|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
3 ตุลาคม 2552
|
|
|
|
เฉลย: การสังเคราะห์ด้วยแสง
เฉลยเรื่อง การสังเคราะห์ด้วยแสง
ตอนที่ 1 1. ถูก อิเล็กตรอนจากน้ำที่แตกตัวด้วย photolysis ถ่ายทอดไปให้ระบบแสง II, ระบบแสง I, ไปรีดิวซ์ NADP+ ให้กลายเป็น NADPH (ทั้งหมดนี้เรียกการถ่ายทอดอิเล็กตรอนแบบไม่เป็นวัฏจักร) ก่อนที่ NADPH จะไปรีดิวซ์ PGA ให้กลายเป็น PGAL ใน Calvin cycle 2. ผิด ที่ถูกต้องเปลี่ยนคำว่าน้ำตาล เป็นกรดอินทรีย์ เพราะอะไรที่ลงท้ายด้วย ate คือกรดอินทรีย์ (ลงท้ายด้วย ic acid) ที่แตกตัวเป็นไอออน เช่น acetate คือไอออนของกรดน้ำส้ม acetic acid 3. ผิด chlorophyll มีทั้ง a b c d พบใน photoautotroph ชนิดต่างๆ แต่ไม่พบในแบคทีเรีย ที่ถูกคือ carotenoids ต่างหากพบในทุกชนิด 4. ผิด ผู้ผลิตอาจจะสังเคราะห์ด้วยแสงหรือสังเคราะห์ด้วยเคมี (อย่าง nitrifying bactetia) ก็ได้ 5. ผิด Calvin cycle ไม่สร้าง ATP (phosphorylation) แต่ใช้ ATP นอกจากนี้ยังมีการรีดิวซ์ PGA (reduction), เติมหมู่คาร์บอกซีลให้ rubisco (carboxylation) รวมทั้ง regeneration ของ PGAL เป็น rubisco 6. ถูก phosphorylation เป็นปฏิกิริยาดูดพลังงาน 7.3 kcal/mol เพื่อสร้าง ATP ส่วน photosynthesis ดูดพลังงานในรูปแสงเพื่อรีดิวซ์ CO2 ให้ได้น้ำตาล 7. ถูก carotenoids เป็นรงควัตถุพิเศษที่นอกจะส่งผ่านพลังงานแสงไปกระตุ้น reaction center เหมือนรงควัตถุชนิดอื่นๆใน antenna แล้ว ยังช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดจากแสง (photo-oxidative stress) คือพวกอนุมูลอิสระต่างๆ 8. ผิด สิ่งมีชีวิตที่สังเคราะห์ด้วยแสงได้ (photoautotroph) อาจจะปล่อย O2 หรือกำมะถันให้กับสิ่งแวดล้อมก็ได้ 9. ถูก phycobilin มี 2 ชนิดคือ phycocyanin พบใน cyanobacteria และ phycoerythrin พบใน red algae (ปล. cyano- แปลว่าสีเขียมแกมน้ำเงิน, erythro- แปลว่าสีแดง) 10. ผิด อะตอมของออกซิเจนในโมเลกุลของน้ำ จะแตกตัวโดย photolysis แล้วกลายเป็นโมเลกุลแก๊ส O2 ซึ่งไม่ได้เป็นสารอินทรีย์แต่อย่างใด 11. ถูก เพราะ ATP, NADPH เป็นสารที่ light reaction สร้างขึ้นมาป้อน Calvin cycle (ซึ่งสร้างน้ำตาลจาก CO2 ) ถ้าเกิดมี ATP, NADPH และ CO2 จึงเกิดน้ำตาลได้ 12. ผิด พืช C3 อาจมี bundle-shaeth cell แต่ไม่ได้ขนาดใหญ่และไม่มี chloroplast 13. ผิด พืช C4 เป็นพืชไม่อิ่มแสงก็จริง (นั่นหมายความว่าเพิ่มความเข้มแสงอัตราการสังเคราะห์แสงก็จะเพิ่มขึ้นๆ) แต่ถ้าความเข้มแสงมากๆ ไม่ว่าจะเป็น C3 หรือ C4 ก็จะทำให้ใบไหม้จากอนุมูลอิสระ ลดอัตราการสังเคราะห์ด้วยแสง 14. ถูก ถูกที่สุดโดยไม่ต้องอธิบายใดๆ 15. ผิด เกือบถูกแล้ว แต่ไม่ได้ตรึงจากบรรยากาศสองครั้ง ครั้งแรกตรึงจากอากาศ ครั้งที่สองตรึงจากกรดอินทรีย์ใน mesophyll ต่างหาก
