Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
23 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
Oil Futures น่าสนใจอย่างไร ตอนที่ 5

       โดยดร.กิตติพันธ์ คงสวัสดิ์เกียรติ
       
       ใช้เงินลงทุนน้อย
       
       การซื้อขาย Oil Futures นั้นเป็นเสมือนการทำสัญญาจะซื้อจะขาย คือยังไม่มีการซื้อขายน้ำมันดิบกันจริงผู้ลงทุนจึงไม่ต้องจ่ายเงินเต็มมูลค่าสัญญาในวันที่มีการทำสัญญา แต่ผุ้ลงทุนเพียงแค่วางเงินหลักประกันก่อนจึงเริ่มต้นทำการซื้อขาย หรือที่เรียกว่า “เงินหลักประกันขั้นต้น (Initial Margin)” ซึ่งคิดเป็นมูลค่าแค่ประมาณ 10 - 15 % ของมูลค่าสัญญาเท่านั้น ดังนั้น เงินกำไรหรือขาดทุนที่ได้จากการซื้อขายฟิวเจอร์ส จึงคิดเป็นสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับเงินทุนเริ่มแรก เพราะเป็นเงินที่ลงทุนในจำนวนที่น้อย ผลตอบแทนจึงสูง (โอกาสในการขาดทุนก็สูงเช่นเดียวกัน)
       
       ทุกการเคลื่อนไหว...คือโอกาสทำกำไร 
       
       Oil Futures สามารถใช้ในการทำกำไรได้ทั้งสองทาง ไม่ว่าราคาจะขึ้นหรือลง หากคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น ให้ใช้หลัก “ซื้อก่อน ขายทีหลัง” เช่นเดียวกับการซื้อขายตามปกติ แต่ถ้าหากเราคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะลดลง เราจะใช้หลัก “ขายก่อน ซื้อกลับทีหลัง” หากราคาน้ำมันลงจริง ผู้ขายจะได้กำไรตามส่วนต่างของราคาที่ลดลง เหมือนกับการขายแพง แล้วซื้อถูกนั่นเอง
       
       ซื้อขายได้ จนถึงสี่ทุ่มครึ่ง
       
       ผู้ลงทุนสามารถซื้อขาย Oil Futures ได้ ทั้งในการซื้อขายรอบเช้า กลางวัน และกลางคืน โดยในการซื้อขายภาคกลางคืนซึ่งสิ้นสุดในเวลาสี่ทุ่มครึ่งนั้น เป็นเวลาที่คาบเกี่ยวกับการซื้อขายในตลาดสำคัญๆในทวีปยุโรปและทวีปอเมริกา ทำให้ผู้ลงทุนสามารถเกาะติดการเคลื่อนไหวในตลาดโลก และสามารถปรับเปลี่ยนพอร์ตลงทุนได้อย่างทันท่วงที
       
       กระจายความเสี่ยง
       
       ราคา Oil Futures มีการเคลื่อนไหวที่ไม่สัมพันธ์กับราคาหุ้นมาก หรืออาจกล่าวได้ว่าราคาของOil Futures และหุ้นจะไม่ค่อยขึ้นหรือลงพร้อมกัน ผู้ลงทุนจึงสามารถใช้ Oil Futures ในการกระจายการลงทุน ทำให้พอร์ตลงทุนมีความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นลดลง เพราะในระหว่างที่หุ้นมีราคาขึ้น ราคา Oil Futures ก็จะมีราคาที่ลดลง และหากหุ้นมีราคาที่ลดลง Oil Futures ก็จะเพิ่มขึ้นนั่นเอง
       
       ในส่วนของตลาดหุ้นไทย พบว่า ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ระหว่างดัชนี SET50 Index และราคา Brent Oil Futures ในช่วง 2550 ถึงต้นปี 2554 มีค่าประมาณ 30% ซึ่งถือว่าการเคลื่อนไหวของทั้งคู่ ไม่ค่อยมีความสัมพันธ์กัน พอร์ตลงทุนที่มีทั้ง SET50 Index และ Oil Futures จึงมีความเสี่ยงของผลตอบแทนน้อยกว่าพอร์ตลงทุนที่ลงทุนเพียงแค่ใน SET50 Index เพียงอย่างเดียว บริหารต้นทุน
       
       ในอดีต ผู้ประกอบการรายย่อยที่มีต้นทุนด้านพลังงานจากราคาน้ำมันดิบในสัดส่วนที่สูง แต่ไม่สามารถเข้าถึงเครื่องมือบริหารความเสี่ยงได้อย่างสะดวก ดังนั้นการเปิดซื้อขาย Oil Futures จึงเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถบริหารจัดการต้นทุนราคาน้ำมันได้อย่างสะดวกและง่ายดาย ส่งผลให้สามารถประมาณการต้นทุนทางธุรกิจได้ดีขึ้น โดยหากผู้ประกอบการคาดว่าราคาน้ำมันดิบในอีก 1 เดือนข้างหน้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการก็สามารถซื้อ Oil Futures ที่ครบกำหนดในอีก 1 เดือนข้างหน้า หากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจริง ผู้ประกอบการก็จะได้กำไรจาก Oil Futures ไปชดเชยกับต้นทุนที่เกิดขึ้นจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้น ผู้ประกอบการจึงมีต้นทุนที่คงที่แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะผันผวนก็ตาม
       
       ที่มา เอกสารของตลาดอนุพันธ์ //www.tfex.co.th


Create Date : 23 กรกฎาคม 2555
Last Update : 23 กรกฎาคม 2555 7:28:10 น. 0 comments
Counter : 1192 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ยี่สิบห้าเดือนเจ็ด
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






Friends' blogs
[Add ยี่สิบห้าเดือนเจ็ด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.