Review : BlackBerry Q10 เน้นพิมพ์มันจับถนัดถือ แบล็กเบอร์รี่ Q10 เป็นหนึ่งใน 2 รุ่นบุกตลาดที่ทางแบล็กเบอร์รี่คาดหวังว่าจะช่วยให้ระบบปฏิบัติการแบล็กเบอร์รี่ 10 กลับเข้ามามีที่ยืนในตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก โดยหลังจากนำร่องจำหน่าย Z10 ที่เป็นหน้าจอทัชสกรีนเต็มรูปแบบไปแล้ว มาคราวนี้ก็ถึงตาของ Q10 กับรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมของบีบีอย่างคีย์บอร์ด QWERTY        จุดเด่นของ Q10 นอกจากในแง่ของคีย์บอร์ดแล้ว ก็คงหนีไม่พ้นรูปแบบการใช้งานบีบี 10 ที่เรียกได้ว่าถ้าลองสัมผัสแล้วจะรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ และมีความดึงดูดใจในการนำมาใช้งานแบบจริงจังไม่น้อย จะติดอยู่อย่างเดียวก็คือแอปพลิเคชันที่รองรับยังไม่ค่อยหลากหลายเท่า 2 เจ้าตลาดอย่าง iOS และ Android เท่านั้นเอง        ซึ่งถ้าถามว่ายังมีกลุ่มลูกค้าของแบล็กเบอร์รี่ที่รอคอยการมาของ Q10 อยู่ในเมืองไทยหรือไม่ ก็ต้องยอมรับว่ายังมีผู้บริโภคที่ติดใจความสะดวกของการพิมพ์บนคีย์บอร์ด QWERTY อันเลื่องชื่อ เพียงแต่ว่ากลุ่มดังกล่าวเริ่มมีจำนวนลดน้อยลงทุกที ประกอบกับการตั้งราคาเปิดตัวมาที่ 22,900 บาท ยิ่งทำให้ผู้บริโภคบางคนไม่เอื้อมไปคว้ามาใช้งาน การออกแบบและสเปก ในแง่ของดีไซน์คงไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะตัวเครื่องแบล็กเบอร์รี่แบบที่เป็น QWERTY ได้รับการยอมรับในการพิมพ์เพื่อใช้งานมายาวนานมากแล้ว ยิ่งในเครื่องรุ่นนี้ได้รับการการันตีว่าเป็นเครื่องที่จับใช้งานถนัดมือ และการวางแป้นคีย์บอร์ดได้รับองศากับการพิมพ์        ประกอบกับตัวเครื่องที่บางลง และวัสดุการประกอบที่ดูแน่นหนาทำให้ผู้ที่ชื่นชอบตัดสินใจได้ไม่ยากนัก โดยขนาดรอบตัวเครื่องของ Q10 อยู่ที่ 119.6 x 66.8 x 10.4 มิลลิเมตร น้ำหนัก 139 กรัม วางจำหน่ายในประเทศไทยด้วยกัน 2 สี คือ ขาว และ ดำ ด้านหน้า - Q10 มาพร้อมกับหน้าจอทัชสกรีนที่มีสัดส่วนเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสแบบ Super AMOLED ขนาด 3.1 นิ้ว ความละเอียด 720 x 720 พิกเซล ให้ความละเอียดเม็ดสี 328 ppi 16 ล้านสี รองัรบการสัมผัสแบบหลายจุด        โดยส่วนบนหน้าจอเป็นที่อยู่ของช่องลำโพงสนทนา ที่มีกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล อยู่เยื้องไปข้างๆพร้อมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับใบหน้า เซ็นเซอร์วัดแสง และไฟแอลอีดีแสดงสถานะ ถัดลงมาเป็นโลโก้ 'BlackBerry'        ส่วนล่างหน้าจอ จากเดิมในรุ่น Bold หรือ Curve ที่ออกมาก่อนหน้านี้จะมีพวกปุ่มควบคุมอย่างรับสาย เมนูย้อนกลับ วางสาย แต่ใน Q10 ได้ตัดปุ่มแถวนั้นออกทั้งหมด เนื่องจากระบบใหม่ของ บีบี 10 ไม่จำเป็นต้องใช้งานปุ่มเหล่านั้นแล้ว จึงเหลือแต่คีย์บอร์ด QWERTY เท่านั้นเอง ด้านหลัง - มีการนำลายเคฟล่ามาใช้งานบริเวณหลังเครื่องคลุมทั้งหมด ให้ความรู้สึกที่แข็งแรงทนทานขึ้นมาทันที โดยที่มุมบนเครื่องจะมีกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชอยู่ ถัดลงมาเส่วนล่างจะเป็นฝาหลังที่สามารถเลื่อนถอดลงด้านล่างได้        เมื่อถอดฝาหลังออกมาจะพบกับแบตเตอรี่ขนาด 2.,100 mAh โดยมีช่องใส่ไมโครซิมการ์ดอยู่ข้างๆ ส่วนช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ดที่รองรับได้สูงสุด 64 GB สามารถถอดใส่ได้โดยไม่ต้องปิดเครื่อง (มีโหมด UnMount) แน่นอนว่าที่ฝาหลังจะมีแถบ NFC ไว้ให้ใช้งานด้วย ด้านซ้าย - เป็นที่อยู่ของพอร์ต microHDMI สำหรับต่อออกไปยังจอภาพ และพอร์ตไมโครยูเอสบี ไว้เสียบสายชาร์จ และเชื่อมต่อข้อมูลกับพีซี ด้านขวา - มีปุ่มปรับระดับเสียงเพิ่มลด และตรงกลางปุ่มสามารถกดค้างเพื่อเรียกใช้งานโหมดคำสั่งเสียง หรือใช้ควบคุมการเล่นมัลติมีเดียได้ ด้านบน - เป็นปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ด้านล่าง - มีช่องไมโครโฟนสนทนา และลำโพงภายนอก        สำหรับสเปกภายในของแบล็กเบอร์รี่ Q10 ใช้หน่วยประมวลผล SnapDragon S4 ดูอัลคอร์ 1.5 GHz กราฟิก Adreno 225 หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 16 GB RAM 2 GB รุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทยรองรับ 3G ทุกคลื่นความถี่ ไม่รองรับ 4G ส่วนไวไฟมาตรฐาน 802.11 a/b/g/n มีบลูทูธ จีพีเอส และ NFC ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ในแง่ของการใช้งานบีบี 10 สามารถย้อนกลับไปอ่านแบบเจาะลึกได้ที่ Review : Blackberry Z10 ประกาศให้โลกรู้ว่ายังอยู่ เนื่องมาจากระบบการสั่งงาน Q10 ส่วนใหญ่เหมือนกับใน Z10 แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการ ลากนิ้วเพื่อปลดล็อก เข้าดูแบล็กเบอร์รี่ฮับ สลับหน้าต่าง ปิดโปรแกรม        โดยแอปพลิเคชันที่มีมาให้ใน Q10 จะประกอบไปด้วยสมุดรายชื่อผู้ติดต่อ เว็บเบราว์เซอร์ ปฏิทิน BBM ข้อความ แบล็กเบอร์รี่เวิล์ด สมุดจดโน้ต ตัวจัดการเอกสาร ดูรูปภาพ ฟังเพลง เล่นวิดีโอ ตัดต่อวิดีโออย่างง่าย รวมถึงแอปพลิเคชันเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างๆ แผนที่ คำสั่งเสียง พยากรณ์อากาศ นาฬิกา เครื่องคิดเลข เข็มทิศ ตัวจัดการไฟล์ โทรศัพท์ และกล้อง        ในหน้าจอหลักถ้าลากนิ้วจากส่วนบนลงมาจะพบกับแถบสำหรับตั้งค่าด่วน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดปิด บลูทูธ ไวไฟ นาฬิกาปลุก และตั้งเสียง ซึ่งในส่วนนี้ถ้าเป็นลูกค้าองค์กรก็จะมีแบล็กเบอร์รี่ บาลานซ์ มาให้ปรับโหมดใช้งานระหว่างทำงาน กับทั่วไปด้วย        ถัดมาในส่วนของคำสั่งเสียง ผู้ใช้สามารถสั่งให้ตัวเครื่องส่งข้อความ เขียนอีเมล ส่ง BBM หาเพื่อนในรายชื่อได้ทันที หรือจะใช้คำสั่งให้โทร ค้นหาข้อมูล กำหนดตารางนัดหมาย