BlogGang.com : : มิสเตอร์คัสตาร์ด : เฉลย: การสืบพันธุ์และเจริญเติบโต

เฉลย: การสืบพันธุ์และเจริญเติบโต

เฉลยเรื่อง การสืบพันธุ์และเจริญเติบโต

ตอนที่ 1
1. ผิด endospore ของแบคทีเรีย สร้างมาเพื่อทนต่อสภาพสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ไม่นับเป็นการสืบพันธุ์
2. ถูก ฟองน้ำเป็นสัตว์ จึงจำเป็นต้องมีเอมบริโอ แต่ไม่มีชั้นเนื้อ germ layer 3 ชั้นเพราะเป็นสัตว์ชั้นต่ำ
3. ผิด regeneration ที่เป็นการสืบพันธุ์ไม่พบในจิ้งจก การงอกหางใหม่ของจิ้งจก จัดเป็น repair ไม่ใช่ reproduction
4. ถูก ตัวเมียจะเป็น 2n และตัวผู้ n อธิบายในหนังสือละเอียดแล้วครับ
5. ผิด ต้องเปลี่ยนคำว่า primary oocyte ในระยะ anaphase II เป็น secondary oocyte ในระยะ metaphase II ถึงจะถูก
6. ถูก ผู้ชายจึงสร้างอสุจิได้ตลอดชีวิตเพราะ –gonium คือเซลล์ที่ยังแบ่งเซลล์ได้อยู่เรื่อยๆ แต่ของผู้หญิงออกมาเป็นเซลล์ที่กำลังผ่าน meiosis อยู่ ไม่สามารถเข้า cell cycle ได้
7. ผิด ต้องเปลี่ยนคำว่า sperm เป็น spermatid เพราะ sperm เป็นเซลล์ที่ได้จาก differentiation ของ spermatid ต่างหาก
8. ผิด เซลล์ที่ลงท้ายด้วย –gonium ยัง mitosis ได้เรื่อยๆ ต้องเปลี่ยน spermatogonium เป็น primary spermatocyte และ oogonium เป็น primary oocyte ถึงจะถูก
9. ถูก หญิงวัยทองคือรังไข่เสื่อมสภาพไปแล้ว ปริมาณ estrogen + progesterone จะต่ำ ทำให้ไม่มีอะไรไปยับยั้ง FSH + LH จึงสูง อารมณ์แปรปรวนง่าย เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนและโรคหัวใจ
10. ถูก น้ำอสุจิส่วนใหญ่สร้างจาก seminal vesicle ส่วนที่เหลืออีกนิดหน่อยเป็นเมือกจากต่อมลูกหมากและต่อมคาวเปอร์
11. ถูก เนื้อเยื่ออันนั้นหมายถึง corpus luteum สร้าง progesterone + estrogen
12. ถูก estrogen + progesterone ที่ลดลงเป็นเพราะปริมาณ LH ที่เอาไว้คง corpus luteum มันลดลง ทำให้ corpus luteum ฝ่อไป endometrium ที่เคยหนาเหมาะสำหรับเอมบริโอมาฝังตัวเลยหลุดลอกเป็นประจำเดือน
13. ผิด อยู่ในระยะ blastulation ได้ก้อน blastula ที่มีชื่อใหม่ว่า blastocyst
14. ถูก HCG สร้างออกมาจากรกเพื่อคง corpus luteum ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ออกมากับปัสสาวะทำให้ตรวจได้
15. ถูก เป็นการทำหมันถาวรในเพศหญิงและชาย
16. ผิด ปริมาตรเอมบริโอ (ตัวเศษ) เท่าเดิมเมื่อ cleavage ไปเรื่อยๆ แต่ปริมาตรเซลล์ (ตัวส่วน) ลดลงเมื่อ cleavage ไปเรื่อยๆ จะได้ว่าปริมาตรเอมบริโอต่อปริมาตรเซลล์ (เศษส่วน) มากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลามากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือแปรผันตรงกับเวลา ไม่ใช่แปรผกผัน
17. ถูก ปลาโลมาออกลูกเป็นตัวลูกได้อาหารจากรก ปลาเข็มออกเป็นตัวลูกได้อาหารจากไข่แดง
18. ผิด ต่อมหมวกไตชั้นนอกมาจาก mesoderm แต่ต่อมหมวกไตชั้นในมาจาก ectoderm เลยทำงานร่วมกับระบบประสาทได้
19. ผิด allatois ของเป็ดไม่ได้ให้อาหารแก่ตัวอ่อน เป็นหน้าที่ของ yolk sac
20. ถูก หมาเป็น mammal มีไข่แดงน้อยมาก ส่วนจระเข้เป็น reptile มีไข่แดงเป็นอาหารตัวอ่อนเยอะมาก
21. ถูก extraembryonic membrane พบใน mammal 3 คลาสสุดท้าย คือ reptilia, aves, mammalia
22. ถูก ตามนั้นแหละ ยกตัวอย่างเช่น แมลง กุ้งปู และกบ ตามลำดับ พวกนี้มี metamorphosis ทั้งนั้น
23. ถูก วันที่ 12 นั้นไข่กำลังสุกได้ที่เป็น Graafian follicle รอเพียงแต่ให้ LH จากต่อมใต้สมองหลั่งมาถึงจะตกไข่เท่านั้น ถ้าตัดต่อมใต้สมองออกก็ไม่ตกไข่น่ะสิ
24. ผิด ขณะกำลังตั้งท้องจะไม่พบการเจริญของฟอลลิเคิล คือไม่มี Graafian follicle, growing follicle แต่ฟอลลิเคิลที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิดอย่าง primary follicle ยังมีอยู่
25. ผิด กระบวนการ meiosis II คือการแบ่ง secondary oocyte ซึ่งมีโครโมโซมชุดเดียว (n) แต่ละแท่งมี 2 แขนโครมาทิด ออกเป็น second polar body และ egg cell ซึ่งแต่ละเซลล์ก็มีโครโมโซมชุดเดียว (n) เหมือนกัน แต่ละแท่งมี 1 แขนโครมาทิด
ถ้าเกิด second polar body และ egg cell ไม่แยกออกจากกัน เซลล์ไข่ที่เกิดขึ้นจะมีโครโมโซม 2 ชุด (n + n) โดยแต่ละแท่งมี 1 แขนโครมาทิด และถ้าเกิดได้รับการปฏิสนธิกับอสุจิปกติที่มีโครโมโซม 1 ชุด (n) นั้น ท้ายสุดจะทำให้ได้ zygote เป็น 3n
26. ถูก รกเกิดจาก endometrium แม่ + chorion ลูก
27. ถูก โครโมโซมของอสุจิเป็น n โดยแต่ละแท่งมี 1 แขนโครมาทิด ส่วน primary spermatocyte เป็น 2n โดยสมมติหากมันหดตัวได้ จะมี 1 แขนโครมาทิด (เพราะยังไม่จำลอง DNA ในระยะ S ของการแบ่งเซลล์) ดังนั้นจึงเป็น 2 เท่าถูกแล้ว (ลองไปดูกราฟหน้า 24 บทการแบ่งเซลล์)
28. ถูก จงโคร่งเป็น amphibian ส่วนตุ๊ดตู่เป็น reptile
29. ผิด spermatheca อยู่ในแมลงตัวเมียช่วยเก็บอสุจิเอาไว้ผสมพันธุ์
30. ผิด เฉพาะ urethra เท่านั้นที่เปิดร่วมระหว่างน้ำอสุจิและปัสสาวะ ส่วน ureter คือท่อไต