ตอนที่ 2 1. B D C A หน่วยของการสังเคราะห์ด้วยแสงบน thylakoid membrane เรียกว่า ระบบแสง (photosystem) บน photosystem ประกอบด้วยกลุ่มของรงควัตถุ (antenna) ฝังอยู่บนโปรตีน antenna ประกอบด้วยรงควัตถุมากมายที่ช่วยรับและส่งต่อพลังงานไปกระตุ้นโมเลกุลของ chlorophyll a พิเศษ 2 โมเลกุลที่เรียกว่า ศูนย์กลางปฏิกิริยา (reaction center) 2. B A C ที่ไหนมีโปรตอนมาก ที่นั่นก็เป็นกรดมาก (pH น้อย) การถ่ายทอดอิเล็กตรอนทำให้มีการปั๊มโปรตอนจาก stroma เข้าไปหา lumen ทำให้ปริมาณโปรตอนใน stroma ลดลงๆและใน lumen เพิ่มขึ้นๆเป็นกรดมากขึ้นๆ ส่วนใน cytosol ต้องอยู่ตรงกลางเพราะไม่ได้ทำอะไรกับโปรตอน 3. ดูในหนังสือเอาเองนะ 4. ไม่ต้องสนใจปฏิกิริยาที่ให้มา สนใจปฏิกิริยารวมของการสังเคราะห์ด้วยแสงคือ 6CO2 + 12H2O กลายเป็น C6H12O6 + 6O2 + 6H2O ดังนั้นในการสร้างน้ำตาล hexose เช่นกลูโคส 1 โมเลกุล จะปล่อยแก๊สออกซิเจนออกมา 6 โมเลกุล 5. A = granum, B = stroma lamella (A + B รวมเรียกว่า thylakoid membrane), C = stroma, D = cytosol 5.1 รงควัตถุสังเคราะห์ด้วยแสงพบที่ thylakoid membrane = A, B 5.2 ที่ที่ผลิต ATP ได้ = thylakoid membrane (A, B ผลิตแบบ photophosphorylation) และ D (ผลิตแบบ substrate-level phosphorylation จาก glycolysis ไง !!) 5.3 rubisco พบใน Calvin cycle เลยต้องอยู่ใน stroma = C 5.4 ribosome พบใน stroma (C) เป็นแบบ 70s และใน cytosol (D) เป็นแบบ 80s 6. จำไว้เสมอว่าถ้าได้ 1 PGAL (3C) จะต้องใช้ 9ATP และ 6NADPH หมุนวัฏจักรให้ครบรอบ น้ำตาลทราย 1 โมเลกุลมีทั้งหมด 12 C จึงคูณ 4 เข้าไป คือใช้ 36ATP และ 24NADPH 7. จากข้อที่แล้ว พบว่าเราต้องใช้ 24 NADPH 1 NADPH สร้างจากปฏิกิริยาการรีดิวซ์ 1 NADP+ ด้วย 2 e- และรวมกับ 1 H+ ดังนั้น 24 NADPH ก็ต้องสร้างจาก 24 x 2 = 48 e- 8. ในแผนภาพเป็นการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C4 x = mesophyll cell, y = bundle-sheath cell, A = CO2, B = PEP, C = OAA, D = CO2 8.2 เร่งปฏิกิริยา carboylation ของ PEP เรียกว่า PEP carboxylase
ตอนที่ 3 1. ค. chlorophyll และ carotenoids เป็นรงควัตถุสังเคราะห์ด้วยแสงหลักของพืช ดูดกลืนพลังงานแสงมากระตุ้น reaction center แต่ anthocyanin เป็นรงควัตถุสีม่วง ดูดกลืนและสะท้อนพลังงานแสงออกมาสร้างสีสันให้ดอกไม้ใบหญ้า 2. ข. แก๊สที่มีปริมาณมากแล้วลดประสิทธิภาพของ Calvin cycle ก็คือ O2 เพราะเอนไซม์ rubisco ใน Calvin cycle นั้นสามารถจับ O2 หรือ CO2 มาทำปฏิกิริยากับ RuBP ได้ ถ้า O2 มาก, อุณหภูมิสูง, ปากใบปิด, เกิด photorespiration ก็จะทำลดอัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 3. ก. a) ถูก ATP สร้างจาก substrate-level phosphorylation และ oxidative phosphoralation ในการหายใจระดับเซลล์ และจาก photophosphorylation ในการสังเคราะห์ด้วยแสง b) ถูก PGA พบใน glycolysis และใน Calvin cycle c) ถูก PGAL พบใน glycolysis และเป็นผลิตภัณฑ์ของ Calvin cycle d) ผิด NADPH เป็นตัวขนส่งอิเล็กตรอนที่ใช้ในการสังเคราะห์ด้วยแสงเท่านั้น 4. ข. อิเล็กตรอนต้องถูกกระตุ้นก่อน (photo-oxidation: ศัพท์คำนี้พี่เจอครั้งแรกในข้อสอบเอนท์นี่แหละ -*-) แล้วทำให้ PSII ขาดอิเล็กตรอน จึงไปแย่งน้ำ เกิด photolysis และการถ่ายทอดอิเล็กตรอนทำให้เกิด photophosphorylation สร้าง ATP ในที่สุด photorespiration ไม่เกี่ยว เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ 5. ง. a), b) ถูก รงควัตถุรอบๆ antenna จะช่วยกันรับพลังงานแสงในช่วยคลื่นที่ตัวเองรับได้ถนัด (absorption spectrum) แล้วส่งพลังงานไปกระตุ้น reaction center ถ้าพลังงานนั้นมีค่าเทียบเท่าความยาวคลื่น 680 nm ก็เป็น PS II ถ้าเทียบเท่า 700 nm ก็เป็น PS I c) ถูก นอกจากหน้าที่หลักเมื่อกี้แล้ว carotenoids ยังช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดจากแสง คืออนุมูลอิสระต่างๆด้วย 6. ค. แสงอาทิตย์หรือแสงขาว เกิดจาก spectrum แสง 7 สี คือ ม่วงครามน้ำเงินเขียวเหลืองแสดแดง รงควัตถุหลักของผู้ผลิตในโลกจะเป็น chlorophyll ซึ่งมีทั้ง a b c d แต่ทุกอย่างจะสะท้อนแสงสีเขียวออกมา (คือไม่ได้ใช้ประโยชน์) เข้าตาเรา และดูดกลืนแสงสีแดง และน้ำเงิน ไปใช้มากที่สุด ดังนั้นถ้ามีแต่แสงเขียว การสังเคราะห์ด้วยแสงก็จะลดลงเพราะเป็นช่วงที่ photoautotroph ต่างๆ (ซึ่งใช้ chlorophyll ดูดคลื่นแสง) สังเคราะห์ด้วยแสงได้ไม่ถนัด a) ผิด การสังเคราะห์ด้วยแสงในช่วงคลื่นๆอื่นๆก็ยังมีอยู่แต่น้อย สังเกตได้จาก action spectrum b) ผิด ผู้ผลิตยังสังเคราะห์ด้วยแสงได้อยู่แต่น้อย c) ถูก เพราะผู้ผลิตสร้างอาหารได้น้อย อาหารที่ถ่ายทอดต่อไปยังผู้บริโภคในห่วงโซ่อาหารก็ลดลง d) ผิด ผู้บริโภคอันดับหนึ่งที่กินพืชก็ต้องได้รับอาหารลดลง มวลชีวภาพก็ต้องลดลง 7. ข. ก. ผิด มีแค่ระบบ I อย่างเดียวก็สร้าง ATP ได้แล้ว จาก cyclic electron transfer ข. ถูก การรีดิวซ์ NADP+ ให้ได้ NADPH ต้องใช้สองระบบทำงานแบบ non-cyclic electron transfer ค. ผิด กระตุ้นระบบแสง I ก็เกี่ยวกับแสงมาทำให้ e- ของระบบแสง I เท่านั้นที่เด้งขึ้นมา ง. ผิด มีแค่ระบบ I อย่างเดียวก็ปั๊มโปรตอนได้แล้ว จาก cyclic electron transfer 8. ง. การทดลองของเองเกลมัน บอกว่าช่วงน้ำเงินและแดงนั้นสาหร่ายสีเขียว (spirogyra) สังเคราะห์ด้วยแสงได้มากที่สุด เพราะปล่อยออกซิเจนออกมามากที่สุด โดยสังเกตจาก aerobic bacteria ที่เข้ามาเกาะ ก. ผิด สรุปง่ายเกินไป ถ้าจะสรุปแบบนี้ก็ไม่ควรแยกแสงและไม่ต้องมีแบคทีเรียก็ได้ ข. ผิด แบคทีเรียตอบสนองต่อปริมาณออกซิเจนต่างหาก ค. ผิด การทดลองนี้ไม่ได้บอกถึง chlorophyll เลย เป็นความรู้ที่เราใส่เข้าไปเอง ง. ถูกต้องที่สุด 9. ค. แสงสีขาวจากไฟฉาย เมื่อผ่านสารละลาย chlorophyll จะทำให้แสงสีน้ำเงินและแดงถูกดูดออกมาไปใช้กระตุ้นระบบแสง แถบรุ้งที่เกิดขึ้นจึงไม่มีสีน้ำเงินและสีแดง 10. ง. a) ถูก การถ่ายทอดอิเล็กตรอนใน prokaryote, chloroplast และ mitochondria เกิดขึ้นที่ mesosome ในการหายใจระดับเซลล์ของแบคทีเรีย, photosynthetic lamella ในการสังเคราะห์ด้วยแสงของแบคทีเรีย, thylakoid membrane ใน chloroplast และ innermembrane ใน mitochondria ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเยื่อภายในที่พับทบซ้อนเข้ามา b), c) ถูก ทั้งสามมี DNA อย่างง่าย, RNA, 70s ribosome อยู่ภายใน 11. ก. มีแสง แสดงว่าจะเกิด light reaction ได้ถ้ามีสารตั้งต้นคือ ADP + Pi และ NADP+ สร้าง ATP และ NADPH และจะเกิด O2 ด้วยจากการกระตุ้นระบบ II แต่นี่มันไม่มี Pi (หมู่ฟอสเฟต) จึงเกิดเฉพาะ NADPH และ O2 12. ข. ก. ผิด photolysis เกิดที่ระบบแสง II (P680) ข. ถูก ค. ผิด ทั้งแบบเป็นวัฏจักรและไม่เป็นวัฏจักรต่างก็เกิด photophosphorylation สร้าง ATP ได้ ง. ผิด ใช้ทั้งสองระบบต่างหาก 13. ก. a) ถูก rubisco เป็นโปรตีนที่มีมากที่สุดในโลก (แต่ cellulose เป็นสารชีวโมเลกุลที่มากสุดในโลก) b) ถูก สามารถเกิด carboxylation จับ CO2 หรือ oxygenation จับ O2 กับ RuBP ก็ได้ rubisco เลยมีชื่อเต็มๆว่า RuBP carboxylase oxygenase c) ผิด กระบวนการ carboxylation ของ RuBP ให้เป็นกรด PGA ไม่ได้เป็นปฏิกิริยารีดอกซ์ แค่เติมหมู่ carboxyl (-COOH) ให้กับ RuBP เฉยๆ 14. ก. สำคัญที่สุดในโลก การปั๊มโปรตอนเป็น active transport แต่การไหลกลับของโปรตอนเข้าสู่ matrix ในการหายใจระดับเซลล์ หรือการไหลกลับของโปรตอนเข้าสู่ stroma ของการสังเคราะห์ด้วยแสง เป็นการแพร่ ซึ่งไม่ใช้พลังงาน (passive transport) 15. ค. ดูจากตารางเปรียบเทียบในหนังสือ ก. ผิด ทั้งสองสร้างน้ำตาลตอนกลางวัน เพียงแต่ CAM ตรึง CO2 ตอนกลางคืน ข. ผิด เฉพาะพืช CAM เท่านั้นที่ปิดปากใบตอนกลางวัน ไม่งั้นน้ำในใบจะระเหยหมดเพราะอยู่ในที่ร้อนมาก ค. ถูก ทั้งสองใช้ PEP carboxlase มาตรึง CO2 จากบรรยากาศให้ PEP ง. ผิด ทั้งสองต้องใช้ Calvin cycle ในการตรึง CO2 ครั้งที่สอง 16. ง. อันนี้ก็เป็นข้อสอบเอนท์ที่ต้องคิดนิดนึง ก. ผิด เพราะจากกราฟจะเห็นว่า ณ จุด X พืชชนิดนี้ถึงจุดอิ่มแสง (light saturation point) แล้ว เพิ่มไปก็ไม่ช่วยอะไรแถมยังอาจทำให้ใบไหม้จากอนุมูลอิสระได้ ข. ผิด เพิ่มอุณหภูมิแล้วไง นี่เป็นพืช C3 เพราะเป็นข้าวเจ้า เมื่อดูจากเส้นกราฟ เพิ่มอุณหภูมิทุกอย่างก็ยิ่งแย่ เกิดการหายใจแสง ฯลฯ และกราฟนี้เกิดที่ 40 องศา ถ้าเพิ่มมากขึ้นอัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงก็จะลดลงเพราะเอนไซม์ต่างๆถูก denature ค. ผิด ถ้าอยากได้ ATP มากขึ้น การเพิ่ม O2 ซึ่งเป็นตัวรับอิเล็กตรอนตัวสุดท้ายก็ไม่เห็นจะเพิ่มอัตราการหายใจระดับเซลล์ตรงไหน และพี่ก็ไม่เห็นว่าการที่ได้ ATP มากๆจากการหายใจระดับเซลล์จะเพิ่มอัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงได้ยังไง เพราะ ATP ใน chloroplast ต้องได้มาจาก thylakoid membrane สิ ง. ถูก เหมือนจะเป็นไปไม่ได้แต่ในทางทฤษฎีคนออกข้อสอบต้องการยังงี้จริงๆ ถ้าเพิ่มปริมาณ chlorophyll แล้วจะทำให้ระบบแสงมากขึ้น ปริมาณ ATP และ NADPH จาก light reaction สร้างมากขึ้น วัตถุดิบสำหรับการสร้างน้ำตาลก็เพิ่มขึ้นด้วย 17. ก. ก. ถูก ที่แกน x ด้านซ้ายของ 100 จะทำให้อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงสุทธิเป็นศูนย์ สร้างอาหารไม่ได้แต่จะใช้อาหารจากการหายใจระดับเซลล์ไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็อยู่ไม่ได้ ข. ผิด ไม่ตายแต่ก็ไม่โตมากกว่า ค. ผิด ไม่ใช่โตขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนถึงค่าหนึ่งที่อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงจะคงที่ ง. ผิด อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงจะคงที่ แต่ถ้ามากกว่า 150 มากๆสุดท้ายก็ตายอยู่ดีเพราะใบจะไหม้ แสงทำให้เกิดอนุมูลอิสระขึ้นมาในใบจน carotenoids กำจัดทิ้งไม่ไหว 18. ก. ถ้าโปรตอนไม่ออกจาก lumen กระบวนการถัดมาคือการสร้าง ATP ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นต่อไปได้ (ค.) เมื่อไม่มี ATP จึงไม่เกิด Calvin cycle (ข.) ซึ่งประกอบด้วย carboxylation, reduction (ง. reduction ของ PGA แต่เป็น oxidation ของ NADPH) และ regeneration ส่วนกระบวนการก่อนหน้าการไหลของโปรตอนออกจาก lumen คือ การถ่ายทอดอิเล็กตรอน การกระตุ้นระบบแสง การปั๊มโปรตอน (ก.) ฯลฯ ยังเกิดขึ้นต่อไปได้ 19. ข. A = พืช C4 เพราะประสิทธิภาพในการสังเคราะห์ด้วยแสงคงที่แม้อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวโพด ข้าวฟ่าง อ้อย บานไม่รู้โรย B = พืช C3 เพราะประสิทธิภาพในการสังเคราะห์ด้วยแสงลดลงเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น เช่น ข้าวสาลี ข้าวบาร์เล่ย์ บานชื่น ฯลฯ ส่วนสับปะรด เป็นพืช CAM 20. ง. ข้อนี่เป็นข้อสอบเอนท์ที่ค่อนข้างยากมาก ค่อยๆอ่านนะ เมื่อพิจารณาดูแล้วเนี่ย A = พืช C4 และ B = พืช C3 ใช่มั้ยครับ ถ้าสิ่งไหนเป็นปัจจัยจำกัดสำหรับสิ่งมีชีวิตหนึ่งๆแล้ว จะเป็นปัจจัยที่สิ่งมีชีวิตนั้นๆ ต้องการ และปริมาณมากน้อย มีผล ยกตัวอย่างเช่น น้ำจืดเป็นปัจจัยจำกัดของกิ้งก่าทะเลทราย แต่ไม่เป็นปัจจัยจำกัดของปลาน้ำจืด กิ้งก่าทะเลทรายเลยปรับตัวทั้งสัณฐาน (มีเกล็ด) และสรีระ (เปลี่ยนแปลงโครงสร้างท่อหน่วยไต) เพื่อตอบสนองต่อการสูญเสียน้ำจืดที่เป็นปัจจัยจำกัด และปริมาณมากน้อยมีผลคือ ถ้าน้ำน้อยจังก็หิวน้ำจัง ถ้าน้ำมากจังก็สบายดีจัง ในขณะที่ปลาน้ำจืดมีน้ำอยู่เต็มไปหมด เรื่อยๆสบายๆ ปริมาณมากน้อยไม่มีผลเพราะมันมากกกกอยู่แล้ว หรือไนโตรเจนเป็นธาตุที่เป็นปัจจัยจำกัดของพืชกินแมลง ในขณะที่สำหรับแหนแดงแล้วไนโตรเจนไม่เป็นปัจจัยจำกัด พืชกินแมลงเลยปรับตัวทั้งสัณฐาน (มีมือดักจับ) และสรีระ (เปลี่ยนวิถี metabolism เพื่อย่อยแมลง) ตอบสนองแต่ไนโตรเจนที่เป็นปัจจัยจำกัด และปริมาณมากน้อยมีผลคือ ถ้าไนโตรเจนมากก็ อ้า..สบายดีจัง DNA ก็ดี โปรตีนก็ดี แต่ถ้ามีน้อยก็จะไม่ดีกับสุขภาพ ในขณะที่สำหรับแหนแดงแล้วมี anabaena ช่วยตรึงไนโตรเจน ปริมาณมากน้อยไม่มีผลเพราะยังไงๆก็มากกกกอยู่แล้ว
