กันเอง ง่ายๆ สบายๆ เล่าเรื่อง พูดคุย นานาสาระ และไร้สาระ เกี่ยวกับคนพวน ไทยพวน ลาวพวน...
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
11 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 

ตอนที่ 4 ขุนลอแบ่งดินแดนกับเมืองพวน

ตอนที่ 4 ขุนลอแบ่งดินแดนกับเมืองพวน


           เมื่อขุนลอผู้เป็นพี่ อยู่ครอบครองเมืองหลวงพระบางอยู่เย็นเป็นสุขสบายดีแล้ว ขุนลอมีความคิดถึงเจ้าเจ็ดเจืองผู้น้อง ซึ่งครอบครองเมืองพวน เพราะทั้งสองมีความรักใคร่กันมาก ทั้งฝ่ายเจ้าเจ็ดเจืองก็มีความคิดถึงเจ้าพี่ จึงพาเอากำลังลงไปหาขุนลอผู้พี่ ครั้นเจ้าเจ็ดเจืองลงไปถึงเมืองหลวงพระบาง ขุนลอผู้พี่ก็มีความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ขุนลอได้ออกไปรับเจ้าเจ็ดเจืองจากนอกเมืองพาเข้าไปในเมือง ให่ที่พักรับภูศรีกลางเมืองหลวงพระบาง ภูศรีนี้ชื่อเดิมชื่อ เขากล้า ขุนลอและเจ้าเจ็ดเจืองสองพี่น้องก็พร้อมกันเข้าพักในที่ทำไว้นี้ แลท้าวพระยาและชาวเมืองก็พร้อมกันออกมาทำขวัญรับเสด็จ ชาวเมืองก็มีความปิติยินดียิ่ง ขุนลอและเจ้าเจ็ดเจือง นั่งคู่เคียงกัน สนทนากันด้วยราชการเมืองต่าง ๆ ทั้งสองพระองค์มีความคิดถูกต้องเหมือนกันดังความคิดพรหม แล้วขุนลอจึงว่า เรานี้เป็นพี่น้องบิดามารดาเดียวกัน และเราต่างคนต่างได้ครอบครองเมือง ที่มีเขตแดนใกล้ชิดติดกัน เราทั้งสองต้องประกอบด้วยความรักษาไมตรี อย่าให้เป็นที่แตกร้าวกันได้ ให้เหมือนดังพระบิดาได้สาบานน้ำให้เรากินนั้นเทอญ


          อนึ่ง เราก็ควรจะหมายเขตแดนที่ติดต่อกันไว้ อย่าให้เป็นที่เสื่อมสูญในกาลข้างหน้า ทั้งสองพระองค์มีความคิดถูกกันที่จะแบ่งหมายเขตแดนเมืองพวนและเมืองหลวงพระบาง เพื่อจะให้ตั้งมั่นในชั่วมหากัลป์ และจะได้เป็นหลักสืบไปจนบุตรหลานแหลน ทั้งสองพระองค์จึงพร้อมกันแต่งขุน ๘ นาย ให้ออกไปหมายเขตแดน กำหนดให้ขึ้นไปทาง น้ำคาน ถ้าถึงภูเขาหลูบ แล้วให้ตั้งที่นั่น และแบ่งกันไปทางฝ่ายเหนือ ฝ่ายใต้


          ขุนทั้ง ๘ รับคำสั่งของขุนลอและเจ้าเจ็ดเจืองแล้ว ก็รีบออกเดินทางไปจนถึง ภูเขาหลูบ และขึ้นไปถึงยอดเขาหลูบแล้วก็พากันนั่งพักแบ่งกัน สี่ขุนให้ไปหมายเขตแดนฝ่ายเหลือ อีกสี่ขุนให้ไปหมายเขตแดนฝ่ายใต้


