Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
27 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
ชาผู่เอ๋อร์ "ยิ่งเก่ายิ่งดี...ยิ่งเก็บยิ่งแพง"

ชาผู่เอ๋อร์ "ยิ่งเก่ายิ่งดี...ยิ่งเก็บยิ่งแพง"


[บทความด้านล่างนี้ ได้ยกมาจาก กระทู้ที่ผู้เขียนเคยตอบ ในห้องจีนศึกษา]



ภูมิประเทศที่เป็นถิ่นฐานของชาวไทลื้อในสิบสองปันนา จะคล้ายคลึงกับภาคเหนือของไทย กล่าวคือ เป็นพื้นที่ราบระหว่างหุบเขา สลับซับซ้อน การคมนาคมขนส่งค่อนข้างจะลำบากเอาการ จะไปไหนมาไหนแต่ละทีก็ต้องขึ้นเขา ลงน้ำ ข้ามห้วย กันเป็นว่าเล่น




ผลิตผลทางการเกษตรประจำถิ่นของสิบสองปันนา ในสมัยโบราณได้แก่ ใบชาป่า





เมื่อเก็บใบชาป่าได้แล้ว จะนำใส่ตะกร้า ต่างบนหลัง ม้า หรือ ลา เพื่อนำใบชานั้น ไปขายยังต่างเมือง




ก่อนหน้านี้ ยอมรับว่า เป็นช่วงแรกๆที่ได้ลิ้มรสชาผู่เอ๋อร์ และเป็นช่วงที่กำลัง หาข้อมูลเรื่องชาตัวนี้ เนื่องจากว่า มันเป็นชาที่แปลกกว่าชาตัวอื่นที่ผมรู้จัก ก็มีอย่างที่ไหนครับ ชาอะไร อัดเป็นก้อนแข็งโป๊กยังกับอิฐ ผิดกับชาตัวอื่นที่เป็นใบแห้งๆ


ตอนผมเปลี่ยนจากการดื่มกาแฟ แล้วหันมาดื่มชาใหม่ๆ ก็ซื้อชาห่อละ 10 กว่าบาท ตามท้องตลาดทั่วไปมาดื่ม ต่อมาเจอ ชาอู่หลง ที่ผลิตม้วนเป็นเม็ดเล็กๆ เมื่อชงออกมาแล้ว ใบคลี่ออกเต็มป้านชา ก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจ (ก็คนมันไม่เคยเห็น เคยเห็นแต่ใบชาที่เป็นใบแห้งๆ แฮ่ะๆๆ) ใส่ใบชาไปแค่นิดเดียวคลี่บานออกเต็มป้านเลย , และพอมาเห็นรูปร่างของผู่เอ๋อร์เป็นครั้งแรกนี่ โอ้!! นี่มันชาหรือนี่ รูปร่างแปลกดีพิลึก ไฉนชาผู่เอ๋อร์ถึงได้ทำเป็นก้อนนะ น่าสงสัยชะมัด??





ก็อย่างที่เกริ่นเอาไว้เบื้องต้นครับว่า การนำใบชาป่า ออกไปขายยังต่างเมือง ของคนสิบสองปันนา สมัยก่อนนั้น ก็จะต่างบน หลังม้า หลังลา เดินลัดเลาะไปตามไหล่เขา....และแล้ว ตำนานก็มาถึง....กล่าวคือ มีอาเฮียคนหนึ่ง มีอาชีพเป็นพ่อค้าใบชา กิจวัตรของแก ก็จะนำใบชาป่าที่เก็บได้จากพื้นที่ ออกไปขายยังต่างเมือง โดยวิธีการที่กล่าวเอาไว้แล้วเบื้องต้น


มีอยู่วันหนึ่งครับ แกก็พาม้าตัวน้อย ที่ต่างใบชาอยู่บนหลัง เดินลัดเลาะไปตามทางเดินแคบๆ บนไหล่เขา และแล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น (แล้วผมจะเล่าให้มันตื่นเต้นทำไมนี่??) ม้าตัวน้อยของแก ที่ต่างใบชามาเต็มหลัง เกิดเดินสะดุด ทำให้ตะกร้า ที่บรรจุใบชานั้น หล่นลงไปยังลำห้วย ที่อยู่ด้านล่าง แต่เข้าใจว่า ลำห้วย นั้นคงจะเป็นลำห้วยเล็กๆ ที่น้ำไหลไม่เชี่ยวมากนัก เฮียแก ก็เลยปีนลงไปเก็บตะกร้า หมายใจลึกๆ ว่าใบชาที่บรรจุอยู่ภายใน จะไม่เสียหาย


แต่พอแกปีนลงไปถึง เห็นตะกร้าใบชาแช่น้ำอยู่แล้วก็เซ็ง อุตสาห์เดินมาตั้งไกล ทำตะกร้า ตกน้ำใบชาเปียกเสียหาย แบบนี้คงขายไม่ได้เป็นแน่แท้ แต่ครั้นจะทิ้งใบชาที่เปียกน้ำนั้นไป ก็เกิดความเสียดาย ทิ้งไม่ลง เพราะเป็นใบชาป่าคุณภาพดี จึงเก็บตะกร้าพร้อมทั้งใบชาที่เปียกน้ำ กลับบ้านด้วยความหงุดหงิดอยู่ในใจ (หรือภาษาวัยรุ่นเรียกว่า "เซ็งจิต" อิอิ)




พอกลับถึงบ้าน ตะกร้าพร้อมกับใบชานั้น อาเฮียแกก็โยนโครมเข้ามุมบ้าน และวันต่อๆมา แกก็ไปเก็บใบชาของแกใหม่ และก็นำไปขายยังต่างเมืองเหมือนเดิม , เข้าใจว่าที่บ้านของอาเฮียคงมีตะกร้าหลายใบ แกจึงได้ลืมไปว่า ได้เคยโยนตะกร้าบรรจุชาเปียกๆนั้นเข้ามุมบ้าน จนเวลาผ่านล่วงเลยไปเป็นเดือน เป็นปี และเป็นหลายปี




อยู่มาวันหนึ่งก็คงจะถึงเวลา ทำความสะอาด ชำระสะสางบ้านเรือน ก็เลยไปเจอตะกร้าชา ที่เคยโยนเข้ามุมเมื่อหลายปีก่อน อาเฮียเปิดดูตะกร้าด้านใน ปรากฎว่า ใบชาที่ตกน้ำเมื่อหลายปีก่อนนั้น กลับจับตัวกันเป็นก้อนแข็งโป๊ก ราวกับอิฐและใบชาสีเขียวที่เคยเห็นกลับกลายเป็นน้ำตาลแก่ ด้วยความนึกสนุกหรืออย่างไรไม่อาจทราบได้ อาเฮียนำใบชาที่แข็งโป๊กนั้น มาชงดื่ม รสชาติน้ำชาผ่านลำคอ กลับมีรสชาตินุ่มนวลอย่างน่าประหลาดใจ




อาเฮียเลยปิ๊งไอเดีย ลองเอาใบชามาอัดเป็นแท่ง แล้วบ่มเก็บไว้ นานวันเข้าก็เอาออกมาชงดื่ม ปรากฎว่า ได้รสชาติดีเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน จึงได้เริ่มผลิตออกจำหน่าย และเป็นที่มาของชาผู่เอ๋อร์ในปัจจุบัน




ชาผู่เอ๋อร์ เป็นชาที่แตกต่างจากชาชนิดอื่น กล่าวคือ ชาชนิดอื่น ยิ่งเก็บนานเข้า นับวันจะยิ่งเสียรสชาติ แต่ชาผู่เอ๋อร์ หาเป็นเช่นนั้นไม่ , ชาผู่เอ๋อร์ เป็นชาที่ไม่มีวันหมดอายุ ยิ่งเก็บไว้นานวันเท่าไหร่ รสชาติจะยิ่งดีวันดีคืน ใบชาที่อัดแท่ง จากสีเขียว จะเริ่มมีสีแก่ขึ้น จนกลายเป็นสีน้ำตาลไหม้ เมื่อชงแล้วจะได้น้ำสีเข้มเหมือนกาแฟ แต่รสชาตินั้น อ่อนละมุน บางเบา ผิดคาดหมายที่ใจนึกคิด


และหากยิ่งเก็บชาไว้นานเท่าไหร่ คาเฟอีน ในชาก็จะยิ่งมีน้อยลงเท่านั้น และรสชาตินั้น ว่ากันว่า แต่ละก้อนก็ไม่เหมือนกัน แล้วแต่ว่าจะเก็บใบชานั้นไว้ที่ไหน บ้างว่าหากนำชาผู่เอ๋อร์ไปให้เพื่อน 10 คนในหมู่บ้าน ให้หลังอีก 10 ปีเดินไปขอดื่มชาผู่เอ๋อร์ที่เคยให้ไว้เมื่อ 10 ปีก่อน รสชาติน้ำชาที่ได้จากบ้านเพื่อน 10 คนนั้น จะไม่เหมือนกันแม้แต่บ้านเดียว




สมัยก่อน เวลาทำแล้วก็จะห่อกระดาษฟาง เป็นก้อนๆ แพ็คขึ้นหลังม้า แล้วเดินทางออกไปขาย ลักษณะ packaging แบบดั้งเดิมก็จะเป็นแบบในรูป




หลังจากรัฐบาลจีน ประชาสัมพันธ์ นำชาตัวนี้มาทำตลาด จากที่แต่ก่อน ชาผู่เอ๋อร์ ออกจะเป็นชา ที่ผู้สูงอายุดื่มกัน แต่หลังๆ คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ก็หันมานิยม ดื่มชาตัวนี้กันมาก จึงทำให้มีการพัฒนา packaging กันขนานใหญ่ โดยเฉพาะ บริษัท ชาที่เกิดใหม่ๆ จะเน้นเรื่อง packaging มาก เพราะ บริษัทเก่าแก่ ครองส่วนแบ่งการตลาดใหญ่ อยู่


สมัยนี้เราจึงได้เห็น ชาผู่เอ๋อร์ มี packaging ที่รูปลักษณ์สวยงาม น่าซื้อ (แต่รสชาติจะสู้แบบดั้งเดิมได้หรือเปล่านั้นไม่รู้่) บางบริษัท ก็พยายามเพิ่มมูลค่าของชา โดยการทำใบรับรอง ใส่ไปพร้อมกับ packaging ด้วย ประมาณว่า ของเฮียแกนี่ เป็นผู่เอ๋อร์ แท้ๆนะ ไม่ได้ ไก่กา เอาชาคุณภาพต่ำย้อมแมว มาขายให้




ชาผู่เอ๋อร์ สำหรับผมแล้วไม่ใช่รักแรกพบ เหมือนชาอู่หลง แต่เป็นเหมือน สามี ภรรยา ที่ถูกคลุมถุงชน (กำลังนั่งขำตัวเอง แฮ่ะๆๆ ไม่รู้จะเอาอะไรมาเปรียบเทียบให้เห็นภาพ) กล่าวคือ เมื่อผมได้ลิ้มรส น้ำชาสีเข้มของชาผู่เอ๋อร์ ผมแทบจะบ้วนทิ้ง ไม่เห็นมันอร่อยตรงไหน ไม่ขม ไม่หอม รสชาติออกพิลึกๆ ไม่ค่อยประทับใจเลย ดื่มหมดป้านแล้วคิดอยากจะโยนทิ้งถังขยะจริงๆ (แต่อย่าดีกว่า น่าเสียดาย ก้อนหนึ่งตั้งหลายตังค์)