เอาล่ะพอจะเข้าใจคร่าวๆนะครับ ทีนี้มาดูในโจทย์ เมื่อพิจารณาที่ความเข้มแสงน้อยกว่า 500 ความเข้มแสงเป็นปัจจัยจำกัดมั้ย? เป็นครับ (ดูเฉพาะก่อน 500 นะ) เพราะทั้งพืช A และ B ต้องอาศัยแสงในการสังเคราะห์ด้วยแสง ไม่มีไม่ได้ และแสงมากแสงน้อยมีผลต่อการสังเคราะห์ด้วยแสง เมื่อดูจากเส้นกราฟเห็นไหมว่า ความเข้มแสงน้อยสังเคราะห์แสงได้น้อย แย่จัง ความเข้มแสงมากขึ้นสังเคราะห์แสงได้มากขึ้น ดีจัง (พูดให้ยากขึ้นคือเส้นกราฟช่องน้อยกว่า 500 นี้เป็นฟังก์ชันเส้นตรง แสงน้อยสังเคราะห์แสงน้อย แสงมากสังเคราะห์แสงมาก มากน้อยมีผล..เราเลยสรุปว่าแสงเป็นปัจจัยจำกัด) โอเคทีนี้เรามาดูความเข้มข้น CO2 บ้าง A เป็นพืช C4 ความเข้มข้น CO2 ไม่มีผลนะครับ เพราะ Hatch-slack pathway ทำให้ความเข้มข้นของ CO2 ใน bundle-sheath มีค่าสูงเสมอ เปรียบเสมือนปลาที่อยู่ในน้ำจืด หรือแหนแดงเมื่อกี้แหละครับ มากน้อยไม่มีผลเพราะยังไงมันก็มากๆๆตลอด ส่วน B เป็นพืช C3 ความเข้มข้น CO2 เป็นปัจจัยจำกัดครับ เพราะมันต้องเผชิญกับภาวะที่ CO2 มาก ซึ่งทำให้สังเคราะห์ด้วยแสงได้มาก และภาวะที่ CO2 น้อยทำให้สังเคราะห์แสงได้น้อย (อย่างเช่นเวลาอากาศร้อนขึ้นไงครับ CO2 ลดลง O2 ก็แย่ง rubisco จับ RuBP ทำให้อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงลดลง พืชก็รู้สักแย่จัง) นั่นคือมากน้อยมีผลนั่นเอง 21. ข. พืช B เป็นพืช C3 ในที่แจ้งนะ เพราะว่าในชีวิตจริงๆต้องการความเข้มแสงมากกว่า ส่วน C เป็นพืช C3 ในที่ร่ม เพราะต้องการความเข้มแสงน้อยกว่าก็อยู่ได้แล้ว การเปรียบเทียบกันแล้วพืช B (ที่แจ้ง) จะต้องมีขนหรือ cuticle มากกว่า, มี chlorophyll น้อยกว่า, มีใบหนากว่า และชั้น palisade mesophyll หนากว่า เหมือนที่หนังสือบอกที่หน้า 75 แหละครับ 22. ก. โครงสร้างนี้เป็นของ C3 ครับ เห็นไหมว่า mesophyll มี 2 ชั้น ชั้นบนเป็นแท่งๆ ชั้นล่างดูหลวมๆ ผลิตภัณฑ์ตัวแรกของการสังเคราะห์ด้วยแสงคือ PGA ครับ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น PGAL (ผลิตภัณฑ์ตัวแรก ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่หลุดออกมาจากวัฏจักรนะครับ เค้านับ PGA เป็นตัวแรก เลยเรียกว่าพืช C3 หรือถ้าเกิดได้ OAA เป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรก เลยเรียกว่าพืช C4 ไงครับ) 23. ค. ดูในหนังสือเอานะครับ ข้าวเหนียวเป็นพืช C3 ซึ่งไม่ว่าจะเป็นพืชอะไร เส้นกราฟก็จะเป็น ค. สัมพันธ์กับอัตราการทำงานของเอนไซม์กับอุณหภูมิครับ (แต่ถ้าเป็นประสิทธิภาพการสังเคราะห์ด้วยแสงกับอุณหภูมิ พืช C3 จะได้เส้น ข. นะ ดูแกน Y ดีๆ) การที่แกน Y เป็น อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสง หรือ ประสิทธิภาพการสังเคราะห์ด้วยแสง มันต่างกันยังไงนั้น ..น้องๆก็จำๆไปเถอะครับ -*- พี่คลับคล้ายคลับคลาว่ามันเป็นค่า log ของกันหรืออะไรประมาณนี้อะ 24. ก. ก. ผิด PEP carboxylase จำเพาะต่อ CO2 เท่านั้น ไม่จับ O2 ข. ถูก เพราะ Hatch-slack pathway จะส่ง CO2 มาป้อน bundle-shaeth cell ตลอด ค. ถูก เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นทำให้แก๊สละลายได้ลดลง แต่ด้วยความสามารถในการละลายของ O2 ทำให้สัดส่วน O2 ในใบเพิ่มขึ้น สุดท้ายเลยไปแย่งจับกับ rubisco เกิด oxygenation