รายการที่ส่งเป็นแบบเต็มเหยียด อัดแน่นไปด้วยสาระไทยวน(ที่ฉันอยากเล่า) ตั้งแต่ พิพิธภัณฑ์บ้านยาง ไหว้พระทองวัดพะเยาว์ชมภาพจิตรกรรม วัดสมุหประดิษฐาราม ศูนย์ผ้าทอทั้งสี่แห่ง เขาแก้ว ต้นตาล พระยาทดท่าช้าง ดูงานวิสาหกิจชุมชน กินขันโตกพร้อมการแสดงและชมหอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน ตบท้ายด้วยการล่องเรือแม่น้ำป่าสัก โปรแกรมนี้ถ้าเอาสาระจริง ๆ น่าจะใช้เวลาค้างคืนเล่าต่อในวันถัดไปด้วยซ้ำ .. นี่ฉันทำอะไรลงไปนะ

สุดท้ายที่ไลน์ท้ายสุด .. คณะเดินทางมีเวลาแค่วันเดียวค่ะ และเนื่องจากเป็นการเดินทางมาจากหลายจังหวัดที่ไกลสุดคือกำแพงเพชร ทัวร์จะเริ่มต้นที่เวลาสิบโมงตรงและจบที่เวลาสี่โมงตรงค่ะ.. ท่ า น ผู้ โ ช้ ม ...

โปรแกรมป้าอยากเล่าจึงหด .. เหลือแค่ .. พิพิธภัณฑ์บ้านยาง - ศูนย์ทอผ้าบ้านท่าช้าง - วิสาหกิจชุมชนหมี่ยวนป้าแวม– หอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน -ล่องเรือแม่น้ำป่าสัก .. จบนะคะ ..ป้า ^^

ตรงดิ่งไปเทศบาลบ้านยางก่อนเลยค่ะ ชื่อจริงของสถานที่คือ พิพิธภัณฑ์ของใช้พื้นบ้าน พิพิธภัณพ์แห่งนี้อยู่ในความดูแลของเทศบาลตำบลบ้านยางค่ะ สถานที่แห่งนี้ริเริ่มและสร้างในสมัย อาจารย์พิเนตร น้อยพุทธา ปราชญ์ชาวไทยวนสระบุรีที่ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีคนแรกของเทศบาลบ้านยาง อาจารย์เป็นผุ้รู้ที่ค้นคว้าและแต่งหนังสือเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชาวไทยวนทั้งในสระบุรีและแห่งอื่นๆ ภายในพิพิธภัณฑ์เก็บสะสมเครื่องใช้พื้นบ้านมรดกที่สำคัญคือ คัมภีร์ไทยวนโบราณ(ปั๊บสา)จากวัดต่าง ๆ จำนวนนับพันเล่ม และผ้าโบราณที่เชื่อกันว่าเป็นผ้าที่ปู่เจ้าฟ้าผู้นำชาวไทยวนนุ่งขณะที่เดินทางอพยพลงมาจากเชียงแสนในปีพ.ศ. 2347

จุดที่สอง ศูนย์ทอผ้าบ้านท่าช้าง หรือ กลุ่มสตรีทอผ้าบ้านท่าช้าง ตั้งอยู่บริเวณภายในวัดท่าช้างเหนือ ที่นี่มีผ้าทอสี่เขาเป็นผลิตภัณฑ์เด่น ที่รองลงมาคือผ้าซิ่นไทยวน คนทั่วไปมักจะเห็นผ้าทอสี่เขาในรูปแบบของผ้าเช็ดหน้าผ้าเช็ดน้ำหมาก ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ในอดีตบ้านไทยวนจะมีกี่ทอผ้ากันอยุ่ใต้ถุนบ้านกันทุกบ้าน แม่หญิงว่างจากหน้านาและงานบ้านก็ขึ้นทอผ้าเก็บรวบรวมไว้ หน้าแล้งเดือนสามเดือนสี่ของทุกปีตัวแทนแม่ค้าผ้าจากในหมุ่บ้านจะมารวบรวมผ้าทอจากบ้านต่างๆ เดินทางไปขายในงานพระบาท ผ้าทอจากงานไหว้พระบาทสระบุรีมีคุณภาพดีใช้ทนจนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วไปคนมาเที่ยวนมัสการรอยพระพุทธบาทจะถามหาซื้อติดมือกลับไป ผ้าทอพระบาทสระบุรีที่คนนิยมกันก็คือผ้าทอชาวไทยวนจากอำเภอเสาไห้นี่เอง

มีเวลาสิบห้านาทีก่อนนัดหมายที่หอวัฒนธรรมฯ ไทยวน เราแวะบ้านหัวหิน ต.ต้นตาล เยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนผัดหมี่ไทยวนป้าแวม การพัฒนาของอาหารพื้นถิ่นไปสู่การเป็นโอทอประดับสี่ดาว จากหมี่แจ๊ะใส่กระทงใบตองสู่หมี่พร้อมปรุงออกสู่ตลาดโลก (ว่ะ ฮ่ะ ฮ่า) ช่วงนี้นาทีทอง ชิม ช้อป แชะ ค่ะ ป้าแวมและทีมงานกำลังเร่งมือผลิตหมี่แจ๊ะหรือว่า หมี่ผัดไทยวน กันอย่างขะมักเขม้น เตรียมตัวไปออกงานที่ จ.ชลบุรี งานนี้มีกำเงินแสนกลับบ้านแน่นอน คณะทัวร์ของเราเลยเวลานัดหมายมาแล้ว 1ชั่วโมงเต็ม ทีมงานป้าแวมก็กำลังเร่งไลน์ผลิตอย่างเมามัน เวลาคุยกันจึงประหนึ่งรถไฟสายใต้สองคันสวนกันนั่นและค่ะ คนหนึ่งถาม “ไน๊” อีกคนตอบ “ใย๊” เข้าใจตรงกันนะคะ ..จบค่ะ

