|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
24 กันยายน 2557
|
|
|
|
การทำงานของแม่ปั๊มเบรค
สวัสดีครับ วันนี้ลองมาดูการทำงานของระบบเบรคกัน โดยเฉพาะแม่ปั๊มเบรคว่ามันทำงานยังไง ซึ่งก็เป็นหลักการง่ายๆไม่ได้ซับซ้อนอะไร ที่เขียนบทความนี้ก็ไม่ให้จะให้ข้อมูลวิชาการอะไรมากเท่าไหร่ แต่จะเอาแบง่ายๆพอเข้าใจ เพื่อที่ว่าคนไม่มีความรู้เรื่องรถเลยอ่านแล้วพอจะเข้าใจได้บ้าง
เผื่อเวลาเอารถไปซ่อมในเรื่องของเบรค จะได้พอนึกภาพออกเวลาที่ช่างอธิบายว่าจะทำอะไรกับรถของเราบ้างครับ ก่อนอื่นมาดูหน้าตาของแม่ปั๊มเบรคกันก่อนว่าหน้าตาประมาณไหน ตามรูปเลยครับ มีกระป๋องน้ำมันเบรคอยู่ด้านบนส่วนด้านล่างเป็นโลหะสีขาวๆเป็นชุดไฮโดรลิคที่เรียกว่าชุดแม่ปั๊มเบรค
แม่ปั๊มเบรคเป็นชุดไฮโครลิคที่ถูกนำมาใช้กับรถยนต์ ที่เห็นได้ชัดๆก็คือเบรค เพราะเบรคทุกคนต้องรู้จักแน่นอนทุกคนที่ขับรถเป็นต้องเคยใช้แน่นอน นั้นเพราะมันเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับชลอความเร็วหรือหยุดรถของเรานั่นเอง ส่วนหน้าตาและอุปกรณ์ที่นำมาใช้ประกอบเป็นระบบเบรคนั้น มีหน้าตาอย่างไรและมันอยู่ตรงไหนเราลองมาดูกันครับ แม่ปั๊มเบรคมีกันอยู่สองแบบ1.แบบแม่ปั๊มเดี่ยว (single) แม่ปั๊มเดี่ยวตัวก็จะสั้นๆมีชุดลูกสูบแค่ชุดเดียวเมื่อเวลาเราเหยียบเบรค ลูกสูบก็จะไปดันน้ำมันให้ไปผลักชุดสูกสูบของเบรคแต่ละล้อให้ทำงาน ผ้าเบรคก็จะจับพร้อมกันหนักเบาอยู่ที่น้ำหนักที่เรากดลงไปด้วย แต่ระบบแบบนี้ปัจจุบัญแทบจะไม่เห็นเลยเพราะข้อด้อย คือถ้าเมื่อไหร่ระบบมีการรั่วเบรคก็จะไม่ทำงานทั้งสี่ล้อคือเบรคหายไปเลย มันจึงไม่ค่อยปลอดภัยในการนำมาใช้งาน
2.แม่ปั๊มแบบคู่ (double) แบบนี้มีการทำงานแยกออกจากกันเป็นอิสระต่อกันเป็นสองวงจรแยกชัดเจน จะว่าทำมาเพื่อแก้ปัญหาของแบบเดี่ยวเลยก็ว่าได้ คือเมื่อระบบมีการรั่วระบบนึงทำงานไม่ได้แต่อีกระบบนึงยังคงสามารถทำงานได้อยู่ เราก็จะยังมีโอกาสที่จะหยุดรถได้ จึงเพิ่มความปลอดภัยให้ขับผู้ขับขี่มากขึ้นนั่นเอง แบบนี้จึงเป็นแบบที่ใช้อย่างแพร่หลายจนปัจจุบัน
ทีนี้พอรู้จักแม่ปั๊มเบรคแล้วเราก็มาทำความรู้จักเบรคกัน เบรคก็มีด้วยกันสองแบบ-แบบแรกเป็นดิสเบรค ดิสเบรคน่าจะเป็นที่รู้จักกันดีเพราะรถส่วนใหญ่จะมองเห็นเจ้าดิสเบรคได้ชัดเจนจากล้อคู่หน้า ยิ่งถ้าใส่แม๊กแต่งหน่อยก็จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าหน้าตาหล่อเพียงใด การทำงานก็ไม่มีอะไรซับซ้อนเพราะเมื่อเราเหยียบเบรค น้ำมันจากแม่ปั๊มก็จะมาดันลูกสูบให้ไปกดผ้าเบรคด้านที่ติดกับลูกสูบ ไปชนจานดิสด้านหนึ่งทางฝั่งลูกสูบส่วนผ้าอีกฝั่งหนึ่งจะถูกคาร์ริปเปอร์กด ทำให้ผ้าเบรคทั้งสองบีบเข้าหากันแล้วกดจานเบรคเกิดความฝืดและความร้อน ล้อก็จะหยุดหมุน
-แบบที่สองเป็นดรัมเบรค อันนี้จะมองเห็นแค่เห็กกลมๆถ้าใครไม่รู้จักก็จะไม่รู้ว่ามันคืออะไร หลักการก็จะใช้วิธีดันลูกสูบที่อยู่ตรงกลางมีแกนต่อไปชนกับผ้าเบรคทั้งสองข้าง ถ่างออกพร้อมๆกันผ้าเบรคก็จะถูกดันให้ไปผลักกับขอบดรัม เกิดความฝืดและความร้อนล้อก็จะหยุดลงได้เช่นกัน
ที่มา://thaioverdrive.blogspot.com/2014/09/blog-post.html
Create Date : 24 กันยายน 2557 |
Last Update : 24 กันยายน 2557 22:34:36 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1720 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
EDM |
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
สวัสดีเพื่อนๆที่มาเยี่ยมชมครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบศึกษาสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ แม้สิ่งนั้นจะไม่รู้มาก่อนแต่ต้องใช้สติในการเรียนรู้ เพราะโอกาสมีทุกๆที่ๆเราไปไม่ว่าสิ่งนั้นจะดูไม่น่าสนใจก็ตาม เพราะอย่างน้อยเราจะได้รู้และเข้าใจสิ่งนั้นเพิ่มขึ้นนะครับ "ปัญหาไม่ใช่ปัญหาถ้าตัวเราไม่เป็นปัญหาเสียเอง"
|
|
|