ผ่านไปหลายวัน เจอห่อชาผู่เอ๋อร์อีกที ไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่า อะไรมาดลใจ ให้ผมชงผู่เอ๋อร์ดื่มอีกครั้ง และครั้งนี้ ก็มีความรู้สึกแบบเดิม คือรสชาติมันไม่เป็นสับปะรดเลย (อ้าว...ก็ชาผู่เอ๋อร์มันจะเป็นสับปะรดได้ไง พูดแปลก อิอิ) แต่ผมรู้สึกว่า เริ่มดื่มง่ายขึ้นกว่าครั้งแรก และแล้วในที่สุดผมก็เริ่มชินกับกลิ่น และรสชาติของมัน ตอนนี้ก็บอกได้เลยว่า ผู่เอ๋อร์ เป็นชาที่รสชาติลึกลับ แต่นุ่มนวล ชวนหลงใหล เหมือนดั่งเช่น ค้นพบว่า ภรรยา ที่ถูกคลุมถุงชนมานั้น กลับน่ารัก นิสัยดี เป็นแม่ศรีเรือน เอาใจเก่ง หญิงอื่นใดในปฐพีก็มิอาจเทียบเทียมได้ (โอ้วว.....ว่ากันเข้าไป...อิอิ)


นอกจากรสชาติที่ละมุนลิ้น คล่องคอแล้ว ยังเชื่อกันว่า ชาผู่เอ๋อร์ นี้ช่วยบรรเทาอาการเกี่ยวกับโรคกระเพาะอาหาร หรือระบบลำไส้ หากดื่มเป็นประจำจะทำให้ อาการเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร หรืออาการท้องผูก ท้องเสีย กรดในลำไส้ ทุเลาเบาบางลง อันนี้ไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นประการใด จะเป็นอุปทานของผู้ดื่มหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้





การผลิตชาผู่เอ๋อร์ในเชิงพาณิชย์ นั้นแรกเริ่มก็คือการนำใบชาป่า ดิบมาอัดแท่งอย่างที่รู้ๆกัน รสชาติของชาอัดแท่งนี้ ล่วงรู้ไปถึงราชสำนัก จนราชสำนักมีบัญชาให้ส่งชาเข้าถวายอยู่เป็นเนืองๆ เมื่อชื่อเสียงของชาผู่เอ๋อร์ เริ่มเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างมากขึ้น และผู้คนก็นิยมดื่มกันแพร่หลายขึ้น ด้วยความที่ว่าชาชนิดนี้ต้องเก็บไว้นานวัน จึงจะมีรสชาติที่ดี , แต่ชาผู่เอ๋อร์ที่ผลิตและส่งขายอยู่นั้น เป็นชาดิบ (สีชายังไม่เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีน้ำตาลไหม้) จึงสวนทางกับความต้องการของตลาด ที่ผู้คนต้องการลิ้มลองรสชาติ ชาผู่เอ๋อร์ที่สุกแล้ว กล่าวคือ ใบชาอัดแท่งนั้น ผ่านการเก็บบ่ม จนใบชาสุก สีของใบชาเปลี่ยนจากสีเขียว กลายเป็นสีน้ำตาลไหม้


ดังนั้นผู้ผลิต จึงได้คิดหากรรมวิธีที่จะเร่งให้ชานั้นสุกโดยไม่ต้องเก็บ และแล้วก็หาวิธิเร่งให้ชาสุก โดยห้องควบคุมอุณหภูมิ เมื่อบ่มใบชาในห้องควบคุมอุณหภูมิจนได้ที่ ใบชาสุกที่ได้ จะมีรสชาติเหมือนใบชาเก่าเก็บไม่ผิดเพี้ยน ชาผู่เอ๋อร์ที่ผ่านการบ่มนี้ ก็สามารถตอบโจทย์ ของผู้บริโภคได้ ดังนั้นสมัยนี้ เราจึงเห็นชาผู่เอ๋อร์ ผลิตออกมาเป็นสองชนิด คือ แบบดิบ (แบบดั้งเดิม ซื้อไปบ่มเก็บเอง หรือ จะชงดื่มเลยอย่างชาเขียวก็ได้) และ แบบสุก (ผ่านกรรมวิธีในห้องควบคุมอุณหภูมิ เร่งให้จุลินทรีย์ต่างๆ ทำปฏิกิริยากับใบชา จนใบชาสุก เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีน้ำตาลไหม้)


สองชนิดนี้มีให้ซื้อหาตามอัธยาศัย ใจร้อนก็ซื้อแบบสุก หรือหากอยากเก็บไว้ เป็นความภาคภูมิใจของตัวเอง ว่า "ชาจอกนี้ ข้าพเจ้าเก็บบ่มเอาไว้เอง เป็นแรมปี" ก็ซื้อหาแบบดิบมาเก็บเอง แต่หากซื้อชามาเก็บเอง ควรนำชาออกมาจากภาชนะที่เก็บ อย่างน้อยปีละครั้ง ให้ใบชาได้หายใจบ้าง เพื่อลดกลิ่นอับเนื่องจากการเก็บไว้แรมปี




ส่วนเรื่องชาปลอมนั้น เข้าใจว่าสมัยนี้รัฐบาลจีน ควบคุมเรื่องคุณภาพพอสมควรครับ บนห่อชาหากมีสัญลักษณ์ QS การันตี ก็น่าจะสะบายใจไปเปราะหนึ่ง ว่ามีคุณภาพและได้มาตรฐาน , เครื่องมายนี้บางทีก็อยู่ด้านหน้า บางทีก็อยู่ด้านหลังห่อชาครับ


อีกนิดหนึ่งครับ อันนี้เป็นข้อสังเกตุส่วนตัวนะครับ ชาผู่เอ๋อร์แบบสุก ส่วนมากสีสรรตัวหนังสือบนห่อ โทนสีจะหนักไปทางสีน้ำตาลครับ , ส่วนชาผู่เอ๋อร์ แบบดิบ โทนสีก็จะหนักไปทางสีเขียว อันนี้เป็นข้อสังเกตุเล็กๆน้อยๆ ครับ



"น้ำค้างหยกเก้าบุปผา"

--เอวัง--







*หมายเหตุ - ชื่อเรียกต่างๆ เช่น ผู่เอ๋อร์ , ผู่เอ๋อ , Puerh , Pu-erh tea cakes , กวางตุ้ง: โผวเหล่ / โป้วเหลย (BoLei) , 普洱茶 (Pinyin: pu3 er3 cha2)*

ข้อมูลส่วนหนึ่งจาก-...
ชาในมูลนิธิโครงการหลวง ,
wikipedia ,
รวยริน-กลิ่นชา ,
Tuocha , และ
มิตรสหายในห้อง จีนศึกษา //www.pantip.com




Create Date : 27 กรกฎาคม 2552
Last Update : 9 พฤษภาคม 2553 0:13:47 น. 53 comments
Counter : 29131 Pageviews.

