บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าภาพรวมแนวโน้มธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลในปี 2556 คาดว่าจะขยายตัวในอัตราชะลอลงมาที่ระดับ 9-13% คิดเป็นยอดคงค้างสินเชื่อรวม 2.75-2.85 แสนล้านบาท เนื่องจากประเมินว่าแม้ความต้องการสินเชื่อในปีนี้ จะยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลของมาตรการรัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มอำนาจซื้อให้ประชาชนในปี 2555 โดยที่ผลของมาตรการบางส่วนยังส่งผลต่อเนื่องมายังปี 2556
แต่การส่งสัญญาณเตือนของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับการเร่งระดับขึ้นของหนี้ครัวเรือน รวมถึงขอความร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์ ให้ลดการโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการก่อหนี้ของลูกหนี้รายย่อย คาดว่าจะส่งผลโดยตรงต่อผู้ให้บริการสินเชื่อในการกำหนดแนวทางการขยายพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคลอย่างระมัดระวังมากขึ้น
โดยมองว่า สถาบันการเงินจะมุ่งเน้นการรักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีประวัติดี ทั้งด้วยการจัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า เช่น อัตราดอกเบี้ยที่จูงใจ หรือในรูปคะแนนสะสมเพื่อแลกของกำนัล
ส่วนการขยายฐานลูกค้าใหม่นั้น คาดว่าจะมีความเข้มงวดในเรื่องคุณสมบัติลูกหนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลให้การแข่งขันเรื่องราคาหรือการลดดอกเบี้ยเป็นการทั่วไปในปีนี้จะลดน้อยลง แต่จะหันไปเน้นทำการตลาดในรูปแบบอื่น ๆ เช่น การส่งเสริมการขายพิเศษสำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Selective Customers) เป็นต้น
ด้วยกระบวนการเฝ้าระวังความเสี่ยงอย่างใกล้ชิดมากขึ้น จะส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจ ในการควบคุมระดับหนี้เสียให้ไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกินขีดความสามารถในการบริหารจัดการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในปีนี้ ยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง ขณะที่เงินเฟ้อก็ไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมาก จนกระทบต่อกำลังซื้อของครัวเรือนในวงกว้าง รวมถึงดอกเบี้ยที่ทรงตัว ก็น่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยประคับประคองความสามารถในการชำระหนี้ ให้ยังคงอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวลนัก