I Shall Wear Midnight: ฟังสิ
ร้างลาจะการเขียนบล็อกไปน้านนานเพราะงานยุ่งๆ กับ fb 555 แต่ในเมื่อ applecinnamonกลับมาเขียนบล็อกพาดพุง เอ้ย พาดพิงทั้งที เราก็ต้องเขียนมั่งสิ ซึ่งก็หนีไม่พ้นหนังสือของนักเขียนสุดโปรด (ออกมาตั้งกะตุลาฯ ปีที่แล้ว แต่ปัญหาด้านการขนส่งทำให้เพิ่งได้อ่าน T^T)
I Shall Wear Midnight: Terry Pratchett
center>
-เรื่องย่อ-
ปีนี้ทิฟฟานี่ เอคชิ่งอายุ 16 แล้ว และทำงานเป็นแม่มดประจำชอล์ค บ้านเกิดของเธออย่างเต็มตัว หน้าที่ทำให้เธอต้องไปเยือนอังค์-มอร์พอร์ก ได้พบคนในตำนานและรับรู้ว่าบางสิ่งที่ชั่วร้ายกำลังเฝ้ามองเธออยู่ บางสิ่งที่กระตุ้นความเกลียดชังในใจมนุษย์ บางสิ่งที่ไล่ล้างผลาญมนุษย์มาเป็นพันปี
-แฟนรีวิว-
ISWM เป็นเล่มสุดท้ายในชุด Tiffany Aching ซึ่งเป็นชุดย่อยใน Discworld ค่ะ ด้วยความที่เป็นเรื่องแนว young adult การเล่าเรื่องจึงง่ายกว่าชุดหลักมาก แต่ก็แฝงไว้ด้วยอะไรๆ ตามแบบฉบับคุณป๋าแพรทเชตต์ (ใครสนใจอ่านซีรี่ย์นี้เริ่มที่ชุดทิฟฟานี่ก็เหมาะทีเดียวค่ะ)
เท่าที่อ่าน Discworld มาสามสิบกว่าเล่ม พบว่าสิ่งหนึ่งที่คุณป๋าไม่เคยทำก็คือเขียนตัวละครผู้หญิงแบนๆ ซื่อบื้อ แบบที่พบได้บ่อยมากกกใน epic fantasy สาวทุกคนในเรื่องล้วนมีความฉลาดเฉพาะตัว แน่นอนว่าไม่สมบูรณ์แบบหรอก แต่ก็เป็นผู้หญิงที่น่านับถือในแบบฉบับของตัวเองเสมอ
ทิฟฟานี่ก็เป็นเด็กผู้หญิงแบบนั้น เธอไม่ได้เลือกเป็นแม่มดเพราะอยากมีอำนาจเหนือใคร แต่เลือกเป็นเพราะว่าต้องมีใครสักคนลุกขึ้นมาปกป้องคนอื่น ต้องมีใครสักคนเข้าไปห้ามไม่ให้เผาบ้านของหญิงชราที่มีแค่แมวเป็นเพื่อนและอ่านหนังสือเกี่ยวกับดวงดาวเพราะความไม่รู้และหวาดกลัวว่าเธอจะเป็นแม่มด
แต่ถึงเธอจะ practical ขนาดไหน เธอก็ยังอดน้อยใจไม่ได้เมื่อเด็กหนุ่มที่โตมาด้วยกันดันไปหมั้นหมายกับคนอื่น และมีความไม่มั่นใจต่างๆ อย่างที่เด็กสาวคนหนึ่งควรจะมี
ศัตรูในเล่มนี้ก็น่ากลัวจับใจและทำให้ดิสก์เวิล์ดเล่มนี้มืดกว่าเล่มอื่นมาก ศัตรูไร้ร่างที่มีชื่อว่า Cunning man คอยตามล่าแม่มดมาเป็นพันปีโดยการปลุกความเกลียดชังและปั่นความไม่รู้ในใจมนุษย์ให้กลายเป็นความกลัว Cunning man ทำให้ทุกคนเห็นคนที่ต่างออกไปเป็นแม่มด เข้าสิงสู่ผู้คน และยืมมือพวกเขาทำร้ายกันเอง
แต่เรื่องก็ไม่ได้มีแต่ความมืดมนหรอกนะคะ หนังสือเล่มนี้ยังมีฉากการจากไปที่อบอุ่นและอ่อนโยนที่สุดฉากหนึ่งเท่าที่เคยอ่านมา และพ่อหนุ่มของทิฟฟานี่ก็เป็นคนที่น่ารักเหมาะกับเธอเอามากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ บทสนทนาสุดท้ายของเรื่องทำเอาคนอ่านคนนี้ถอนใจน้อยๆ อย่างอิ่มเอม ("Listen")
ดิสก์เวิล์ดอาจจะดูเหมือนแฟนตาซีตลกติงต๊อง แต่หนังสือแทบทุกเล่มล้วนพยายามบอกว่าหากคนเราทุกคนทำสิ่งที่ตนเองพอทำได้ เข้าใจคนอื่นให้มากขึ้น ทำลายกำแพงแห่งความไม่รู้เสีย ทุกคนก็จะอยู่ร่วมกันได้ แม้จะไม่สมบูรณ์พร้อม แต่ก็งดงาม
ว่าแล้วก็นับวันรอเดือนตุลาคมกันต่อไป หนูอยากอ่าน Snuff แล้วค่า
Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2554 |
|
10 comments |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2554 17:09:36 น. |
Counter : 1430 Pageviews. |
|
|
|