Bloggang.com : thainurse@norway : การฝึกงานพยาบาลในนอรเวย์ 3

การฝึกงานพยาบาลในนอรเวย์ 3

พาไปเที่ยวเสียหลายบล็อก กลับมาค่ะ กลับมาฝึกงานกันต่อ อย่าอู้ อย่าอู้

ถึงไหนแล้วน้อเริ่มไม่ถูกเลย 555 อ๋อ คราวที่แล้วเรื่องยากับการตามราวด์แพทย์ เพิ่มเติมอีกสักอย่างเรื่องการรายงานแพทย์ก็ได้เนอะ ถ้าเวรบ่ายหรือดึกมีอะไรที่ฉุกเฉินนะคะ ให้โทรตามรถพยาบาลได้เลย 113 ค่ะ ไม่ต้องโทรหาแพทย์ก่อนนะคะถ้าฉุกเฉินจริง ๆ อันนี้หมายถึงที่ sykehjem นะคะ แต่ถ้าที่โรงพยาบาลก็คงจะอีกระบบนึง อ้อไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ

แล้วทีนี้ระหว่างรอเราก็ไปริ้นท์ใบยากับเตรียมเอกสารที่คิดว่าสำคัญไว้ให้พยาบาลที่มากับรถพยาบาลค่ะ พอเค้ามาถึง จะบอกว่าเค้ามาไวมากกกกกค่ะ ไวแบบไม่น่าเชื่อ จริง ๆ นะคะไม่ได้ประชด ดีมากค่ะระบบความรวดเร็วในการเคลื่อนย้ายของผู้ป่วยที่นี่ มาถึงเค้าก็จะมาพร้อมกับอุปกรณ์ครบครัน เรียกได้ว่าพร้อมใช้ทันทีเลยค่ะ เค้าก็จะภามว่าคนไข้เป็นไง มีโรคอะไร ได้ยาอะไร บลา บลา บลา (เอ่อ ใบยาในมือให้ไปแล้วช่วยอ่านหน่อยได้มั้ยคะ 555)

แล้วก็เอาขึ้นรถพยาบาลไปโรงพยาบาลเลยค่ะ

กล้วยไม้ที่เลี้ยงไว้ในห้องพระค่ะ ออกดอกให้แบบชื่นใจมาก

ทีนี้ถ้าไม่ฉุกเฉินหล่ะ ก็รายงานแพทย์เวรค่ะหรือแพทย์ประจำตัวคนไข้ค่ะ ก็อย่างเช่นคนไข้มีหนาวสั่น ปัสสาวะแสบขัด เราก็ต้องมีข้อมูลให้ครบนะคะว่าต้องรายงานอะไรบ้าง อย่างที่เราเคยรายงานน่ะแหละค่ะ แต่ที่ทำงานอ้อนี่จะเพิ่ม CRP มาค่ะ สำหรับพยาบาลไทยสบายอยู่แล้วค่ะ ไม่มีอะไรที่พยาบาลไทยทำไม่ได้ จึ๋ย จึ๋ย

เรียกได้ว่าต้องนั่งท่องกันเลยทีเดียวก่อนจะรายงานแพทย์ เขียนใส่กระดาษเอ 4 ไว้เลยค่ะ ว่าต้องพูดอะไรเริ่มแรก คำที่ต้องพูดให้ชัดเพื่อไม่ให้ความหมายเปลี่ยน อาการคนไข้ สัญญาณชีพ ยาที่กินอยู่ตอนนี้ที่อาจจะมีผลกับยาใหม่ที่แพทย์จะสั่งอันนี้ควรจะทราบด้วยก็ดีนะคะ ตั้งสติให้มั่น หายใจลึก ๆ เรียกเพื่อนร่วมงานคนนอร์สมาใกล้ ๆ ตัวเพื่อเป็นตัวช่วย เอ๊ย เพื่อเวลาเราฟังไม่เข้าใจจะให้เค้าช่วยฟังด้วย พร้อมแล้วกดเบอร์โทรหาแพทย์เลยค่ะ 555

โทรไปแล้วแพทย์ไม่ว่าง ทำไงดีอ่า ก็รบกวนโทรกลับหน่อยค่ะ ด่วนไม่ด่วนว่ากันไป แหม๋ อุตส่าห์ท่องซะดิบดี แพทย์ดันไม่ว่างซะอีก

เอ้า รอซิคะ ทำไงได้หล่ะเนอะ พอแพทย์โทรกลับมาทีนี้ เพื่อนร่วมงานดันติดคนไข้อีก พี่เลี้ยงก็ยุ่งอยู่ เลยเหลือข้อยคนเดียว 555 ตรู จะดีใจหรือเสียใจดีฟระเนี่ย เอ้า ก็รายงานกันไปค่ะ บลา บลา บลา แพทย์ถามกลับมาคุณมียาตัวนี้แบบกี่มิลลิกรัมนะ อ้าว เว้ย เฮ้ย อูย ตรูหนอตรู ตรูจะรู้ไหมเนี่ย โชคดีทำการบ้านมาก่อนว่ายาตัวนี้มีแบบ....มิลลิกรัม พึ่งสั่งไปวันนี้ค่ะ จะได้พรุ่งนี้ค่ะ 555 สำเร็จ เสร็จโจร ให้มันรู้ซามั่งว่าไผเป็นไผ