 
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบล๊อกนะคะ


เอามาฝากค่ะ "มาม่าผัดขี้เมากุ้ง-ปลาหมึก" :))


โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:7:46:34 น.  

 
ตามมาเก็บความรู้ต่อ
พึ่งรู้ๆๆนะคะเนี่ย ว่าของเก่าเก็บยิ่งอร่อยยิ่งแพง อิอิอิ
ขอบคุณนะคะ


โดย: บ้านหวานเย็น วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:38:32 น.  

 
พอคลิ้ก เข้ามา ต๊กกาใจเลยค่ะ นึกว่าหลงเข้าไป สำนักไหน อ่านเรื่อง ชาผู่เอ๋อร์ ของคุณน้ำค้างหยกเก้าบุปผา แล้วอยากลองชิมจัง

รูปอาเฮีย ที่อยู่ตรงprofileอ่ะ ผมขาวทั้งศรีษะ แต่หน้าตึงเปี๊ยะเลยไม่ทราบว่า เพราะ ดื่มชาอ่ะป่าวค่ะ.... ล้อเล่น....ขอบคุณที่ไปทักทายกันน่ะค่ะ


โดย: T+c+ake Time 2002 วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:39:05 น.  

 


โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:47:50 น.  

 
อ่านแล้วอยากดื่มชาผู่เอ๋อจัง ไว้กลับเมืองไทยจะลองหามาดื่มนะคะ

เราว่ามันคลาสสิคดีนะ เอามาบ่มเองไว้ซัก 10 ปี


ที่ปากีนิยมดื่มชามากค่ะ ทุกบ้านจะต้องดื่มชาช่วงเย็น แต่เป็นชาผง คล้ายๆซีลอน ใส่นม

ชงชาใครว่ากล้วยๆ แต่ละคนชง รสชาติก็ไม่เหมือนกัน (สูตรเดียวกัน)


ปล.ชาโมรอคโคก็อร่อยไปอีกแบบนะคะ โดยเฉพาะสูตรที่ใส่ใบมิ้นท์สด



โดย: @~UltRaViOleT~@ วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:24:00 น.  

 
พี่ตามมาดื่มชาอีกรอบค่ะ เห็นความยากลำบากในการเก็บใบชาแล้วราคาคงไม่เบาเลยใช่มั๊ยคะ พี่ยังไม่เคยลิ้มลองค่ะ แต่จะบอกว่าชื่นชอบชาผลไม้เป็นพิเศษ มีโอกาสไปเดินในร้านชาที่อังกฤษ กลิ่นกรุ่นไปทั้งร้านเลยค่ะ


โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:14:46 น.  

 
แวะเข้ามาชมนะคะ ขอบคุณสำหรับความรู้ น้ำอยู่ฮ่องกงมาก้อหลายปีดีดัก ชอบดื่มชาแต่ไม่ค่อยมีความรู้เลย เข้ามาบ้านนี้ได้ความรู้เพียบจริง ๆ ...ขอบคุณนะคะ


โดย: DARKDOG วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:30:17 น.  

 
ความรุ้มากๆเลยค่ะ ^^


โดย: Chibiasa วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:51:38 น.  

 
ความรู้เพียบเลยค่ะ อ่านไปขำไป เขียนได้สนุกดีค่ะ
ถ้าอนาคตดื่มชาขึ้นมา คงต้องมาบล๊อกนี้แล้วค่ะ


โดย: 2fast2farious วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:16:05 น.  

 
สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ถ้าว่างๆ ก็แวะไปทักกันอีกนะคะ


โดย: Ying (Ying-Chirathatsani ) วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:37:01 น.  

 
แค่อ่านยังอุปทานไปว่า ได้กลิ่นชาหอม ๆ
ขอบคุณสำหรับความรู้ทีเ่อามาแบ่งกันนะคะ


โดย: Guzzie วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:02:44 น.  

 
อืม ต้องลองมั่งแล้ว เห็นอยู่มากมายแต่ไม่เคยซื้อเพราะรู้สึกว่าไม่สะอาด ผมคอดืมชาตัวยงเลย ชอบสะสมชาแปลกๆที่ว่าดีๆมาลองดื่ม ชาขาวอู่หลง นี่สำหรับผมละดีที่สุดแล้ว


โดย: พระจันทร์สัญจร วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:27:10 น.  

 
รูปไอค้อนจากกังฟูแฟนด้าใช่หรือเปล่าค่ะ เพิ่งได้ดู ชอบมากเลย

ยังไม่เคยได้ดื่มชาชาผู่เอ๋อร์เลย ยังไม่รู้ว่าจะไปหาซื้อได้ที่ไหนเลยนี่


โดย: Noshka วันที่: 30 กรกฎาคม 2552 เวลา:4:41:27 น.  

 
แอด flock แล้วค่ะ ^^"
ไม่ค่อยได้เข้าไปทางนั้นจนลืมไปเลยว่ามี 555


โดย: แพนด้ามหาภัย IP: 125.25.148.78 วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:34:59 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมวันเกิดนะคะ
ขอให้มีสุขภาพดีเช่นกันแล้วก็
พบกับความสุขเหมือนกันค่ะ

ชอบๆๆ ชอบบล็อคแบบนี้จัง
ชอบดื่มชาคะ ชากุหลาบ
กับชามะลิ


โดย: บุปผาลีลาวดี วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:21:21 น.  

