+++++ ฤา หนังสือจะถึงคราอวสาน +++++ หลังจากที่ Ipod ได้ปฏิวัติวงการดนตรีด้วยการจับมือกับค่ายเพลงต่างๆในการให้ download file Mp3 ทำเอายอดขาย CD ตกวูบแบบกู่ไม่กลับ กระเทือนถึงวงการเพลงทำให้ต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอดกันอย่างจ้าละหวั่น ล่าสุดเป็นคิวของวงการหนังสือบ้าง เมื่อ Sony จับมือกับร้านหนังสือยักษ์ใหญ่อย่าง Waterstone ทำการส่ง หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ( eBooks) ออกสู่ตลาดให้เหล่าหนอนนักอ่านได้ยลโฉม ในนาม " Reader from Sony " (เปิดตัววันแรก September 3rd, 2008) สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 199 ปอนด์ หรือประมาน 13000 กว่าบาท... (เหล่า Bibliophile ที่รักหนังสือ คงจะมองด้วยหางตา แล้วเชิดใส่อย่างไม่สนใจใยดี) ... หน้าตาของเจ้า eBooks ที่ว่า ... เจ้า eBooks เล่มนี้สามารถจุหนังสือได้กว่า 160 เล่ม!!! (โอ้!แม่เจ้า) หรือหากคุณคิดว่าแค่นั้นยังไม่จุใจพอ ก็สามารถเพิ่มเนื้อที่สนองตัณหาได้ด้วย Memory Stick Duo (8GB) หรือ SD memory cards (2GB) ให้หนำใจกันไปข้าง อีกทั้งยังสามารถแบ่งเนื้อที่มาใส่ เพลง Mp3s ฟังแก้เครียดระหว่างพักอ่านหนังสือได้อีกด้วย eBooks ทุกตัวจะมาพร้อมกับ CD ที่บรรจุหนังสือระดับ Classic (ที่หมดลิขสิทธิ์แล้ว)กว่า 100 เรื่องฟรี!!! เช่น Bram Stoker's Dracula, Great Expectations, Pride and Prejudice, 20,000 Leagues under the Sea, Romeo and Juliet เป็นต้น (ผมว่ากว่าจะอ่านไอ่ที่แถมมาให้หมดก็แทบแย่แล้วครับ) นอกจากนี้ถ้าถูกใจชื่นชอบ quote หรือ passages ไหนก็สามารถเซฟเก็บไว้อ่านได้ หรือถ้ากลัวจำไม่ได้ว่าอ่านถึงไหนแล้ว เจ้าeBooks ก็ฉลาดพอที่จะบันทึกไว้ว่า คุณอ่านค้างอยู่ที่หน้าไหนเป็นหน้าสุดท้าย ส่วนตัว(ถ้าลบอคติของคนรักหนังสือที่เป็นsubjectiveออกไป เช่น กลิ่นกระดาษ หรือ สุนทรียะในการอ่าน) ผมคิดeBooks นี้ว่ามีประโยชน์และทำให้สะดวกสบายขึ้นมาก เช่นเวลาทำ thesis หรือเวลาเดินทาง ก็ไม่ต้องแบกหนังสือไปหลายๆเล่มให้หนักกระเป๋า พกเจ้า eBooks เครื่องเดียวก็พอ ถือว่าเป็นการปฏิวัติวงการหนังสือครั้งใหญ่ (แม้จะมี ebooks มาให้ download อ่านอยู่ก่อนบ้างประปรายก็ตาม แต่ก็มิอาจเทียบกับเจ้าตัวนี้ได้แม้ซักกะพีก) และเมื่อยักษ์ใหญ่ในวงการอย่าง Waterstone โดดลงมาเดินเกมส์ด้วยตนเอง แน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบอย่างมิอาจปฏิเสธได้ ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาในใจหนอนหนังสือตัวน้อยๆอย่าเราว่า ในอนาคตวงการหนังสือจะเป็นเช่นไร ทั้งนักเขียน นักอ่าน แม้กระทั่งสำนักพิมพ์ หรือร้านหนังสือเองจะเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบไหน อย่างไร.. แม้แต่ Carl Marx เองยังยอมรับว่า " การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมชาติ " วงการหนังสือเองก็คงไม่มีข้อยกเว้นตามตรรกะที่ว่าข้างต้น ชวนให้คิดมากๆครับว่า " ฤา หนังสือ(เป็นเล่ม)จะถึงกาลอวสานแล้ว " ปล. แต่สำหรับคนที่มีปัญหาการอ่านหนังสือจากหน้าจอคอมแล้วไม่ค่อยจำ และ(คิดว่า)เป็นโรคจิตชอบดมกลิ่นกระดาษหนังสืออย่างผม ก็คงจะยังอยู่กับหนังสือที่มีกระดาษให้เปิดอ่าน(เป็นเล่มๆ)ต่อไป แล้วเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ คนอื่นๆละครับ มีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ.. รายละเอียดเพิ่มเติม //www.waterstones.com/waterstonesweb/navigate.do?pPageID=1576   Create Date : 03 กันยายน 2551 7 comments Last Update : 3 กันยายน 2551 22:53:46 น. Counter : 1161 Pageviews. Share Tweet