เอิ๊ก ๆ สำเร็จไปค่ะกับการรายงานแพทย์ครั้งแรก หลังวางสายแพทย์พึ่งรู้ว่ามือเย็น เหงื่อออกมือ หัวใจเต้นแรง 555

ทำไงได้หล่ะคะ ไม่เคยนี่เนาะ ภาษาเราก็ไม่ได้เก่งนักหนานี่นะ รายงานแพทย์รู้เรื่องก็โอแล้วหล่ะเนอะ

อย่าเครียดนะคะ ถ้าผ่านครั้งแรกได้แล้ว ครั้งสองก็จะมั่นใจมากขึ้นค่ะ ให้กำลังใจสำหรับคนที่กำลังจะเริ่มฝึกงานหรือกำลังฝึกอยู่ค่ะ

ผ่านเรื่องรายงานแพทย์แล้วก็ต้องมีเรื่องอื่น ๆ ให้คุยหรือติดต่อกับเจ้าหน้าที่อื่น ๆ อยู่เรื่อย ๆ ค่ะ คนไข้ที่นี่บางคนจะต้องกลับบ้านหลังมาพักฟื้น เราก็ต้องมีติดต่อกับพยาบาลเยี่ยมบ้าน ทีมดูแลผู้ป่วยตามบ้าน ติดต่ออุปกรณ์ที่คนไข้ต้องใช้ ติดต่อญาติเพื่อมาร่วมประชุมก่อนคนไข้กลับบ้าน เขียนใบสั่งยาแบบมัลติโดส คือแบบสำเร็รูปเหมือนบะหมี่เลยค่ะ เปิดซองปุ๊บพร้อมทานปั๊บยังไงยังงั้นเลยค่ะ

เป็นแบบมื้อต่อมื้อเลยนะคะ เมืองไทยอาจจะมีแล้วก็ได้นะคะแบบนี้น่ะค่ะ

ที่นี่จะมีโทรศัพท์ที่เป็นเบอร์หลักและบอร์รองๆๆลงมาค่ะ คนที่เป็นหัวหน้าเวรก็จะได้ถือเครื่องนี้ค่ะ เพราะก็ต้องติดต่อทั้งภายนอกและภายใน เราก็ต้องมีวันนั้นเหมือนกันค่ะ วันที่ได้ถือโทรศัพท์เบอร์นี้ เล่นเอาเครียดดีแท้พี่น้อง 555 เพราะกลัวว่าจะฟังเค้าไม่รู้เรื่องไงคะ

บางทีทางโรงพยาบาลก็โทรมาเพื่อโอเคเคสคนไข้ จะมีคนไข้มานะ อาการเป็นแบบนี้ๆๆๆ เราก็ถามสิ่งที่จำเป็นไปค่ะ เหมือนเมืองไทยแหละค่ะ อะไรที่เราต้องรู้เวลาที่เค้าโอเคเคสมา แต่ไอ้ที่เราไม่รู้นี่คือคำศัพท์ค่ะ 555

ก็ต้องทำการบ้านกันต่อไปค่ะ

เวลาเราอยู่เมืองไทยเราก็จะมี Incharge,member ใช่ป่ะคะ เราก็จะได้แบ่งงานกันถูก แต่ที่นี่ไม่มีค่ะ เล่นเอางง ตอนแรกนึกว่าคนที่มาเช้าสุดที่ต้องมาอ่านจากคอมพิวเตอร์เวลาส่งเวรจะเป็นอินชาร์จ แต่ไม่ใช่ค่ะ บอกไม่ถูกว่าแบ่งยังไง คือแบ่งตามคนไข้ค่ะ ใครได้คนไข้คนไหนก็ทำไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ช่วยกันนะคะ ก็ช่วยกันอยู่ค่ะ เวลามีหัตถการของพยาบาลเราก็ต้องทำไปค่ะ ผู้ช่วยพยาบาลเค้าก็จะทำงานตามรูทีนของเค้าไป มีปัญหาอะไรก็จะมาบอกเราค่ะ

ย้อนกลับไปที่การตามราวด์แพทย์หน่อยค่ะ พยาบาลประจำกลุ่มที่ 1 ก็จะตามราวด์เฉพาะกลุ่ม 1 กลุ่มใครกลุ่มมันว่างั้นเถอะ บางทีเวลาขึ้นเวร พยาบาลกลุ่ม 2 ขึ้น 2 คน ผู้ช่วย 2 คน ซึ่งผู้ช่วยนี่ก็มีบางคนที่ประจำกลุ่ม 2 บางคนกลุ่ม 1 ในความคิดแล้วพยาบาลแม้จะประจำกลุ่ม 2 แต่ในเมื่อคุณมี 2 แผนกก็ต้องแบ่งความรับผิดชอบสิคะ เคยเจอแบบว่าพยาบาล 2 คนจะไปอยู่กลุ่ม 2 แล้วปล่อยให้ผู้ช่วยอยู่กลุ่ม 1 ที่มีคนไข้หนัก