ตอนที่ 2
1. ค.
การสร้างอสุจิเกิดจากต่อมใต้สมองกระตุ้นเซลล์ใน seminiferous tubule ไม่เกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ (a) หรือต่อมลูกหมาก + ต่อมคาวเปอร์ (b, c) เพราะสองอย่างหลังเอาไว้สร้างน้ำเลี้ยงอสุจิ
2. ง.
a) ถูก yolk ของกบสะสมอยู่ด้านล่าง (vegetal pole) ทำให้มองเห็นเป็นสีเหลือง
b) ถูก กบก็เหมือนคน dermis (หนังแท้) เจริญมาจาก mesoderm ส่วน epidermis (หนังกำพร้า) เจริญมาจาก ectoderm
c) ถูก ฮอร์โมน thyroxine จากต่อมไทรอยด์ทำให้กบเปลี่ยนจากลูกอ๊อดเป็นตัวเต็มวัย
3. ก.
a) ถูก ปริมาณและการกระจายตัวของ yolk ส่งผลต่อการ cleavge ว่าจะแบ่งทั้งหมดของเซลล์ไข่มั้ย หรือแบ่งโดยที่แต่ละเซลล์มีขนาดเท่ากันรึเปล่า
b) ผิด ขนาดเอมบริโอขึ้นกับสัตว์แต่ละชนิด แมลงมีไข่เยอะแยะแต่เอมบริโอของมันก็ไม่ได้ตัวใหญ่กว่ามนุษย์ซึ่งมีไข่นิดเดียว
c) ผิด ระยะต่างๆของเอมบริโอเหมือนกันในสัตว์แต่ละชนิด ทั้ง cleavge, blastulation, gastrulation, organogenesis ต่างกันบ้างในรายละเอียด
4. ง.
รุ่นลูกไม่มีโอกาสต้านทานต่อสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี แสดงว่าลูกทุกตัวเหมือนกันหมด นั่นคือถามว่าข้อไหนเป็น asexual reproduction นั่นเอง
5. ข.
A = mitochondria, B = flagellum, C = basal body (ฐานของ flagellum) ซึ่งจะกลายเป็น centriole ในเซลล์ปฏิสนธิ เพราะโครงสร้างมัน 9+0 เหมือนกัน, D = acrosome
ก. ถูก เพราะการสร้างตัวอสุจิ (spermatogenesis) ต้องได้รับการกระตุ้นจาก FSH
ข. ผิด นอกจาก B แล้ว C ก็ประกอบด้วยท่อ microtubule
ค. ถูก A สร้างพลังงาน, B เอาไว้โบกพัด และ C เป็นฐานของ B
ง. ถูก acrosome ถูกสร้างมาจาก Golgi body บรรจุน้ำย่อยสำหรับย่อยเยื่อหุ้มไข่
6. ค.
a) ถูก น้ำย่อยจาก acrosome จะย่อยเยื่อหุ้มไข่
b) ผิด vitelline membrane เป็นชั้นที่มีอยู่แล้ว ต้องเปลี่ยนเป็น fertilization envelope ถึงจะถูก
c) ถูก การปฏิสนธิจะกระตุ้น meiosis II ของ secondary oocyte ที่ค้างอยู่ในระยะ metaphase II ให้เสร็จจนกลายเป็น egg cell
7. ง.
ก. ถูก เด็กชายเกิดมาพร้อม spermatogonia แต่เด็กหญิงนั้น oogonia แบ่งเซลล์ได้ primary oocyte หมดแล้วและเกิดมาพร้อมกับ primary oocyte ซึ่งแบ่งเซลล์เพิ่มจำนวนไม่ได้
ข. ถูก sperm สร้างขึ้นมาก่อน เข้าไปเจาะไข่ในระยะ secondary oocyte เกิดการปฏิสนธิซึ่งกระตุ้นให้ secondary oocyte แบ่งเซลล์ต่อได้ egg cell
ค. ถูก การสร้างอสุจิสร้างได้แบบฟรีสไตล์ แต่การสร้างไข่จะเกิดขึ้นทุกๆ 28 วันเรียกรอบเดือน
ง. ผิด ต้องเปลี่ยนคำว่า secondary oocyte เป็น primary oocyte ใน primary follicle ถึงจะถูกต้องที่สุด
8. ง.
ก. เท่า secondary oocyte (n) antipodal (n)
ข. เท่า spermatozoa (n) microspore (n)
ค. เท่า primary oocyte (2n) megaspore mother cell (2n)
ง. ไม่เท่า polar body (n) polar nuclei (2n)
9. ข.
a = seminiferous tubule เอาไว้สร้าง
b = vas efferents เอาไว้ส่งออกนอกอัณฑะ
c = epididymis เอาไว้เก็บอสุจิและทำให้อสุจิสมบูรณ์แข็งแรง
d = vas deferens เอาไว้ส่งอสุจิออกไปท่อปัสสาวะ เป็นที่ที่เอาไว้ทำหมัน
