Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
15 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 
3G แท้ เมษายน 56 เจอกัน!!

กสทช.ให้ของขวัญปีใหม่คนไทยด้วยการออกใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ IMT ย่าน 2.1GHz พร้อมกับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2555 พร้อมกับส่งหนังสือให้ประธาน กสทช.ลงนาม ก่อนมอบใบอนุญาตให้แก่เอกชนที่เข้าร่วมประมูลทั้ง 3 รายในวันที่ 11 ธันวาคม 2555

       คำถามใหญ่ที่ตามมาคือ ความพร้อมของเอกชนในฐานะที่จะเป็นผู้ให้บริการเครือข่าย 3G ที่ถือเป็นความหวังของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม แน่นอนว่าทุกค่ายต่างพร้อมใจกันประกาศว่า 3G บนความถี่ 2.1 GHz น่าจะเริ่มใช้งานได้ในช่วงไตรมาส 2 เพียงแต่ในช่วงแรกอาจมีพื้นที่ให้บริการไม่ครอบคลุม แต่ก็ยืนยันว่าจะขยายไปทั่วประเทศภายในระยะเวลาที่ กสทช.กำหนดไว้อย่างแน่นอน

กลับกัน ในส่วนของฝั่งผู้บริโภคที่ตั้งหน้าตั้งตารอบริการ 3G แท้ ก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถใช้บริการได้ โดย กสทช.ระบุว่า 3 ประการหลักๆ ที่ผู้บริโภคจะต้องเตรียมการคือ 1. เตรียมอุปกรณ์ที่รองรับ 3G บนความถี่ 2.1 GHz (ย่านความถี่ดังกล่าวเป็นย่านมาตรฐาน เชื่อว่าโทรศัพท์รุ่นที่รองรับการใช้งาน 3G ในปัจจุบันสามารถใช้งานได้หมด) 2. การเปิดหมายเลขใหม่ (แจ้งไว้ว่าจะอยู่ในช่วงหมายเลขที่ขึ้นต้นด้วย 091xxxxxxx) หรือทำการย้ายค่ายเบอร์เดิม (บริการคงสิทธิเลขหมาย - Mobile Number Portability) จากผู้ให้บริการในปัจจุบัน (เอไอเอส, ดีแทค และทรู) ไปยัง 3 เครือข่ายใหม่ที่เปิดให้บริการจากเอกชนทั้ง 3 ราย คือ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค บริษัท ดีแทค เน็ทเวอร์ค และบริษัท เรียล ฟิวเจอร์ สุดท้ายคือการเลือกแพกแกจเพื่อใช้บริการ

       ซึ่ง กสทช. ก็มั่นใจว่าเคลียริ่งเฮาส์ที่ถือเป็นศูนย์กลางข้อมูลระหว่างการโอนย้ายหมายเลขของบริการคงสิทธิเลขหมายจะรองรับปริมาณการย้ายค่ายจากกลุ่มผู้ที่ต้องการใช้งาน 3G ได้อย่างแน่นอน และเชื่อว่าผู้ให้บริการเครือข่ายแต่ละรายก็จะมีแผนการตลาดในการดึงดูดและมัดใจให้ลูกค้าใช้งานกันอย่างดุเดือด

***เอไอเอสยันคุณภาพคับเครือข่าย

       นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอไอเอส กล่าวว่า ได้มีการเตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการส่งมอบบริการ 3G อย่างมีคุณภาพสูงสุดในทุกด้าน ทั้งในแง่ของการบริการลูกค้า ร่วมมือกับพาร์ตเนอร์นำอุปกรณ์พร้อมกับพัฒนาแอปฯ เพื่อตอบสนองการใช้งาน รวมถึงขออนุมัติหมายเลขจาก กสทช. ประมาณ 10 ล้านเลขหมาย เพื่อให้สามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็วเมื่อมีการเปิดตัว

       เบื้องต้นเอไอเอสเตรียมเงินลงทุนในเฟสแรกไว้ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท ไม่นับรวมกับงบลงทุนขยายหน้าร้าน AIS Shop, AIS Callcenter และร้านเทเลวิซ อีก 2 พันล้านบาทในปี 2013 ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าร้านให้เข้ากับยุค 3G พร้อมกับการบริการที่สะดวกรวดเร็วมากขึ้น

