ดวงตาปีศาจ
ดวงตาปีศาจ บาร์บารา เลฮี หน้าหนาวที่แล้ว เมื่อตาล้มป่วยเราต้องเดินทางไปพักกับแกสักสองสามวัน เราไม่มีรถยนต์ใช้กันอีกแล้วแม่จึงพาผมกับเจมี่นั่งรถไฟ ตลอดทางไปเมืองคอร์ก เจมี่เอาแต่ปีนป่ายที่นั่งและงอแงจะเอาขนมจากรถเข็นมันอายุแค่ห้าขวบ ยังเด็กมากจริงๆ ส่วนผมเก้าปี โตเกินกว่าจะทำอะไรงี่เง่าแล้วขนาดแม่ยังบอกเลยว่าตอนนี้ผมคือหัวหน้าครอบครัว ผมหันหลังให้แม่กับน้องแล้วหันไปมองนอกหน้าต่าง ฟ้ากำลังจะมืด ผมเห็นเงาดำเลือนลางของตัวเองอยู่บนกระจกอีกด้านมันล่องลอยเหมือนเป็นผีที่เกาะอยู่กับรถไฟความเร็วสูง มีอยู่วันหนึ่ง ครั้งที่เราเดินทางไปเมืองโฮธรถไฟหยุดจอดกลางทาง ตำรวจขึ้นมาและบอกแม่ว่า มีศพอยู่บนรางรถไฟ เราจึงต้องลงจากรถและเรียกแท็กซี่กลับบ้าน ผมอยากรู้จริงๆ ว่ามันจะเป็นยังไงนะ ถ้ารถไฟวิ่งทับศพ รถไฟอาจตกราง หรืออาจจะไม่ตกที่จริงศพส่วนใหญ่น่าจะนิ่มๆ รถไฟอาจรู้สึกเหมือนกระแทกอะไรสักอย่าง แต่หลังจากนั้นมันก็ไปต่อได้โดยไม่มีใครรู้สึกผิดสังเกตด้วยซ้ำผมอยากรู้จริงๆ ว่าคราบเลือดจะไหลยืดไปตามรางรถไฟได้ไกลสักแค่ไหน ตาไม่ชอบผมครั้งหนึ่งผมได้ยินแกบอกแม่ว่า "ระวังไอ้เด็กคนนี้ให้ดี ๆ แววตามันเหมือนพ่อมัน"แล้วแม่ก็จับได้ว่าผมกำลังฟังอยู่ข้างประตู จึงบอกให้ผมออกไปที่สวน แต่ผมไม่เคยลืมสิ่งที่ได้ยินผมรู้ว่าสักวันผมจะเอาคืนแกให้ได้ ตาอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กทั้งเก่าทั้งสกปรก แถมมีกลิ่นประหลาด เมื่อเราไปถึงแม่ต้องเดินไปรอบบ้านเพื่อเปิดหน้าต่างทุกบานชั้นล่างมีแค่สองห้อง และผ่านบันไดโยกเยกขึ้นไปชั้นบนก็มีห้องนอนซึ่งจริง ๆ เหมือนห้องใต้หลังคาเสียมากกว่าส้วมหลังเล็ก ๆ ที่ไม่มีทั้งอ่างอาบน้ำและฝักบัวตั้งอยู่นอกบ้านทางด้านหลัง แม่พยายามจะทำความสะอาดนั่นนี่อยู่เสมอแต่ตารำคาญและบอกให้แม่เลิกวุ่นวายเสียที ตอนกลางคืนแม่นอนบนโซฟาในห้องรับแขกส่วนผมกับเจมี่นอนบนฟูกเก่า ๆ ข้างเตียงของตา เวลานอนแกชอบทำเสียงประหลาดเหมือนหายใจไม่ออก บางทีก็ละเมอไฟในห้องก็ไม่มี และถ้าตอนกลางคืน ตาต้องออกไปเข้าส้วมที่อยู่นอกบ้านผมก็ต้องช่วยแกเดินลงบันไดไปทั้งมืดๆ นั่นแหละ ผมเคยได้ยินแกพูดงึม ๆ งำ ๆและครวญครางทั้งที่แกกำลังหลับ และถ้าผมได้ยินเสียงแกพยายามจะลุกขึ้นแล้วล่ะก็ผมจะหลับตาแน่นยิ่งกว่าเดิม และแกล้งทำเป็นว่าหลับสนิทบางทีแกก็เรียกผมเสียงดังจนแม่ได้ยิน ถึงตอนนั้นก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องไปนิ้วเหนียวเหนอะของแกเกาะมือผม แกเดินลากเท้าไปที่บันได หายใจแรงจนผมรู้สึกว่าเส้นผมของตัวเองปลิวไปตามแรงลมนั่นไฟในห้องครัวทำให้เห็นชุดนอนแบบกระโปรงของตาร่นขึ้นมาจนเห็นหัวเข่า