การสำรวจล่าสุดพบคนไทยควักกระเป๋าซื้อแอปพลิเคชันเพื่อใช้บนอุปกรณ์พกพามากขึ้นต่อเนื่อง โดยไทยเป็นประเทศอันดับ 19 ที่มียอดการซื้อแอปพลิเคชันสูงสุดในโลก เป็นรองเพียงสิงคโปร์ในฐานะประเทศอาเซียนที่ยอดการซื้อแอปพลิเคชันติดอันดับโลกเช่นกัน สถิติระบุด้วยว่าไทยเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่มีอัตราการเติบโตของยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเกมสูงสุดทั้งในกลุ่มอุปกรณ์ไอโอเอสและแอนดรอยด์ ขณะที่อินโดนีเซียขึ้นแชมป์ประเทศที่มียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเกมเติบโตมากที่สุด
ปรีชา ไพรภัทรกุล ประธานและซีอีโอบริษัทมอล แอคเซสพอร์ทอล (MOL AccessPortal) กล่าวถึงข้อมูลจากงานแคชชวลคอนเน็ก 2012 (Casual Connect 2012) ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 24 ถึง 26 ก.ค. ที่ผ่านมาว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่มียอดการซื้อแอปสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยติดอันดับ 12 ของโลก นำหน้าประเทศไทยที่อยู่ในอันดับ 19 โดยเป็นข้อมูลจากบริษัท App Annie ผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์อุตสาหกรรมดาวน์โหลดและจำหน่ายแอปผ่านร้านออนไลน์ทั้ง iTunes App Store และ Google Play
รายงานจาก App Annie นั้นแบ่งผลสำรวจตลาดแอปออกเป็น 2 ส่วน คือข้อมูลรายได้จากยอดซื้อแอปและยอดดาวน์โหลด (รวมทั้งแอปฟรีและจำหน่าย) โดยในกลุ่มผู้ใช้อุปกรณ์ของแอปเปิล ประเทศที่ผู้ใช้อุปกรณ์ระบบปฏิบัติการไอโอเอสยอมจ่ายเงินซื้อแอปมากที่สุดช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาคือ สหรัฐอเมริกา รองลงมาคือ ญี่ปุ่น อังกฤษ ออสเตรเลีย และแคนาดา ส่วนชาติในอาเซียนอย่างสิงคโปร์อยู่ในอันดับที่ 12 และไทยอยู่ในอันดับที่ 19
หากมองเป็นภูมิภาค ทวีปอเมริกาครองส่วนแบ่งตลาดซื้อขายแอปถึง 47% ตามด้วยเอเชียแปซิฟิก 35% และยุโรป 18%
ในกลุ่มประเทศที่มียอดผู้ดาวน์โหลดสูงสุด (รวมทั้งแอปฟรีและคิดค่าบริการ) 5 อันดับแรกได้แก่ สหรัฐอเมริกา, จีน, ญี่ปุ่น, สหราชอณาจักร และ ฝรั่งเศส ส่วนประเทศไทยติดอันดับ 11 ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน การดาวน์โหลดแอปกลุ่มนี้ ประเทศในกลุ่มเอเชียแปซิฟิกมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 44% ตามด้วยทวีปอเมริกา 34% และยุโรป 22%
แม้ประเทศในกลุ่มเอเชียแปซิฟิกจะมีพฤติกรรมนิยมดาวน์โหลดแอปฟรีมากกว่าใคร แต่เอเชียแปซิฟิกก็มีสัดส่วนการเติบโตและมีส่วนแบ่งการตลาดไม่น้อย ทำให้แนวโน้มในอุตสาหกรรมแอปสะท้อนออกมาอย่างชัดเจนว่า เอเชียแปซิฟิกนั้นเป็นตลาดที่น่าสนใจมากเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นทั่วโลก
ปรีชากล่าวว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ประชากรยอมควักเงินซื้อแอปราคาแพงที่สุด เพราะถูกบันทึกว่ามียอดใช้จ่ายต่อดาวน์โหลดสูง 1.9 เหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นแอปประเภทเกมบนไอโอเอส (ข้อมูลเดือนพ.ค. 2555)
ตัวเลขยอดใช้จ่ายต่อแอป 1.9 เหรียญสหรัฐนั้นสูงกว่าของชาวอเมริกันถึง 3 เท่าตัว (0.6 เหรียญ) ในขณะที่จีนครองแชมป์นักดาวน์โหลดแอปราคาถูก เพราะถูกจัดให้อยู่ในอันดับต่ำที่สุดด้วยมูลค่า 0.07 เหรียญสหรัฐต่อแอป
การสำรวจยังพบอีกว่า สถิติยอดดาวน์โหลดและยอดจำหน่ายแอปสำหรับไอโฟนนับตั้งแต่ไอโฟน 4 เปิดจำหน่ายในมิ.ย. 2553 ถึงปัจจุบันมีการเติบโตขึ้นถึง 2 เท่าตัวในระยะเวลา 2 ปี เช่นเดียวกัน ยอดจำหน่ายแอปสำหรับไอแพดก็มีสัดส่วนเติบโตสูงมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยพบว่าเติบโตถึง 4 เท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของ 2 ปีก่อน
นอกจากนี้ App Annie ยังได้เปรียบเทียบยอดจำหน่ายและยอดดาวน์โหลดแอป ระหว่างร้านของแอปเปิลและกูเกิล (App Store และ Google Play) โดยพบว่าร้านของแอปเปิลมีส่วนแบ่งตลาดสูงกว่ากูเกิลในหลายประเทศ โดยเฉพาะ 3 ประเทศที่อยู่ในท็อป 3 ของตาราง ซึ่งสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นมียอดดาวน์โหลดแอปจากแอปสโตร์สูงกว่า มีเพียงอังกฤษเท่านั้นที่ยอดการดาวน์โหลดจากร้านกูเกิลเพลย์มีสูงกว่า
การสำรวจครั้งนี้ยังพบว่าไทยติดอันดับกลุ่มประเทศที่มียอดดาวน์โหลดและยอดซื้อแอปเกมสูงสุดทั้งแอปสโตร์และกูเกิลเพลย์ โดยจากข้อมูลของ App Annie พบว่าระหว่างเดือนม.ค.-มิ.ย.2555 อัตราการเติบโตของรายได้จากการดาวน์โหลดแอปเกมบนร้านแอปเปิลของคนไทยมีสัดส่วนสูงถึง 163%
นอกจากไทย ประเทศอย่างอินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ยังเป็น 4 ประเทศในอาเซียนที่สามารถติดอันดับท็อป 5 ประเทศที่มีอัตราการเติบโตยอดดาวน์โหลดเกมสูงสุดด้วย โดยอินโดนีเซียนำโด่งเป็นจ่าฝูงทั้งกลุ่มผู้ใช้แอปไอโอเอสและแอนดรอยด์ และทั้ง 4 ประเทศสามารถแซงหน้าเบลเยี่ยมที่ครองอันดับ 5 ถือเป็นการสะท้อนให้เห็นทิศทางการเติบโตของตลาดแอปเกมในอาเซียนอย่างแท้จริง |
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [