วันนี้มาในแนวแปลก ๆ ... มาลองทำพวกเค้กนึ่ง กันบ้างนะคะ .... ไปเห็นสูตรในเน็ตโดยบังเอิญ ก็เลยลองอ่านดู เลยได้รู้ว่า ปูโต (Puto) เป็น เค้กแป้งข้าวเจ้านึ่ง หรือ Steamed Rice Cake ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวฟิลิปปินส์ ... ปรับมาจากขนมที่ชื่อว่า Puttu ของชาวอินเดียอีกที โดยสามารถบริโภคแบบเปล่าๆ หรือกับ เนย และ/หรือ มะพร้าวขูด หรืออาจนำไปรับประทานกับอาหารคาวอื่นๆ เช่น ดีนูกูอาน (dinuguan) ก็ได้เช่นกัน (Wikipedia/วิกิพีเดีย) ... ชิมแล้วจะว่าคล้าย ๆ ขนมถ้วยฟูของไทย ก็ไม่เชิงนะคะ ส่วนตัวเราว่าไม่เหมือนเสียทีเดียว ... ทั้งนี้อาจเป็นเพราะสูตรที่เราใช้ เป็นสูตรประยุกต์ ปรับเปลี่ยน กันมาอีกที ... ใช้แป้งสาลี แทนแป้งข้าวเจ้า รสจะออกไปทางเค้กมากกว่าขนมถ้วยฟู ที่ใช้แป้งข้าวเจ้าทำ ...
Ube Puto เค้กนึ่งมันเสา (มันเลือดนก) เราปรับสูตรมากจาก Puto ของ alingodays อีกที .. โดยเอาเนื้อมันเสา หรือ Ube (เห็นนิยมเรียก มันม่วง กัน) มาผสมในเนื้อเค้กอีกที จะได้เนื้อสัมผัสในส่วนเค้กอร่อยมากขึ้น ในส่วนของหน้าสังขยา หรือ Leche Flan เราใช้กะทิ แทน นมข้นจืด ... มาดูสูตรกันนะคะ
Ube Puto
Adapted from : //www.alingodays.co.uk/leche.puto.htm
ส่วนผสม
สูตรใหญ่ทีเดียวค่ะ ได้เค้ก ขนาดคัพเค้กทั่วไป ประมาณ 30 ชิ้น ... ทำทานด้วย แจกไปด้วย อิอิ
ก. หน้าสังขยา
1. ไข่ อุณหภูมิห้อง 6 ฟอง
2. นมข้นหวาน (condensed milk) 1 ถ้วย
3. น้ำกะทิข้น (เราใช้แบบกระป๋อง) 1 ถ้วย *
4. น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
5. เกลือ ¼ ช้อนชา
6. วนิลา 2 ช้อนชา
* ใช้ นมข้นจืด (evaporated milk) แทนน้ำกะทิก็ได้ค่ะ อร่อยเหมือนกัน
** หน้าสังขยา เราเพิ่มเป็น 2 เท่า จากต้นสูตร เพราะชอบหน้าสังขยาเยอะ ๆ ค่ะ ... ประกอบเค้กเสร็จทั้งหมด จะมีเหลือนิดหน่อย นะคะ
ข. เค้ก
1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
2. ผงฟู (baking powder) 2 ช้อนโต๊ะ *
3. นมผง 2 ช้อนโต๊ะ **
4. น้ำตาลทราย ¾ ถ้วย
5. เกลือ ¼ ช้อนชา
6. น้ำเปล่า 1 ถ้วย ***
7. เนยละลาย ¼ ถ้วย
8. ไข่ อุณหภูมิห้อง 2 ฟอง
9. มันเสา (Ube) นึ่ง บด 1 ถ้วย
* ผงฟูใส่ประมาณนี้เลยค่ะ ไม่ได้พิมพ์ผิด อิอิ
** ถ้าไม่มีนมผง ใช้กะทิผง แทนก็ได้ค่ะ
*** หากพบว่าแบทเทอร์ข้น เพิ่มน้ำเปล่าได้ค่ะ ... เราใช้ประมาณนี้ เพราะซื้อเนื้อมันเสาบดแช่แข็งมา ค่อนข้างเปียกมีความชื้นมากแล้ว
-----------------------------------------------------------------
***** สูตรแบบใส่แป้งล้วน ไม่ผสมมันบด ก็อร่อยค่ะ ตามนี้นะคะ
1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
2. ผงฟู (baking powder) 2 ช้อนโต๊ะ
3. นมผง 2 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลทราย ¾ ถ้วย
5. เกลือ ¼ ช้อนชา
6. น้ำเปล่า 1 ¾ ถ้วย
7. เนยละลาย ¼ ถ้วย
8. ไข่ อุณหภูมิห้อง 2 ฟอง
-----------------------------------------------------------------
วิธีทำ
1. เอาน้ำใส่หม้อนึ่งไปต้มด้วยไฟแรง ... พอน้ำเดือด ลดเป็นไฟกลาง รอไว้ ... เสร็จแล้วก็ทาเนยอ่อนตัว หรือเนยละลาย ในถ้วยพิมพ์ซิลิโคน ให้ทั่ว รอไว้ค่ะ
(ถ้าไม่มีถ้วยซิลิโคน จะใช้ถ้วย ramekins หรือ ถ้วยอลูมิเนียมเล็ก ๆ ก็ได้ค่ะ แต่ถ้วยจีบซิลิโคนแบบในรูป จะนึ่งขนมออกมาได้สวยกว่า)
2. ตีผสมส่วนผสมหน้าสังขยาทั้งหมด ให้เข้ากันดีด้วยตะกร้อมือ นำไปกรองด้วยกระชอนตาถี่ เอาเศษไข่แดงออก
3. เอาน้ำสังขยา เทใส่ขวดซอส (ถ้ามีนะคะ ถ้าไม่มี ก็ใช้ช้อนตวง ตักหยอดเอาก็ได้ ... แต่เราทดลองแล้วพบว่าวิธีนี้จะช่วยให้ได้ชั้นขนมเป็นเส้นตรงชัดเจนกว่าแบบตักหยอด แปลกดีเหมือนกัน ไม่มีรอยเปื้อนดีค่ะ) เทหยอดในถ้วยจีบที่เตรียมไว้ในลังถึง ให้ได้ความสูงประมาณ 2 ซม. (ปริมาณประมาณ 1/8 ถ้วย) เสร็จแล้วนำไปนึ่งบนหม้อน้ำ ไฟ กลาง ๆ ที่เตรียมไว้ ... เอาผ้าขนหนูอังใต้ฝาหม้อ กันไอน้ำเดือดออกก็ดีค่ะ เราเห็นต้นสูตรเค้าทำ ก็ทำตาม อิอิ ... นึ่งหน้าสังขยา ให้สุกดี ประมาณ 5-8 นาที ... แล้วแต่ความแรงของไฟที่ใช้น่ะนะคะ
4. ระหว่างนี้ก็เอาส่วนผสมแห้ง คือ .. แป้งสาลี ผงฟู นมผง น้ำตาลทราย เกลือ ผสมให้เข้ากันดีแล้วร่อนด้วยกระชอยตาถี่
5. ทำหลุมตรงกลางส่วนผสมแห้ง แล้วเอาส่วนผสมของเหลว คือ น้ำ และไข่ ลงผสม ตีผสมด้วยตะกร้อมือ จนส่วนผสมเข้ากันดี ... เอามันเสาบด ลงผสม ตีให้เข้ากันดี ... เสร็จแล้วเทเนยละลายลงผสม ตีผสมให้เข้ากันดี (ด้วยตะกร้อมือ)
6. ตักแบทเทอร์หยอดบนสังขยา ให้แบทเทอร์อยู่ในระดับ ¾ ถ้วย (ใช้ถ้วยตวงขนาด 1/8 ถ้วยตักเต็ม ๆ หยอด กำลังดีเลยค่ะ ... เรายกลังถึงจากหม้อนึ่ง ลงมาหยอดเอานะคะ .. ภาพแบทเทอร์ ช่วงทำครั้งแรกค่ะ เป็นแบทเทอร์ไม่ได้ผสมมันเสา) นำไปนึ่งประมาณ 10 12 นาที (น้ำเดือด ไฟกลาง) ... พักไว้ให้เย็นลงประมาณ 3-5 นาที เสร็จแล้วก็คว่ำ แกะขนม ออกจากพิมพ์ ...
อันนี้เป็แบทเทอร์ผสม Ube มันเสา นึ่งแล้วจะได้เป็นสีม่วงเทา แบบนี้ค่ะ ... ถ้านึ่งด้วยไฟสม่ำเสมอ หน้าขนมนี้จะไม่แตก เหมือนขนมถ้วยฟู (ตามต้นสูตรที่ดูมา ก็หน้าไม่แตกแบบนี้ค่ะ)
จะว่าไปแบบไม่ผสมมัน ก็อร่อยใช้ได้ค่ะ ก่อนชิม ต้องปรับสวิตช์อารมณ์ความเคยชินจากเค้กอบก่อน 55 ... แต่ที่บ้านลงความเห็นกันแล้ว ยกให้แบบผสมมันอร่อยกว่า ไม่มีเนื้อสัมผัสของแป้งมากจนเกินไป ... คิดว่าใช้มันเทศบด หรือเผือกบดแทน ก็น่าจะอร่อยเหมือนกันนะคะ
ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมา มีเวลาดี ๆ กันค่ะ
------------------------------------------------
ท้ายนี้ขอขอบคุณเพื่อน ๆ สำหรับคะแนนโหวตบล็อกที่ผ่านมานะคะ ได้ชมเชย
น่าทานมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยครับพี่
ผมชอบทั้งมันและสังขยาเลยครับ
เดี๋ยวขอส่งบล็อกของพี่ฉวีให้มาดามดูต่อเลยนะครับ 555
ปล.โหวต Food blog ให้เลยครับพี่