราะมันเจ็บ เลยไปทำงานไม่ได้ พอครบที่หมอนัดก็ไปอีกหมอถามอาการว่าเป็นไง มันนั่งหรือยืนได้ไม่นานเลยนั่งได้ไม่ถึง 10 นาที...หมอบอกไม่ได้มันต้องนั่งได้เป็นชั่วโมงถึงจะเรียกว่าดีขึ้น ว่าแล้วก็เขียนใบรับรองแพทย์ให้หยุดงานต่ออีก 7 วันและให้นอนมากๆ เลยต้องนอนทำงานอยู่ที่บ้าน เพิ่งมาทำงานวันที่ 27 ม.ค. นี้เอง สิ่งไม่น่าเกิด ไม่คิดว่ามันจะเกิดกับเรามันก็เกิดขึ้นได้ เฮ้อ...พออายุมากขึ้นมันก็เป็นโน่นเป็นนี่อย่างไม่คาดคิดได้เสมอนะ.......

ตอนนี้อาการก็ยังมีเจ็บบ้างบางขณะที่เอี้ยวตัว หรือนั่งสบายเกินไป ต้องพยายามนั่งอย่างที่หมอแนะนำ แต่ความเคยชินมักทำให้เราลืมตัว โน๋มีข้อมูลมาให้เพื่อนๆอ่านจะได้ป้องกันไว้ค่ะ




โรคปวดหลัง
โรคฮิตของคนเมืองที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เพราะต้องนั่งหลังขดหลังแข็งหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ส่งผลทำให้คนกรุงวันนี้ มีปัญหาเรื่องกระดูกสันหลังมากขึ้น ในอเมริกาสถิติการบาดเจ็บจากอาการปวดหลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นหนึ่งในสาเหตุใหญ่ ที่คนอเมริกันนำไปใช้เพื่อการขอลาป่วยมากขึ้นเป็นอันดับสองรองจากโรคหวัด แพทย์จัดกระดูกชี้ การนั่งอยู่ในรถนานๆ ขณะรถติด หรือต้องขับรถไปธุระไกล ๆ เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้โรคปวดหลังระบาดหนักในกลุ่มคนเมือง พร้อมแนะนำท่านั่งทำงานที่ถูกต้องขณะใช้คอมพิวเตอร์ในออฟฟิศ ที่จะช่วยลดอาการปวดลงได้ ควบคู่กับการเลือกเฟ้นอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ เหมาะสมกับวัย และออกกำลังกายสม่ำเสมอ

ดร.โอ๊ต บูรณะสมบัติ นายกสมาคมการแพทย์ไคโรแพรคติกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าคนไข้กว่า 90 % ที่เข้ารับการรักษา มีปัญหาจากการปวดหลัง โดยมีสาเหตุต่างๆ กัน อาทิ จากการนั่งทำงานผิดท่าทาง อุบัติเหตุจากกีฬาหรือเล่นไม่ถูกท่าทาง นอกจากนี้ ชีวิตประจำวันของหนุ่มสาวออฟฟิศ ที่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลายาวนาน ซึ่งเป็นท่าทางของร่างกายที่ต้องใช้หลังมากขึ้นกว่าเดิม และการให้เวลากับการออกกำลังกายน้อยลง รวมถึงการดูแลสุขภาพน้อยเกินไป ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้การปวดหลังเรื้อรังได้ ดร.โอ๊ต ผู้มีประสบการณ์ในการจัดกระดูกสันหลังให้กับคนไข้หลายร้อยราย ได้เผยลักษณะการนั่งใช้คอมพิวเตอร์ที่เหมาะสม และจะไม่ทำให้ผู้ใช้มีอาการปวดหลังว่า ปัญหาคนไข้ส่วนใหญ่ที่พบคือ ผู้ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานจะต้องก้มศีรษะลงขณะใช้งาน และควรใช้คีย์บอร์ด ใช้เมาท์ ส่วนการยกแขนไปมาก็ทำให้ปวดกระดูกสันหลังได้ ตั้งแต่ช่วงเอว และเมื่อผู้ใช้โค้งหลังเพิ่มพิมพ์งาน จะทำให้กระดูกสันหลังค่อมลง กระดูกคอที่ควรจะโค้งไปด้านหลัง ก็จะมีการโล้ไปข้างหน้ามากขึ้น ทำให้มีการใช้กล้ามเนื้อของคอมากเกินไป มีอาการเกร็งหรือมีการตึงของกล้ามเนื้อ ซึ่งคนส่วนใหญ่ใช้คอมพิวเตอร์ไปนานๆ ก็จะมีปัญหาเรื่องปวดคอ ปวดศรีษะ หรือคอตึง คอเกร็ง ทำให้เสียบุคลิกภาพอีกด้วย นอกจากนี้ หากใครที่มีเวลาน้อย ในการดูแลสุขภาพกาย โดยเฉพาะหลังของตนแอง