เลยท้วงไปว่า ควรจะแยกกันนะ ไม่ควรจะไปอยู่กลุ่ม 2 ทั้ง 2 คน ไม่ยุติธรรมสำหรับผู้ช่วยพยาบาล

ปล่อยคนไข้หนักให้ผู้ช่วยดูแล้วคุณก็ไปอยู่กลุ่มคนไข้ไม่หนัก แบบนี้ไม่เวิร์คค่ะ

บางมุมจากเมืองสตาร์วางเงอร์ค่ะ

อิอิ ได้ผลค่ะ เค้าเลยแบ่งกันครึ่ง พยาบาล1ผู้ช่วย1 แต่เวลาทำงานพยาบาลคนนี้ก็จะบอกว่า ชั้นไม่เคยอยู่กลุ่ม 1 เลย ไม่ค่อยรู้จักคนไข้เท่าไหร่ เธอช่วยชั้นหน่อยละกันนะ จ๊ากกก อะไรกันคะคู๊ณณณ คนไข้ที่มีอยู่นี่ไม่ยากเลยค่า มีคนไข้ 7 คน แทบจะช่วยเหลือตัวเองได้หมด แค่ 1 คนที่ NR แล้ว ก็แค่แวะไปดูบ่อย ๆ แค่นั้นเอง สัญญาณชีพก็ไม่ต้องวัด น้ำเกลือก็ไม่มี ยาฉีดก็ไม่มี มันยากตรงไหนเนี่ยยย

เฮ้อ ขออภัยค่ะ แอบนินทา 555 แหม๋ ก็มันจริง ๆ นี่คะ เราเป็นพยาบาลเราก็ต้องรู้ใช่มั้ยคะว่าควรจะอยู่กับคนไข้แบบไหน ถ้าเราขึ้นคนเดียว กับผู้ช่วยอีก 3 คน อีกฝั่งมีคนไข้หนักเราก็ต้องอยู่ฝั่งคนไข้หนักสิคะ แต่ถ้าทั้งสองฝั่งมีหนักทั้งคู่เราก็จะบอกผู้ช่วยว่าเรียกเรานะเวลาจะไปทำอะไรกับคนไข้หนัก เราจะไปช่วย แบบนี้มันทำให้เพื่อนร่วมงานเชื่อมั่นในตัวเรา รู้สึกปลอดภัยว่ามีพยาบาลคอยช่วยอยู่นะถ้ามีไรเกิดขึ้น

ก็อีกหล่ะคะ เคยเจอเหมือนกันที่พยาบาลไปอยู่ฝั่งสบาย ปล่อยคนไข้หนักให้ผู้ช่วยดูซึ่งตอนนั้นเป็นเราขึ้นเวร ตอนนั้นพูดอะไรไม่ออก 555 เพราะเค้าคิดว่าเราเป็นพยาบาลไงคะ ไม่ใช่ผู้ช่วย ซึ่งจริง ๆ เวรวันนั้นที่ขึ้นเป็นตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาล ให้เราทำน่ะทำได้ สรุปคือเราเรียกเธอมาดูคนไข้แทบทุกชั่วโมง จนเธอแอบบ่น เราก็เลยบอกว่าก็บอกแล้วว่าให้อยู่กลุ่มนี้ซะ จะได้ไม่ต้องถูกเรียกบ่อย เหอๆๆๆ (เหมือนสะใจยังไงไม่รู้ค่ะ 555) ก็ไม่ชอบคนทำงานเอาเปรียบนี่คะ

แต่ถ้าเออ มีหลายตึก พยาบาลขึ้นคนเดียว มีคนไข้หนักอยู่กระจายกันไปแต่ละตึกก็อีกกรณีนึง มันคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่ที่ทำงานนี้ยังไงพยาบาลก็ต้องอยู่ประจำที่นี่อยู่แล้ว ถ้าจะขึ้นฝั่งที่ไม่เคยขึ้นเลย คิดในแง่บวกมันก็ทำให้เรารู้จักคนไข้มากขึ้น ได้รู้โรคที่อาจจะยังไม่เคยรู้หรือไม่ค่อยได้เจอ ได้รู้จักยาเพิ่มขึ้น มันก็เป็นข้อดีสำหรับเราไม่ใช่เหรอคะ แต่มาคิดอีกทีเค้าคงจะคิดไม่เหมือนเรานะคะ คงจะคิดว่าเคยอยู่กลุ่มไหนชั้นก็จะอยู่กลุ่มนั้น ไม่ใช่หน้าที่ที่ชั้นจะต้องมาเปลี่ยนหรือรับผิดชอบนี่ เหมือนเค้ากลัวที่จะรู้จักคนไข้ใหม่ยังไงไม่รู้ ไอ๋หย๋า งงค่ะ