10. ก.
A = leydig cell, B = sertoli cell, C = sperm
A เป็นเซลล์เป้าหมายของ LH และสร้างฮอร์โมนเพศชาย (androgens) ไปกระตุ้นร่างกายได้
B เป็นเซลล์เป้าหมายของ FSH แต่สร้างฮอร์โมนเพศชายไม่ได้
11. ง.
M = follicular cell (2n) ล้อมรอบเซลล์ไข่ที่ตก
N = secondary oocyte ระยะ metaphase II (n)
C = sperm (n), E = spermatogonium (2n)
A = Leydig cell (2n), B = sertoli cell (2n), D = เซลล์บุหลอดธรรมดาๆ (2n)
12. ข.
โครงสร้างที่ทำให้รังไข่เป็นต่อมไร้ท่อต้องเป็นโครงสร้างที่สร้างฮอร์โมนได้ คือ
1) Grafian follicle และ growing follicle (P และ T ตามลำดับ) สร้าง estrogen
2) corpus luteum (Q) สร้าง progesterone + estrogen หน่อยๆ
ส่วน R คือ corpus albicans ที่ไม่สร้างฮอร์โมนใดๆ และ S คือ primary follicle ที่ยังไม่ถูกกระตุ้น ยังนิ่งๆไม่สร้างอะไรเหมือนกัน
13. ค.
S = primary follicle เกิดมาพร้อมกับเด็กหญิงทุกคน
T = growing follicle ต้องถูกกระตุ้นด้วย FSH เมื่อเป็นสาว
U = เนื้อเยื่อรังไข่ธรรมดาๆ ต้องมีอยู่แล้วตั้งแต่เกิด
Q = corpus luteum เกิดขึ้นหลังตกไข่ในระยะเจริญพันธุ์
14. ง.
ข้อ ง. ผิดตรงคำว่า น้ำอสุจิ ต้องเปลี่ยนเป็น ตัวอสุจิ
15. ข.
a), b) ถูก รู้ได้ในระยะ gastrulation ที่สร้างชั้นเนื้อ germ layer และทางเดินอาหาร
c) ผิด เป็น deuterostomia ก็จริงแต่ blastopore เจริญเป็นทวารหนัก คือปากเกิดทีหลัง
16. ค.
secondary oocyte จะเปลี่ยนเป็น ovum หรือ egg cell เมื่อถูกกระตุ้นด้วยการปฏิสนธิ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วง 1/3 แรกของความยาวท่อนำไข่ (ตำแหน่ง c)
17. ค.
A = FSH, B = LH, C = estrogen, D = progesterone
จำเส้นกราฟทั้งสี่ไปเลยแล้วชีวิตจะสบายนะ **
ก. ผิด FSH กระตุ้นการเจริญของ follicle และการ meiosis ของไข่
ข. ผิด LH กระตุ้นให้เกิดการตกไข่ และเนื้อเยื่อ follicular cell ที่เหลือเปลี่ยนเป็น corpus luteum
ค. ถูก estrogen เกี่ยวกับลักษณะเพศที่สอง และทำให้ประจำเดือนไม่มา ถ้าเกิด estrogen ลดลงจึงเป็นช่วงที่เกิดประจำเดือน
ง. ผิด progesterone ช่วงคงสภาพผนังมดลูกเอาไว้เหมาะสมหรับการฝังตัวของเอมบริโอ
18. ค.
ก. ถูก 12 ม.ค.ไข่ใกล้ตกเต็มที follicle เจริญถึงระดับ Graafian
ข. ถูก กลางรอบเดือนพอดี ไข่ตก
ค. ผิด ตอนนั้น corpus luteum ต้องฝ่อกลายเป็น corpus albicans ตั้งนานแล้ว เป็นช่วงที่ใกล้จะมีประจำเดือน
ง. ถูก วันแรกของการมีประจำเดือนพอดี
19. ง.
HCG คล้าย LH ช่วยคง corpus luteum ในช่วงแรกของการตั้งท้อง ส่วน LH ช่วยคง corpus luteum ในช่วงครึ่งหลังของรอบเดือน
อันนี้ชอบถามมากๆต้องจำนะ
20. ค.
A = ของ mammal อย่างเช่นคน เพราะรูปร่างสุดท้ายเหมือนตัวอ่อนในระยะ blastocyst
B = ของสัตว์จำพวก reptile, สัตว์ปีก และ monotreme เพราะมีการแบ่ง cleavage แค่ส่วนหนึ่งของเซลล์ไข่ บริเวณ germinal disk เท่านั้น
ก. ผิด B เป็นสัตว์เลือดอุ่นก็มี อย่างสัตว์ปีก, monotreme
ข. ผิด B ไม่ได้เป็นแค่สัตว์ปีก เพราะ reptile ก็ไม่มี feather
ค. ถูก A ได้อาหารจากรก ส่วน B ได้อาหารจากไข่แดง
ง. ผิด มั่วมาก A ไม่ได้มี metamorphosis ส่วน B ก็ไม่ได้มีการลอกคราบ (ecdysis)
