ฉันแต่งงานกับเพื่อนสนิทที่เป็นเกย์
เดฟกับฉันสนิทกันเร็วมาก แต่ฉันก็ไม่เคยคาดคิดเลยว่าความสัมพันธ์ของเราจะมาถึงขั้นนี้ ตั้งแต่วินาทีแรกที่เราพบกันฉันรู้เลยว่าเดฟกับฉันจะต้องมีความสัมพันธ์ที่วิเศษมากแน่ๆวิเศษมากเสียจนฉันต้องโทรหาแม่ทันทีที่ชายสูงหล่อคนนี้ขอเบอร์ฉัน
"โอ๊ย พระเจ้า" ฉันรีบพูดจนลิ้นพันกันขณะโทรศัพท์"หนูเพิ่งเจอเกย์ที่น่ารักที่สุดล่ะ" ตอนที่เราเป็นเพื่อนกันฉันอยู่ปีสอง ส่วนเดฟอยู่ปีหนึ่ง เราสองคนต่างเรียนสาขาวิทยาศาสตร์ แถมเป็นพวกติ๊สแตกและชอบจิกกัดทั้งคู่ตอนที่พบกัน เขาเปิดตัวว่าเป็นเกย์มาได้หนึ่งปีแล้วและมีแฟนแล้วด้วยฉันเองรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะเป็นเพื่อนกับเขา เพราะเรามีหลายอย่างคล้ายกัน ความสัมพันธ์ของเราแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆคนทั้งมหาวิทยาลัยรู้ดีว่าเราตัวติดกันแค่ไหน จนเพื่อนๆของฉันกังวลว่าฉันอาจคิดกับเขาเกินเพื่อน เหมือนกับเพื่อนสาวที่ผ่านๆ มาของเขา"ฉันไม่อยากให้เธอเจ็บนะ" รูมเมทของฉันเตือน
ฉันสัญญากับรูมเมทว่ามันจะไม่มีทางเกิดขึ้นทุกดึกดื่นค่ำคืนที่เมาด้วยกัน ถ้าไม่อยู่ด้วยกันในห้องที่ร้านคาราโอเกะ เราก็จะนอนด้วยกันบนเตียงของฉันโดยไม่มีอะไรเกินเลยฉันไม่เคยนึกปิ๊งเดฟในแบบนั้นเลย
คำถามสำคัญ สองปีต่อมาเดฟกับฉันยังคงเป็นเพื่อนซี้ตัวติดกันเหมือนเดิม ถึงวันหยุดทีไร เราก็จะขับรถเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของแต่ละฝ่ายพ่อแม่ของฉันรักเดฟ พ่อแม่ของเขาก็รักฉันหลังจากฉันเรียนจบก็เริ่มทำงานที่มหาวิทยาลัยของเรา ส่วนเดฟเรียนปีอยู่สุดท้าย เรามีความสุขกันเหมือนเคย...หรืออย่างน้อย ฉันก็คิดว่ามันเหมือนเคย ตอนนั้นฉันคุยๆ กับหนุ่มคนนึงอยู่เดฟก็เริ่มพูดอะไรตลกๆ อย่างเช่น "ถ้าเธอตกหลุมรักเขาจะพาเขากลับบ้านช่วงคริสต์มาสแทนฉันหรือเปล่านี่?" ฉันสัญญากับเดฟว่าไม่ว่าจะยังไง ฉันก็จะพาเขาไปบ้านในช่วงวันหยุดแน่ แต่เขาก็ยังพูดทำนองว่า"ฉันไม่อยากให้คนอื่นมานอนเตียงเธอด้วย" หลังจากเขาสื่อเป็นนัยๆมาหลายอาทิตย์ ในที่สุด เดฟก็ทิ้งระเบิดว่า "เราจะลองคบกันแบบแฟนได้ไหม?"
