เจ้าสาวของแฟรงเกนสไตน์ ตอนจบ [เรื่องสั้นแปล]
8 มิถุนายน เจ้าค่อมนำถาดไม้วางอาหารเช้ามาส่งขณะที่ฉันยังนอนอยู่บนเตียงฉันมองร่างกายผิดสัดส่วนของมันและใบหน้าอัปลักษณ์นั้นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะให้มันวางถาดลงบนโต๊ะข้างเตียง นี่มันอะไรฉันถาม สัตว์ประหลาดกลัวว่าเขาอาจทำร้ายความรู้สึกของคุณอีกอร์ตอบ ผมพยายามอธิบายแล้วว่า มันเป็นไปไม่ได้แต่เขาก็ยืนยันจะเตรียมอาหารเช้าให้คุณอยู่ดีแต่พอนาทีสุดท้ายเขาก็เกิดกลัวมากจนไม่กล้าเอาอาหารมาให้คุณที่นี่ด้วยตัวเขาเอง แกหมายความว่ายังไงที่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทำร้ายความรู้สึกฉันน่ะ ฉันซัก ผมไม่เคยนึกมาก่อนว่ามันเป็นไปได้บารอนเนส มันตอบ และผมก็อยู่กับเจ้านายมาตั้งนานก่อนคุณจะเข้ามาเสียอีก บางทีเราน่าจะต้องจัดการอะไรเรื่องนี้บ้าง ฉันพูดเป็นเชิงขู่
อย่าเลยได้โปรด มันพูดอย่างจริงจัง จนฉันต้องหยุดมองคุณทำร้ายผมทั้งทางการกระทำและคำพูด นับตั้งแต่วันแรกที่เจ้านายพาคุณมาที่ปราสาทและผมก็ไม่เคยบ่นเลย ถ้างานรับใช้ของผมจบลง ไอ้ค่อมที่ไม่รู้หนังสืออย่างผมที่ออกโรงเรียนตั้งแต่แปดปีเพื่อเลี้ยงดูแม่ที่ป่วยกระเสาะกระแสะ จะหางานได้ยังไง?คนในเมืองหัวเราะเยาะผม เด็ก ๆ แกล้งผม แต่งเพลงล้อเลียนผม พวกเขาขว้างปาของใส่ผมด้วยซ้ำมันหยุด ฉันดูออกว่ามันพยายามควบคุมอารมณ์ ไม่มีใครเลยในเมืองนี้ หรือในเมืองไหน ๆ ที่จะให้งานผมทำ นี่แกยังต้องหาเลี้ยงแม่อยู่อีกหรือ?ฉันถาม มันพยักหน้ายังมีน้องสาวหม้ายกับลูกเล็ก ๆ อีกสามคนของนางด้วย ฉันมองมันครู่หนึ่งในที่สุดก็เอ่ยออกมาว่า ออกไปได้แล้ว ไอ้หูดอัปลักษณ์ คุณจะไม่พูดกับเจ้านายเรื่องไล่ผมออกใช่ไหมเขายังยืนกราน ฉันจะไม่พูดกับวิคเตอร์ฉันบอก ขอบคุณครับมันเอ่ยอย่างซาบซึ้ง ถึงพูดไปเขาก็คงไม่ฟังอยู่ดี ฉันว่า คุณคิดผิดแล้วอีกอร์ค้าน เรื่องอะไร?