21. ก.
เรียงลำดับได้ดังนี้
ก. ectoderm mesoderm endoderm
ข. ectoderm endoderm endoderm
ค. mesoderm mesoderm endoderm
ง. ectoderm mesoderm mesoderm
22. ง.
หมายถึงสัตว์แมลงที่เป็น incomplete metamorphosis อย่างแมลงปอ, ชีปะขาว
23. ข.
ก. ผิด เรียงได้เป็น c b c
ข. ถูก เรียงเป็น a b c
ค. ผิด เรียงได้เป็น a c c
ง. ผิด เรียงได้เป็น b a c
ปล. ต้องเป็นตัวกินมดคล้ายเม่นและตุ่นปากเป็ด ถึงจะออกลูกเป็นไข่ ถ้าตัวกินมด, เม่นเฉยๆ ไม่ได้นะ
ส่วนปลาเข็ม สอด สร้อย หางนกยูง ไม่เหมือนปลากระดูกแข็งอื่นๆ (ที่ปฏิสนธิภายนอก) ตรงที่ปฏิสนธิภายใน ออกลูกเป็นตัว ได้อาหารจากไข่แดง
24. ข.
a) ถูก สายสะดือแลกเปลี่ยนสารต่างๆจากรกให้ลูก
b) ถูก ตามนั้น
c) ผิด artery คือออกจากหัวใจลูกไปหาแม่ ลำเลียงเลือดเสีย ส่วน vein คือเข้าหัวใจลูก ลำเลียงเลือดดี
25. ก.
โครงสร้างที่เห็นเหมือนนิ้วๆ คือรก ดังนั้นสัตว์ตัวนี้เป็น mammal ประเภท eutherian (รกแข็งแรง อย่างคน หมูหมาวัวช้าง เม่น ตัวกินมด ฯลฯ) ได้เท่านั้น ส่วนโครงสร้าง A จะเจริญเป็นสายสะดือ อธิบายยังไงดี -*- จำไปเลยจะง่ายกว่านะ สังเกตไหมว่า A มันตรงกับส่วนที่เป็นพุงของเอมบริโอพอดีไง 55
26. ข.
การ cloning สัตว์ต้องเอานิวเคลียสของเซลล์ไข่ออกไป แล้วเอานิวเคลียสของเซลล์ร่างกายแม่มาใส่ เมื่อเรียบร้อยแล้วก็เอาไปใส่ไว้ในท้องเพศเมียให้อุ้มบุญ
a) ถูก ต้อง oogenesis สร้างเซลล์ไข่ขึ้นมาก่อน
b) ผิด การโคลนนิ่งไม่ต้องใช้เพศผู้เลย
c) ผิด ไม่ต้องใช้การปฏิสนธิจากเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ด้วย
d) ถูก พอได้ตัวอ่อนแล้วก็ต้องเอาไปฝังให้เพศเมีย ไม่งั้นจะให้ตัวอ่อนเจริญในจานทดลองก็คงจะไม่ดี
27. ง.
ทั้งหมดสามารถ binary fission ได้ทั้งอะมีบา (a) ยูกลีนา (b) พารามีเซียม (c)
28. ง.
ในการเจริญระยะต้นของเอมบริโอกบ = cleavge
ในระยะนี้เมื่อจำนวนเซลล์ (แกน X) มากขึ้นยังไง แต่ขนาดของตัวอ่อน หรือปริมาตรเอมบริโอ (แกนY) ยังคงเท่าเดิม ทำให้ได้กราฟเป็นเส้นตรง คือข้อ ง.
แต่ถ้าเปลี่ยนให้แกน Y เป็นขนาดของเซลล์ ก็จะตอบข้อ ค. เพราะยิ่งเซลล์มากขึ้นๆแต่ปริมาตรเอมบริโอยังเท่าเดิม ทำให้เซลล์ใหม่ๆเบียดกันและมีขนาดเล็กลง
29. ข.
จาก 16 เซลล์กลายเป็น 256 เซลล์ (16 > 32 > 64 > 128 > 256) จะเห็นได้ว่าต้องแบ่งเซลล์ทั้งหมดสี่ครั้ง
แปดโมงเช้าถึงสี่โมงเย็นคิดเป็น 8 ชม. แบ่งเซลล์ได้ 4 ครั้ง
แสดงว่าการแบ่งเซลล์แต่ละครั้งใช้เวลา 8 / 4 = 2 ชม.
และหากอยากรู้ว่าเริ่มแบ่ง zygote ที่กี่โมงต้องนับย้อนขึ้นไป
(1 > 2 > 4 > 8 > 16) จะเห็นว่าต้องแบ่งเซลล์ก่อนถึงแปดโมงเช้าอีกสี่ครั้ง คิดเป็น 8 ชั่วโมงเหมือนกัน
แปดโมงเช้านับย้อนไปแปดชม.จึงเริ่มแบ่งที่เที่ยงคืนพอดี
30. ง.
มีการเปลี่ยนแปลงไปทำหน้าที่เฉพาะ (differentiation) น้อยที่สุด ก็น่าจะเป็นเซลล์ที่ยังแบ่งเซลล์ได้เรื่อยๆ
a) ถูก สามารถแบ่งเซลล์สร้างหนังกำพร้าได้เรื่อยๆ
b), c) ผิด เซลล์กล้ามเนื้อและเซลล์ประสาทผ่านการเปลี่ยนแปลงเพื่อทำหน้าที่เฉพาะมาแล้ว (differentiation)
d) ถูก เซลล์ไขกระดูกยังแบ่งเซลล์สร้างเม็ดเลือดได้เรื่อยๆ