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
นายปรัธนา ลีลพนัง รักษาการผู้ช่วยกรรมการ ผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานผลิตภัณฑ์และบริการดิจิตอล เอไอเอส กล่าวถึงการแข่งขันหลังได้รับใบอนุญาต 3G ว่า แต่ละค่ายจะแข่งขันกันในเรื่องของเวลา ที่จะทำอย่างไรให้สามารถเปิดให้บริการ 3G บนความถี่ 2.1 GHz ได้เร็วที่สุด และแน่นอนว่าในการให้บริการก็ต้องมีสถานีฐานที่ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งาน 3G ที่มีประสิทธิภาพสูงได้อย่างเต็มที่

โดยเอไอเอสมองว่ามี 4 ปัจจัยหลักที่จะทำให้ผู้บริโภคหันมาเลือกใช้งาน 3G บนย่านความถี่ใหม่ ไล่ตั้งแต่ 1. เครือข่ายที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ 2. อุปกรณ์พกพาที่รองรับการใช้งาน 3G 3. แอปพลิเคชันที่คอยเสริมไลฟ์สไตล์การใช้งานของผู้บริโภค และ 4. บริการหลังการขายที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน

       “ตอนนี้เราเตรียมความพร้อมใน 3 ปัจจัยหลักไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งานให้แก่ลูกค้า บริการเสริมจากเอไอเอสแอปพลิเคชันที่คัดสรรมาให้ลูกค้า และบริการหลังการขายที่ครองใจลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นก็เหลือเพียงการเปิดให้บริการ 3G บนเครือข่ายคุณภาพให้แก่ลูกค้าเท่านั้น”

       เมื่อเปิดให้บริการ 3G บนความถี่ 2.1 GHz แล้วสิ่งที่ผู้บริโภคจะได้เห็นคือการแข่งขันของแต่ละโอเปอเรเตอร์ในการนำเสนอแพกแกจจนก่อให้เกิดการแข่งขันด้านราคาแน่นอน ซึ่งสิ่งที่เอไอเอสสามารถเตรียมการได้คือ การออกแบบแพกเกจให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าตามกลยุทธ์เซกเมนเตชันที่เคยทำมา

       ขณะเดียวกัน ด้วยเอไอเอส แอปฯ ที่เปิดให้บริการแก่ลูกค้าที่ใช้งานทั้งสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตมาก่อนหน้านี้ ก็จะเป็นอีกแรกผลักดันการใช้งาน 3G ที่เชื่อว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่า 3 ไตรมาสของปีนี้ที่มีปริมาณการใช้งานเติบโตขึ้นมากกว่า 80% จากทั้งพื้นที่ให้บริการที่จะครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

       ปัจจุบันกลุ่มบริการดิจิตอลของเอไอเอสมี 4 แอปฯ ที่คอยชูโรงให้แก่ลูกค้า ประกอบไปด้วย AIS Live TV ที่มียอดผู้ใช้งานต่อเนื่องกว่า 5 แสนราย AIS Music Store ที่มีลูกค้าใช้งาน 1.5 แสนราย AIS Book Store 4 แสนราย และสุดท้าย AIS Movie Store ซึ่งเริ่มต้นให้บริการแก่ลูกค้าที่ใช้งานสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในตระกูล กาแล็กซีของซัมซุงราว 1 แสนราย

       “พฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโฟนของผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น ตอนที่มีวันแรงเงาแห่งชาติ (ช่วงละครแรงเงาออกอากาศ) ในช่วงที่ผ่านมามียอดลูกค้าที่เข้ามาใช้งาน AIS Live TV พุ่งสูงขึ้นจนทำลายสถิติเดิม ซึ่งในจุดนี้ก็ต้องยอมรับว่าโซเชียลเน็ตเวิร์กได้เข้ามากระตุ้นให้เกิดการใช้งานสิ่งต่างๆ เหล่านี้ด้วยเช่นเดียวกัน”

       แม้ว่าเอไอเอสจะยังไม่ยอมเผยถึงบริการในรูปแบบดิจิตอลใหม่ๆ หรือรูปแบบการเชิญชวนให้ผู้บริโภคเปลี่ยนมาใช้ 3G 2.1 GHz แต่เชื่อได้เลยว่าสิทธิเซเรเนดจะยังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่เอไอเอสจะนำมาสื่อสารไปยังลูกค้าที่เชื่อมั่นในประสิทธิภาพของเครือข่าย และพร้อมที่จะหันไปสู่สิ่งที่ดีกว่าไปพร้อมๆ กัน 

