อยู่ ๆ ก็นึกอยากทานเค้กเบา ๆ พวกชิฟฟ่อน ขึ้นมา ...ลองหาสูตรใหม่ ๆ ดู ไปเจอสูตรชิฟฟ่อนกล้วยหอม รู้สึกแปลกดี เลยลงมือทำเลยค่ะ ... เนื้อไม่สวยดั่งใจเท่าไหร่ 55 ด้วยความสะเพร่า ไปทาเนย เคาะแป้ง ในพิมพ์ที่ใช้อบ แบบไม่ได้ทำชิฟฟ่อนนาน ลืมไปว่าเค้กนี้ เค้าไม่ทาน้ำมันในพิมพ์อบกัน เค้กเลยไม่ฟูเท่าที่ควร แต่ก็ไม่ถึงกับยุบนะคะ โครงสร้างเค้กแข็งแรงทีเดียว ... มาดูสูตรกันนะคะ
Recipe Source : //www.dessertzhouse.com/2013/04/banana-chiffon-cake.html
ส่วนผสม
1. กล้วยสุกบด 240 กรัม
2. ไข่แดง 4 ฟอง
3. น้ำตาลทราย 120 กรัม (แบ่งใช้ 2 ส่วนที่หนึ่ง 30 กรัม และ ส่วนที่สอง 90 กรัม)
4. น้ำมัน 60 กรัม
5. น้ำ 50 กรัม
6. แป้งเค้ก 135 กรัม (ร่อน)
7. ไข่ขาว 6 ฟอง
วิธีทำ
1. ที่ 170 C หรือ ประมาณ 340 F เตรียมพิมพ์ที่จะใช้อบ พักไว้ ... ไม่ต้องทาเนยเคาะแป้งพิมพ์แบบเราค่ะ ... ใช้พิมพ์ Tube Pan แบบเจ้าของสูตรจะดีค่ะ เราอยากแหวกแนว ก็ได้ผลประมาณนี้จ้อย อิอิ ...
2. ตีไข่แดงกับน้ำตาลทรายส่วนที่ 1 (30 กรัม) จนขึ้นฟู สีจาง
3. ใส่น้ำมัน ตีต่อไป จนเข้ากันดี
4. เติมน้ำ ตีผสม พอให้เข้ากันดี
5. ใส่กล้วยบดลงผสม ตีพอให้เข้ากัน
6. ทยอยใส่แป้งลงผสม ... คนผสม จนเข้ากันดี ไม่มีส่วนแป้งจับกันเป็นเม็ด (ขั้นตอนนี้ใช้ตะกร้อมือค่ะ)
7. ตีไข่ขาว จนได้ฟองหยาบ ทยอยแบ่งน้ำตาลที่เหลือลงผสม ครั้งละประมาณ 1/3 ส่วน (1/3+1/3+1/3) ตีด้วยความเร็วสูง จนเกือบได้ยอดแข็ง ... แล้วลดสปีดการตีเป็นต่ำ ตีต่อไปประมาณ 1 นาที (ทดสอบว่าเมอร์แรงค์หรือไข่ขาวได้ที่ โดยการเอียงอ่างผสม แล้วไข่ไม่เคลื่อนที่)
8. แบ่งไข่ขขาว 1/3 ส่วนลงผสมกับส่วนผสมไข่แดง ... คนผสมให้เข้ากัน เพื่อส่วนผสมไข่แดงจะได้ไม่ข้นมาก
9. เทส่วนผสมไข่แดง กลับลงผสมกับไข่ขาวที่เหลือ ... ตะล่อมให้เข้ากันดี ระวังอย่าคนนาน อาจทำให้ไข่ขาวยุบได้
10. เทแบทเทอร์ใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ เคาะ พิมพ์เบา ๆ .. ส่งเข้าเตาอบ ประมาณ 40 45 นาที (หรือมากกว่านี้ แล้วแต่เตาอบ) .... พักเค้กให้เย็นลงในพิมพ์ประมาณ 10 15 นาที จึงค่อยเทเค้กออกจากพิมพ์ (หากไม่ได้ทาเนย เคาะแป้งในพิมพ์เหมือนเรา ก็อาจต้องใช้มีดแซะขอบเค้ก ก่อนเทออกจากพิมพ์ เอาค่ะ ไปดูเว็บอ้างอิงเพิ่มเติมนะคะ) ... หลังจากนั้นก็พักเค้กให้เย็นสนิทดี
1. อุ่นเตาอบไว้ที่ 170 C หรือ ประมาณ 340 F เตรียมพิมพ์ที่จะใช้อบ พักไว้ ... ไม่ต้องทาเนยเคาะแป้งพิมพ์แบบเราค่ะ ... ใช้พิมพ์ Tube Pan แบบเจ้าของสูตรจะดีค่ะ เราอยากแหวกแนว ก็ได้ผลประมาณนี้จ้อย อิอิ ...
