อย่าเจ็บ อย่าไข้และให้ได้พบแต่กัลยาณมิตร
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2548
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 ธันวาคม 2548
 
All Blogs
 

ทำไม ฮิตเลอร์ จึงเกลียดยิว (จบซะที)



คนในยุโรปที่มีชีวิตอยู่ช่วง 70 กว่าปีที่แล้ว มักจะได้รับผลกระทบจากฮิตเลอร์และนาซีกันถ้วนหน้า

ที่เห็นชัดๆ ก็คือ พระสันตะปาปาบนสวรรค์คือ ท่านจอห์นปอลที่ 2 นั้น พระองค์ก็ต้องเข้าเป็นทหารในกองทัพโปแลนด์ เพราะสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ฮิตเลอร์ก่อขึ้น โดยมหาวิทยาลัยที่ท่านเรียนอยู่ถุกเยอรมันสั่งปิด นาซีได้เนรเทศครู อาจารย์และจับเข้าค่ายกักกัน โชคดีที่ท่านชิงสมัครเข้าทำงานในเหมืองถ่านหินได้ทัน มิฉะนั้น ชาวคาทอลิกอาจจะไม่ได้ท่านพระองค์นี้เป็นสันตะปาปาก็ได้

กลับมาเรื่องที่ผมกังขาว่า ทำไมฮิตเลอร์ถึงเกลีดยิวนั้น พอถึงวันนี้ผมก็ชักจะได้คำตอบให้กับตัวเองและผู้อ่านมากขึ้นแล้ว

เป็นโชคดีของผมที่มีผู้อ่านซึ่งบังเอิญเป็นบุคคลที่ผมรู้จักและเคารพนับถือ ท่านคือ อดีตอธิการบดี 2 สมัยของราชภัฎอยุธยา รศ.ดร. บุหงา วัฒนะ ท่านกำลังศึกษาเรื่องยิวอยู่พอดีและท่านก็ค้นคว้าจากตำราอยู่หลายเล่ม

ท่านมีเมตตาสละเวลาเขียนจดหมายมาถึงผม ซึ่งผมขออนุญาตนำข้อความบางส่วนมาลงดังนี้




เรียนคุณดำรง พุฒตาลที่นับถือ


ได้อ่านบ.ก.แถลง ใน "คส.คส." ฉบับที่ 489 พบคำถามที่ว่า "ทำไมฮิตเลอร์จึงเกลียดคนยิว" พอดี ตอนนี้ดิฉันกำลังศึกษาเรื่องยิวเพื่อประกอบการเขียนสารคดีการไปศึกษาดูงานที่ประเทศอิสราเอลอยู่และได้ไปเอาหนังสือของท่านคึกฤทธิ์ ปราโมช ที่เขียนเรื่องยิวมาอ่านเพื่อเพิ่มความเข้าใจในการเขียนบางเรื่อง กรณีคำถามของ "คส.คส." ก็มีข้อความที่ท่านคึกฤทธิ์ได้เขียนถึงอยู่ด้วย จึงคัดลอกมาให้ดังนี้นะคะ

...ในที่นี้เห็นจะต้องอธิบายลักษณะแห่งความเกลียดชังซึ่งพวกนาซีมีต่อยิวเอาไว้เสียด้วย ความเกลียดชังที่ฝรั่งแต่ก่อนมีต่อยิวนั้น เห็นจะเรียกได้ว่าเป็นความเกลียดยิว หรืออย่างทึ่ฝรั่งทั่วไปเรียกว่า "แอนตี้ยิว" แต่ความเกลียดชังของพวกนาซีนั้น มิได้เหมือนกับความเกลียดชังที่ฝรั่งเคยมีต่อยิวมาก่อน แต่เป็นการเกลียดชังยิวทั้งเผ่า เมื่อยิวนั้นเกิดมาในชนเผ่าที่เรียกว่า "เผ่าเซมิติค" ความเกลียดชังของพวกนาซีที่มีต่อยิวเห็นจะต้องเรียกว่าเป็นการเกลียดเซมิติคหรืออย่างที่ฝรั่งเรียกว่าแอนตี้เซมิติค

แอนตี้เซมิติคนั้นเป็นความเกลียดชังที่มีต่อยิวทั้งเผ่า มิใช่เป็นความเกลียดชังที่มีต่อยิวทั้งเผ่า มิใช่เป็นความเกลียดชังที่มีต่อยิวคนใดคนหนึ่ง จะเป็นด้วยผิด ความไม่ดีหรือความดีของยิวคนนั้นก็ตาม สภาพแอนตี้เซมิติคนั้น จึงจงใจเจตนาจะล้างผลาญเฉพาะแต่พวกยิวทั้งมวลเท่านั้น คนอื่นมิใช่ยิว ถ้าหากจะมีความไม่ดีเท่ากับยิว ก็อยู่นอกข่ายแห่งความเกลียดชังและการคิดร้ายนั้น สภาพแอนตี้เซมิติคเป็นสภาพที่ไม่มีทางออก ลงได้เกลียดยิวแล้วก็จะเกลียดตลอดไป เพราะว่ายิวเป็นยิว ถึงยิวจะพยายามทำให้ถูกใจถูกความประสงค์แต่อย่างใดก็ไม่มีวันที่จะหายเกลียดหรือหายคิดร้ายได้

สภาพจิตใจที่เรียกว่า แอนตี้เซมิติค จึงมิใช่ความเกลียดชังอย่างธรรมดา ซึ่งเกิดจากเหตุสามัญและเป็นความเกลียดชังที่ใครๆ ก็มีได้ แต่ว่าความรู้สึกแอนตี้เซมิติคนั้น เป็นปัญหาทางจิตวิทยาอย่างหนึ่ง ซึ่งใครเป็นแล้วก็จะออกรักษายาก ถ้าจะหาสาเหตุแห่งโรคทางใจนี้ให้ได้จริงๆ แล้วก็จะเห็นจะพอกล่าวได้ว่า สาเหตุนั้นคือ ความกลัวนั่นเอง

คนที่เกลียดยิวแบบแอนตี้เซมิติคนั้น ที่แท้ก็กลัวยิว เพราะยอมรับว่ายิวนั้นมีคุณสมบัติต่างๆ ที่เหนือกว่าตน จนตนไม่สามารถที่จะแข่งขันเอาชนะได้ เมื่อเกิดความรู้สึกที่ไม่รู้ตัวว่าจะแข่งขันในทางที่ชอบที่ควรไม่ได้แล้ว ทางออกที่มีเหลือออยู่ทางเดียวคือ ทำลายล้างผลาญพวกยิวให้หมดไป..."








ผมขอขอบคุณอาจารย์บุหงาที่กรุณาคัดข้อความของอาจารย์คึกฤทธิ์ ปราโมช มาให้ผมและผู้อ่านได้เข้าใจอีกมุมมองหนึ่ง


นอกจากนี้ ผู้อ่านที่ใช้นามว่า "บุ๋มบิ๋ม" ได้จดหมายมาถึงผมโดยไม่ได้ให้ที่อยู่ของท่าน จึงขอนำ "จ.ม." ของคุณบุ๋มบิ๋ม มาเผยแพร่ดังนี้




สวัสดีค่ะ คุณอาดำรงที่นับถือ



หนูอ่าน "คส.คส." ฉบับที่ 489 ตรงคอลัมน์ บ.ก.แถลง ที่บอกว่าอยากทราบสาเหตุของฮิตเลอร์ที่เกลียดคนยิว ก็มี 2 สาเหตุค่ะ

1. แม่ของฮิตเลอร์ทำงานอยุ่บริษัทของคนยจิว และทำงานหนักมากๆ แถมโดนคนยิวดูถูกเหยียดหยาม และให้ค่จ้างแรงงานน้อยมากๆ ทำให้ฮิตเลอร์สงสารนแม่มากๆ แต่ก็ช่วอยอะไรไม่ได้ เพราะตัวเองยังเด็ก