***ดีแทคเชื่อ 3G แข่งดุ

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ขณะที่นายดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค มองว่า การแข่งขันในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจะค่อยๆ เข้มข้นขึ้นอย่างแน่นอนเมื่อมีการเปิดให้บริการ 3G 2.1 GHz อย่างเต็มรูปแบบ โดยดีแทคจะเน้นพัฒนา 3 ส่วนหลักๆ ไปพร้อมๆ กัน คือ ในแง่ของเครือข่ายคุณภาพ บริการ และการตั้งราคาที่ผู้บริโภครับได้แน่นอน

       “แม้ว่าในทางเทคนิคแล้วผู้บริโภคอาจต้องมีการเปลี่ยนซิม หรือการย้ายค่ายเบอร์ แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการจะทำทุกวิถีทางให้การย้ายค่ายมีความราบรื่นให้มากที่สุด และส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานน้อยที่สุด”

       นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด ดีแทค กล่าวเสริมถึงเรื่องการย้ายค่ายเบอร์เดิมว่า บริการย้ายค่ายเบอร์เดิมในปัจจุบันที่ใช้กันอยู่และมีความล่าช้าเนื่องมาจากเป็นการย้ายข้ามผู้ให้บริการ ส่วนการย้ายเพื่อไปใช้งาน 3G 2.1 GHz ในรูปธรรมอาจเหมือนการย้ายโอเปอเรเตอร์ แต่ความเป็นจริงก็คือการย้ายระหว่างเครือข่ายภายใต้บริษัทเดียวกัน ดังนั้นเชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการได้ง่ายกว่า

       “จากเดิมลูกค้าต้องเคลียร์ค่าใช้จ่ายโอเปอเรเตอร์เก่าให้หมด ก่อนทำการย้ายค่ายเป็นอีกเครือข่ายหนึ่ง แต่การย้ายค่ายเพื่อเปลี่ยนมาใช้บริการ 3G ทางผู้ให้บริการต้องให้ความสะดวกแก่ลูกค้ามากที่สุด ดังนั้นผู้บริโภคไม่ต้องกังวลว่าจะต้องไปดำเนินการให้ยุ่งยากเพราะทางค่ายก็ต้องพร้อมเปลี่ยนให้ลูกค้าอย่างแน่นอน”

ส่วนรูปแบบการทำตลาดนั้น ปกรณ์เชื่อว่าแต่ละแบรนด์ยังคงต้องนำจุดเด่นของตนเองมาต่อยอดเพื่อพัฒนาและดึงดูดให้ผู้บริโภคเปลี่ยนมาใช้บริการภายใต้ใบอนุญาตใหม่ ซึ่งเวลานี้ถือเป็นช่วงที่ดีเพราะผู้บริโภครับรู้ถึงเทคโนโลยี 3G หรือการใช้งานดาต้ามาอย่างต่อเนื่องแล้ว ทำให้แต่ละแบรนด์สามารถสื่อไปถึงกลุ่มลูกค้าในเชิงลึกได้มากขึ้น

       “เมื่อได้ใบอนุญาต ผู้ประกอบการจะมีความมั่นใจในการลงทุนเพื่อขยายเครือข่าย สำหรับดีแทคกว่าจะเปิดให้บริการ 3G 2.1 GHz ให้ครอบคลุมได้เท่ากับที่ให้บริการ 3G บนความถี่ 850 MHz ปัจจุบันอาจจะต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ เพราะการเปลี่ยนคราวที่แล้วก็ใช้เวลาไปเกือบ 8 เดือน เพื่อให้ได้เครือข่ายที่ดีที่สุด”

ในด้านการแข่งขันเรื่องค่าบริการ ปกรณ์กลับมองว่าอัตราขั้นต่ำที่ กสทช.กำหนดนั้นทุกค่ายสามารถปรับเพื่อให้รองรับได้อยู่แล้ว เพราะจากการแข่งขันในปัจจุบันการปรับราคาค่าบริการในช่วงที่ผ่านมาอาจเกิน 15% ที่ กสทช.กำหนดไว้ด้วยซ้ำ ทำให้เรื่องดังกล่าวไม่ใช่ปัจจัยหลักในการให้บริการแน่นอน เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณภาพของเครือข่ายเป็นหลัก