และ photorespiration ในที่สุด ง. ถูก พืช C4 ปรับตัวมาเพื่อทนต่ออากาศร้อน เมื่อร้อนก็หรี่ปากใบแต่ยังไง Hatch-slack pathway ก็ยังคงส่ง CO2 มาป้อน bundle-sheath cell อย่างสม่ำเสมอนะ 25. ค. A = RuBP, B = ไม่ต้องสนหรอกชื่อมันนน่ะ, C = PGA, D = PGAL เสถียรมากที่สุดก็ต้องเป็น D เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้ออกมา ไม่ต้องไปทำอะไรกับสารตัวกลางอื่นๆของวัฏจักรอีกแล้ว เสถียรน้อยที่สุดก็ต้องเป็น B เพราะพอ RuBP + CO2 กลายเป็น B ปุ๊บก็แตกตัวเป็น C (PGA) ทันทีเลยโดยที่หนังสือเรียนยังไม่สนใจจะบอกชื่อมันให้น้องรู้จักเลย ไม่เสถียรจริงๆ
Create Date : 03 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 19 ตุลาคม 2552 20:12:42 น. |
|
46 comments
|
Counter : 38409 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: เเป้ง IP: 113.53.7.248 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:03:46 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:35:46 น. |
|
|
|
โดย: ;) IP: 118.172.63.148 วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:22:06:20 น. |
|
|
|
โดย: J IP: 118.172.63.148 วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:8:13:07 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:13:08:02 น. |
|
|
|
โดย: ;) IP: 118.172.92.218 วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:18:32:08 น. |
|
|
|
โดย: :) IP: 125.24.25.31 วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:15:28:06 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:16:41:14 น. |
|
|
|
โดย: :) IP: 118.172.35.90 วันที่: 17 ธันวาคม 2552 เวลา:21:02:08 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:22:10:00 น. |
|
|
|
โดย: :) IP: 118.172.39.19 วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:6:20:09 น. |
|
|
|
โดย: frozen IP: 172.16.3.160, 202.129.12.194 วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:14:36:20 น. |
|
|
|
โดย: frozen IP: 172.16.3.160, 202.129.12.194 วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:14:41:42 น. |
|
|
|
โดย: frozen IP: 172.16.3.160, 202.129.12.194 วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:15:10:46 น. |
|
|
|
โดย: frozen IP: 172.16.3.160, 202.129.12.194 วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:15:14:16 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:21:43:35 น. |
|
|
|
โดย: frozen IP: 172.16.3.49, 202.129.12.194 วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:9:51:07 น. |
|
|
|
โดย: ป้อน IP: 203.144.144.164 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:30:33 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:41:26 น. |
|
|
|