วิธีการแก้ไขอาการปวดหลังสำหรับสาวๆ และหนุ่มๆ ออฟฟิศอย่างง่ายๆ นั้น แพทย์ ไคโรแพรคติกชี้ 7 วิธีที่น่านำไปปฏิบัติในที่ทำงานคือ

1. การเลือกขนาดของโต๊ะ เก้าอี้ ให้เหมาะสมพอดีกับสรีระ


2. ไม่ควรใช้เก้าอี้สปริงที่เอนไปได้ เก้าอี้แบบนี้ไม่ได้มีการรองรับ
สันหลังเท่าที่ควร ควรเลือกเก้าอี้ที่สามารถเอนได้ และมีความสูงของเก้าอี้
และโต๊ะต้องได้ระดับและมีหมอนหนุนหลังด้วย


3. คอมพิวเตอร์ที่ใช้ต้องมีการปรับให้จออยู่ในระดับสายตา
คือกึ่งกลางของจออยู่ที่ระดับสายตาของเรา การพิมพ์งาน แป้นคีย์บอร์ด
ควรให้อยู่ในระดับข้อศอก ข้อมือ ในการที่จะได้ไม่ต้องยกแขนขึ้นมาพิมพ์


4. การใช้เมาท์ ถ้าหากต้องใช้มาก ควรจะเป็นเมาท์ที่เป็น
“แทรกกิ้ง บอล” หรือ ไร้สายที่สามารถนำมาใกล้ๆ ตัวได้
และสามารถใช้ได้ถนัดโดยไม่ต้องยื่นแขนไป


5. ไม่ควรนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานเกินไป
ควรจะเบรคทุกๆ ชั่วโมงหรือ 45 นาทีเพื่อพักผ่อนอิริยาบถ
และควรนั่งตรงกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อจะได้ไม่ต้องบิดตัวไปมา


6. ควรนั่งเก้าอี้ให้เต็มก้น ซึ่งสาวออฟฟิศส่วนใหญ่
ชอบนั่งเก้าอี้แค่ครึ่งเดียวหรือปลายเก้าอี้


7. ควรมีการบริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
ซึ่งท่าง่ายๆ นอกจากการลุกเปลี่ยนอริยาบท เดินไปเดินมาก็คือ
การบีบคอ ยืดกล้ามเนื้อคอ เอียงไปทางซ้ายและขวา ก้มหน้าเงยหน้า
แต่ละท่าค้างไว้สักสิบนาที หรือยืดกล้ามเนื้อหลัง โดยการก้มตัวหน้าอก
ประชิดหัวเข่า ซึ่งแต่ละครั้งยืดกล้ามเนื้อคลายกล้ามเนื้อจะต้องทำช้าๆ
และค้างประมาณ 10 วินาที เพื่อให้กล้ามเนื้อ หรือเส้นเอ็นยืดตัวได้
ถ้าก้มแรงๆ หรือยืดกระแทกเรงๆ ก็จะทำให้เกิดการฉีกขาด
หรือเกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้


สูตรง่ายๆ เพียงแค่นี้ ก็จะทำให้สาวออฟฟิศทั้งหลาย มีบุคคลิกภาพที่ดีขึ้น เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่การงาน
เป็นที่ประทับใจสำหรับคนอยู่ใกล้ชิด และที่สำคัญ ไม่มีอาการ " ปวดหลังเรื้อรัง " ให้น่ารำคาญกายและใจอีกด้วย

ข้อมูลจากสมาคมการแพทย์ไคโรแพรคติกแห่งประเทศไทย




ขอบคุณบีจีและของแต่งบล็อก
จากคุณ UnderSunshine







ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

โสนบ้านนา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




lozocatlozocatlozocat
  
lozocat lozocat












enter


อย่าบอกว่ารัก

ถ้าไม่ได้รู้สึกรัก

อย่าบอกว่าคิดถึง

ถ้าไม่ได้คิดถึง

อย่าบอกว่าห่วงใย

เพียงเพราะความเคยชิน




" จงพูดดี อย่าดีแต่พูด "
" จงทำดี อย่าดีแต่ทำ "
" จงคิดดี อย่าดีแต่คิด "












เจ้าตัวหัวเขียว
กระต่ายตัวกวน
น้อง DoryKong 2
น้อง DoryKong 1
X
X
X
X
[Add โสนบ้านนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com pantip.com pantipmarket.com pantown.com