       ส่วนรูปแบบบริการดิจิตอลที่ดีแทคมีจะเน้นไปที่การตอบสนองความต้องการของลูกค้า อย่างปัจจุบันลูกค้าดีแทคที่ต้องการฟังเพลง ก็มี Dtac DEEZER ที่เป็นเสมือนคลังเพลงออนไลน์ขนาดใหญ่ให้ลูกค้าเข้าไปเลือกฟัง หรือถ้าต้องการรับชมทีวี ภาพยนตร์ ซีรีส์ ดีแทคก็มีบริการอย่าง Watchever มาเอาใจคอหนัง ส่วนในอนาคตดีแทคก็จะมีแอปฯ ที่ตรงใจลูกค้าออกมาอีกเรื่อยๆ เพียงแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้

       “พฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโฟน หรือแม้กระทั่งแท็บเล็ตของลูกค้าในปัจจุบันถือว่าลูกค้ารู้อยู่แล้วว่าต้องการใช้งานอะไร ดังนั้น เมื่อทางค่ายสามารถเห็นข้อมูลทราฟฟิกที่วิ่งไปหาบริการใดมากๆ ก็สามารถจับจุดดังกล่าวมาออกเป็นบริการเสริมให้แก่ลูกค้าได้ทันที”

***ยึดแบรนด์ทรูมูฟเอชเหนียวแน่น

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจโมบายล์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การมาของ 3G ก็เหมือนเป็นการเพิ่มอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตให้แก่ประชาชนในวงกว้าง ซึ่งรูปแบบการวางสถานีฐานและให้พื้นที่ครอบคลุมมากกว่าการให้บริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตช่วยให้ผู้ประกอบการคุ้มทุนมากขึ้น และแน่นอนว่าเมื่อประชาชนเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ก็จะช่วยในการผลักดันจีดีพีของประเทศ รวมถึงสร้างประโยชน์อื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากอินเทอร์เน็ต

       “ทุกคนเห็นตรงกันถึงประโยชน์ 3G ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ความบันเทิงได้ทุกที่ทุกเวลา และยังช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้ แม้แต่ทางด้านสาธารณสุขที่ช่วยให้แพทย์สามารถใช้อินเทอร์เน็ตพูดคุยกับคนไข้ รวมถึงด้านความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยงก็สามารถนำเข้าไปประยุกต์ใช้กับกล้องวงจรปิดให้ส่งข้อมูลผ่าน 3G ก็เป็นได้”

ในส่วนของแผนการตลาดของกลุ่มทรู ในด้านการให้บริการ 3G ยังคงยึดแบรนด์ทรูมูฟ เอชเหมือนเดิม เนื่องจากผู้บริโภครับรู้แล้วว่าเป็นแบรนด์ผู้นำทางด้าน 3G ดังนั้น การที่ได้ใบอนุญาต 3G ย่าน 2.1 GHz มาก็จะนำมาเสริมการให้บริการ 3G บนย่าน 850 MHz เดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

       “ในเชิงเทคนิค แถบคลื่นความถี่ต่ำ 850 MHz จะให้บริการในพื้นที่ครอบคลุมกว่า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สหรัฐอเมริกานำไปใช้ ส่วน 2.1 GHz จะถูกนำมาใช้ในพื้นที่ซึ่งมีประชากรที่ใช้งานหนาแน่นให้ได้ประสิทธิภาพสูงที่สุด เป็นเทคโนโลยีที่นิยมใช้ในแถบเอเชียและยุโรป ดังนั้น การที่ทรูมูฟ เอชมีช่วงคลื่นที่ได้รับการยอมรับทั้งในสหรัฐฯ และยุโรปมาให้บริการ จะทำให้ได้บริการ 3G ที่ดีที่สุด และผู้บริโภคก็จะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่”

       ล่าสุดบริษัท เรียลฟิวเจอร์ ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯถึงงบการลงทุนในการขยายโครงข่าย 3G ย่าน 2.1 GHz ในเฟสแรกแล้วว่าจะใช้เงินลงทุนราว 8 พันล้านบาท และอนาคตคาดว่าจะใช้อีกถึง 2.7 หมื่นล้านบาท

       สำหรับผู้บริโภคมั่นใจได้เลยว่าปีหน้าเมื่อเปิดให้บริการ 3G 2.1 GHz แล้วยังไม่มีโทรศัพท์ที่รองรับ อาจได้เห็นโทรศัพท์ที่รองรับ 3G ราคาถูกออกมาให้ได้เปลี่ยนกันอย่างแน่นอน

Company Relate Link :
กสทช.
AIS
Dtac
True



Create Date : 15 ธันวาคม 2555
Last Update : 15 ธันวาคม 2555 0:36:07 น. 0 comments
Counter : 1532 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

huttoza
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




------------------------------------------------------



Friends' blogs
[Add huttoza's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.