ปูดโปนที่มีเส้นเลือดสีเขียวผมพยายามไม่มองหนังห้อยๆ ตรงขาที่แกว่งไปมา เวลาแกเดินออกไปที่สนาม ถึงวันที่สามบ้านตามีฝนตกทั้งวัน ไม่มีทีวีให้ดู ไม่มีอะไรให้ทำแม่บอกว่าพวกเรากวนใจแม่ทั้งวันแลว เราควรขึ้นไปคุยกับตาบ้าง แม่จะได้พัก ตานั่งอยู่บนเตียงที่เศษขนมปังปิ้งวางอยู่ มีอะไรขาว ๆ ติดอยู่มุมปากแก บ่อยครั้งที่แกไอโขลก ๆ จนน้ำลายและเศษขนมปังกระจายไปบนผ้าปูที่นอนผมยืนห่างจากแกมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เจมี่ไม่สนใจน้ำลาย มันเริ่มกระโดดเล่นอยู่บนเตียงผมนึกว่าตาจะโกรธ แต่แกกลับแค่หัวเราะด้วยเสียงแหบแห้ง และบอกให้ผมออกไปเอากล่องของเล่นที่อยู่ใต้อ่างล้างมือชั้นล่างขึ้นมา เจมี่ไม่เคยเห็นกล่องนั่นแต่ผมรู้แล้วว่ามันน่าเบื่อ มีแต่ของเล่นเก่า ๆ ที่น้าแจ๊คกับน้าไมเคิลเล่นตอนเป็นเด็กมีทหารดีบุกสีถลอกปอกเปิก นกกระเรียนแบบกลไกที่ตอนนี้พังแล้ว และที่เหลือก็มีแต่พวกลูกแก้วที่ผมไม่เคยเสียเวลาชายตามองด้วยซ้ำ แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ได้เจมี่ชอบลูกแก้วมาก มันนั่งตรงขอบเตียงนอนของตา กลิ้งลูกแก้วเล่นบนฝ่ามือและปล่อยให้มันหลุดไปตามร่องนิ้วผมมองกลุ่มลูกแก้วหลากหลายสีอยู่บนผ้าห่มขนเป็ดที่มีรอยด่างดำ ผมไม่เคยเห็นมันแวววาวและเปล่งประกายอย่างนี้มาก่อนเลยตาหายใจฟืดฟาดพลางไอโขลก ๆ เมื่อเริ่มบอกชื่อลูกแก้วให้เจมี่รู้จัก ลูกแก้วสีเลือดนกลูกแก้วสีใส ลูกแก้วดวงตาปีศาจ และลูกแก้วลายเสือ ตาให้มันเลือกเก็บอันที่ชอบไว้แล้วแกก็นึกถึงผมขึ้นมาได้ จึงบอกให้ผมเลือกด้วย เจมี่ชอบลายเสือมากที่สุด แต่ที่ผมชอบคือลายดวงตาปีศาจมันมีสีแดงล้อมอยู่รอบนอก ส่วนตรงใจกลางเป็นรูปดวงตาสีเหลืองเจิดจ้า เมื่อมองใกล้ๆ ผมเห็นดวงตาของตัวเองสะท้อนอยู่บนพื้นที่สีเหลือง เมื่อผมวางมันไว้บนฝ่ามือมันดูโกรธ คลุ้มคลั่ง และคล้ายกับว่ามันมีชีวิต แต่เมื่อกำมือผมกลับรู้สึกว่าสัมผัสของมันเย็นและลื่น ไม่ต่างจากลูกแก้วสีฟ้าใสหรือลูกแก้วลายเสือ เมื่อหมอคาร์ ลิ่งมาพบตาเราต้องเอาลูกแก้วลงมาเล่นที่ชั้นล่าง และเล่นมันไปตลอดทั้งบ่าย ไม่นานผมก็ชนะได้ลายเสือมาจากเจมี่แต่มันร้องไห้งอแงจนแม่สั่งให้ผมยอมให้มันชนะได้ลูกแก้วกลับไป ผมทั้งได้และเสียลูกแก้วสีเลือดนกกลับไปกลับมาหลายครั้งแต่ผมไม่เคยเสี่ยงเอาลูกแก้วดวงตาปีศาจมาเล่นเลย มันมีค่ามากเกินกว่าจะสูญเสีย ผมพอใจที่รู้ว่ามันยังอยู่อย่างปลอดภัยในกระเป๋าเสื้อตลอดเวลาเหมือนว่ามันคือเครื่องลางนำโชคลับ ๆ ของผม ก่อนที่เราจะเข้านอนคืนนั้น แม่พูดกับเราว่า หมอคาร์ลิ่งบอกว่าหัวใจของตาอ่อนแอมาก