|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เพื่อนสาวสวยชาวไต้หวันที่เคยเรียนคลาสเดียวกัน มาสารภาพหลังจากรู้จักกันมาเป็นปีๆ ว่า
ช่วงที่เค้ายังจำชื่อเราไม่ค่อยได้ (ชื่อเราอ่านเป็นสำเนียงญี่ปุ่นว่า "ทิ ปุ สึ ดา") เวลาจะพูดชื่อเรา เค้าจะตั้งต้นคิดในใจ...
"...เทม ปุ ระ
เทมปุระ ซัง
ทิปุสึดาซัง"
เราชอบไอเดียนี้มากมาย จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ...Tempurachan...
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เขาชื่อ "โก๊ะ" (1/2)
ในเดือนนี้ มีเพื่อนร่วมงานของคุณอ้วนย้ายกลับญี่ปุ่นอย่างถาวรถึงสองคนด้วยกัน
คนหนึ่งเป็นเจ้านายเก่าสมัยอยู่โตเกียว เป็นอเมริกัน ดีกรีเอ็มบีเอจากเบิร์กเลย์ ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ไม่ถึงปี ก็หอบครอบครัวกลับญี่ปุ่นไปซะแล้ว แต่ก็คิดว่า คงหางานใหม่ได้ไม่ยากเพราะเป็นคนเก่งมากๆ
ส่วนอีกคนเป็นรุ่นพี่คนญี่ปุ่น ทำงานที่นี่มาสิบปีแล้ว พยายามขอย้ายกลับญี่ปุ่นมานานแต่ก็ไม่มีตำแหน่งที่เหมาะสมซักที เลยลาออกซะเลย เฮ้อ ฟังแล้วท้อใจ แล้วอย่างคุณอ้วนจะได้ย้ายกลับมั้ยเนี่ย เป็นไงล่ะ อยากโกอินเตอร์ดีนัก อยู่กินก๋วยจั๊บที่นี่สักสิบปีไปเลยนะ (คุณอ้วนเพิ่งเคยกินก๋วยจั๊บ ตอนนี้ยกให้เป็นก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยอันดับสอง รองจากชายสี่บะหมี่เกี๊ยว)
และคุณอ้วนก็ชวนเราไปเลี้ยงส่งรุ่นพี่ชาวญี่ปุ่นคนนี้ (ต่อไปจะเรียกว่า เอสซัง)
แทบทุกครั้งที่คุณอ้วนนัดเจอกับเพื่อนๆ หรือคนรู้จัก ก็จะชวนเราทุกที แต่เราก็มักจะปฏิเสธด้วยเหตุผลที่ฟังดูดีมีน้ำใจว่า เราไม่อยากให้ทุกคนต้องมากังวล อย่างบางคนเป็นเพื่อนเก่า ก็คงอยากจะคุยกันเรื่องสมัยเรียน ซึ่งเราก็ไม่รู้เรื่องด้วย บลาๆๆ สารพัดจะยกมาอ้าง
เหตุผลที่แท้จริงที่เราไม่ค่อยอยากไปก็คือ ในบางอารมณ์เรารู้สึกเหนื่อยมากที่จะพูดภาษาญี่ปุ่น คือถ้าเป็นเพื่อนคนญี่ปุ่นของเรามันก็ไม่ต้องประดิดประดอยถ้อยคำมาก แต่ถ้าเป็นคนที่เพิ่งรู้จักอย่างเพื่อนของคุณอ้วน เราจะรู้สึกได้เลยว่าเวลาเริ่มบทสนทนา สมองเรามันจะประมวลผลดังครืดๆๆ (เหมือนเสียงรันของคอมฯ เก่าๆ) รู้สึกเสียพลังงานมากค่ะ
แต่ทุกครั้งที่หลวมตัวไป คุณอ้วนก็จะแซวแบบขำๆ ว่าเราพูดไม่หยุดเลยนะ อันนี้เราอยากอธิบายว่า เมื่อตัดสินใจไปแล้วก็จะต้องเอ็นจอยให้เต็มที่ จะไปนั่งกินแบบถามคำตอบคำก็กลายเป็นคนไม่มีมารยาทสิ