ฉันแทบไม่เชื่อหูในสิ่งที่ได้ยิน"เธอแค่สับสนน่า" ฉันบอก แต่ลึกๆ ฉันรู้สึกเหมือนจะสติแตก
ทุกคนเตือนว่าฉันใช้เวลาอยู่กับเดฟมากเกินไปจนอาจจะตกหลุมรักเขาแต่กลับเป็นเดฟ - ทั้งที่มันไม่น่าเป็นไปได้ - ที่บอกว่าเขาตกหลุมรักฉัน ฉันบอกว่าเขาต้องกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมของเกย์ในมหาวิทยาลัยเราและก็ไปเจอกับหนุ่มหล่อเร้าใจสักคนหรือที่ฉันเรียกว่า "กลับไปเติมพลังความเป็นเกย์" เพื่อนๆของฉันพูดถูกที่ว่า เราใกล้ชิดกันมากเกินไป แต่เดฟไม่ยอมถอย"มีอะไรต้องเสีย ถ้าเราจะลองคบกัน?" เขาถามฉัน "ทุกอย่าง" ฉันตอบ
การทดลอง หลังจากนั้น ฉันนอนไม่หลับไม่สามารถจดจ่อกับงานได้เลย แน่ล่ะ ฉันคิดมาตลอดว่าเดฟมีเสน่ห์มาก แต่ก็ไม่เคยคิดถึงเขาในแง่ทางเพศเลย-- แต่อยู่ๆ ฉันก็คิดถึงเขาในแบบนั้นขึ้นมา หลังจากสติกระเจิดกระเจิง ไม่รู้จะเอายังไงดีและก็พยายามไม่รับโทรศัพท์ของเดฟอยู่หลายอาทิตย์ฉันก็ตกลงว่าจะลองคบกับเขาเป็นแฟนดู เราเริ่มกันอย่างช้าๆ ด้วยการจับมือโอบกอด ไม่ช้า เราก็เริ่มจูบ อีกไม่กี่เดือนต่อมา ในคืนที่เราอยู่บนเตียงด้วยกันมันก็ไปไกลกว่าจูบ เราไม่ได้วางแผนไว้ แต่มันก็เยี่ยมที่สุด
ฉันออกจะแปลกใจที่เดฟปลุกอารมณ์ฉันได้อย่างง่ายดาย(และเพราะว่าเขาก็เคยมีแฟนสาวเหมือนกันก่อนจะเปิดตัวว่าเป็นเกย์เขาจึงค่อนข้างรู้ดีว่าต้องทำยังไงฉันถึงจะพอใจ) อันที่จริงแค่ได้ยินเขาบอกว่ารู้สึกเป็นตัวของตัวเองเวลาอยู่กับฉันก็ทำให้รู้สึกว่าตัวเองสวยและพิเศษเหลือเกินราวกับฉันเป็นผู้หญิงคนเดียวในโลกที่ทำให้เขารู้สึกแบบนั้นได้
เป็นเวลาหนึ่งปีครึ่งที่เราไม่ได้บอกใครเลยว่าคบกันอยู่เราต้องการให้แน่ใจที่สุดก่อนว่ามันมั่นคงดีแล้วก่อนที่เราจะเปิดตัวเพราะเรารู้ว่าเราต้องพบกับการตัดสินและความสงสัยมากมาย ในที่สุดเมื่อเราบอกเรื่องของเราให้เพื่อนและครอบครัวได้รับรู้ พวกเขากลับเอาใจช่วยเราอย่างเหลือเชื่อ(เราทั้งคู่เกิดมาในบ้านที่มีใจเปิดกว้าง) แน่นอนว่ามันก็มีช่วงเวลาที่ตะกุกตะกักเพราะความไม่เชื่อของคนอื่นอยู่บ้าง --ขนาดแม่ฉันยังเคยถามเดฟเลยว่า เขาอยากพบกับนักบำบัดหรือเปล่า! --แต่พวกเขาก็ได้เห็นว่าเรามีความสุขแค่ไหนและยอมรับว่าเราเป็นคู่รักกัน
อนาคตของเรา การออกเดทกับเกย์มีข้อดีของมันนะ(เดฟยังรู้สึกว่าโดยทั่วไปแล้วเขาเป็นเกย์ ผู้ชายที่เขาชอบมีหลายแบบแต่ผู้หญิงที่เขาชอบมีแค่คนเดียว --- ฉัน) แม้ฉันจะไม่ใช่คนเฉื่อยแต่ก็พูดได้ว่าโดยทั่วไป เดฟเป็นคนจัดการชีวิตให้ฉันทั้งหมด ตอนที่เราออกไปช็อปปิ้งเขาก็จะรู้ว่าเมื่อไหร่ต้องถามว่า "เธอจะใส่รองเท้าคู่นี้จริงๆ เหรอ?" เขาไม่ใช่แค่คู่ควงไปงานแต่ง แต่เขายังช่วยฉันเลือกชุดที่ดีที่สุดและแม้แต่ผมของฉันเขาก็ทำให้ ฉันรู้ว่า ผู้หญิงบางคนอาจต้องการความเป็นชายตามประเพณีนิยมมากกว่านี้แต่ฉันรักเดฟในฐานะที่เป็นคู่ชีวิตชายแท้อาจให้ดอกไม้แก่แฟนปีละครั้งในวันวาเลนไทน์ เดฟให้ดอกไม้ฉันทุกอาทิตย์
เมื่อความสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนใครของเราดำเนินไปได้สี่ปีเดฟก็ขอฉันแต่งงาน เรากำลังจะแต่งงานกันในเดือนมิถุนายนนี้และวางแผนว่าหลังจากแต่งได้สักพักก็จะมีลูกกันเลย ชีวิตคู่ของเราก็คงมีโอกาสประสบความสำเร็จไม่ต่างคู่อื่นๆที่อยู่กันอย่างมีความสุข ไม่ว่าใครก็เคยเผลอไผลมองคนอื่นทั้งนั้น --แม้แต่คนที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นมาก-- หรือไม่ก็คนอื่นที่เป็นฝ่ายมองเราไม่ว่าจะผู้หญิง ผู้ชาย หรือทั้งสองเพศก็เถอะ ฉันเชื่อใจว่าเดฟจะยังซื่อสัตย์ ไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆที่เชื่อใจในคนที่กำลังจะกลายเป็นสามีของเธอ
สำหรับเดฟเขาสัญญาว่าจะเปิดใจกับฉันอย่างที่เขาทำเสมอมาแม้ว่ามันอาจเป็นความจริงที่ฉันไม่อยากฟัง แน่ล่ะนั่นรวมถึงความคิดเห็นที่เขามีต่อรองเท้าของฉันด้วย แปลจาก Cosmopolitan //www.cosmopolitan.com/sex-love/relationship-advice/marrying-gay-bff
Create Date : 04 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 4 มิถุนายน 2557 18:07:47 น. |
|
3 comments
|
Counter : 11332 Pageviews. |
|
|