ทัวร์นี้ไม่ใช่ชะโงกทัวร์นะคะ แต่เป็นการฝึกหัดทัวร์บริหารเวลาจากห้าสิบนาทีให้เหลือเพียงห้านาที . เรียกสั้น ๆ ว่าตาลีตาเหลือกทัวร์ดีกว่านะคะ เบา ๆ

พักกลางวันกันที่ หอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวนจ.สระบุรี ค่ะ วันที่เราไปเป็นวันเสาร์ ปกติวันเสาร์จะมีกลุ่มเยาวชนสืบสายวัฒนธรรมไทยวนมาเรียนฟ้อนรำ-มวยไทย-ตีกลองกัน พิธีการกินขันโตกกลางวันของเราจึงธรรมดาไม่ได้ เริ่มจากการฟ้อนต้อนรับจากหน้าประตู ตีระฆัง-ประโคมกลอง-ลั่นฆ้องชัย จนถึงการฟ้อนแห่โตก ประกอบมื้ออาหารด้วยการแสดงต้อนรับของเหล่าหนูน้อยหนูใหญ่มากมายหลายชุด เป็นเทคนิคการร้อยเรียงบอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่ตำนานการโยกย้ายถิ่นฐาน และการอยุ่รวมกันกับชาติพันธ์อื่น ๆ ของชาวไทยวนสระบุรีตามแบบเจ้าบ้านไทยวนอาจารย์ทรงชัย วรรณกุล การฟ้อนรำสลับกับการบรรเลงเพลงสะล้อซอ ซึง จากวงดนตรีเพชรไทยวนของกลุ่มเยาวชนไทยวน ต.หน้าพระลาน อ.พระพุทธบาทจ.สระบุรี ที่ อาจารย์.ดำรงค์ เขียวสมอ เลขาฯ ชมรมไทยวนนำมาสมทบ อิ่มข้าวและอิ่มใจกันพอประมาณก็มีรายการเสวนาย่อยๆ 

บ่ายสองโมงครึ่ง (เลยเวลาในกำหนดการมาอีกชั่วโมงครึ่งแล้วค่ะท่านผุ้ชม)ได้ฤกษ์ลงเรือล่องแม่น้ำป่าสักกันแล้วค่ะ ขาไปมีแวะขึ้นชมศูนย์ทอผ้าบ้านต้นตาล เพื่อให้ทำภารกิจลดน้ำหนัก(กระเป๋าเงิน) ตัวเบา ๆ ก็กลับมาล่องเรือต่อไปค่ะ แม่น้ำป่าสักต้นฝนนี้ไหลใสเย็นดีแท้คุ้งน้ำงามสงบเงียบ ขาไปพี่เจ้าของเรือบรรยายตั้งแต่ท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดไผ่ล้อม วัดพระยาทดเรื่อยไปถึงหน้าวัดสมุหฯ (วัดสมุหประดิษฐาราม) เธอเว้นช่องว่างหน้าวัดไว้นิดหนึ่ง ทำให้ฉันได้โอกาสฉกฉวยโทรโข่งมาจากมือของเธอได้ เรือกลับลำทำยูเทิร์นหน้าวัดพะเยาว์ สมาชิกอ่อนเปลี้ยเพลียแรงไม่สามารถกระดุกกระดิกตัวได้อีกแล้ว เวลายาวเหยียด 30 นาทีต่อจากนั้นก็เป็นฉันที่บรรยายเจ็ดคุ้งน้ำสามคาบสมุทรตั้งแต่อาณาจักรทวาราวดี เชียงแสน อยุธยา รัตนโกสินทร์ ตำนานสระบุรีย้อนไปก่อนประวัติศาสตร์3500 ปีจัดมาเต็มค่ะ ไม่ใช่น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรงนะคะ เรียกว่าน้ำหมากกระจายน้ำลายเป็นฟองผักตบลอยฟ่องเลยค่ะ

..วิทยากรบรรยายดีมากไม่อยากจะชม ..ลูกทัวร์หลับสนิทฝันดีกันทุกผุ้คน ..หุ หุ ..

ทริปหน้ามาเสาไห้อย่าลืมเรียกใช้บริการอีกนะคะ ..จัดเต็มทุกเวที พูด(มาก)ดีทุกงาน บอกเลยค่ะ

ปล. บอกอย่างจริงจังเผื่อหลงทางมาใช้บริการ เสียงบรรยายมีสวิทช์ปิดนะคะ ถ้าปิดไม่ได้สามารถดึงแบตออกเลยก็ได้ค่ะ ปิดสวิทช์แล้วนางไม่มีแรงตะโกนหรอกค่ะ นางแก่(มาก)แล้ว