Don't just me because I sin differently from you.
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2557
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
17 พฤษภาคม 2557
 
All Blogs
 

God saves me

   ตอนแรก ว่าจะลงแค่งานเขียนงานแปลเท่านั้น สำหรับบล็อกนี้ จะไม่เขียนไดอารี่ แต่วันนี้ เจอเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกขอบคุณพระเจ้ามาก จนคิดว่า ต้องเขียนแล้วล่ะ 


ไม่รู้ว่าข้าพเจ้าจะเรียกตัวเองว่าคริสเตียนได้หรือเปล่า เพราะในชีวิตก็ไปโบสถ์ไม่กี่ครั้ง มีบางช่วงเดินทางบ่อย จึงไม่มีโบสถ์ประจำ แล้วแต่ว่าช่วงไหนสะดวกใกล้ที่ไหนก็ไป 

และเนื่องจากไม่ได้เป็นคริสเตียนตั้งแต่เกิด ความเชื่อเก่ามันก็ยังอยู่ในใจบ้าง จึงไม่ได้เชื่อแบบคริสเตียนแท้ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ และก็เพิ่งหันมาหาพระเจ้าก็เมื่อสองสามปีที่ผ่านมานี้เอง

อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้า และรู้ว่าพระองค์ทรงรักและคอยดูแลลูกของพระองค์เสมอ 

ก่อนเชื่อในพระเจ้า ข้าพเจ้าก็รู้สึกอยู่แล้วว่า ในโลกนี้มีพลังที่ยิ่งใหญ่คอยดูแลเราอยู่ ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าคืออะไร รู้สึกแค่ว่า แม้จะไม่เหลือใครก็ไม่เคยโดดเดี่ยว มีพลังสักอย่างอยู่กับเราเสมอ 

ในเวลาที่ชีวิตคับขัน ข้าพเจ้ามักอธิษฐาน และก็ได้พบกับความอัศจรรย์หลายต่อหลายครั้ง

วันนี้ก็เช่นกัน 

ข้าพเจ้าลาออกจากงานมาครึ่งปีละ เพราะสภาพจิตไม่พร้อมจะทำงานประจำ ทนมานานจนรู้สึกว่าทนต่อไป ก็ส่งผลเสียต่องาน เกรงใจเจ้านายด้วย จ่ายเงินเดือนแต่เรากลับฝืนใจทำ 

พอออกจากงาน ก็มีคนชวนไปรับงานพิเศษตลอด ยังไม่ได้หยุดเลย แต่เพราะช่วงต้นปีมีเรื่องต้องใช้เงินกับที่บ้านเยอะ ตอนนี้เลยหมดตัว ตัวเองนั้นไม่กระไรดอก เพราะกินประหยัดๆ หน่อย สักพักเงินจากงานพิเศษก็ได้แล้ว แต่ต้องส่งให้แม่ทุกเดือนนี่สิ นี่ก็ครบกำหนดแล้ว จะไปบอกแม่ว่า เดือนนี้ยังไม่มีเงินนะแม่ก็ไม่ได้ กลัวแม่เป็นห่วง เพราะแม่ไม่อยากให้ออกจากงานตั้งแต่แรกอยู่แล้ว 

ข้าพเจ้าจึงอธิษฐานเหมือนทุกครั้งที่พบปัญหาในชีวิต เมื่อก่อนไม่ค่อยกล้าอธิษฐาน เพราะกลัวเคยตัว เอะอะก็ขอพระเจ้าๆ แต่มีคนบอกว่า พระเจ้ามีให้เรามากมายอเนกอนันต์ การขอจากพระองค์คือการถ่อมตัวลง แต่การไม่ขอเลย สำหรับบางคนก็เหมือนการถือดี ว่าตัวทำโน่นทำนี่ได้เอง ข้าพเจ้าเองก็เป็นเช่นนั้น คือทะนงตน ไม่ชอบขอใคร แม้แต่พระเจ้าก็เถอะ พอได้ฟังที่เขาพูดเช่นนั้น จึงพยายามลดความหยิ่งของตนลง บอกเล่าปัญหาให้พระเจ้าฟังเสมอ และขอความช่วยเหลือจากพระองค์ 

วันนี้ ก็ทูลพระองค์ว่า ลูกหมดตัวแล้ว กว่าเงินค่าทำงานพิเศษจะออกก็เดือนหน้าแน่ะ ลูกขอเงินจากพระเจ้า 5,000 บาท ให้ลูกได้ใช้ภายในเสาร์อาทิตย์นี้ด้วยนะคะ ในนามองค์พระเยซูคริสต์ เอเมน 

ที่ต้องระบุจำนวนเงิน เพราะเคยมีคนแนะนำว่า จะได้ทำให้เราชัดเจนกับตัวเองมากขึ้น ว่าเราต้องการอะไรเมื่อใดเท่าไร จะทำให้การอธิษฐานของมีพลังมากขึ้น เพราะภาพในความคิดของเรามันชัดเจน 