          สี่ขุนที่ไปฝ่ายใต้ ออกจากเขาหลูบ ไต่สันเขาหลูบไปทางเขาโทน... ไต่สันเขาโทนไปถึงเขากิ่วกับกิ่วก่อง... ไต่สันเขากิ่วกับกิ่วก่องไปถึงเขากิ่วคอง...ไปถึงเขามอน...ไปถึงเขากะแทะ...ไปถึงเขากระทิง...ไปถึงเขากะซิง...ไต่สันเขาไปลงใส่บ้านค่วง...จากบ้านค่วงถึงเมืองกาย เมืองซอง...ถึงหน้าง่าป่าแค...ไปถึงบ้านถินน้อย...ไปถึงนาขม...ไปลงใส่ห้วยใหญ่...ตามห้วยใหญ่ร่องถึงน้ำงึม ที่ท่าหวาย...ขึ้นเขาหงส์ไต่สันเขาหงส์ไปถึงสกา บ้านด่านหินคอน...ไปถึงเสวตซ้อยเชียงค้อมปากซาว...ลงไปใส่น้ำขัน...ร่องถึงหาดทรายพวน ริมน้ำชัน...ออกจากหาดทรายพวนขึ้นเขากิ่วใต้ไปถึงพนอมบ้านแดด...ไปลงใส่ปากน้ำกระดิง (น้ำกระดิง คือ น้ำม่วนแต่ปากที่ออกต่อกับน้ำของ (น้ำโขง) เขาเรียกว่า ปากกระดิง แล้วตามน้ำกะดิงขึ้นไปถึงหมอนท้าวท่าเพีย...ไปถึงยอดน้ำซุน...ไปถึงยอดน้ำยาง...ขึ้นเขาแร้วไปถึงเขาใส..ไปถึงเขาแสด...ไปถึงเขาผาดับ...ไปลงใส่ยอดห้วยเผือก...ตามห้วยเผือกร่องไปถึงห้วยหาดคาว แล้วข้ามน้ำโม้ขึ้นเขาผาหลวง ลงไปไส่เพียงบ้าง...ลงไปใส่น้ำโม้...ลงไปถึงปากห้วยสวาง...ขึ้นเขาหลวง...ไปถึงแคว้นแร้วเมืองตำ...ขึ้นเขาหลวงเมืองตำ...ไปลงใส่น้ำเนิน...ขึ้นถึงน้ำลาน เท่านี้เป็นเขตเมืองพวน ทิศบูรพา


          อีกสี่ขุนที่ไปฝ่ายเหนือ ออกจากเขาหลูบ ก็ตามน้ำคานขึ้นไปถึงปากน้ำคาว...จากปากน้ำคาวตามน้ำคานขึ้นไปถึงปากน้ำสวย...ไต่สันเขาปากน้ำสวยไปถึงต้นมะม่วงเค้าแดนเมือนตัน มะม่วงต้นนั้นสูงตั้งแต่ดินขึ้นไปถึงคาคบ ประมาณ ๕ วาโตได้ ๔ อ้อม จากต้นมะม่วงเค้าแดนเมือนตันไปถึงเขานางคำผง...ไปถึงบ้านตาด...ลงไปใส่น้ำเสียบเมืองสัน...ลงไปใส่ปากน้ำซิ่ว...ล่องไปถึงห้วยนาหลวง...ไปลงใส่ห้วยนาแล้ง...ล่องถึงน้ำเนิน...ล่องถึงปากน้ำลาน


          ขุนทั้ง ๘ ที่แบ่งกันไปหมายเขตแดน ก็ไปบรรจบกันที่ปากน้ำลาน ตั้งแต่พ้นเมืองลานลงไปเป็นดินแดน เมืองปะกันหลวง คือเมืองญวน เมื่อขุนทั้ง ๘ หมายเขตแดนแล้ว ก็พากันกลับลงไปยังเมืองหลวงพระบาง เข้าเฝ้าขุนลอและเจ้าเจ็ดเจือง ทูลการที่ได้ไปหมายสำคัญเขตแดนให้ทรงทราบโดยกระจ่าง


