Bloggang.com : nsd : ของกลางในมือโจร

ของกลางในมือโจร

โดยหมายเหตุผู้จัดการ 10 ตุลาคม 2550 20:14 น.
คำพังเพยไทยที่ว่า “มือถือสาก ปากถือศีล” นั้นได้สะท้อนความจริงอย่างหนึ่งของสังคมไทย ที่มีคนจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นวิญญูชนจอมปลอม แต่สร้างภาพลักษณ์หลอกลวงผู้คนว่าเป็นคนดี เป็นคนซื่อใส ทำให้คนหลงเชื่อยกย่องบูชา

คำพังเพยนี้มีมาแต่โบราณแล้ว วันนี้ก็ยังคงทันสมัยอยู่เพราะคนแบบนี้ก็ยังมีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่เคยสิ้นสูญ ไม่เคยล้มหายตายจากไปจากสังคมไทยของเรา

คนเลวที่บอกคนอื่นหรือทำตนให้คนรู้ว่าเป็นคนเลว คนทั้งหลายก็ย่อมรู้และทำใจได้ว่าหมอนั่นมันเป็นคนเลว เป็นคนสันดานชั่วช้าลามก เมื่อรู้เช่นนี้แล้วก็วางตัวอยู่ห่าง ๆ ไม่เข้าไปข้องแวะ คนเลวแบบนี้จึงไม่เป็นอันตรายต่อใครเท่าใดนัก

แต่คนชั่วที่แอบอ้างตัวว่าเป็นคนดีนี่สิเป็นอันตรายมาก คือเป็นอันตรายต่อทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมก็ตาม

และจะเกิดความเสียหายมากกับคนอื่น อย่างน้อยที่สุดก็เสียความรู้สึกที่เชื่อถือศรัทธาว่าเป็นคนดี แท้ที่จริงเป็นคนเลว รู้เมื่อใดก็ผิดหวังและเจ็บใจเมื่อนั้น

ยิ่งเข้าไปข้องแวะด้วยแล้วก็จะได้รับความเสียหายมากขึ้นเพราะคนเลวแบบนี้พร้อมที่จะใส่ร้ายป้ายสีเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ดีไม่ดีใครพาเข้าบ้านก็จะพาลเป็นชู้กับลูกเมียจนบ้านแตกสาแหรกขาด ดังที่ปรากฏให้เห็นนั่นแล้ว

คนชั่วนั้นจึงให้มีอำนาจไม่ได้ เพราะถ้ามีอำนาจเมื่อใดก็ก่อเภทภัยและความเสียหายเพิ่มขึ้นมากมายสุดที่จะคณา ดีไม่ดีจะทำให้พังพินาศกันทั้งชาติ ทำให้อาณาประชาราษฎร์ป่นปี้ยับเยินฉิบหายสิ้น

ประเทศไทยของเราในวันนี้ นายกรัฐมนตรีประกาศว่าเป็นโจร แต่อ้างว่าเป็นโจรกลับใจ

ข้ออ้างแบบนี้รับฟังเชื่อถือเป็นจริงเป็นจังไม่ได้ เพราะน้ำใจโจรและวาจาโจรนั้นเชื่อไม่ได้ ไม่ตั้งอยู่บนความจริง ไม่ใช่วาจาที่กล่าวด้วยความจริง แต่เป็นการกล่าวเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น วิสัยโจรทั้งหลายก็เป็นเช่นนี้

อย่าคิดว่าชาวบ้านจะเชื่อถือ ข้ออ้างเช่นนี้ไม่เห็นหรือว่าบริษัทห้างร้านต่างๆ หรือกิจการต่างๆ ที่เขาประกาศรับสมัครคนทำงานนั้น หากใครเป็นโจรแล้วมาสมัครทำงานโดยบอกว่าเป็นโจรกลับใจแล้ว ใครๆ ก็ไม่ยอมรับให้ทำงานด้วย

ความจริงถ้าพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ยอมรับสารภาพเสียแต่ก่อนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีว่าเป็นโจรก็คงไม่มีใครยอมรับให้เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่าจะอ้างว่ากลับใจแล้วก็ตาม

แต่ที่ผ่านมานั้นพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ สร้างภาพลักษณ์จนผู้คนหลงเชื่อว่าเป็นคนซื่อ เป็นคนดี เป็นคนมีศีลธรรม ล่าสุดในการพบสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2550 ก็ยังอ้างว่าตัวเองไม่พูดความเท็จ และตั้งใจถือศีลห้าตลอดชีวิต

จับได้คาหนังคาเขาว่าเป็นการพูดโกหก เป็นการโกหกประชาชนเสียด้วย เพราะในวันที่พบสื่อมวลชนนั้นเองได้ปฏิเสธว่าไม่เคยพูดว่ามีใครมาชวนให้ปฏิวัติ พูดหน้าซื่อตาใส

ทั้งๆ ที่เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2550 ก็เคยพูดไว้ว่ามีคนมาขอให้ปฏิวัติแต่ไม่เอาด้วย เพราะในใจทำอย่างนั้นไม่ได้

การพูดโกหกก็คือการทุศีล คนทุศีลก็คือคนพาล คนพาลนั้นพระพุทธเจ้าสอนว่าเหมือนกับถ่านไฟ ยามลุกไหม้อยู่ ใครเอามือไปจับก็จะไหม้พอง ไฟดับแล้วเอามือไปจับก็จะเปรอะเปื้อน ใครเข้าไปใกล้ฝุ่นก็เข้าตา ปวดแสบปวดร้อน

คนพาลเป็นอย่างนั้น พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ จะเป็นไปดังที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนหรือไม่ก็ต้องลองตรวจสอบกันดูเอง

การมาเถียงข้างๆ คูๆ ว่าเป็นทหารที่ทำหน้าที่เป็นกองโจรจึงเป็นโจร แต่เป็นโจรที่ปราบโจรนั้น ไม่รู้ว่าพูดทำไม เพราะเป็นเรื่องเหลวไหลและเลอะเทอะที่สุด เนื่องจากการพูดว่าเป็นโจรนั้นเป็นคนละเรื่องกับที่พูดว่าเป็นทหาร คราวนั้นยอมรับว่าเป็นคนชั่วเป็นโจรไม่เกี่ยวกับเรื่องอาชีพทหาร

หน่วยสงครามพิเศษก็คือหน่วยปฏิบัติการในราชการสงครามพิเศษ ไม่ใช่โจรหรือกองโจรตามที่อ้างข้างๆ คูๆ ให้เสื่อมเสียแก่เกียรติภูมิของทหารหน่วยนี้

เรื่องที่ยอมรับกันว่าเป็นโจรนั้นไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรอีกบ้าง แต่ดูจากสถานการณ์แล้วการยึดครองที่ดินเขายายเที่ยงก็น่าจะเกี่ยวข้องและอาจเป็นเหตุให้พูดว่าเป็นโจร

ตรงนี้จึงทำให้ข้ออ้างที่ว่ากลับใจฟังไม่ขึ้น เพราะของกลางยังอยู่ในมือและรู้เห็นกันชัดๆ แต่อาจจะไม่ใช่เรื่องนี้ก็ได้.

Create Date : 16 ตุลาคม 2550

Last Update : 16 ตุลาคม 2550 17:21:06 น.

1 comments

Counter : 982 Pageviews.

โดย: Darksingha

วันที่: 20 ตุลาคม 2550 เวลา:13:23:20 น.