ข้าพเจ้าก็อธิษฐานขอไป ทั้งที่นึกไม่ออกว่าจะได้เงินมาจากไหนนะ 5,000 งานพิเศษก็ไม่มีทางได้แน่ เพราะองค์กรต้องจ่ายเงินให้วันธรรมดาเท่านั้น วันนี้วันศุกร์ ใครจะมาตั้งเบิกให้เราทัน แต่ไม่รู้ล่ะ ขอไปแล้ว เพราะหมดตัวจริงๆ รอไม่ไหวแล้ว 

ตอนนั้น ข้าพเจ้ากำลังใช้แล็ปท็อปอยู่ห้างใกล้ๆ บ้าน ไม่ได้ชาร์จแบต อยู่ดีๆ หน้าจอก็มืดไป เลยนึกว่าแบตหมดละมั้ง งั้นกลับไปทำงานที่บ้านต่อดีกว่า ระหว่างทางกลับผ่านเซเว่น เลยจะแวะซื้อของกิน (ด้วยเงินที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด) 

ขณะกำลังจะออกจากเซเว่น ก็ได้ยินเสียงคนถามมาว่า "เอ้า ไปไหนมา" 
ข้าพเจ้าเงยหน้ามอง พบว่าเป็นพี่ที่รู้จักนั่นเอง ข้าพเจ้าทักทายตอบ คุยกันพักนึง อยู่ๆ พี่เค้าก็ถามขึ้นมาว่า 

"เอาตังค์ไปใช้ก่อนมั้ย 5,000"

ข้าพเจ้ากำลังช่วยงานบางอย่างพี่เค้าอยู่ แต่งานนั้นกว่าจะเสร็จก็น่าจะอีกตั้งเดือนหนึ่งเป็นอย่างน้อย ข้าพเจ้าจึงไม่คิดเลยว่าจะทวงค่าจ้างจากพี่เค้าก่อน อยู่ดีๆ พี่เค้าก็พูดมาเองว่า เอาเงินมั้ย แถมเป็นจำนวนเท่าที่ข้าพเจ้าอธิษฐานขอจากพระเจ้ามาด้วย 

แล้วพี่เค้าก็ควักเงินออกมาให้ เค้าบอกว่าเค้าตั้งเบิกไว้นานแล้ว จะจ่ายให้ข้าพเจ้าส่วนหนึ่งก่อน 

ในใจตอนนั้น ข้าพเจ้ารู้สึกอัศจรรย์ใจในพระเจ้ามาก ขอบคุณพระองค์ ที่ส่งเงินมาให้อย่างทันท่วงที ขอบคุณพี่ที่เป็นตัวแทนของพระองค์มาให้ความช่วยเหลือ 

ข้าพเจ้าเดินกลับที่พักด้วยหัวใจพองโต รู้สึกถึงการดูแลของพระองค์ ข้าพเจ้าเองสารภาพว่า แม้เงินจะเหลือน้อยเต็มที แต่ข้าพเจ้ากลับแทบไม่กังวลเลย ตอนอธิษฐานขอ ก็เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่เราควรทำเท่านั้นเอง แต่ไม่ได้กระวนกระวาย มันคล้ายกับว่า วางใจว่าอย่างไรก็ต้องอยู่รอด พระเจ้าจะทรงเลี้ยงดูเอง ...แล้วมันก็เป็นจริง 

เมื่อกลับมาถึงที่พัก ข้าพเจ้าวางคอมลง เปิดหน้าจอขึ้นมา ไฟก็ติด อ้าว แบตไม่ได้หมดนี่นา 

มันเหมือนกับว่า การที่จู่ๆ คอมปิดหน้าจอตัวเองเฉยเลย เป็นเหตุที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องเดินกลับ หาไม่ข้าพเจ้าก็คงพิมพ์อะไรไปอีกเรื่อยเปื่อย อาจไ่ม่ได้กลับเร็ว และไม่ได้เจอพี่คนนั้น ซึ่งพี่เค้าเองก็บอกว่า เค้าเพิ่งเข้ามาแถวสำนักงานเมื่อหัวค่ำนี่เอง กำลังจะกลับแล้ว 

คนที่ไม่เชื่อย่อมบอกว่าเรื่องบังเอิญ ก็ไม่รู้สินะ ชีวิตของข้าพเจ้าบังเอิญเช่นนี้มาหลายครั้งหลายหน 

แม้แต่ก่อนหน้าจะเชื่อในพระเจ้าอย่างจริงจัง ข้าพเจ้าก็รู้สึกมาตลอดว่าพลังศักดิ์สิทธิ์บางอย่างในจักรวาลคอยดูแลข้าพเจ้า ... ตอนนี้ข้าพเจ้าเรียกพลังยิ่งใหญ่นั้นว่า พระเจ้า 

ขอบคุณพระองค์ที่ดูแลลูกเสมอมา ไม่ว่าลูกจะทำผิดทำบาปอย่างไร พระองค์ก็ไม่เคยทิ้งลูกเลย ขอพระองค์ทรงเปลี่ยนแปลงลูกให้ดีขึ้น ให้เดินไปในทางของพระองค์ ขอหัวใจที่เหมือนพระทัยพระองค์ 

ขอบคุณพระเจ้าค่ะ 




 

Create Date : 17 พฤษภาคม 2557
0 comments
Last Update : 4 มิถุนายน 2557 18:06:26 น.
Counter : 878 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Desiderata
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Desiderata's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.