Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
7 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
โน้ตตัวสุดท้าย - นัยนา นาควัชระ







ชื่อเรื่อง : โน้ตตัวสุดท้าย
ผู้เขียน : นัยนา นาควัชระ
แพรวสำนักพิมพ์
จำนวนหน้า 106 หน้า
ราคาปก 100 บาท



จากปกหลัง...


บางทีบทละครพระราชนิพนธ์แปลที่ว่า
“ชนใดไม่มีดนตรีการ ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก”
ที่รัชกาลที่หกทรงแปลมาจากเวนิสวาณิชของเช็กสเปียร์
อาจจะทำให้พ่อแม่คนไทยคิดว่า...
อย่างไรเสียก็ต้องจับลูกของตนเรียนดนตรีให้จงได้
คงจะกลัวว่าลูกจะกลายเป็นคนชอบกล
ก็เลยต้องหัดให้มีดนตรีในสันดานละกระมัง

สมัยนี้ดนตรีจึงกลายเป็นวิชาหนึ่งในบรรดาสารพัดวิชาที่ซื้อหามาเป็นสมบัติติดตัวได้
ถึงคราวจำเป็นก็งัดเอาออกมาใช้เป็นเครื่องประโลมหัวใจ
ใครๆ ที่ไม่ใช่นักดนตรีมักพูดว่า...
คนที่เล่นดนตรีเป็นนี้ช่างเป็นคนโชคดีเสียนี่กระไร
ที่มีดนตรีเอาไว้ช่วยคลายเครียด...

โธ่เอ๋ย...กว่าจะเล่นได้แต่ละเพลงเครียดจะตายโหง
ผมผอมรับนะว่าบางครั้งดนตรีเป็นยาที่ช่วยสมานแผลได้จริง
แต่บ่อยครั้งดนตรีก็เป็นมีดที่เชือดเฉือนกรีดลึก
มันเป็นสองขั้วที่สลับกันไปมา
และอารมณ์ของนักดนตรีก็เป็นเช่นนั้น

(บางส่วนจากจดหมายจากโยฮันเนส ฉบับที่ ๔)




~~~~~~~~~~




ธารรู้จักคนเขียนหนังสือเล่มนี้ค่ะ เธอเป็นครูสอนเปียโนอยู่ที่เชียงใหม่ แล้วก็เป็นพี่สาวของเจ้านายธารเอง คุณนัยนาเธอเล่าถึงชีวิตของตัวเธอผ่านมุมมองของเปียโน ที่คุณพ่อของเธอพาข้ามน้ำข้ามทะเลกลับมาจากประเทศอังกฤษทั้งที่เล่นเปียโนไม่เป็นสักกะนิดเดียว

จะว่าไปแล้วหนังสือเล่มนี้คล้ายๆ จะแบ่งเป็นสองส่วน คือช่วงที่เล่าถึงชีวิตในวัยเด็กของผู้เขียน ซึ่งตัวละครในเรื่องเป็นคนที่ธารเคยคุ้นๆ นึกภาพออกได้ทันที อ่านไปก็เลยอมยิ้มไป ไม่รู้ว่าลูกค้าผ่านไปมาจะคิดว่าธารบ้าเพราะอากาศร้อนหรือเปล่าเนี่ย

บางส่วนจากในเรื่อง...


...ผมอยากจะบอกนายน้อยว่า
เลิกเคี่ยวเข็ญให้ลูกสีซอเสียทีเถิดพ่อคุณ
แล้วที่ลากลูกขึ้นมาจากที่นอนตอนสามทุ่มเพื่อหัดสีซอน่ะ
มันไม่รุ่งหรอก ทรมานเด็กแท้ๆ
เสียงซอมันบาดหูเหมือนแมวถูกรัดคอตาย
หาอย่างอื่นให้ลูกเล่นเถอะ ผมขอร้อง...


...


...คุณเข้าใจคำว่า “เล่นถูกโน้ตแต่เพี้ยนบรรลัย” ไหมครับ
นี่ถ้าผมเกิดมาเป็นไวโอลิน ผมคงต้องกินยาธาตุน้ำขาวทุกวันเป็นแน่...


...


...ไอ้ตอนที่ผมย้ายมาจากอังกฤษนั้นน่ะ
ผมก็พยายามปลอบใจตัวเองแล้วนะว่า
ให้คิดเสียว่ากำลังจะย้ายไปอยู่เวนิสตะวันออกก็แล้วกัน
จะได้ไม่รู้สึกว่าไปไกลจากบ้านมากนัก
ก็มีคนเขาพูดกันว่าเมืองไทยคือเวนิสตะวันออกไม่ใช่เหรอ
ใครจะไปรู้ล่ะว่าเขาจะให้ผมมาเป็นเรือกอนโดลาลอยคออยู่ในคลองน้ำเน่าแบบนี้น่ะ...



และในส่วนที่สองเป็นจดหมายที่เปียโนสองหลังส่งถึงกัน

...โยฮันเนส...และ...คลาร่า...

เรื่องราวในส่วนหลังจะเต็มไปด้วยอารมณ์มากกว่า
เป็นการบอกเล่าถึงความรู้สึกของเปียโนสองหลัง
การให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ที่อ่านแล้วอดน้ำตาคลอไม่ได้


...คุณเห็นไหม
ชีวิตมันไม่ได้สิ้นหวังไปเสียทีเดียวหรอก
แต่แล้ว...มันก็มีอะไรให้จิตใจเราคอยยึดเกาะไปได้เรื่อยๆ นั่นแหละ
จิตของเรามันไม่เคยว่างเว้นจากการเกาะเกี่ยว
และความจริงในข้อนี้นี่เองที่ทำให้เรามีชีวิตรอดอยู่ได้...
ความคาดหวังนี้แหละมันร้ายกาจนัก...



ถ้าจะบอกว่า...การอ่านหนังสือเล่มนี้ให้ความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับการฟังออกเคสตร้า ไม่รู้ว่าจะดูเวอร์เกินไปหรือเปล่า แต่ธารรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ นะคะ

และแม้ว่าเรื่องราวของเปียโนสองหลังในหนังสือจะจบลงแล้ว แต่สำหรับคนอ่านอย่างธารยังรู้สึกว่า...การเดินทางของทั้งคู่คงไม่สิ้นสุดลงแค่นั้นหรอก เหมือนกับประโยคสั้นๆ ที่โยฮันเนสบอกกับคลาร่าในจดหมายฉบับหนึ่งที่ว่า...

...สำหรับเราแล้ว...ไม่มีคำว่าโน้ตตัวสุดท้าย...





Create Date : 07 เมษายน 2553
Last Update : 8 เมษายน 2553 0:28:13 น. 1 comments
Counter : 927 Pageviews.

 
มาสวัสดีคุณธารตอนบ่ายๆค่ะ

ง่วงมากมาย


โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:16:59:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธาร นาวา
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




จากสายธารลำเล็กๆ
หลอมรวมเป็นกระแสธาราอันกว้างใหญ่
หลั่งริน...ไหลระเรื่อย...
นำพาเอาความชุ่มชื้นฉ่ำเย็นมาสู่หัวใจผู้คน

ลายปากกา
Friends' blogs
[Add ธาร นาวา's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.