ครั้งนี้เป็นกรณีพิเศษ เพราะเอสซังและภรรยา (ต่อไปจะเรียกว่า เอ็มซัง) ชอบเมืองไทยมาก ไปเที่ยวไทยเป็นสิบๆ ครั้ง เอ็มซังเคยเทคคอร์สเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยที่ธรรมศาสตร์เลยนะ เราก็เลยอยากไปแจมด้วยด้วย แล้วก็สนุกมากจริงๆ แถมได้เรื่องตลก (แต่ตอนนั้นไม่ตลกเท่าไหร่) มาเขียนในบล็อกด้วย
เราไปเจอกันที่ร้านอาหารไทยที่เอสซังแนะนำ อาหารใช้ได้เลยล่ะ ยำตะไคร้อร่อยมากกก ฟาดข้าวเหนียวมะม่วงไปด้วย เรารู้สึกปลื้มนะ ที่เค้าชอบประเทศไทย (แบบว่าส่วนใหญ่เจอแต่ไทยคลั่งญี่ปุ่น) ทะเลไทยสวย คนไทยใจดี อะไรๆ เมืองไทยก็ดีไปหมด เอสซังกินอาหารที่สิงคโปร์แล้วท้องเสียแต่กินร้านข้างถนนในไทยไม่เป็นไรเลย (มีแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย ฮ่าๆๆ) ส่วนเอ็มซังบอกว่าผู้หญิงไทยผอมหุ่นดี ขาสวย (ถึงตอนนี้เราก็ยิ้มเจื่อนๆ ไม่กล้าตอบรับหรือปฏิเสธ)
ด้วยความที่คุยกันถูกคอมาก (ฝ่ายนึงก็ปลื้มแบบไม่ลืมหูลืมตา ส่วนอีกฝ่ายก็บ้ายอ) เอ็มซังชวนเราไปดื่มต่อที่โรงแรมที่มีชื่อเสียงที่สุดในสิงคโปร์ (ไม่บอกชื่อแต่น่าจะเดาได้) โดยจะขอเป็นเจ้าภาพเอง แต่เนื่องจากมีน้องโคโคนะจัง ลูกสาวของเอสซังและเอ็มซังมาด้วย พวกเราก็เลยเลือกนั่งในส่วนลานกลางแจ้งที่บรรยากาศดีมากๆ น้องจะได้วิ่งเล่น และเราก็ได้พบกับพนักงานต้อนรับที่ชื่อ มิสเตอร์โก๊ะ (Mr. Koh)
เราตั้งใจไว้ว่าจะดื่มสิงคโปร์สลิง ในขณะที่คนอื่นยังลังเลดูเมนูอยู่
เอสซัง: ที่นี่มีเบียร์สดยี่ห้ออะไรบ้าง
มิสเตอร์โก๊ะ: เบียร์สดมีแต่ไทเกอร์ครับ ที่เหลือเป็นเบียร์ขวด
เอสซัง: โอเค ไม่เป็นไร
เอ็มซัง: งั้นสั่งไวน์แดงดีมั้ย (ทุกคนเห็นด้วย) โอเค เอาไวน์แดงขวดนึง ขอแก้วสี่ใบ แล้วก็สิงคโปร์สลิงหนึ่งแก้ว
มิสเตอร์โก๊ะ: ครับ (หันถามเอสซัง) รับเบียร์สดหรือเบียร์ขวดดีครับ
เอสซัง: ไม่เอาไง ไม่ได้บอกว่าจะสั่งเบียร์นะ
มิสเตอร์โก๊ะ: อ๋อ ครับ แล้วคุณหนู (หมายถึงโคโคนะจัง) ดื่มอะไรดีครับ
เอ็มซัง: ยังก่อนนะ ให้เค้าเล่นไปก่อน
มิสเตอร์โก๊ะ: เรามีน้ำผลไม้สดๆ
เอ็มซัง: เดี๋ยวค่อยสั่งแล้วกัน
มิสเตอร์โก๊ะ: รับ Sparkling water มั้ยครับ
เอ็มซัง: ตอนนี้ขอแค่ไวน์กับสิงคโปร์สลิงก่อนนะ คุณช่วยเอามาให้หน่อยได้มั้ย
มิสเตอร์โก๊ะ: ครับๆ
ประมาณสักสิบนาที มิสเตอร์โก๊ะก็กลับมาพร้อมกับเครื่องดื่มที่สั่ง หลังจากวางที่รองแก้วให้ทุกคนแล้ว ก็เปิดไวน์ให้เอสซังชิมตามธรรมเนียม
มิสเตอร์โก๊ะ: โอเคมั้ยครับ
เอสซัง: โอเค เสิร์ฟให้ทุกคนเลยนะ
มิสเตอร์โก๊ะ: แต่ว่าคุณ (ชี้มาทางเรา) เค้าสั่งสิงคโปร์สลิงนะครับ