โดย: ป้อน* IP: 203.144.144.165 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:13:01 น. |
|
|
|
โดย: กุ๊กกิ้ก IP: 203.144.144.164 วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:20:33:04 น. |
|
|
|
โดย: คนรักสงบ IP: 110.49.205.82 วันที่: 30 เมษายน 2553 เวลา:22:25:42 น. |
|
|
|
โดย: คนรักสงบ IP: 110.49.205.82 วันที่: 30 เมษายน 2553 เวลา:22:56:25 น. |
|
|
|
โดย: ตอบแทนค่ะ IP: 58.10.102.86 วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:19:26 น. |
|
|
|
โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว ) วันที่: 17 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:20:38 น. |
|
|
|
โดย: คนรักสงบ IP: 110.49.205.72 วันที่: 27 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:42:09 น. |
|
|
|
โดย: ปัน IP: 113.53.3.197 วันที่: 19 ตุลาคม 2553 เวลา:23:37:10 น. |
|
|
|
โดย: พี่ครับตอบด่วนงงมาก IP: 58.9.87.142 วันที่: 23 ตุลาคม 2553 เวลา:10:31:26 น. |
|
|
|
โดย: ลืมอีกคำถามครับ IP: 58.9.87.142 วันที่: 23 ตุลาคม 2553 เวลา:10:39:07 น. |
|
|
|
โดย: ขอบคุณครับ IP: 58.9.83.198 วันที่: 28 ตุลาคม 2553 เวลา:14:31:13 น. |
|
|
|
โดย: ตอบแทนค่ะ IP: 58.10.85.15 วันที่: 10 ธันวาคม 2553 เวลา:0:23:55 น. |
|
|
|
โดย: Gus IP: 127.0.0.1, 113.53.95.4 วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:22:03:49 น. |
|
|
|
โดย: ตอบด่วน IP: 125.27.123.136 วันที่: 16 ตุลาคม 2554 เวลา:15:55:04 น. |
|
|
|
โดย: กัน IP: 49.228.142.131, 141.0.9.119 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:35:52 น. |
|
|
|
โดย: หนูเอง IP: 101.109.122.57 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2554 เวลา:3:33:45 น. |
|
|
|
โดย: หนูเอง IP: 101.109.122.57 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2554 เวลา:3:38:18 น. |
|
|
|
โดย: tufrio IP: 223.205.99.236 วันที่: 6 เมษายน 2555 เวลา:11:14:07 น. |
|
|
|
โดย: C IP: 180.180.144.194 วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:10:22:47 น. |
|
|
|
โดย: mew IP: 1.4.173.209 วันที่: 24 กรกฎาคม 2555 เวลา:16:28:33 น. |
|
|
|
โดย: kukkai IP: 223.204.30.7 วันที่: 2 พฤษภาคม 2556 เวลา:21:13:31 น. |
|
|
|
โดย: จารุวรรณ เกตุบางจาก IP: 118.174.90.88 วันที่: 18 สิงหาคม 2556 เวลา:17:29:10 น. |
|
|
|
โดย: Peachtwill IP: 27.55.140.213 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2556 เวลา:20:06:22 น. |
|
|
|
โดย: แมว IP: 114.109.54.168 วันที่: 13 กรกฎาคม 2557 เวลา:2:47:10 น. |
|
|
|
โดย: 55555 IP: 1.46.99.58 วันที่: 8 ธันวาคม 2558 เวลา:22:08:12 น. |
|
|
|
โดย: แม่ชี IP: 202.28.35.153 วันที่: 8 ตุลาคม 2560 เวลา:22:03:51 น. |
|
|
|
โดย: แม่พระ IP: 202.28.35.153 วันที่: 8 ตุลาคม 2560 เวลา:22:08:57 น. |
|
|
|
| |
|
|
มิสเตอร์คัสตาร์ด |
|
|
|
|