 
อ่านแล้วอยากชิมเลยค่ะ :)


โดย: wujirab วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:55:29 น.  

 
ได้ความรู้มมากมาย ตื่นตา ตื่นใจ ในรูปภาพ

ขอบคุณที่แวะไปคุยกันนะคะ


โดย: เช้านี้ยังมีเธอ วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:47:19 น.  

 
ชาผู้เอ๋อร์ นี้ มันจะใช่น้ำเมี่ยงหรือเปล่าเอ่ย

หลายปีก่อน (10 ปีก่อน) สมัยที่ผมยังทำงานและต้องไปอ. เวียงแหง บริเวณ เปียงหลวง ก็จะมีการนำ "น้ำเมี่ยง" มาชงให้ดื่อมเป็นประจำ จะดีก็ต้องดื่มในฤดูหนาวที่อากาศหนาวจับใจ ดื่มน้ำร้อนเปล่าๆยังอร่อยเลย


โดย: moonfleet วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:01:10 น.  

 
มาจิบชาด้วยคนค่ะ

ถ้าเปรียบชาผู่เอ๋อดั่งสตรีได้คงดี

ยิ่งอยู่นาน...ยิ่งทรงคุณค่า..หายาก

สมควรดูแลอย่างดี อิอิ


โดย: พี่ปูนิ่ม วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:18:40:43 น.  

 
มาขอบคุณที่แวะไปอวยพรวันเกิดค่า

ชาวบล็อกน่ารักที่ซู้ด ขอบคุงมั่กๆ ค่า


โดย: lazymetal วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:05:38 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมที่บล๊อกจ้า


โดย: สวรรค์บันดาล วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:35:46 น.  

 
เอ...ตกลงชาผู่เอ๋อร์ รสชาดดีเมื่อได้ลิ้มลอง
หรือรสชาดดี เมื่อทราบว่าใครๆก็ว่าอร่อยกันแน่ค่ะเนี๊ยะ

เอางี้ล่ะกัน ส่งตัวอย่างมาให้ชิมบ้างน่ะค่ะ
(ตลกบริโภคแล้วเรา)


โดย: TiSsUe NaRak วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:09:01 น.  

 
ขอบคุณทีชี้ทางสว่างของผู่เอ๋อ
หะแรกก้อว่ารสแปลกๆ
ลำดับจอกต่อมา
หวานโคนลิ้น
วางไม่ลงจริงๆๆ
น้ำสองน้ำสามนะ
โอ้ย...จอร์จ..
ช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก


โดย: กระบี่หลอสุยกัก IP: 110.49.137.167 วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:22:20:58 น.  

 
ขอน้อมคารวะน้ำค้างหยกเก้าบุปผา
ข้าน้อยได้รับชาผู่เอ๋อมาเป็นของกำนัลจากแดนไกล
ดูเหมือนว่าจะเป็นชาดิบ
ใคร่ขอทราบวิธีเก็บรักษาว่า
วางไว้เฉยๆ หรือต้องตากแดดหรือไม่ หรือต้องใส่ในภาชนะชนิดใด
จะใสถุงพลาสติกดีหรือเปล่า
ขอท่านโปรดชี้แนะ
ขอคารวะ...


โดย: กระบี่หลอสุยกัก IP: 125.25.119.247 วันที่: 27 สิงหาคม 2552 เวลา:18:43:47 น.  

 
การเก็บชาผู่เอ๋อร์ แบบที่ห่อการดาษฟาง ก็เก็บไว้เฉยๆ ก็ได้ครับ
หรือถ้าหากกลัวว่าฝุ่นจะจับ ก็ใส่ถุงพาสติกก็ได้ ส่วนตัวผมเอง
ก็เอาใส่ถุงพาสติกไว้ครับ เพราะเท่าที่เห็นๆ บางทีก้อนใหญ่ๆ
เขาก็เอาวางทิ้งไว้ในห้อง เฉยๆ มีเพียงพาสติกใสคลุมกันฝุ่น

ถ้าเก็บไว้นานเป็นปีๆ ก็ควรจะนำออกมาจากถุง ให้ชาได้หายใจ
สักหนึ่งวัน แต่ก็คงไม่จำเป็นต้องเอาไปตากแดดครับ ผึ่งไว้ในห้อง
ก็คงใช้ได้แล้ว เพื่อลดกลิ่นอับจากการเก่าเก็บ , เนื่องจากว่าใบชา
จากชาดิบ แล้วกลายเป็นชาสุกนั้น ต้องอาศัยจุลินทรีย์บางชนิด
ไม่แน่ใจว่า เมื่อนำไปตากแดดแล้ว จะทำให้สูญเสียจุลินทรีย์นั้น
ไปหรือไม่


โดย: น้ำค้างหยกเก้าบุปผา วันที่: 30 สิงหาคม 2552 เวลา:16:40:25 น.  

 
ขอคารวะ...รับทราบ.รับทราบ
ขอบคุณอย่างมาก..ขะรับ..


โดย: กระบี่หลอสุยกัก IP: 125.26.209.207 วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:16:56:25 น.  

 
การเก็บชาผูเออร์ไม่ว่าดิบ หรือสุข ควรเก็บไว้ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ควรเก็บไว้ในถุงพลาสติกเพราะจะทำให้รสชาดชาเปลี่ยนแปลงช้า โดยปกติ ชาผูเออร์จะชอบอกาศถ่ายเทสะดวก อุณหภูมิ 28-40 ความชื้นสัมภัทธ 60-70 ดีกรี จะทำให้ชารสชาดหวานชุ่มคอมาก แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยดังนี้ 1.คุณภาพของใบชา 2.วิธีการผลิตเพราะว่าแต่ละโรงงานจะมีขั้นตอนแตกต่างกันไป 3.ระยะเวลาที่เก็บด้วยนะ


โดย: Mr.CHA IP: 124.120.206.36 วันที่: 6 กันยายน 2552 เวลา:19:31:53 น.  

