### รีวิว เที่ยวภูเก็ต พักกับ SUGAR PALM GRAND HILLSIDE - Part 1 ###

หลังจากรอคอยมานานหลายเดือน...

ก็มาถึงวันนี้สักที วันที่ผมจะได้พาน้องอ้วนบิน ไปเที่ยวอย่างชาวบ้านเขาบ้าง

จากที่เคยนั่งดูชาวบ้านเขาบินไปไหนมาไหน เราสองคนเคยได้แต่นั่งมองฟ้าทำตาปริบๆ

ตามภาษาคนเงินน้อย แต่อยากเที่ยว...



ทริปนี้ขอขอบคุณหางแดงด้วย ที่ทำให้เราได้ขึ้นเครื่องเป็นครั้งแรกในชีวิต

กับโปร 0 บาทยอดฮิตนั่นเอง....รูปอาจเยอะไปหน่อยนะ ฮิๆ



ไฟต์ที่เดินทางเวลา 8.45 น. ต้องแหกขี้ตาตื่นออกจากแปดริ้วกันตั้งแต่หกโมงเช้า ถึงสนามบินประมาณ7โมง

ด้วยความที่เป็นคนบ้านนอกไม่เคยมาสนามบินกับเขา พอมาครั้งแรกก็ตื่นเต้นมากๆ ทำไมมันใหญ่โตนักวะเนี่ย

บอกตรงๆ เดินหลงไปมาหาตู้คีออสตั้งนาน พอปริ้นส์บอดิ้งพาสเสร็จก็ไปขึ้นเครื่องกัน รูปนี้มุมบังคับ....



วันนี้นึกว่าคนจะน้อย ที่ไหนได้ คนเต็มลำเลยครับ แต่ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี 555

แต่มันรู้สึกเหมือนนั่งรถทัวร์ยังไงก็ไม่รู้ ก็เครื่องมันเล็กนี่เนอะ...



พอเครื่องขึ้นแล้ว ยังไปทำอะไรเปิ่นๆกันอีกตามเคย ก็คนมันไม่เคยนั่งเครื่องบินนี่หว่า 555

เราสองคนแย่งกันมองวิวนอกหน้าต่างกันด้วยความตื่นเต้น อาจรบกวนผู้โดยสารท่านอื่นเล็กน้อย ขออภัยด้วยนะครับ...



พอเครื่องใกล้ถึงภูเก็ตแล้ว สิ่งที่เราไม่อยากเจอก็มาเยือน นั่นก็คือ น้องฝน ไงครับ

น้องอ้วนกลัวเครื่องบินตกครับ ใช้มุกเดิม นั่งกุมพระอีกแล้ว

อีกอย่างก่อนวันที่เราจะเดินทางมาวันนึง ฮอฯของกระทรวงทรัพยากรฯเพิ่งตกด้วย

ทำให้คิดแล้วกลัวกันไปใหญ่เลยครับ...



พอเครื่องแลนดิ้งเรียบร้อยแล้ว เราสองคนก็โล่งอกหน่อย รอดแล้วตรู...

มองรันเวย์สนามบินที่นี่แล้วเสียวๆเหมือนกันแฮะ สุดทางคือทะเล...



วันนี้ฝนตกเยอะมากๆเลยครับ ดีนะที่ตัดสินใจซื้อแพ๊คเกจที่งาน ที่พักรวมรถรับส่ง

ไม่งั้นถ้าเช่ารถเครื่อง ขับไปจากสนามบินเปียกกแน่นอน ...



พอลงจากเครื่องก็มีรถบัสมารับเข้าไปที่ในสนามบิน เราก็เดินตามเขาไปนั่นแหละ

เที่ยวนี้เป็นบัสเกท จากนั้นเดินไปหารถของโรงแรมที่หน้าสนามบิน ยืนรออยู่พักนึงพี่โชเฟอร์เขาก็มารับ

วันนี้มีบุญตูดแฮะ ได้นั่งทั้งเครื่องบิน และ ก็นั่งรถเก๋งด้วย ฮิๆ...



ที่พักที่เราจะมาพักในทริปนี้ก็คือ..

SUGAR PALM GRAND HILLSIDE ครับ

หลังจากเลือกมานานก็มาจบที่นี่ เพราะน้องอ้วนอยากเล่นสระน้ำครับ

บินมาตั้งไกล เพื่อจะมาเล่นน้ำในสระครับ...



ที่นี่จะอยู่บนเขา ใกล้กับหาดกะตะ ตัวรีสอร์ทจะสร้างเล่นระดับขึ้นไป ผมนับชั้นได้น่าจะมีประมาณ13ชั้น

มีสระว่ายน้ำน่าจะ11สระ ถ้าจำไม่ผิด ที่นี่ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุเท่าไหร่นะครับ...