Create Date : 03 ตุลาคม 2552

Last Update : 12 มกราคม 2553 13:35:09 น.

28 comments

Counter : 24433 Pageviews.

ตอนที่1 ข้อ5 ต้องเปลี่ยนเป็น Metaphase II ด้วยป่าวคะ??

ตอนที่ 2 ข้อ 30 ต้องตอบ ข. รึป่าวคะ

โดย: *-* IP: 124.121.171.77 วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:20:02:32 น.

1/5 ใช่ครับ secondary oocyte ในระยะ metaphase II
2/30 ข. คือ เซลล์กล้ามเนื้อกับเซลล์ประสาทอะหรอครับ
มันเกิด differentiation (เปลี่ยนแปลงรูปร่างไปทำหน้าที่เฉพาะ) ไปมากแล้วนะ
เหมือนกับเซลล์ส่วนใหญ่ของร่างกายอะ
โจทย์ถาม "differentiation น้อยสุด" เลยต้องตอบข้อที่มันแบ่งเซลล์ได้เรื่อยๆไง
นั่นคือเซลล์ใต้ชั้นผิวหนังสร้างผิวหนัง กับเซลล์ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือด

โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว

) วันที่: 5 ธันวาคม 2552 เวลา:20:33:54 น.

พิมพ์ผิดครับ
2/30 อ่ะครับ โจทย์คลุมเครือครับ ผมอ่านผมก็ว่าน่าจะหมายถึงเซลล์ใดที่จะมีการเปลี่ยนสภาพต่อไปน้อยที่สุด
ขอเสนอว่า ควรจะเปลี่ยนเป็นข้อใดเกิดการเปลี่ยนสภาพไปแล้วน้อยที่สุดอ่าครับ คือมันงงเรื่องการใช้ภาษาอ่าครับ

โดย: แตงโม IP: 58.9.109.181 วันที่: 2 มกราคม 2553 เวลา:20:24:33 น.

ขอบใจครับ พี่จะลองเปลี่ยนดูละกัน
เพราะลอกโจทย์มาจากเอนท์ปี 43 เดือนมีนาฯครับ

โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว

) วันที่: 2 มกราคม 2553 เวลา:21:51:23 น.

พี่เต๊น หนังสือเล่มนึงเค้าบอกว่าสายสะดือคือ yolk sac ที่มีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันมาหุ้ม t/f อ่าพี่

ขอบคุณค่ะ ^^''

โดย: frozen IP: 172.16.3.252, 202.129.12.194 วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:10:18:38 น.

พี่เต๊นข้อ 9 Part T/F อ่ะพี่ มันสูงกว่าตอนสาวๆอีกหรอคะ มันไม่ใช่สูงเท่าๆกับตอนสาวแต่แค่ progesterone และ estrogen ต่ำลงมากๆหรอพี่??

ขอบคุณค่ะ

โดย: frozen IP: 172.16.3.121, 202.129.12.194 วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:12:18:06 น.

พี่เต๊นคะ
งงมากค่ะ

คือ progesterone นี่มันแปรตามความหนาของผนังมดลูกรึเปล่าอ่ะคะ
แบบ P สูง ผนังมดลูกก็หนา
หรือมันแค่ช่วยคงสภาพมดลูกเฉยๆ ?