 
ได้รับมาห้าแผ่น..แต่ละแผ่นห่อด้วยกระดาษสา..รวมมาในตะกร้าไม้ไผ่สาน..แรกเริ่มสีจะออกเขียวอมเทา..ตอนนี่ผ่านมาหนึ่งปีสีเริ่มจะดำ..มีกลิ่นคาวนิดหน่อย...ชงแล้วสียังไม่เข้ม..รสหวานนิดๆ..กลัวจะอับกัอเลยใส่เม็ดดูดความชื้นลงไปในตะกร้า...จะมีผลอย่างไรบ้าง..ตอบด้วยนะครับ..ขอบคุณล่วงหน้าขะรับ..


โดย: กระบี่หลอสุยกัก IP: 61.19.66.54 วันที่: 13 กันยายน 2552 เวลา:19:54:16 น.  

 
อ่านแล้วได้ความรู้มากๆค่ะ

ตอนนี้ กำลังดื่มชาผู่เอ๋อร์ที่ไปซื้อมาจากโครงการหลวง

ชงไม่ค่อยเป็นเลยค่ะ เดาๆว่า ใส่ใบชาสัก สามส่วนสี่ถึงหนึ่งช้อนชา แล้วเติมน้ำร้อน ทิ้งไว้สัก 1 นาที แล้วต้องเทน้ำแรกทิ้งไปใช่ไหมคะ
แล้วจริงๆ มันสามารถชงดื่มได้กี่ครั้ง ค้างคืนได้ไหมคะ งงจัง -*-

แต่ที่ชงมั่วๆไป ก็รสชาติ ดีค่ะ จิบครั้งแรกจะขม แล้วต่อมาจะหวาน


โดย: patella IP: 119.42.68.23 วันที่: 30 ตุลาคม 2552 เวลา:9:52:15 น.  

 
วันนี้มีผู้ใหญ่นำชาผู่เอ๋อมาฝากเป็นของโครงการหลวง
ทราบมาว่าผลิตเพื่อเฉลิมพระชนม์พรรษาครบ๘๐ของในหลวง
อ่านจากใบแนบผลิตจำนวน๑๐๐๐๐๐แผ่น
ได้รับแผ่นที่๐๐๑๕๖๘ดีใจอย่างแรงกล้า
เป็นปลื้ม ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นที่ลำลึกไว้นานๆ
มาเล่าให้ฟัง..เผื่อมีคำแนะนำดีๆ


โดย: กระบี่หลอสุยกัก IP: 61.7.191.146 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:51:45 น.  

 
อยากแลกเปลี่ยนและเผยแพร่ความรู้ครับ
//teadezhang.blogspot.com ]v'c;t,kf^:b8iy[


โดย: คุณจาง IP: 124.120.76.206 วันที่: 13 มิถุนายน 2553 เวลา:22:44:20 น.  

 
แรกๆรู้สึกมีกลิ่นคาวครับ

แต่พอกินได้ 3 - 4 ครั้ง เริ่มชอบครับ

ซื้อมาจากจีน

แต่ไม่ทราบว่าที่ไทยมีขายที่ไหนบ้าง


โดย: A IP: 202.183.235.3 วันที่: 7 กันยายน 2553 เวลา:9:55:33 น.  

 
ชาผู่เอ้อ เขาไม่ดื่มนะครับ แต่กิน คือชงเสร็จยกถ้วยชาขึ้นซดแล้วต้องเคี้ยวเหมือนกินข้าวนั่นแหละครับ ชาวจีนจึงเรียกว่า "กินชา" ข้อมูลนี้ยืนยันถูกต้องแน่นอน เพราะผมไปดูสถาบันชาของรัฐบาลจีนที่ปักกิ่งมาแล้ว ที่นี่ขายชาหลายชนิด ใครไม่อยากเจอชาปลอมต้อบไปที่นี่ครับ ราคาก็ถูกกว่าที่อื่นด้วย (ที่ว่าถูกนี่ก้ยังแพงอยู่นั่นแหละ)

มีชาอีกชนิดหนึ่ง แต่อันนี้ไม่ดื่มและไม่กิน คือชาอู่หลง เวลาจะเอาเข้าปาก ให้จับชาด้วยนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง เอานิ้วกลางรองฐานถ้วยชา(เล็ก)ไว้ ผู้ชายกำนิ้วที่เหลือ (นางกับก้อย) เข้าเหมือนกำปั้น (อย่าให้โผล่ออกมาเหมือนตุ๊ด) ผู้หญิงเหยียดนิ้วนางกับก้อยออกโค้งแต่พองาม แล้วเอามาวาดผ่านจมูกสูดกลิ่น แล้วยกลงไปประมาณสะดือม้วนเข้าด้านใจยกขึ้นถูกจมูกเพื่อสูดกลิ่น แล้วจิบชาพร้อมกับทำปากจิ๊บๆๆๆๆ ด้วย เข้าจึงเรียกว่า "จิบชา" แต่ชาชนิดอื่นก็ "ดื่ม" เหมือนเราดื่มทั่วไปธรรมดา

สรุป คนจีนมี

๑ จิบชา
๒ กินชา
๓ ดื่มชา
ฯลฯ ต่อเอาเอง อิอิ

vanpatumraatludwig@gmail.com


โดย: ลุดวิก IP: 124.121.41.21 วันที่: 13 มกราคม 2554 เวลา:21:23:56 น.  

 
เราขอชวนเพื่อนๆที่ชอบดื่ม ชาผู่เอ้อ เพราะอาทิตย์ที่แล้วเราเดินผ่านแถว รถไฟฟ้าช่องนนทรี เราเจอร้านชาเปิดใหม่ด้วย ขายเฉพาะผู่เอ้ออย่างเดียวเท่านั้น มีชาไม่ต่ำกว่า 3 ปี โอๆๆๆ รสชาติไม่ต้องพูดถึง


โดย: สุกี้ IP: 125.24.105.48 วันที่: 18 มกราคม 2554 เวลา:14:48:33 น.  