พอมาถึง พนักงานก็พาเข้าไปเช็คอินที่lobbyชั่วคราวด้านล่างครับ เพราะด้านบนยังปรับปรุงไม่เสร็จ แต่ก็ยังเข้าห้องไม่ได้ครับ

จากนั้นให้พนักงานช่วยติดต่อหารถมอเตอร์ไซด์ให้เช่าด้วย น้องเค้าโทรกริ๊งงเดียว รถก็มาให้ถึงที่เลยครับ

สนนราคาวันละ 250 บาท กับรถแอร์เบลด เราเลยอุดหนุนไป2วันครับ

เหตุผลที่เราให้ทางรีสอร์ทหารถให้ เพราะว่าเวลาคืน เราไม่ต้องเอาไปคืนที่ร้านครับ เราสามารถฝากกุญแจรถเอาไว้ตอนเช็คเอ้าท์ได้เลย...



จากนั้นเราก็เดินไปหาข้าวกินกันที่ร้าน ออคิดส์ ร้านนี้จะอยู่ติดกันกับที่นี่เลยครับ เดินมาได้เลย

น้องอ้วนสั่งส้มตำปูม้า ต้มยำรวมมิตรทะเล ไข่เจียวปู ข้าวผัดปูอีกคนละจาน

ร้านนี้ราคาคนไทยครับ ขอบอกเลย ถ้าเป็นคนไทยป้าแกจะให้เยอะเป็นพิเศษครับ ใครไปพักที่นี่ไม่ต้องไปหากินไกลครับ...



กองทัพเดินด้วยท้องครับ มื้อนี้หมดไปห้าร้อยถ้วนครับ...



จากนั้เเราก็ไปที่ห้องพักกันครับ แน่นอนห้องที่เราจองไว้เป็นpool access ต้องติดสระว่ายน้ำแน่ๆ ก่อนมารีเควสไว้ว่าขอห้องหมายเลข 3104 ก็ได้ตามที่ขอครับ

เพราะเห็นมีคนแนะนำว่าวิวดี ไอ้เราก็นึกว่าห้องมันจะอยู่ชั้น3 แต่ที่ไหนได้ โอ้แม่เจ้า ห้องอยู่ชั้นเกือบบนสุดเลย

แต่ยังดีที่นี่มีรถกอล์ฟคอยรับส่ง ไม่งั้นเดินกันขาลากแน่ๆ...



เข้ามาดูในห้องกันว่าเป็นยังไงกันบ้างครับ...มีกระจกบานใหญ่มาก

ห้องนี้มีตู้เย็นใหญ่ด้วยนะครับ ห้องtypeอื่น จะเป็นตู้เย็นเล็กมั้ง ถ้าจำไม่ผิด

จะมีน้ำคื่มให้ วันละ 2 ขวดด้วย...



อ่างล้างหน้า มีให้2อ่าง ไม่ต้องแย่งกันใช้...



ตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ มีเซพ รองเท้าแตะ ร่ม ไฟฉาย กระเป๋าผ้าและเสื้อคลุมให้ด้วยครับ...



ถัดมาเป็นLCD 32 นิ้ว พร้อมเครื่องเล่นDVD ครับ...



กาต้มน้ำร้อน และกาแฟฟรี...



โต๊ะทำงาน พร้อมเมนูต่างๆครับ...



ห้องน้ำที่นี่ มีสายชำระด้วยนะครับ...



พร้อมฝ้กบัวแบบ rain shower ที่ใครๆหลายคนชอบก็มี

มีครีมอาบน้ำ แชมพูต่างๆให้ใช้ 3 ขวดครับ...



ที่สำคัญ อ่างอาบน้ำใหญ่มากๆ แช่สบ๊าย สบาย จริงๆครับ...



แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ที่นี่มีให้พร้อมครับ ....



มาดูเตียงนอนกันบ้างครับ พอดีก่อนวันที่จะมาแอบโทรมากระซิบน้องๆเค้าว่า ฮันนีมูนทริป นะจ๊ะ

น้องเค้าเลยจัดเตียงไว้ให้อย่างที่เห็น ทำเอาน้องอ้วนยิ้มแก้มปริไปเลย ฮิๆ ขอบคุณน้องๆอีกครั้งนะครับ



เตียงนอนที่นี่ใหญ่โต นอนสบายมากครับ นอนกัน2คนนี่ เหลือๆเลย แต่หมอนนุ่มไปนิดนึง ผมชอบหมอนแข็งๆ

อีกอย่างนึงจะมีเตียงอีกอัน คล้ายๆเดย์เบดไว้ปลายเตียงทำไมก็ไม่รู้ เกะกะครับ...