มีข่าวงานหนังสือมายั่วสะตังค์ในกระเป๋าเล่นๆครับ อิอิ   โดย: Tentty 4 กันยายน 2551 0:15:50 น.

อีกนานค่ะกว่า ebook จะแทนที่ print ได้ ไม่ใช่เพราะความผูกพันที่มนุษย์เรามีต่อตัวหนังสือบนแผ่นกระดาษอย่างเดียว มีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ระยะทางของ ebook ยังอีกยาวไกลกว่าจะไปถึงจุดหมายที่มันดิ้นรนจะไปให้ถึง อย่างแรกเลยคือ devise ที่ใช้ เครื่องมือเท่าที่มีอยู่ หรือที่ออกมาใหม่เอี่ยมยังมีปัญหาเรื่อง resolution และความแจ่มชัดของ screen ค่ะ เครื่องใหม่ของโซนี่นี่เคยเห็นของจริงแล้วค่ะ อ่านนานๆก็ยังปวดตาอยู่ดี ยิ่งอ่านในที่มืดๆยิ่งไม่ไหว อีกปัญหาคือ battery life ของมัน ebook ของโซนี่วัด battery life ตามจำนวนหน้าที่เปิด ถ้าเทียบเป็นระยะเวลาแล้วก็ยังยาวนานสู้อ่านหนังสือจากแผ่นกระดาษ (ซึ่งไม่ต้องห่วงเรื่อง battery life มีปัญญาอ่านได้นานแค่ไหน ก็อ่านไปเถอะ) ได้ไหม อีกปัญหาคือปัญหาโรคร้ายที่ทุก sector ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ต้องประสบนั่นแหละค่ะ คือเรื่องของ standard ที่ไม่เหมือนกัน (เพราะไม่ยอมร่วมมือกัน) ก็เหมือนกันคอมพิวเตอร์ทั่วไป ที่ PC ไม่ยอมใช้อะไรร่วมกับ Mac สมัยก่อนใครใช้ MS Works เอาไปเปิดเอกสารอ่านที่ไหนไม่ได้เพราะไม่ compatible กับ MS Word ทั้งๆที่ผลิตจากบริษัทเดียวกันแท้ๆ ฯลฯ ebook ผลิตจากหลายบริษัทเหมือนกัน แต่ละบริษัทไม่ยอมร่วมมือกับบริษัทอื่น มันก็เลยมีหลายมาตรฐาน devise ของบริษัทไหนห่วยหน่อย ออกมาไม่นานก็พับไป คนที่ซวยยิ่งกว่าคือผู้บริโภคค่ะ ถ้าซื้อไปแล้ว เอาไปใช้กับอะไรไม่ได้เลย ก็เหมือนยุคแรกๆของ video ใครซื้อเครื่องแบบ beta มา ก็ถือว่าดวงไม่ดี โลกของ ebook ตอนนี้ยังเป็นอย่างนั้นอยู่เหมือนกันค่ะ ไฟล์สำหรับ devise ของแต่ละ ebook ก็ต่างกันอีก บางบริษัทผลิตไว้สำหรับอ่าน PDF เท่านั้น devise ของ Adobe ก็มีไว้อ่านไฟล์ผลิตจากโปรแกรมของ Adobe, ของ Microsoft ก็เป็นอีกอย่าง, ยังของ Sony ฯลฯ ต่างกันไปหมดค่ะ ส่วนหนังสือ อ๊ะ! มีมาตรฐานเดียว ใครๆก็อ่านได้หมด เครื่องมือที่ใช้อ่านมีติดตัวไปทุกคน คือดวงตาของคนเราเอง ชักจะยาวแล้วค่ะ มีอีกหลายปัญหา แต่ที่สำคัญที่สุดคือดวงตาของคนเรายังไม่พัฒนาสำหรับอ่านจากจอแบบนั้นเป็นเวลานานๆค่ะ เอาไว้อีกซัก 50-60 ปี อาจพัฒนาไปในลักษณะนั้นก็ได้นะคะ   โดย: กุลธิดา IP: 206.74.241.67 4 กันยายน 2551 6:37:57 น.