 
ชอบมากค่ะ ทำ blog สวยดี อบอุ่นอยู่ในมุมคนดื่มชา และให้ความรู้ดีเรื่องผู่เออร์ค่ะ และกำลังสนใจหาความรู้เรื่องนี้พอดี


โดย: ฟางซื่ออวี้ IP: 58.11.25.113 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:16:41 น.  

 
ลองดื่มแล้วค่ะ ซื้อมาเยอะเลย เป็นส้มโอผู่เออร์ ๕ ปี ยังมือใหม่อยู่ค่ะสำหรับผู่เออร์ แต่ไม่แน่อาจพบเนื้อคู่ใหม่ก็ได้


โดย: ฟางซื่ออวี้ IP: 58.11.25.113 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:34:01 น.  

 
ขอบคุณมากเลยคะที่ให้ความรู้ ตัวเองไป 12 ปันนาบ่อยมาก ตนเองไม่อบทานชาเลย พอไปฟังที่เจ้าหน้าที่ ชา อธิบาย ก็เลยสนใจชาปูเอ๋อ ก็เลยซื้อมาทานเพราะมันลดไขมัน ซื้อทั้ง ดิบ และ สุก
ก็รสชาติแตกต่าง ดิบ มันฟาด แต่ชาสุกไม่มีกลิ่นสีแดง แต่ ลองทานมา ได้ 1 กว่าแล้ว ปกติน้ำหนัก 52-53 ตอนนี้ไม่ได้กินข้าว 51 กินข้าว 52 เคยทดลองกินของมัน 1 สัปดาห์ แต่น้ำหนักก็ไม่ขึ้นแสดงว่ามันสามารถลดไขได้ดี คือทานแทนน้ำไปเลย ทานทั้งครอบครัวเลย แต่เมื่อก่อนชงไม่เป็นเลย อ่านข้อความของคุณแล้วทำให้รู้วิธีชงและความรู้มากมายค่ะ แต่เป็นโรคกระเพาะยังไม่หายนะคะ


โดย: สาวเหนือ IP: 180.183.150.46 วันที่: 30 มีนาคม 2554 เวลา:15:45:54 น.  

 
ขอบคุณมากเลย ว่าง ๆ แวะมาบอกเรื่องกินชาปูเอ๋อ
ทาง wanna_kj@yhoo.co.th ด้วยนะคะ เมื่อกี้ลืมบอกไป


โดย: สาวเหนือ IP: 180.183.150.46 วันที่: 30 มีนาคม 2554 เวลา:15:59:29 น.  

 
พี่ชายเพิ่งได้ก้อนชาผู่เอ๋อร์มาเมื่อสองวันก่อน ทีแรกไม่รู้ว่าคืออะไรเพราะเป็นภาษาจีนทั้งหมด แต่เราเคยเห็นในสารคดีก็เลยบอกเขาว่าน่าจะเป็นชา แต่ก็ไม่รู้ว่าชาอะไร พอดีมาเจอข้อความใน blog นี้เข้า เลยได้ความรู้มากมาย แต่กำลังเสียดายไม่อยากเอามาทานเลย กล่องใส่ชาก็สวยมากด้วย ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ


โดย: คุณตา IP: 10.107.160.251, 58.9.224.54 วันที่: 1 มิถุนายน 2554 เวลา:12:13:35 น.  

 
กำลังดื่มค่ะ.....เขาว่าจะผอมหุ่นดี.....จึงดื่มกันทั้งโรงเรียนเลยจ้า


โดย: สกลนคร IP: 125.26.251.9 วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:7:51:54 น.  

 
ชาพู่เออร์ยุคใหม่ กทม.มีจำหน่ายแล้วครับ

นำเข้าจากจีน โดยกลุ่มสถาบันชา ลองรัน
มีชาพู่เออร์เป็นถ้วยชาบรรจุสำเร็จรูปทานได้ 10 ครั้งขึ้นไปขายเป็นแพคครับ
สนใจติดต่อ 085 916 8597


โดย: นะครับ IP: 125.24.171.34 วันที่: 14 กรกฎาคม 2554 เวลา:16:53:33 น.  

 
ตอนนี้อยู่จีนค่ะ เพิ่งซื้อชานี้มาทานเหมือนกัน ทางร้านเค้าแนะนำผู่เอ๋ออีกชนิดนึงค่ะ เป็นแบบไม่หมัก หอม และชุ่มคอมาก รสไม่เหมือนผู่เอ๋อที่หมักแล้วเลยค่ะ ส่วนราคาแพงจับใจกว่าแบบหมักเยอะมาก ๆๆๆ แต่ก็ตัดใจเอามาลอง เพราะถือว่าเป็นรักแรกพบเหมือนกันค่ะ


โดย: I Love Tea IP: 218.25.168.2 วันที่: 15 กันยายน 2554 เวลา:23:26:23 น.  

 
ผูเอ่อเป็นชาที่มีคุณสมบัติเหมือนยา
ลดคลอเรสเตอรอลได้ดีฉมังนัก
รสชาดนั้นต้องค่อยๆเรียนรู้
กว่าจะตาสว่างก็ร่วมปี
เมื่อพบชาถูกใจแล้ว เหมือนดั่งพบเนื้อคู่ที่เป็นsoul mate
หาชาผูเอ่อดีๆยากยิ่งนัก
ในจีนเอง ปัจจุบันถ้าไปซื้อก็จะเป็นชาผูเอ่ใหม่ทั้งสิ้น
ที่ว่าเก่าสิบยี่สิบปีนั้น
ลวงทั้งสิ้น
ชนิดที่เป็นเซิงฉา รสชาดและกลิ่นดื่มง่ายกว่าโสวฉา

คารวะผูเอ่อมาหนึ่งจอก
ท่านมองดูสีน้ำในจอกนี้
เห็นความสดใสของน้ำ
พริ้วเป็นระรอกใส
ได้กลิ่นสะอาดของชา
standard Quality ก็มิมีความหมายอันใด