ถ้ามันถึงจุดที่ต้องเลือกอีกอร์พูดอย่างเชื่อมั่น เขาต้องเลือกข้างผู้หญิงที่เขารักอยู่แล้ว ถ้าเขารักฉันขนาดนั้นทำไมเขาถึงเอาแต่ทำงานในห้องทดลองบ้านั่นล่ะ ฉันเถียง บางทีอาจเป็นเหตุผลเดียวกับที่เจ้าสัตว์ประหลาดไม่กล้านำถาดนี้เข้ามาให้คุณด้วยตัวเขาเองมันตอบ อีกอร์ออกไปนานแล้วจนไข่และกาแฟเย็นชืด แต่ฉันก็ยังเฝ้าครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่
9 มิถุนายน วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันตั้งใจลงไปที่ห้องทดลองนับตั้งแต่วันที่วิคเตอร์สร้างเจ้าสัตว์ประหลาดขึ้นมา ข้าวของที่ระเกะระกะก็ว่าแย่แล้วแต่กลิ่นสารเคมีนั้นแย่ยิ่งกว่า วิคเตอร์ท่าทางตกใจเขาถามฉันว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ไม่มีอะไรผิดปกตินี่ฉันตอบ คนจากในเมืองคงไม่ได้กำลังเดินทางมาเพื่อเผาปราสาททิ้งใช่ไหม มันก็รกลูกตาจริงๆ นี่นะ ฉันเห็นด้วย แต่เปล่าหรอก เปล่า ๆ ไม่มีใครมาทั้งนั้น
ถ้าอย่างนั้นคุณลงมาทำอะไรที่นี่จ้ะ เขาถาม ฉันคิดว่ามันถึงเวลาที่คุณต้องแสดงให้ฉันเห็นแล้วล่ะว่าคุณมาทำอะไรอยู่ที่นี่ทั้งวันทั้งคืน แล้วหน้าตาพื้นๆ ของเขาก็พลันเปล่งประกาย คุณพูดจริงหรือ ฉันก็อยู่ที่นี่แล้วไม่ใช่หรือไงฉันว่า
จากนั้นมันก็กลายเป็นหนึ่งในยามบ่ายที่น่าเบื่อที่สุดเท่าที่เคยมีมาในชีวิตของฉัน เมื่อวิคเตอร์แสดงทุกการทดลองให้ฉันดูด้วยความภูมิอกภูมิใจทั้งที่ล้มเหลวทั้งที่สำเร็จ แถมยังมีบันทึกและการคำนวณทั้งหมดของเขาอีกจากนั้นเขาก็อธิบายด้วยคำศัพท์ที่อาจไม่มีใครเข้าใจได้ถึงวิธีการที่เขาสร้างเจ้าสัตว์ประหลาดและทำให้มันกลับมามีชีวิตได้อย่างไร มันยอดเยี่ยมมากฉันโกหกเมื่อเขาพูดจบเสียที มันเยี่ยมเลยใช่ไหมล่ะเขาพูดเสียยังกับว่ามันเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ ฉันดูนาฬิกาข้อมือฉันต้องขึ้นไปแล้ว อ้าวเขาพูดด้วยท่าทางผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด ทำไมล่ะ ไปทำอาหารเย็นที่คุณชอบไงคะ เขายิ้มเหมือนเด็กที่เฝ้ารอเปิดกล่องของขวัญวันคริสต์มาสขณะที่ฉันพยายามนึกให้ออกว่าเขาชอบกินอะไร
14 มิถุนายน ฉันพบกับสัตว์ประหลาดที่ห้องสมุด อีกอร์ฝากขอบคุณ ไม่เห็นมีอะไรเลยฉันว่า ขึ้นเงินเดือนให้เขาทำให้แม่ของเขาไม่ลำบากไปมากกว่านี้ มันต้องมีอะไรสิ ฉันดูสมุดบัญชีแล้วฉันตอบ เขาทำงานมาสิบห้าปีโดยไม่เคยได้เงินเดือนเพิ่ม เขาขอบคุณมากจริงๆ สิ่งมีชีวิตพูด ถ้าฉันไล่เขาออกฉันว่า วิคเตอร์ก็จะออกไปข้างนอกหาผู้ช่วยใหม่ที่น่าเกลียดกว่าเดิมซุ่มซ่ามกว่าเดิม ไอ้เรื่องจัดการกับเงินและก็ใช้ชีวิตให้มันเรียบร้อยไม่ใช่เป้าหมายหลักของชีวิตเขา