ลืมบอกไปครับ ว่าห้องของที่นี่ จะเป็นพื้นปูนเปลือยนะครับ จะเย็นมาก เวลาเปิดแอร์นานๆ

แต่ที่นี่เขาก็มีรองเท้าแตะให้ใส่ในห้อง 2 คู่ด้วยครับ เดี๋ยวจะพาไปชมด้านนอกกันบ้างครับ...



ด้านอกระเบียง จะมีโต๊ะให้1ชุดครับ เอาไว้นั่งมองวิวชิวๆ และก็มีราวตากผ้าให้ด้วยครับ...



มองออกไปจากระเบียงห้องจะเป็น city view ของกะตะนะครับ ห้องนี้จะมองไม่เห็นทะเล...



และสิ่งที่เราไม่อยากเจอก็กลับมาเยือนเราอีกครั้งครับ น้องฝนนี่เอง ที่เป็นอุปสรรคในการมาเที่ยวพักผ่อนของเราครั้งนี้...



มาที่นี่ วันแรกเกือบทั้งวัน ไม่ได้ออกไปไหนเลยครับ นั่งมองฝนตกที่หน้าต่าง...เอ๊ย สระน้ำกันจนเกือบเย็นเลยครับ...



พอฝนหยุดแล้ว เราก็ไปเดินดูที่นี่กันครับ สระน้ำชั้นนี้ดูน่าพักดีครับ เพราะมีเตียงอาบแดดให้ด้วย

แต่สระจะแคบกว่าห้องที่เราพัก ชั้นนี้จะแชร์สระน้ำกันแค่สระละ2ห้อง แต่ห้องชั้นบนที่เราพักจะแชร์กัน6ห้องครับ...



อย่างที่บอกเอาไว้แล้วครับ ที่นี่ทางขึ้นลงจะชันมากๆ เวลาฝนตกรถกอล์ฟจะไม่วิ่งรับ+-ส่งนะครับ เพราะว่าอันตรายเวลาลื่นมากๆ

เราสองคนเลยเดินลงมากันครับ...



ที่นี่มีลิฟต์ให้ใช้เหมือนกันนะครับ แต่มีให้ไม่ตรบทุกชั้น เนื่องจากตัวอาคารสร้างเล่นระดับไว้บนภูเขา ต้องต่อลิฟต์2ตัว กว่าจะมาถึงห้อง

ซึ่งลิฟต์แต่ละตัวอยู่ห่างกันมากครับ ซึ่งเป็นข้อเสียของที่นี่อีกอย่างหนึ่ง...



เดินลงมาเรื่อยๆจะเห็น สระว่ายน้ำรวมของที่นี่ครับ...



ชั้นนี้จะมีเตียงอาบแดดให้ แต่ไม่มีใครมานอนเลย จะมีได้ยังไงละ ก็ฝนมันเพิ่งตกไป...



บาร์น้ำของที่นี่ครับ ยังไม่มีใครมาใช้บริการเหมือนกัน...



จากนั้นเราสองคนก็เริ่มออกไปเที่ยวกันครับ ขับแอร์เบลดที่เช่ามาออกไปดูสถานที่ต่างๆกันครับ

จุดแรกที่ไปก็คือ จุดชมวิวสามหาดครับ...



จากนั้นขับรถต่อไปยังที่หมายถัดไปครับ นั่นก็คือ แหลมพรมเทพ อันโด่งดัง เพื่อที่จะมาดูพระอาทิตย์ตกน้ำกันครับ

แต่ก็ไม่ได้รอจนมันตก เพราะดูแล้ว เมฆเยอะมากๆ คงจะไม่เห็นพระอาทิตย์ตกแน่ๆครับ...



เอาแค่พระอาทิตย์ตกเมฆก็พอครับ...



ใครที่มาที่นี่ผมไม่เห็นถ่ายรูป ประภาคารกาญจนาภิเษก มั่งเลยครับ ผมเห็นแต่ถ่ายพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรมเทพอย่างเดียวเลย

เลยถ่ายมาให้ดูกันครับ จะได้รู้ ว่ามันอยู่ที่เดียวกัน...



ตู้ไปรษณีย์ที่นี่ ก็สวยงามไม่แพ้กันนะครับ



จากนั้น เราก็ไปหาซื้อข้าวหาของกิน แล้วกลับมากินกันที่ห้องครับ

รีวิวนี้ถ้าจะยาว เดี๋ยวผมแบ่งเป็น 2 ตอนดีกว่าครับ ขอบคุณที่ติดตามตอนแรกนะครับ...

Create Date : 07 กันยายน 2553 Last Update : 9 กันยายน 2553 1:40:11 น. Counter : 2194 Pageviews.		5 comments
Share Tweet