และแกควรนอนพักต่ออีกสองสัปดาห์เราต้องอยู่คอยช่วยแก "แค่สองอาทิตย์เอง" แม่ว่า "ลูกไม่ว่าอะไรใช่มั้ยจ้ะ ลูกรักลูกช่วยแม่ได้มากจริง ๆ นะ" ผมเกลียดเวลาแม่ขอผมด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนแบบนี้แบบที่แม่มักจะใช้กับพ่อเวลาพ่อโมโห ผมรู้ว่าแม่ตัดสินใจไปแล้วล่ะว่าเราต้องอยู่ต่อผมหันหน้าหนีจากแม่ และเตะกล่องของเล่นบ้าบอนั่น ถ้าพ่ออยู่นี่พ่อต้องทำให้แม่กลับได้แน่ พ่อสามารถทำให้แม่ทำทุกอย่างที่พ่อต้องการได้ มันไม่ยุติธรรมเลยแม่สัญญาไว้แล้วนี่ว่าเราจะอยู่แค่ไม่กี่วัน ไม่ยุติธรรมเลยจริง ๆ แต่นั่นเป็นคืนสุดท้ายที่เรานอนค้างบ้านตาผมคงจะหลับลึกชะมัด เพราะไม่ได้ยินเสียงตาลุกเลย และแกก็คงไม่ได้เรียกผมดังนัก เพราะแม่ก็ไม่ได้ยินเสียงแกเหมือนกันแต่ยังไงตอนที่แกร่วงลงไป เราก็ได้ยิน ตากลิ้งตกบันไดตั้งแต่ขั้นแรกจนถึงขั้นสุดท้ายผมยืนอยู่ตรงหัวบันไดขณะที่แม่ลากผ้าห่มจากโซฟามาคลุมร่างแก จากนั้นแม่เงยหน้าขึ้นมาและเห็นว่าผมกำลังมองอยู่ ผมได้ยินเสียงตาครวญครางขณะที่ผมเดินลงบันไดตานอนกองอยู่บนพื้น ขาข้างหนึ่งพับอยู่ใต้ตัว ใบหน้าหมองคล้ำน้ำลายไหลย้อยจากปากไปถึงคาง แม่พยายามหาอะไรมารองหัวให้แก แต่ตาก็ครางออกมาอีก "แม่จะไปหาบ้านคุณนายดไวเยอร์เพื่อโทรเรียกรถพยาบาล" แม่บอก"อยู่กับตาจนกว่าแม่จะกลับมานะ อย่าให้ตาขยับตัว" ตาใช้มือกระดูกโปนข้างหนึ่งของแกตะกายแขนแม่และอ้าปากพยายามจะพูดอะไรสักอย่าง "ไม่ต้องห่วงฮะแม่ ผมจะดูแลตาเอง" ผมนั่งลงตรงบันไดขั้นที่สองตานอนอยู่ตรงนั้น จ้องหน้าผมอยู่ในความเงียบ ปากแกกระตุก ดวงตาขาวขุ่นเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวขณะที่แม่รีบวิ่งไปบ้านข้างๆ ผมมองตานอนตัวสั่นงันงกอยู่บนพื้นกระเบื้องหิน มีความรู้สึกว่า เราคงไม่ต้องอยู่บ้านตาต่ออีกสองอาทิตย์แล้ว รถพยาบาลมาถึงภายในครึ่งชั่วโมงแต่ตาตายก่อนจะถึงโรงพยาบาล แม่พาเราขึ้นแท็กซี่ตามไปทีหลังระหว่างทางที่ตายังไม่หมดสติ - พวกบุรุษพยาบาลบอกแม่ว่า ตาแกเพ้อว่าปีศาจมองแก ดวงตาปีศาจกำลังจับจ้องแกอยู่ตาแก่บ้องตื้น มันใช่ดวงตาปีศาจซะที่ไหนล่ะ ลูกแก้วสีเลือดนกต่างหากตอนที่เรากลับมาถึงบ้าน ผมยังเห็นมันนอนสงบเสงี่ยมอยู่ตรงมุมข้างประตูครัวที่มันกลิ้งเข้าไปอยู่เลยผมรีบหยิบมันขึ้นมาก่อนที่แม่จะเห็น ดวงตาปีศาจมันก็อยู่ในที่ที่มันเคยอยู่นั่นแหละซ่อนตัวอย่างมิดชิดอยู่ในกระเป๋าตรงอกเสื้อ คอยช่วยปกป้องผมจากอันตราย แปลจากเรื่อง Devil's Eye ของ Barbara Leahy
Create Date : 13 พฤษภาคม 2557 |
|
0 comments |
Last Update : 4 มิถุนายน 2557 18:10:18 น. |
Counter : 1451 Pageviews. |
|
|
|