2. ตีไข่แดงกับน้ำตาลทรายส่วนที่ 1 (30 กรัม) จนขึ้นฟู สีจาง
3. ใส่น้ำมัน ตีต่อไป จนเข้ากันดี
4. เติมน้ำ ตีผสม พอให้เข้ากันดี
จะได้ฟองอากาศเยอะหน่อยค่ะ
5. ใส่กล้วยบดลงผสม ตีพอให้เข้ากัน
6. ทยอยใส่แป้งลงผสม ... คนผสมไปเรื่อย ๆ จนเข้ากันดี ไม่มีส่วนแป้งจับกันเป็นเม็ด (ขั้นตอนนี้ใช้ตะกร้อมมือค่ะ)
7. ตีไข่ขาว จนได้ฟองหยาบ ทยอยแบ่งน้ำตาลที่เหลือลงผสม ครั้งละประมาณ 1/3 ส่วน (1/3+1/3+1/3) ตีด้วยความเร็วสูง จนเกือบได้ยอดแข็ง ... แล้วลดสปีดการตีเป็นต่ำ ตีต่อไปประมาณ 1 นาที (ตีตัดฟองอากาศ)
ทดสอบว่าเมอร์แรงค์หรือไข่ขาวได้ที่ โดยการเอียงอ่างผสม แล้วไข่ไม่เคลื่อนที่ (อันนี้เราว่าตามเจ้าของสูตรนะคะ ตามไม่แตกแถวเลย 55)
8. แบ่งไข่ขขาว 1/3 ส่วนลงผสมกับส่วนผสมไข่แดง ... คนผสมให้เข้ากัน เพื่อส่วนผสมไข่แดงจะได้ไม่ข้นมาก
9. เทส่วนผสม กลับลงผสมกับไข่ขาวที่เหลือ ... ตะล่อมให้เข้ากันดีด้วยพายยาง ระวังอย่าคนนาน อาจทำให้ไข่ขาวยุบได้
แบทเทอร์ที่ได้ค่ะ
10. เทแบทเทอร์ใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ เคาะ พิมพ์เบา ๆ .. ส่งเข้าเตาอบ ประมาณ 40 45 นาที (หรือมากกว่านี้ แล้วแต่เตาอบ) .... พักเค้กให้เย็นลงในพิมพ์ประมาณ 10 15 นาที จึงค่อยเทเค้กออกจากพิมพ์ (หากไม่ได้ทาเนย เคาะแป้งในพิมพ์เหมือนเรา ก็อาจต้องใช้มีดแซะขอบเค้ก ก่อนเทออกจากพิมพ์ เอาค่ะ ไปดูเว็บอ้างอิงเพิ่มเติมนะคะ) ... หลังจากนั้นก็พักเค้กให้เย็นสนิทดี
เธอไม่ยุบ แต่เธอก็ไม่ฟูมาก :D
เนื้อเค้กเหมือนสปอนจ์เชียว 55 ... สงสัยอาจตีไข่นานไปนิด .. ฉ่ำกล้วยด้วย เพราะแอบใส่จากสูตรอีก 60 กรัม แต่คิดว่าปริมาณกล้วยตามสูตรเค้าดีแล้วค่ะ เป็นสูตรที่ดีทีเดียวค่ะ ใครที่ชอบเค้กนุ่ม ๆ เบา ๆ ไม่หวานมาก น่าจะชอบเค้กนี้ ... เราเอามาแต่งกับพวกลูกเบอร์รี่ ดูไม่น่าจะเข้ากันกับกล้วย แต่เค้าไปกันได้ดีนะคะ ... ตักครีมปาดหน้าไปด้วย อร่อย ๆ กับกาแฟ ค่ะ ...
มาโพสต์บล็อกนี้ไว้ (ไม่ให้ร้างจนเกินไป อิอิ) ก็จะขอหายตัวไปไปเยี่ยมญาติซักอาทิตย์นะคะ ... คงไม่ได้แวะไปทักทายใครช่วงนี้ ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมาค่ะ ...
เจ้าของบ้านไม่อยู่ เราก็นั่งชิมเค้กไปพลาง ๆ ระหว่างเฝ้าบ้านเนาะ
ส่วนตัวชอบขนมที่มีผลไม้ค่ะ โดยเฉพาะพวกเบอร์รี่ต่าง ๆ
ไว้มาใหม่อีกทีค่ะ