T_T

โดย: NOONmidday IP: 125.24.131.22 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:11:34 น.

# น้องแพรว
- สายสะดือมาจากหลายๆโครงสร้างประกอบกัน ไม่ได้มาจาก yolk sac อย่างเดียว
พี่ค้นให้แล้วแต่มันไม่เจอ คุ้นๆว่าเคยเรียน (เคยเป็นเหมือนกันใช่ไหม 55+)
ไม่ชัวเลยแต่น่าจะมี yolk sac เสี้ยวนึง allantois เสี้ยวนึง และอื่นๆอีก
- FSH/LH ในคนวัยทองสูงขึ้นครับ
เพราะปกติเวลาสาวๆมี E+P ไปยับยั้งต่อมใต้สมอง (negative feedback) ไม่ให้หลั่ง FSH กับ LH ออกมาในช่วงครึ่งหลังของรอบเดือน
พอรังไข่หมดสต๊อกปุ๊บ E+P เลยไม่มีเลย FLS/LH เลยร่าเริงหลั่งออกมาได้อย่างล้นหลามโดยไม่มีอะไรมายับยั้ง

# น้องนุ่น?
พี่ย่อหนังสือเรียนพี่มาให้ละกัน
ในแต่ละรอบเดือน ที่ endometrium จะเปลี่ยนแปลงได้สองช่วง
1. ช่วงสร้างเสริม (proliferative phase): เกี่ยวกับ estrogen
หลังมีประจำเดือนแล้ว E จะทำให้ endometrium หนาขึ้นๆชดเชยส่วนที่หลุดไป
และจะเจริญหนาขึ้นจนถึงกลางเดือน
2. ช่วงหลั่ง (secretory phase): เกี่ยวกับ progesterone
หลังไข่ตก P จะทำให้ endometrium ส่วนบนๆหยุดเจริญ แต่จะมีลักษณะอวบหนามากขึ้น มีต่อมและหลอดเลือดคดเคี้ยวมากมาย
เพื่อเตรียมสำหรับรอรับตัวอ่อนที่อาจมาฝังตัวถ้าปฏิสนธิ
กราฟในหนังสือเรียนก็จะเห็นว่าช่วงครึ่งหลังรอบเดือนมัน

ไม่ได้หนาขึ้นมากมายตาม P ที่เพิ่มขึ้นเป็นภูเขา แต่จะดูฟูๆนิ่มๆเพราะต่อมและหลอดเลือดมากกว่า
ถ้าปกติเราจะพูดรวมๆไปเลยว่า E กับ P ช่วยกันทำให้ผนังมดลูกหนา และคงเอาไว้รอการผสมนะ ^^

โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว

) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:36:13 น.

พี่เต๊นคะ ทำไมผู้ชายถึงสร้างอสุจิได้ตลอดชีวิต แต่ผู้หญิงสร้างได้จำกัดล่ะคะ ขอบคุณคะ

โดย: ป้อน IP: 124.120.86.254 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:40:36 น.

เอ่อ.. หนูหมายถึงผู้หญิงสร้างไข่ ได้จำกัดนะคะ ^^"

โดย: ป้อน IP: 203.144.144.165 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:05:32 น.

1. คำตอบง่ายที่สุดที่เอาไว้ตอบในข้อสอบ
เพราะว่าเด็กผู้ชายเกิดมาพร้อม spermatogonium ซึ่งยังสามารถแบ่งเซลล์ได้เรื่อยๆครับ เป็น stem cell นั่นเอง
แต่เด็กผู้หญิงเกิดมาพร้อม primary oocyte ที่ผ่านการ meiosis มาแล้ว เพิ่มไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว มีแต่จะหมดไปเรื่อยๆในที่สุด
2. นอกจากนี้ยังเป็นเพราะระบบฮอร์โมนของผู้ชายมีแค่ testosterone เป็นหลัก หลั่งง่ายๆคงที่
แต่ของผู้หญิงยากกว่า ซับซ้อนกว่ามาก เป็นรอบเดือน กว่าจะได้ฟองหนึ่งจึงลำบาก
3. ในแง่ของวิวัฒนาการ เพศชายมีหน้าที่กระจายเผ่าพันธุ์ที่มีลักษณะพันธุกรรมของตัวเองให้ได้มากที่สุด
นั่นคือความสามารถในการสืบพันธุ์มาก
แต่เพศหญิงมีหน้าที่คัดกรองพันธุกรรมฝ่ายชายที่ดีๆปริมาณมากๆนั้นเอาไว้
และยังเป็นเพศที่ทำหน้าที่ดูแลเลี้ยงดูลูก จึงต้องสร้างเซลล์สืบพันธุ์ในปริมาณจำกัด ความสามารถในการสืบพันธุ์น้อยกว่า เพราะการออกลูกครั้งนึงมันกินพลังงานและเสี่ยงกับหลายๆอย่าง จึงสงวนเอาไว้สำหรับสิ่งที่ตนคิดว่าดีที่สุดนั่นเอง

โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว

) วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:34:44 น.

