Sex and the City ฉบับ Uncut ..คงเสียอารมณ์กับฉากโดนยาหม่องไม่น้อยถ้าดูในโรงหนัง ว่าจะไปดูในโรงตั้งแต่ตอนฉายใหม่ๆ แต่มีอันให้ดวงไม่สมพงษ์กับ Sex and the City ฉบับภาพยนตร์ หนังออกจากโรงเร็วจนตามไม่ทัน เพราะคนดูคนไทยส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่แฟนคลับจากทีวีซีรี่ส์คงไม่อินเท่าไร และที่แน่ๆ ฉาก XXX ทั้งหลายคงโดนยาหม่องหรือม่ายก็โดนหั่นกระจุย... อย่าถามเลยว่าได้ดูจากไหน เอาเป็นว่าเวอร์ชั่น uncut ก็แล้วกัน...พาลรู้สึกดีใจที่พลาดจากในโรง เพราะคงเสียอารมณ์พิลึกถ้าฉากเหล่านั้นถูกตัดออกไป เพราะมันเป็นคาแรคเตอร์ของ Sex and the City ตั้งแต่สมัยเป็นทีวีซีรี่ส์ ที่ต้องมีฉากกึ่งเปลือย และฉากเซ็กซ์แบบล่อแหลมให้กระชุ่มกระชวยอยู่เป็นระยะ.. อาศัยว่าเราเป็นแฟนของสี่สาว แครี่ ชาร์ลอต มิแรนด้า และแม่สาวซ่า ซาแมนธ่า มานาน.. ก็เลยติดตามชมด้วยอารมณ์ขันๆ และคันๆ อย่างคุ้นเคยราวกับได้พบเพื่อนเก่าที่จากกันไปนานนม หากแต่คนดูทั่วไปที่ไม่เคยติดตามซีรี่ส์นี้ทาง HBO มาก่อน ก็ค่อนไปทางสงสัยว่าจะเก็ตเรื่องราวอย่างแฟนคลับขาประจำได้อย่างไร ถึงแม้จะมีอินโทรของความเป็นมาเล็กน้อยจากช่วงไตเติ้ลของหนังก็ตาม และด้วยเสน่ห์ของทีวีซีรี่ส์ที่เสมือนติดตามชีวิตประจำวันที่ผันไปตามสถานการณ์ของสี่สาว กลับกลายเป็นโจทย์ที่นำมาทำหนังใหญ่ได้ไม่ง่ายนัก มันไม่เหมือน X-Files ที่แค่สร้างเคสที่ซับซ้อนอลังการใหม่ขึ้นมาสักอัน ก็พาหนังให้ดูสมบูรณ์ขึ้นในแง่ฉายโรงได้ (แต่คราวที่แล้วก็ไม่ชวนปลื้มเท่าไรดอกนะ) แต่ประเด็นการลงเอยของมิสเตอร์ Big กับแครี่ด้วยการแต่งงาน ก็นับเป็น Conflict ได้ไม่เลว โดยเฉพาะกับคนดูที่เป็นแฟนขาประจำ เพราะจะเข้าใจทัศนคติและพฤติกรรมของทั้งคู่มาก่อนจากทีวีซีรี่ส์ ว่าเป็นเรื่องที่ค้านกับค่านิยมของทั้งสองจริงๆ ส่วนคนดูทั่วไปจะรู้สึกยังไง..ก็เหลือจะคาดเดา..คงเง็งๆ ไปตามสมควร ที่แน่ๆ คือศักยภาพในการนำเสนอความเป็นเมืองแฟชั่นของนิวยอร์คทำได้เริ่ดสะแมนแตนเป็นอันมาก ดูของสวยๆ งามๆ จนเพลิน โดยเฉพาะฉากถ่ายภาพชุดแต่งงานของแครี่ที่ทำได้เจิดจรัส เล่นเอาหนังเกี่ยวกับแฟชั่นโดยตรงอย่าง The Devil wears Prada ไม่ติดฝุ่นไปเลย... เอาแค่ชุดของสี่สาวก็ยิ่งกว่าได้ชมแฟชั่นโชว์ของดีไซเนอร์ชื่อดังระดับโลกรวมกันในที่เดียว ไดอะล็อกมันๆ เก๋ๆ เหมือนสมัยทีวีซีรี่ส์ได้กลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง แต่หากพอขึ้นจอเงินแล้วความขลังของมันอาจจะดูลดลงไปบ้าง คงเพราะแนวทางการเขียนบทแบบนี้อาจจะเหมาะกับคอมเมดี้ซีรี่ส์ดูในทีวีมากกว่า แต่ในฐานะแฟนคลับ ข้าพเจ้าก็เพลิดเพลินกับลีลาเสวนาของสี่สาวได้อย่างอินไม่น้อย พาลนึกไปถึงวิธีเขียนบทของหนังไทยๆ จะหาคนมีรสนิยมในการโปรยมุกเกร๋ๆ แบบนี้ได้ที่ไหนหนอ... ที่ชอบคือ การเอาประเด็นทั้งความรักและเซ็กซ์ซึ่งพัวพันกับมนุษย์ทุกผู้ทุกนามนำมาเล่นได้อย่างกลมกลืน และดูเป็นอุทาหรณ์ในชีวิตได้เป็นอันดี ถึงแม้จะมีฉาก XXX ให้ชวน...ว้าว...(ออกจะล้นๆ อยู่บ้าง) ไม่น้อย แต่ก็เป็นชูรสอันดีให้กับสไตล์ของเรื่องที่ยังคงบุคลิกภาพในความล่อแหลมทำนองนี้... โดยเฉพาะฉากพ่อหนุ่มล่ำเพื่อนบ้านซาแมนธ่าที่ยืนเปลือยอาบน้ำให้ท่า แบบเห็นไส้กรอกเยอรมันกวัดแกว่งวับๆ แวมๆ ล่อบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ให้หัวทิ่มหัวตำนั้น คงทำให้สาว(และหนุ่ม?)ไทยได้กรี๊ดสนั่นโรงเป็นแน่... นี่ยังไม่รวมฉากที่ตาคนนี้โชว์ลีลาเมคเลิฟกับแฟนสาวอย่างไม่อายฟ้าดินอีกเพียบ แหะๆ...คงพอจิ้นออกสินะว่าทำไมไม่สมควรไปดูในโรง.... แต่แปลกแฮะ แม่ซาแมนธ่าจอมซ่ากลับไม่กล้าเล่นเลิฟซีนโจ๋งครึ่มกับแฟนหนุ่มให้ชม มีผ้าห่มผ้าผวยพันเนื้อตัวให้ขัดใจเล่นซะงั้น....ขณะที่มิแรนด้าและสตีฟใจกล้าบรรเลงกระหน่ำกว่าเยอะ.... แต่เอาเหอะ..หล่อนก็ยังมาดมั่นโชว์ความอึ๋ม(ในวัยห้าสิบ)..กับฉากเปลือยบนโต๊ะอาหารแถมด้วยซูชิวางเรียงรายบนร่างรอเป็นของขวัญวาเลนไทน์ให้แฟนหนุ่ม?? หนังฝรั่งถึงจะ Commercial จ๋าขนาดไหน ก็ยังคงมีชั้นเชิงในการเล่าเรื่อง และมักจะให้คติดีๆ เป็นแง่คิดในเรื่องการใช้ชีวิตอยู่เสมอ Sex and the City ภาคหนังนี้ก็ยังคงคุณค่านี้อยู่เช่นเคย ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะแม่สี่สาวที่รัก...หวังว่าคงจะได้เจอกันอีกครั้งไม่นานเกินรอ....   Create Date : 16 สิงหาคม 2551 7 comments Last Update : 16 สิงหาคม 2551 14:28:43 น. Counter : 3698 Pageviews. Share Tweet