เจ้านายดูท่าทางมีความสุขขึ้นมากเมื่ออาทิตย์ก่อน ก็เห็นได้ชัดนะว่าเขาพอใจกับผลการทดลองของเขาฉันว่า สัตว์ประหลาดมองหน้าฉันแต่ไม่ตอบอะไร เธอเจอนิยายรักที่จบแบบมีความสุขบ้างหรือยัง?ฉันถาม ยังครับเขาตอบ ถ้าพวกนิยายโศกนาฏกรรมทำให้เธอเศร้าจะอ่านต่อไปทำไม? เพราะคนเราต้องมีความหวังเสมอ ฉันเกือบจะโพล่งออกไปแล้วว่ามองความหวังสูงส่งเกินไป แต่แทนที่จะทำเช่นนั้น ฉันกลับพบว่าฉันชื่นชมที่เขาเชื่อมั่นอย่างนั้นแม้จะมันขัดกับความคิดของฉันก็ตาม
สำหรับทุกโรมิโอต้องมีจูเลียต เขาพูดต่อ สำหรับทุกทริสตัน ต้องมีอีโซด์[1] เขาหยุดมีคนบอกว่าเราถูกส่งมาที่โลกเพียงแค่เพื่อสืบพันธุ์แต่เจ้านายได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ยังมีวิธีการอื่นที่จะสร้างชีวิตขึ้นมาได้ ฉะนั้นเราต้องถูกส่งมาที่นี่ด้วยจุดมุ่งหมายที่สูงส่งกว่านั้นแน่ และจะมีจุดมุ่งหมายใดที่สูงส่งยิ่งไปกว่าความรักเล่า ฉันมองหน้าเขาครู่หนึ่งแล้วจากนั้นก็พบว่าตัวเองดึงหนังสือไพรด์แอนด์เพรจจูดิซ ออกมาจากชั้น ยื่นให้เขา และไม่มีอาการตัวสั่นเลยด้วยซ้ำเมื่อนิ้วของเขาแตะโดนนิ้วของฉัน อ่านนี่สิฉันบอก ไม่ใช่ว่านิยายรักทุกเรื่องต้องจบลงด้วยความเศร้าหรอกนะ ฉันสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
16 มิถุนายน วิคเตอร์ดูหงุดหงิดขณะที่นั่งลงบนโต๊ะอาหารเย็น เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?ฉันถาม เข่าหน้านิ่วคิ้วขมวดอืม มีของหาย ของบนโต๊ะหรือ?ฉันถาม พลางมองไปรอบ ๆ อะไรหาย เขาส่ายหน้าไม่ใช่ของบนโต๊ะ แต่เป็นของที่สำนักงานในห้องทดลอง มีคนขโมยบันทึกคุณไปหรือเปล่าฉันซัก เขาท่าทางงุนงงพิลึกกว่านั้นอีก เขาตอบ เตียงพับของผมหายไป เตียงพับงั้นหรือ?ฉันทวน จ้ะเขาตอบ คุณคงรู้ ตัวที่ผมใช้นอนทุกคืนหลังเลิกงานดึก ๆ แปลกจริงเชียวฉันว่า ใครกันนะขโมยที่นอนเขาว่า มันดูพิลึกจังเลยเนอะฉันเห็นด้วย แต่โชคดีที่ว่าในประสาทแห่งนี้ ยังมีเตียงอื่นอยู่ เขามีท่าทางงุนงงขึ้นมาอีกจากนั้นก็จ้องหน้าฉันอยู่พักใหญ่ และแล้วเขาก็พลันยิ้มออกมา
2 กรกฎาคม แน่ใจหรือ?วิคเตอร์ถาม เราจะปล่อยให้เขาเคว้งคว้างอยู่ในโลกไม่ได้ฉันตอบ เขาจะทำมาหาเลี้ยงตัวยังไง เมื่อบ่ายนี้ฉันยังพูดเล่นกับเขาอยู่เลยว่าเขาน่าจะประกอบอาชีพนักมวยปล้ำได้ ดูเขาเหมาะจะอยู่ฝ่ายอธรรมนะ แล้วเขาว่ายังไง