สงสัยค่ะๆๆ เห็นหลายเล่มเฉลยไม่เหมือนกัน

1.ถ้าใส่สารทำลายเซนทริโอลของเลล์สเปอร์มาติดที่จพัฒนาไปเป็นอสุจิจะมีผลอย่างไร(Entตุลา43)
ก.อสุจิมีจำนวนโครโมโซมผิดปกติ
ข.อสุจิไม่สามารถเคลื่อนที่ได้
ค.จำนวณอสุจิลดลง
1.)ก 2.)ข 3.)ก และ ข 4.)ข และ ค

2.ที่บริเวณใดของหลอดสร้างอสุจิที่พบมี germ cells ในระยะspermatocyte(Ent36)
1.)ภายใน sertoli cell 2.)ส่วนติดต่อกับ lumen 3.)ส่วนที่อยู่ระหว่าง sertoli cell 4.)ส่วนที่ติดต่อกับฐานของหลอดสร้างอสุจิ

3.)จาก primary oocyte 15 เซลล์เมื่อแบ่งตัวจนได้ mature ovum จะมีจำนวน polar body เฉพาะที่แยกตัวโดยตรงจาก oocyte รวมทั้งสิ้นเท่าไร(Ent36)
1.)15 2.)30 3.)45 4.)60

ขอบคุณล่วงหน้านะคะ ^^

โดย: witty IP: 210.246.79.56 วันที่: 16 เมษายน 2553 เวลา:21:16:29 น.

1. centriole สำหรับการสร้าง sperm นั้นนอกจากช่วยแบ่งเซลล์ยังเกี่ยวกับการงอกเป็นหาง (flagellum) ด้วยครับ
ก. ผิด - ในระยะ spematid ไม่ต้องใช้ centriole ทำอะไรกับโครโมโซมแล้ว ไม่มีผลอะไร
ข. ถูก - เพราะไม่มีหาง
ค. ถูก - เมื่อไม่มีหาง sperm ก็ถือว่าไม่สมบูรณ์ เคลื่อนที่ไม่ได้ จำนวน sperm ที่ออกมากับน้ำอสุจิต้องลดลงแน่ๆ
มีโรคๆหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับ microtubule ก็ทำให้ผู้ชายเป็นหมันได้ด้วยเหตุผลนี้แหละครับ

2. ในท่อ seminiferous tubule
//embryology.med.unsw.edu.au/histology/reproductive/tey041he.jpg
ส่วนที่ติดกับฐานหลอดจะเป็น spermatogonia
ส่วนที่อยู่ด้าน lumen จะเป็น sperm นะ และมักหันหัวเข้าหา sertoli ด้วย
ส่วนกลางๆจะเป็น spermatocyte ทั้ง 1ry และ 2ry มี sertoli แทรกอยุ่บ้างอะครับ
ข้อนี้พี่ว่าตอบ 3 นะดูเข้าท่าสุด

3. ดูแผนภาพหน้า 112 ละกัน
จาก primary oocyte 1 อันกลายเป็น mature ovum 1 อัน จะสร้าง polar body ได้ 4 อัน
มี first, second และอีกสองอันที่พี่เขียนไว้ว่ามักไม่เกิด
1st polar body มาจาก 1ry ocyte
2nd polar body มาจาก 2ry oocyte
ทั้งสองจึงมาจาก oocyte โดยตรง
ส่วนไอ้ที่มักไม่เกิด มันมาจาก polr body อีกต่อหนึ่ง จึงไม่นับ
สรุปคือ 1 primary oocyte ให้ 2 polar body ที่แยกตัวจาก oocyte โดยตรง
ดังนั้น 15 อัน ก็ตอบ 30 polr body นะ..ข้อ 2. อะครับ

โดย: เต๊น (ตัวตุ่นตามัว

) วันที่: 17 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:40:37 น.

เกณฑ์ในการจำแนกก็คือลำดับการเกิดปากกับทวารหนักใช่ไหมครับว่าอันไหนเกิด ก่อนกัน ซึ่งผมเข้าใจว่า ต้องเอาสัตว์พวกที่มีทางเดินอาหารสมบูรณ์มาพิจารณา เพราะจะได้มีทั้งปากและตูด แต่ทำไม หนอนตัวแบน และไฮดรา ถึงถูกจัดอยู่ใน Protostomia ล่ะครับ ทั้ง ๆ ที่ทางเดินอาหารไม่สมบูรณ์

ขอบคุณมากครับ

โดย: น้องป่าน IP: 118.172.172.90 วันที่: 2 กันยายน 2553 เวลา:22:54:27 น.

พี่เต๊นค่ะ ^^

คือหนูสงสัยว่าparthenogenesis เป็นการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศหรือไม่อาศัยเพศ??

ทำไมหนังสือถึงพิมพ์ไม่เหมือนกัน --a

โดย: KUNG IP: 112.142.108.119 วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:10:42:09 น.

พี่เต๊นคับ มีคำถาม จากเพื่อนที่ไปสอบ CU-Sci มา

ถ้าเกิดเราไม่อยากให้เมนมา เราต้องกินฮอร์โมนอะไรครับ

ช้อยมันมี

1)เอสโตรเจน
2)โปรเจนสเตอโรน
3)ทั้ง 2 อย่าง

เหนในหนังสือเขียนว่ายาคุมมี 2 แบบ E+P ป้องการตกไข่ เพราะไปยุ่งกับ LH FSH

ส่วน P ทำให้มดลูกไม่เหมาะกับการฝังตัว

แต่ถ้ามี P มดลูกก็น่าจะคงสภาพไว้ได้นิครับ

สรุปแล้วตอบข้อไหนกันหว่า -0-

โดย: Lolizt's IP: 125.27.176.87 วันที่: 29 ตุลาคม 2553 เวลา:10:00:26 น.