ขอบคุณก๊าบที่ไปเยี่ยม อยากจะบอกว่าเบื่อหนังโรงตอนโดนหั่นเนี้ยะละก๊าบ จะเซ็นเซอร์อะไรนักหนาเน้อะ ชีวิตจริงทั้งนั้น   โดย: หมอภัทร (patra_vet ) 17 สิงหาคม 2551 11:25:12 น.

ในฐานะที่เสมือนเป็นเพื่อนเก่าของสี่สาว ทุกๆ สาวเขาก็มีฉากหวือหวาออกมาโชว์กันหมดแล้ว แล้วพี่หมีอ้ะ ปล. ไมค์พี่หมีอ้ะ ที่ว่า 380 มันเป็นยังไงครับ ผมก็เคยลงทุนตั้ง 450 มันก็ไม่เวิร์คครับ เสียบเข้าไปแล้วเสียงมันไม่ออกเลย สงสัยเป็นที่ sound on board ของ notebook ด้วยแหล่ะครับ   โดย: ทายาทตระกูลหยี 19 สิงหาคม 2551 19:33:47 น.

ตอบเรื่องไมค์ครับ อิอิ ของผมก็ซื้อจากอมรครับ สาขาดิโอลด์สยามใกล้บ้านครับ ตอนซื้อเขาก็ให้ลอง แต่เขาลองกับ amp ที่ร้าน เสียงมันก็ใช้ได้ แต่พอเอามาต่อกับ notebook เสียงแทบจะไม่มี อู้อี้อีกต่างหาก ..เศร้า ส่วนไมค์ 100 เดียวของผม noise มันเยอะครับ พอ reduce noise เข้าไป เสียงมันจะโหวงเหวงชอบกลครับ แล้วเวลาขึ้นเสียงสูงๆ เสียงมันบาดหูยังไงไม่รู้ครับ   โดย: ทายาทตระกูลหยี 21 สิงหาคม 2551 0:50:22 น.

ตอบตรงนี้ก็แล้วกาน.. คิดว่าน้องต๋องคงต้องซื้อไมค์ดีๆ ไปเลยจะดีฝ่า อย่าง shure อะไรหยั่งเงี้ยะ... ตอนแรกก็ว่าจะลงทุนเหมือนกัน มัวแต่ขี้เหนียว..ตอนนี้งบหมดแระ... กะว่าจะซื้อคอมพ์ใหม่เลยทีเดียว... ปล่อยให้สี่สาวเขาหวือหวากันต่อไปเหอะ ขืนพี่หมีทำเปรี้ยวขึ้นมาเดี๋ยวบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลายจะขายไม่ออก   โดย: พี่หมี (Bkkbear ) 21 สิงหาคม 2551 14:41:19 น.

จะรอดูฉากวาบหวิวเนี่ยแร่ะ   โดย: หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท 22 สิงหาคม 2551 15:14:43 น.

แวะมาส่งหลังไมค์ให้พี่หมีอ่า อิอิ   โดย: mantis (yokee_playman ) 22 สิงหาคม 2551 19:32:33 น.

อ่า...ทนเสียงเรียกร้องของแฟนนางงอมรุ่นเกร๋ไม่ไหวแล้วฮ่ะ มารายงานตัวแร้วนะฮร้า....   โดย: Nagano 25 สิงหาคม 2551 2:50:57 น.