ชาดีอยู่ที่คุณภาพ หาใช่อักษรฝรั่งสองตัวนี้ไม่


โดย: dancing in the moon IP: 110.171.9.10 วันที่: 19 กันยายน 2554 เวลา:12:35:51 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ตอนนี่ นำชาผู่เอ๋อ มาจำหน่าย กำลังจะเปิดตัวสินค้า 2 ที่ คือ

1. IT สแควร์หลักสี่ชั้น G
2. MBK ชั้น 6 โซนศูนย์อาหาร

เชิญแวะชมดื่มฟรีได้ที่บูธนะค่ะ
เป็นชา ผู่เอ๋อ ของ ต้าอี้ จาก ยูหนานค่ะ ของแท้แน่นนอนรับประกัน

และจะเปิดจำหน่ายทาง เวปไซด์ด้วยนะค่ะ เร็วๆนี่ค่ะ
สอบถามได้ที่ rayko_jung@hotmail.com


โดย: yiyfood IP: 110.168.32.102 วันที่: 9 ตุลาคม 2554 เวลา:15:36:57 น.  

 
พอดีไปจีนมา คุณแม่สามีก็หมดเงินไป พันหก-เจ็ดเหรียญสิงคดอลล่า เพื่อชาผู่เออ แต่ว่าที่บ้านทางเหนือก็มีใบชาที่ขี้นจากธรรมชาติ รุ่นปู่ย่าเลย ตอนนี้พวกลุงที่บ้านเค้าก็ยังมีไว้ครอบครอง อยากทราบว่าในไทยมีโครงการทำชานี้ไหมค๊ะ จะได้ทำให้คนในพื่นที่มีรายได้จากการทำชา ขอข้อมูลด้วยค๊ะ เพราะคิดว่าชาที่เหนือ มันไม่ต่างกะชาป่าที่ต้าลี่ เลยเหมือนกันมากค๊ะ


โดย: ปฐวีพร IP: 182.55.236.11 วันที่: 20 ธันวาคม 2554 เวลา:13:49:23 น.  

 
รบกวนขออนุญาต
โปรโมทค่ะ สำหรับท่านๆที่ชื่นชอบชาผู่เอ๋อร์ ตอนนี้ได้เปิดร้านขายชาผู่เอ๋อร์ ของแท้จาก ยูหนาน ยี่ห้อต้าอี้ ที่ทุกท่านชื่นชอบ
เปิดให้บริการที่ ไอที สแควร์หลักสี่ ชั้น G ล็อค G013 ติด black canyong เริ่มเปิดให้บริการวันที่ 1 เมษายน 2555 เป็นต้นไป และยังมีชาอื่นๆอีกหลายประเภท พร้อมอุปกรณ์ชงชานะค่ะ (ถ้าลงผิดหมวดหมู่ ขออภัยด้วยนะค่ะ) TEL : 081-3720172 R-Ray


โดย: Rray IP: 124.121.140.89 วันที่: 31 มีนาคม 2555 เวลา:22:00:18 น.  

 
อร่อยไม๋อะกี่บาทนะ


โดย: คนน่ารัก IP: 101.108.53.174 วันที่: 3 มิถุนายน 2555 เวลา:11:40:51 น.  

 
เหมือนเราค้นหาแล้วค้นเจอสิ่งที่เราชอบ เคยกินชามาก่อน แต่มาพบผู่เอ๋อร์แล้ว ถูกใจ จนตามไปหาซื้อถึงที่เรียบร้อยแล้วที่หลั้กสี่เมื่อ22มีนาที่ผ่านมานี่เอง


โดย: สุขศิริ สิงคเสลิต IP: 49.0.105.208 วันที่: 1 มีนาคม 2556 เวลา:12:29:34 น.  

 
ได้ชาผู่เออร์ที่ถูกใจ ด้วยความรีบร้อยเลยพิมพ์ผิด ไปที่ร้านเมื่อ22กุมภาค่ะ ตอนนี้กำลังศึกษาหาข้อมูลค่ะ ชอบใจที่ชา แล้วข้อมูลก็ละเอียดดีค่ะ


โดย: สุขศิริ สิงคเสลิต IP: 49.0.105.208 วันที่: 1 มีนาคม 2556 เวลา:12:51:07 น.  

 
ดื่มอยู่ตอนนี้ รักมากกกก ดื่มแล้วสดชื่น นุ่มเบา ติดใจ


โดย: รักชา IP: 115.87.42.153 วันที่: 30 มีนาคม 2556 เวลา:22:40:54 น.  

 
ไปสิบสองปันนามาค่ะ ไกด์แนะนำ หลังจากดื่มแล้วหลงไหลเลย ปกติดื่มอูหล่ง อยากทราบว่าที่กรุงเทพ หาซื้อได้ที่ไหนได้บ้างคะ


โดย: นิยมชา IP: 61.90.143.179 วันที่: 24 เมษายน 2556 เวลา:9:19:57 น.  

 
หาซื้อได้ที่ชั้นใต้ดิน ร้านชา TAETEA ห้างไอทีแสควร์หลักสี่พลาซ่า หลักสี่ กรุงเทพ


โดย: TAETEA THAI IP: 171.99.45.208 วันที่: 3 กรกฎาคม 2556 เวลา:19:32:47 น.  

 
ที่บ้านเก็บไว้นาน มีลักษณะคล้าย ราขึ้นนิดหน่อย ไม่แน่ใจว่าเป็นเชื้อรา หรือเปล่า ยังทานได้ไหมครับ


โดย: ชา ผู่เอ๋อ เก็นนานจะขึ้นราไหมครับ IP: 110.168.232.11 วันที่: 5 ธันวาคม 2559 เวลา:10:43:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

น้ำค้างหยกเก้าบุปผา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Location : หออายุยืน
free counters
Friends' blogs
[Add น้ำค้างหยกเก้าบุปผา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.