โจทย์endometriumข้อ12ที่ว่า
"ปริมาณestrogenและprogesteroneที่น้อยลงในช่วงครึ่งหลังของรอบเดือน ทำให้ผนังรังไข่ชั้นendometriumหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน"

คือหนูสงสัยว่า endometrium มันอยู่ที่"มดลูก"ไม่ใช่เหรอค่ะ ไม่ใช่"รังไข่"

เพราะฉะนั้นข้อนี้น่าจะตอบ ผิด

หรือว่าหนูเข้าใจผิด -*-

โดย: Piscesearly IP: 58.9.60.59 วันที่: 8 มกราคม 2554 เวลา:8:32:00 น.

โจทย์ตอนที่1ข้อ12ที่ว่า
"ปริมาณestrogenและprogesteroneที่น้อยลงในช่วงครึ่งหลังของรอบเดือน ทำให้ผนังรังไข่ชั้นendometriumหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน"

คือหนูสงสัยว่า endometrium มันอยู่ที่"มดลูก"ไม่ใช่เหรอค่ะ ไม่ใช่"รังไข่"

เพราะฉะนั้นข้อนี้น่าจะตอบ ผิด

หรือว่าหนูเข้าใจผิด -*-

โดย: Piscesearly IP: 58.9.60.59 วันที่: 8 มกราคม 2554 เวลา:8:41:01 น.

พี่ครับ
ข้อ 4ตอน2 อ่ะ
pathenogenesis ไม่ใช่การสืบพันธุ์แบบ
asexual เหรอครับ?

โดย: คิระ IP: 61.7.171.58 วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:13:21 น.

ที่รกมันมี artery กับ vein อย่างละ 1 1 ไม่ใช่หรอครับ งง

โดย: mawin IP: 58.8.209.88 วันที่: 12 กรกฎาคม 2554 เวลา:10:45:45 น.

Pathenogenesis เป็น sexual ผมเข้าใจแล้วครับ :)

โดย: คิระ IP: 61.7.171.31 วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:18:45:40 น.

"1/7. ผิด ต้องเปลี่ยนคำว่า sperm เป็น spermatid เพราะ sperm เป็นเซลล์ที่ได้จาก differentiation ของ spermatid ต่างหาก"

แล้วspermมันไม่ได้4เซลล์เหมือนกันหรอคะถึงได้ผิด??

โดย: may IP: 110.168.86.244 วันที่: 3 ตุลาคม 2554 เวลา:13:13:27 น.

เอ้ย โทดทีค่ะ ดูผิดข้อ เฉลยข้อ7ไปเช็คข้อ8 = =*

โดย: may IP: 110.168.86.244 วันที่: 3 ตุลาคม 2554 เวลา:13:17:08 น.

คือข้อ27ถูกผิดอะครับ พี่ถามปริมาณ DNA ของ pimary spermatocyte เทียบกับของ sperm ทำไมไม่ตอบ 4x อะครับ

โดย: หนึ่ง IP: 58.9.190.27 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2554 เวลา:19:18:20 น.

ทำไมไม่ตอบ4x อ่าพี่ หรือ sperm มัน replicated เหรอ

โดย: คิดเหมือนกันเลย IP: 182.53.181.189 วันที่: 2 ธันวาคม 2554 เวลา:23:13:35 น.

สวัสดีค่ะ พี่เต๊น
หนูสงสัยข้อ 4 ตอนที่ 2 ค่ะ
ทำไม parthenogenesis ของมดดำ
ถึงไม่เป็น asexual reproduction ละคะ
ช่วยอธิบายให้หน่อยได้ไหมคะ
ขอบคุณค่ะ

โดย: MP IP: 58.9.25.248 วันที่: 1 เมษายน 2556 เวลา:21:11:26 น.

พี่เต๊นคะ ตรงนี้หนูไม่เข้าใจที่พี่อธิบาย ตอนที่ 2 ข้อ 23
"ปล ต้องเป็นตัวกินมดคล้ายเม่นและตุ่นปากเป็ด ถึงจะออกลูกเป็นไข่ ถ้าตัวกินมด, เม่นเฉยๆ ไม่ได้นะ" พี่ช่วยอธิบายเพิ่มหน่อยได้ไหมคะ ?
ขอบคุณค่ะ

โดย: MP IP: 58.9.25.248 วันที่: 1 เมษายน 2556 เวลา:21:47:51 น.

ข้อ 20 กากบาทค่ะ
ถ้า ข.ผิดเพราะ รูป B อาจจะเป็นสัตว์เลื้อยคลาน
งั้น ค.ก็ผิดป่ะคะ ก็รูป A ก็อาจจะเป็นของกบก็ได้นี่คะ กบก็ไม่ได้อาหารจากรกซะหน่อย?
ไม่งั้นก็ถูกทั้งสองข้อเลย lol

โดย: .__. IP: 171.4.250.170 วันที่: 18 ตุลาคม 2556 เวลา:8:07:15 น.