เขาอยากเป็นคนที่ถูกรักไม่ใช่ถูกหวาดกลัว และเขาไม่ต้องการทำร้ายใคร วิคเตอร์ส่ายหน้าด้วยความอัศจรรย์ใจอีกอร์เอาสมองแบบไหนมาให้ผมกันนะ อยากรู้จริง เป็นสมองแบบที่ดียิ่งกว่าที่คุณจะคาดหวังได้เลยล่ะฉันตอบ จริงทีเดียววิคเตอร์เอ่ย แต่มันก็ไม่มีผลให้คนเปลี่ยนท่าทีที่มีต่อรูปลักษณ์ของเขาอยู่ดี
มันอาจทำลายชีวิตเขาฉันพูด จริงที่สุดวิคเตอร์เห็นด้วย ถ้าเราอยากให้เขาอยู่ต่อไปฉันบอกวิคเตอร์ คุณควรรู้ว่าเราต้องทำอะไร วิคเตอร์มองหน้าฉันคุณพูดถูกแล้วที่รัก เขาตอบ
3 กรกฎาคม ฉันเจอเขาที่ห้องสมุดระยะหลังเขาใช้เวลาขลุกอยู่ที่นี่เกือบทั้งวัน เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ขนาดใหญ่ที่วิคเตอร์และอีกอร์สร้างขึ้นมาเพื่อเขาโดยเฉพาะทันทีที่เห็นฉัน เขาก็ลุกขึ้นยืน คุณพูดกับเจ้านายหรือยังครับเขาถามอย่างร้อนรน พูดแล้วฉันตอบ แล้ว? แล้วเขาก็ตกลง ร่างกายมหึมาของเขาดูจะผ่อนคลายขึ้น ขอบคุณมากเขากล่าว ไม่มีมนุษย์คนไหน ไม่มีบุคคลใด เขาคลายความตึงเครียดด้วยการยิ้มให้ฉันที่ควรมีชีวิตเดียวดาย แม้แต่คนอย่างผม หล่อนอาจไม่ค่อยน่ามองนักฉันเตือนเขา อยากจะพูดต่อว่า คงไม่น่าฟัง ไม่น่าดมด้วย เธอจะน่ามองสำหรับสายตาผมเขาตอบ ผมจะมองทะลุใบหน้าของเธอไปถึงความงามที่ซ่อนอยู่ภายใน ฉันแปลกใจที่เธอต้องการแบบนี้ฉันบอก นึกว่านิยายรักโศกนาฏกรรมพวกนั้นจะทำให้เธอไม่กล้าเสียอีก
มันอาจจบลงอย่างไม่มีความสุขเขายอมรับ แต่มันก็ดีกว่าการที่ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลย คุณเห็นด้วยใช่ไหม ฉันคิดถึงวิคเตอร์แล้วพยักหน้า ใช่ ฉันตอบ ใช่ ฉันเห็นด้วย หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรอีก นอกจากส่งอีกอร์ออกไปตามสุสานต่าง ๆ อีกครั้ง ฉันหวังว่าวิคเตอร์จะทำงานโครงการใหม่เสร็จสิ้นก่อนคริสต์มาสแทบจะรอให้ถึงวันที่เราห้าคนนั่งล้อมวงรอบต้นไม้เป็นครอบครัวแสนสุขไม่ไหวแล้ว บางทีมันอาจจะไม่ได้ลงเอยด้วยดีแต่ก็อย่างที่เพื่อนใหม่ของฉันบอก ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะไม่เริ่มต้น
แปลจากเรื่อง The Bride of Frankenstein ของ Mike Resnick
Create Date : 02 กรกฎาคม 2557 |
Last Update : 2 กรกฎาคม 2557 15:20:34 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1614 Pageviews. |
|
|