          ทั้งสองพระองค์ได้ทราบความของขุนทั้ง ๘ แล้ว ก็มีความยินดี การซึ่งเมืองล้านช้างกับเมืองพวนได้แบ่งเขตกันนี้ ขอให้เป็นหลักอันมั่นคงไปชั่วมหากัลป์ ใครอย่าได้เอาเขตแดนซึ่งกันและกัน จนชั่วบุตร หลาน เหลน ที่จะได้สืบสกุลต่อ ๆ ไปในข้างหน้า จนกว่ามหาสมุทรแห้ง จนเห็นทรายพื้นสมุทรแห้งปลิวขึ้นไปทั่วโลก หรือว่าเขาพระสุเมรุล้มอันตรธานลงไปก็ดี หรือว่าไฟเกิดไหม้ในภัทรกัปนี้ จึงให้ที่หมายเขตแดน และคำที่แบ่งปันเขตแดนกันนี้สูญ เมื่อนั้นเมื่อใดภัทรกัปนี้ยังตั้งอยู่ที่ใด ขอให้เขตแดนและคำที่ไว้สัญญาตกลงกันนี้ ตั้งอยู่ตราบนั้น


          ถ้าใครไม่ฟังตามคำสัญญาที่ได้ตกลงกันนั้น ให้ผู้นั้นดับไปเหมือนดังเพลิง และให้คนนั้นเล็กและน้อยเข้าไปดังคนปอกกองปี และขอให้มีอันตราย ๑๐ ประการ เกิดขึ้นในตัวตนนั้น และเมื่อแม้นปลูกต้นไม้อย่าให้โต ปลูกหวายให้ทันเถาหลายล่อนและแก่ แม้ผู้นั้นแหงนหน้าขึ้นไปบน ให้ฟ้าผ่าคนนั้น ไปป่าให้เสือกิน แม้คนนั้นไปทางน้ำให้เงือกใหญ่กิน และให้อัปรีย์จัญไรถึงตัวคนนั้นทุกวัน จนชั่วบุตรและหลานและเหลน โหลน ใครอย่าได้ชิงเขตแดนซึ่งกันและกัน ถ้าราษฎรและช้าง ม้า โค กระบือ เมืองใดหนีอยู่ในเขตของผู้ใดให้ส่งคืนให้กันโดยดี เมืองใครให้เป็นเมืองคนนั้น เพราะเจ็ดเจืองกับขุนลอ สองพี่น้องได้สาบานน้ำให้แก่กันแล้ว และคำที่กล่าวมานี้ ขอให้มั่นคงอยู่ได้ในแสนมหากัลป์ จะได้เป็นหลักมั่นคงดังพัทธสีมาแก่พงศ์พันธุ์ต่อไป ถ้าผู้ใดไม่ฟังคำดังที่กล่าวมานั้น ถึงพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นมา ก็อย่าให้เห็นผู้นั้น


          ครั้นขุนลอกับเจ้าเจ็ดเจือง ทำสาบานกันแล้ว เจ้าเจ็ดเจืองก็ลาขุนลอผู้เป็นพี่กลับไปปกครองยังเมืองเชียงขวางดังเก่า ต่อ ๆ มาได้หลายแล้ว...






Free TextEditor




 

Create Date : 11 มีนาคม 2553
1 comments
Last Update : 11 มีนาคม 2553 13:18:15 น.
Counter : 893 Pageviews.

 



//www.siam4shop.com/baanfaimun


จารีตประเพณีของชาวไทยพวนบ้านฝายมูล

ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน

ท้องถิ่นแต่ละหมู่บ้าน จะมีจารีตประเพณีอันดีงามสืบสานมาแต่โบราณกาล เป็นมรดกตกทอดกันมา ทีมีคุณค่ายิ่งต่อการดำรงวิถีชีวิตแต่ละท้องถิ่นที่แตกต่างกันไป

บ้านฝายมูลเป็นชาวไทยพวนที่อพยพมาตั้งรกรากอยู่ที่บ้านฝายมูลมีจารีตประเพณีที่เป็น เอกลักษณ์ไทยพวนบ้านฝายมูลที่ยึดถือกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ปฏิบัติสืบๆ ตามกันมาหลายชั่วอายุคน นั่นก็คือ


สร้างสรรค์เว็บไซต์ โดย //www.siam4hop.com

 

โดย: สามารถ ศรีกมลา IP: 118.172.251.231 19 มิถุนายน 2555 13:48:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


หม่าเด่น
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add หม่าเด่น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.