ซึ่งสามารถกดตัวช่วยเพื่อดูรูปประโยคในการสั่งงานได้ด้วย        จุดเด่นของบีบี คงหนีไม่พ้น BBM ที่นอกจากการแชททั่วไปแล้ว ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์อย่างการโทรคุยด้วยเสียง วิดีโอคอลล์ หรือการแชร์หน้าจอให้คู่สนทนาใน BBM ด้วยกันเห็น ซึ่งในจุดนี้ก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่าทางแบล็กเบอร์รี่จะเปิดให้ผู้ใช้งานไอโฟนและแอนดรอยด์ดาวน์โหลด BBM ไปใช้กันเมื่อใด        หน้าจอพยากรณ์อากาศ แสดงให้เห็นถึงวัน เวลา ชื่อเมือง สภาพอากาศ อุณหภูมิ เวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตก ความเร็วลม พร้อมกับเช็คสภาพอากาศล่วงหน้าได้ด้วย ส่วนเข็มทิศก็จะมีบอกพิกัดจีพีเอสด้วยในตัว        สำหรับตัวจัดการไฟล์ตั้งแต่ใน Z10 แล้วผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับระบบเก็บไฟล์ออนไลน์อย่าง Box และ Dropbox เพื่อมาใช้งานร่วมกับตัว File Manager ได้ทันที ส่งผลให้สามารถทำการย้าย คัดลอกไฟล์ผ่านแอปฯตัวเครื่องได้        เครื่องเล่นเพลง แม้ว่าจะเป็นหน้าจอแบบสี่เหลี่ยมจตุรัส แต่ก็ยังคงการแสดงผลหลักๆทั้ง หน้าปกอัลบั้ม ชื่อเพลง ชื่อนักร้อง แถบควบคุมการเล่น สามารถสั่งให้ไปเล่นในอุปกรณ์เครื่องอื่นที่รองรับระบบ DLNA ได้ด้วยเช่นเดียวกับระบบเล่นไฟล์วิดีโอ        การใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ เนื่องจากเป็นหน้าจอด้านเท่า ทำให้ไม่มีโหมดการหมุนหน้าจอ การแสดงผลก็ต้องยอมรับว่าค่อนข้างเล็ก แต่ดีอย่างที่ตัวเว็บเบราว์เซอร์สามารถทำงานได้รวดเร็ว ทำให้ในการขยายหน้าจอเพื่ออ่านไม่สะดุดเท่าไหร่        โหมดกล้องใน Q10 ถูกตั้งค่าเริ่มต้นมาให้ถ่ายในอัตราส่วน 1 : 1 ซึ่งน่าดีใจสำหรับคนที่ชื่นชอบใช้งานอินสตาแกรม (แม้ว่าจะต้องแปลงแอปฯจากแอนดรอยด์มาใช้งาน : ค้นหาข้อมูลได้จากคีย์เวิร์ด Sideload) ฟังก์ชันกล้องถือว่าค่อนข้างพื้นฐาน กล่าวคือสามารถใช้นิ้วลากจุดโฟกัสได้ หลังจากนั้นถ้าสัมผัสหน้าจอ หรือกดปุ่มปรับระดับเสียงจะเป็นการบันทึกภาพทันที        ฟีเจอร์กล้องที่ให้มาจะมีระบบ TimeShift คือการบันทึกภาพเป็นช่วงเวลา ที่สามารถเลือกจุดที่ต้องการได้ รองรับการบันทึกภาพวิดีโอที่ความละเอียด 1080p นอกจากนั้นก็ยังมีโหมดถ่ายภาพทั่วๆไปให้เลือกใช้อย่างอัตโนมัติ แอคชัน กระดานดำ กลางคืน และสภาพแสงจ้าเป็นต้น        สมุดจดโน้ต ถือเป็นอีกแอปฯที่น่าสนใจ กล่าวคือผู้ใช้สามารถสร้างโฟลเดอร์เพื่อแยกการจดบันทึกออกเป็นสีๆได้ เมื่อเข้ามาใส่ชื่อหัวข้อเรียบร้อย ก็สามารถเลือกได้ว่าจะให้มีการแจ้งเตือนในตารางนัดหมายหรือไม่ และยังสามารถแนบรูป บันทึกเสียง แนบไฟล์ หรือใส่แท็กให้โน้ตเพื่อการค้นหาย้อนหลังได้ด้วย        ส่วนอื่นๆอย่างการดูรูปภาพ ก็จะเป็นการแสดงรูปภาพที่ถ่ายล่าสุด แบ่งตามโฟลเดอร์ และภาพทั้งหมดในเครื่องเป็นต้น การแสดงผลเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ก็มีการปรับขนาดให้พอดีกับหน้าจอ จึงทำให้แสดงผลได้ค่อนข้างน้อย        สุดท้ายในส่วนของโหมดโทรศัพท์ ผู้ใช้สามารถกดเลขที่แป้นพิมพ์ QWERTY เพื่อกดโทรได้ทันที หรือจะเรียกหน้าจอปุ่มกดขึ้นมากดตัวเลขก็ได้่เช่นเดียวกัน ขณะที่หน้าจอสนทนา จะแสดงชื่อ เวลาที่โทร พร้อมปุ่มลัดเปิดเสียง เพิ่มสาย ปิดเสียง จดโน้ต และเรียกใช้งาน BBM Video Call กรณีที่ใช้งานทั้งคู่ ส่วนการรับสายใช้การลากนิ้วขึ้นหรือลงเพื่อตัดสายหรือรับสาย จุดขาย        - แป้นพิมพ์ QWERTY ที่ใช้งานง่าย และพิมพ์ได้มันมือ        - ระบบปฏิบัติการแบล็กเบอร์รี่ 10 ที่ให้ความลื่นไหล และง่ายในการใช้งานทั่วๆไป        - วัสดุและขนาดตัวเครื่องที่เหมาะมือ ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่        - ขนาดหน้าจอเล็ก และเป็นสัดส่วน 1 : 1 ทำให้ใช้งานได้ไม่คล่องตัวนัก        - ตัวระบบปฏิบัติการยังขาดแอปพลิเคชันที่ดึงดูดคนให้มาใช้        - ไม่มีวิทยุ FM และรุ่นที่ขายในไทยไม่รับ 4G (แม้ว่าจะมีรายเดียวให้ใช้งานในบางพื้นที่)        - เปิดราคามาค่อนข้างสูง ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป ด้วยราคาเปิดตัวที่ตั้งมาสูงถึง 22,900 บาท กับความคาดหวังที่จะให้ Q10 กลายเป็นสินค้าพรีเมี่ยม เหมือนเป็นการตอกย้ำให้ลูกค้าทั่วไปที่เคยรอคอย ต้องเบือนหน้าหนีไปใช้สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นที่คุ้มค่ากว่าทันที สิ่งที่ทำได้ของผู้บริโภคที่ยังรอคอยอยู่คงหนีไม่พ้นการปรับลดราคาของ Q10 ที่มีแนวโน้มว่าราคาจะดิ่งเหมือนกับรุ่น Z10 ที่เริ่มจำหน่ายก่อนหน้านี้        แต่ถ้าถามว่าตัว Q10 เหมาะกับการใช้งานหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าถ้าเป็นกลุ่มที่ซื้อสมาร์ทโฟนมาเพื่อใช้ในการทำงาน รับส่งอีเมล และต้องการความปลอดภัยของข้อมูลสูง Q10 ถือว่าเหมาะมากๆ แต่กลับกันถ้าต้องการเล่นแอปพลิเคชันอื่นๆนอกเหนือจากที่ลงมาให้ในเครื่องบีบี 10 อาจจะยังไม่ตอบโจทย์เหล่านั้น        สุดท้ายแล้ว Q10 อาจจะเหลือทำตลาดได้กับกลุ่มที่ต้องการสมาร์ทโฟนในรูปแบบ QWERTY ที่เน้นการพิมพ์ข้อความที่มันมือ (ซึ่งตลาดในไทยระดับราคาดังกล่าวมีเหลือน้อยแล้ว) แต่ถ้าต้องการเครื่อง QWERTY ที่ราคาอยู่ในช่วงหมื่นต้นๆ ก็อาจจะรอใช้งาน Q5 ที่เปิดตัวไปในต่างประเทศแล้วแทนก็ได้        สำหรับเครื่องที่ทีมงานได้มาทดสอบ ยังไม่มีการสกรีนคีย์บอร์ดภาษาไทย ถ้าในอนาคตได้เครื่องมาแล้วจะทำการเพิ่มรูปคีย์บอร์ดไทยให้ครับ Company Related Links : Blackberry Create Date : 11 กรกฎาคม 2556 Last Update : 11 กรกฎาคม 2556 23:34:52 น. 0 comments Counter : 1123 Pageviews. Share Tweet ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก Comment :   *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet