การศึกษาไทยเหมือนไก่ตาแตก

นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

วันนี้เป็นวันเปิดรับสมัครนักเรียน ม.1 - ม.4 เป็นวันแรกทั่วประเทศ

หัว อกผู้ปกครองแล้วไม่ว่าจะอยู่ที่แห่งหนตำบลใดก็คงไม่ได้แตกต่างกัน ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่การรับสมัคร ยังไม่ได้สอบก็ตาม แต่คนเป็นผู้ปกครอง หัวอกมันร้อนรุ่มเหมือนสุมไฟเผาทรวงอก


หลายคนคงตื่นแต่เต้าเพื่อ พาลูกไปสมัครเป็นวันแรก ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วจะสมัครวันแรกหรือวันสุดท้ายก็ไม่มีผล ที่จะทำให้บุตรหลานของตนเองได้มีที่เรียนแน่นอนแต่อย่างใด

แต่คนเป็นพ่อ เป็นแม่มัน อดไม่ได้ ถึงแม้รู้ว่าจะไม่มีผลก็ตามก็พอใจที่จะทำ
ในวันที่ลูกหลานเข้าสอบ หัวใจของพ่อแม่หลายคน มันเต้นรัวผิดจังหวะ
เครียดหนักยิ่งกว่าบุตรหลานของตัวเองเสียอีก

กลัวลูกหลานจะสอบไม่ได้  กลัวไม่มีที่เรียน กลัวสารพัด

ถึง วันประกาศผลสอบ ยิ่งเครียดหนักเข้าไปอีก กลัวลูกจะสอบไม่ได้ ไม่มีชื่อในผลสอบ หลายคนนั่งร้องไห้ โดยไม่อายใคร  อย่างน่าเวทนา ในชะตากรรมของชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำ อย่างเราๆท่านๆทั่วไป

สำหรับ บุตรหลานของผู้ที่มีโอกาสทางสังคม ก้คงไม่มีสิทธิ์รับรู้ถึงความระทมทุกข์นี้ได้  และถือเป็นโชคดี ของบุตรหลานที่เกิดมามีโอกาสในสังคม

ผมเคยถามตัวเองหลายครั้งว่า

ทำไมต้องให้ผู้ปกครองระทมทุกข์ขนาดนี้
ทำไมการเรียนการศึกษา ไม่เป็นสิ่งสามัญพื้นฐานที่สมาชิกในสังคมจะได้รับเท่าเทียมกัน
ทำไมการที่จะให้ลูกหลานของตนเองได้มีที่นั่งเรียนในโรงเรียนใดซักที่ต้องทุ่มเทมากมายอย่างนี้

ทั้งที่เป็นเพียงการศึกษาขั้นพื้นฐานแท้ๆ ทำไมเด็กไทยทุกคนจึงไม่มีโอกาสจะได้รับ

โรงเรียนบางโรงเรียน มันกลายเป็นพาณิชย์ไปแล้ว หากินกับการศึกษา
ใช้เด็กซึ่งเป็นอนาคตของชาติมาเป็นตัวประกัน เพื่อบีบบังคับผู้ปกครองให้ยอมจ่ายเงิน เพื่อแลกกับที่นั่งเรียน

บางโรงเรียน มีห้องเรียน 8 ห้อง ในหนึ่งสายชั้น  แต่นำมาสอบ เพียงแค่ 4 ห้อง แล้วบอกผู้ปกครองว่า เต็ม

ที่เหลืออีก  4 ห้องเก็บไว้ทำไมผมคงไม่ต้องอธิบาย ท่านคงจะเข้าใจ มันเป็นอย่างนี้ไปหมดแล้วครับ

มิหนำซ้ำกระทรวงศึกษาฯ แทนที่จะแก้ปัญหา  กลับแก้ปัญหา แบบยอมจำนน
จะให้โรงเรียนเรียกเก็บเงินบริจาค แทนเงิน แป๊ะเจี๊ย แบบใต้โต๊ะ
หรือเจ้าประคุณลุนช่องไม่รู้ว่า มันก็คือเงินก้อนเดียวกันนั่นเอง แม้จะเรียกชื่ออย่างไรก็ตาม มันคือเงินจากมือผู้ปกครองที่ อดมื้อกินมื้อเพื่อสะสมไว้เพื่อลูกหลาน  ทุกวันนี้รายได้ผู้ปกครองแทบไม่พอซื้ออาหารมายัดไส้ ส่วนหนึ่งต้องออมไว้เพื่อการศึกษาลูกหลาน

การสร้างมหาวิทยาลัยตามมาตรฐานสากล สักหนึ่งแห่ง ใช้ทุนประมาณ  30 ล้านต่อ หนึ่งมหาวิทยาลัย ให้ตายเถอะครับท่านเสนาบดี มันถูกเป็นขี้เลย เมื่อเทียบกับอนาคตของชาติที่จะได้ในภายภาคหน้า  มันดีกว่านำเงินไปละเลงเล่นกับน้ำลายนักการเมืองเป็นไหนๆทำไม่จัดการครับ

จะปล่อยให้สภาพการณ์เช่นนี้อยู่คู่สังคมไทยไปอีกนานแค่ไหน

โอกาสทำให้คนต่างกัน
การศึกษาทำให้คนต่างกัน
เงินทำให้คนต่างกัน

หน่วย งานของรัฐทั้งระบบ ไม่ทราบหรืออย่างไรครับ ทำไม่ท่านไม่เติมเต็ม หยิบยื่นให้ราษฎรของท่าน ที่เขาเลือกท่านมา หรือท่านต้องการให้สภาพสังคมดำรงอยู่เช่นนี้ต่อไปตราบนานเท่านาน



Create Date : 30 เมษายน 2555
Last Update : 7 พฤษภาคม 2555 15:04:30 น.
Counter : 1041 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Thongnetra
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]



New Comments
เมษายน 2555

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
24
25
26
27
28
29
 
 
All Blog