อืมม์..ก็น่าสนใจ แต่เราสะดวกในการอ่านหนังสือเป็นเล่มมากกว่าอยู่ดีค่ะ (อ่านจากจอมากๆ แล้วปวดตาค่ะ) ที่จริงก็ดีตรงที่ทำให้การทำลายต้นไม้น้อยลง แต่มันไม่เหมาะกับการอ่านน่อ   โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 4 กันยายน 2551 10:44:56 น.

รักที่จะอ่านหนังสือจากกระดาษแบบเดิมค่ะ ทั้งลูบ กอด ดมหนังสือได้สนิทอกสนิทใจกว่าจอคอมพ์และหนังสือ อิเลคทรอนิกส์เป็นไหน ๆ   โดย: อิมาอิซัง 4 กันยายน 2551 16:04:30 น.

เป็นนวัตกรรมใหม่ที่อาจปฏิวิติแวดวงการอ่านได้ในอนาคต แต่สำหรับเรา ยังชอบที่จะค่อยๆ พลิกหน้ากระดาษอ่านหนังสือมากกว่า การนั่งอ่าน นอนอ่าน ตัวหนังสือจากหน้าจอคอมพ์แบบนี้ ไม่ถนัดค่ะ เหมือนจะต้องเพ่งมากกว่าปกติ ทั้งๆ ที่เราสามารถปรับลด-เพิ่มขนาดตัวหนังสือได้ตามใจด้วยซ้ำ   โดย: นัทธ์ 4 กันยายน 2551 23:52:55 น.

คุณกุลธิดา ==> ครับ ผมก็ไม่คิดว่า ebooks จะเข้ามาแทนที่หนังสือภายในปีนี้ 5ปี หรือ10ปี (อาจจะไม่สามารถตีตลาดได้เลยก็เป็นได้) ขอยอมรับว่า ชื่อblog นี้ตั้งแบบสุดขั้วเพื่อให้น่าสนใจครับ ส่วนเรื่องเทคโนโลยีนั้นผมว่ามันเพิ่งเริ่มครับ พวกนี้พัฒนาเร็วมาก ผมไม่ค่อยห่วง เพราะเชื่อแน่ว่า เดี๋ยวมันก็ต้องมีรุ่นใหม่ๆที่สเปกดีขึ้นเรื่อยๆออกมา แต่ประเด็นที่ผมให้ความสนใจก็คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของทั้งธุรกิจหนังสือ(stakeholders)ว่าจะปรับตัวไปในทิศทางไหน หรืออย่างไร ต่อเจ้าebooks นี้มากกว่าครับ เช่น มันจะทำให้คนหันมาอ่านหนังสือกันมากขึ้นหรือไม่ หรือต่อให้มันสะดวกสบายยังไงก็ไม่มีประโยชน์ หรือมันจะมีผลกระทบต่อปริมาณการใช้ห้องสมุดน้อยลง(ทั้งที่น้อยอยู่แล้ว)มั๊ย ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ.. คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณอิมาอิซัง, คุณนัทธ์ ==> สำหรับคอหนังสืออย่างเราๆก็คงต้องตามเชียร์ ตามดม(แบบเป็นเล่มๆ)กันต่อไปครับ อิอิ   โดย: Tentty 5 กันยายน 2551 2:29:48 น.

...... เราก็ชอบกลิ่นหนังสืออะ   โดย: แพนด้ามหาภัย 9 กันยายน 2551 12:50:14 น.