เอสซัง: ก็เสิร์ฟไวน์ให้เค้าด้วยสิ ถึงได้ขอแก้วไว้สี่ใบไงล่ะ (น้ำเสียงเริ่มรำคาญ)
แล้วมิสเตอร์โก๊ะก็เดินมาเสิร์ฟไวน์ให้เอ็มซังเป็นคนแรก เอ็มซังก็รีบบอกให้เสิร์ฟให้คุณอ้วนกับเราก่อน (ตามประสาเจ้าภาพที่ดี) แต่แทนที่จะทำตามความต้องการของลูกค้า มิสเตอร์โก๊ะก็ดันทุรังรินไวน์ใส่แก้วของเอ็มซังจนได้ เหตุผลก็คือ
"ไม่ได้หรอกครับ ผมต้องเสิร์ฟให้สุภาพสตรีก่อน ไม่อย่างนั้นถ้าผู้จัดการเห็นจะโดนว่า" (เราก็คิดว่า แล้วถ้าผู้จัดการรู้ว่าเค้าไม่ทำตามที่ลูกค้าขอ จะโดนว่ายิ่งกว่ามั้ย)
ถึงตอนนี้โคโคนะจังเห็นผู้ใหญ่ดื่มไวน์กันก็เข้ามากระซิบแม่ว่าอยากดื่มน้ำแอปเปิ้ล
เอ็มซัง: ขอน้ำแอปเปิ้ลสดให้เด็กด้วยนะ ไม่ใส่น้ำแข็งนะ
มิสเตอร์โก๊ะ: จะรับแบบไม่ใส่น้ำแข็งเฉยๆ หรือแบบอุณหภูมิห้องดีครับ
เอ็มซัง: เอาแบบไม่ใส่น้ำแข็ง
มิสเตอร์โก๊ะ: คืออย่างนี้นะครับ ถึงไม่ใส่น้ำแข็งน้ำผลไม้ก็จะเย็นเพราะเราเก็บไว้ในตู้เย็น แต่ถ้ารับแบบอุณหภูมิห้องก็จะไม่เย็นเลยนะครับ
เอ็มซัง: ขอแบบที่คุณเอาไว้เสิร์ฟลูกค้าทั่วไปนี่แหละ แค่ไม่ต้องใส่น้ำแข็ง เข้าใจมั้ย
มิสเตอร์โก๊ะ: ครับๆ เอ่อ ไม่ทราบว่าคุณมาจากไหนครับ
ถึงตอนนี้ทุกคนก็เริ่มมองหน้ากัน เราคิดว่าผิดมารยาทไปหน่อยนะที่ถามคำถามนี้กับแขก แต่มิสเตอร์โก๊ะเค้าก็ทำหน้าใสซื่อเหมือนไม่รู้สึกอะไรจริงๆ
เอ็มซัง: ชั้นเป็นคนญี่ปุ่น
มิสเตอร์โก๊ะ: ภาษาอังกฤษของคุณดีมากเลย ไม่เหมือนกับแขกญี่ปุ่นคนอื่นๆ (น่าน นินทาลูกค้า สาบานนะว่าตานี่เป็นบริกรของโรงแรมหกดาว)
เอ็มซัง: ขอบคุณนะ ชั้นจะถือว่านี่เป็นคำชม
มิสเตอร์โก๊ะ: You re welcome ในภาษาญี่ปุ่นพูดว่าไงครับ
คุณอ้วน: Douitashimashite
มิสเตอร์โก๊ะพยายามพูดอยู่สองสามครั้ง แต่ก็พูดไม่ถูก
เอ็มซัง: คุณไม่จำเป็นต้องฝึกพูดตอนนี้หรอก ขอน้ำแอปเปิ้ลก่อนได้มั้ย ลูกชั้นรออยู่น่ะ
มิสเตอร์โก๊ะ: ครับ รอสักครู่ครับ
หลังจากมิสเตอร์โก๊ะเดินจากไป พวกเราก็เมาท์กันว่า โคโคนะจังจะได้ดื่มน้ำแอปเปิ้ลมั้ยนะ ทำไมแค่สั่งน้ำผลไม้แก้วเดียวมันช่างยืดเยื้อได้ขนาดนี้
ประมาณสิบนาทีต่อมา พนักงานผู้หญิงอีกคนก็เดินมาที่โต๊ะพร้อมกับน้ำส้มค่ะ!
Create Date : 12 กรกฎาคม 2551 |
|
3 comments |
Last Update : 14 กรกฎาคม 2551 16:09:21 น. |
Counter : 530 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Googgigchan IP: 124.121.122.99 12 กรกฎาคม 2551 16:08:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: suki IP: 202.91.23.4 20 กรกฎาคม 2551 20:31:41 น. |
|
|
|
|
|
|
น่าสงสารหนูโคโคนะจัง