งานที่แม่ฮิตเลอร์ทำ ถ้าเรียกให้ดูดีก็เป็นแจ๋วของบริษัทน่ะค่ะ คือทำความสะอาดบริษัท ขัดห้องน้ำ และคอยรับใชัพนักงานในบริษัท แล้วแต่ว่าใครจะใช้ให้ทำอะไรและก็โดนดูถูก ข่มเหงไปด้วย

2. ตอนที่ฮิตเลอร์เป็นวัยนรุ่นก็ได้มีแฟนคนแรก ฮิตเลอร์รักแฟนคนนี้มากๆ วันหนึ่งฮิตเลอร์กับแฟนก็ไปเดินเล่น เมื่อเดินไปเห็นโบสถ์แห่งหนึ่ง ฮิตเลอร์กับแฟนก็วิ่งเข้าไปที่หน้าโบสถ์ และก็ลงนอนตรงหน้าโบสถ์ ซึ่งเป็นสนามหญ้า โดยนอนงายและเอาศีรษะชนกับแฟน และก็คุยถึงอนาคตว่าเมื่อโตกว่านี้และมีงานทำ เขาสัญญาว่าจะแต่งงานกับแฟนคนนี้ วึ่งแฟนของฮิตเลอร์ก็สัญญาว่าจะแต่งงานกับฮิตเลอร์เหมือนกัน

และในขณะที่ฮิตเลอร์สัญญาเรื่องการแต่งงาน ฮิตเลอร์ซึ่งนอนหงายอยู่หน้าโบสถ์แต่จะด้วยแสงสะท้อนของพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน หรือมุมที่ฮิตเลอร์นอนนั้นจะเฉียงๆ ไปทางด้านข้างของโบสถ์ หรือด้วยอานุภาพของความรักก็ตาม ทำให้ฮิตเลอร์มองเห็นไม้กางเขนที่หน้าโบสถ์ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง และฮิตเลอร์ก็มีความรู้สึกว่าไม้กางเขนที่หน้าโบสถ์นี้สวยงามมากๆ

เมื่อฮิตเลอร์มาก่อตั้งพรรคนาซีจคงได้เอาสัญลักษณ์ของไม้กางเขนในภาพที่ฮิตเลอร์เห็นที่หน้าโบสถ์มาเป็นสัญลักษณ์ของพรรค ส่วนแฟนสาวของฮิตเลอร์ก็ได้ทำผิดสัญญาที่ให้ไว้กับฮิตเลอร์ หลังจากนั้น เธอก็หนีไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น และผู้ชายคนนั้นเป็นคนยิว ทำให้ฮิตเลอร์ทั้งโกรธ ทั้งเกลียดและเคียดแค้นคนยิวหนักขึ้นไปอีก... เรื่องก็มีแค่นี้แหละค่ะ



นับถือค่ะ

บุ๋มบิ๋ม





ยังมีความเห็นที่ส่งตรงมาจากเยอรมนี โดยคุณนภา หลิน ไขข้อกังขาว่า "ทำไมฮิตเลอร์จึงเกลียดยิว" ดังนี้

เรื่องความเป็นมาระหว่างฮิตเลอร์กับชาวยิว จากที่ได้สอบถามผู้รู้หลายๆ ท่านว่า เหตุใดฮิตเลอร์จึงสั่งฆ่าชาวยิวอย่างโหดเหี้ยมเช่นนั้น ได้ความมาว่า โดยเรื่องโกรธแค้นส่วนตัวแล้วไม่มี แต่ด้วยเรื่องที่ฮิตเลอร์ต้องการที่จะสร้างประเทศเยอรมันให้ยิ่งใหญ่อย่างไร้คู่แข่งละก็มีส่วน และเป็นเรื่องสามัญทั่วไป ถ้าจะนำการปกครองแบบใหม่ๆ เข้ามาใช้กับประชาชน ถ้ามีคนที่ฉลาดมากๆ อย่างชาวยิว การปกครองก็จะยากขึ้นและสำเร็จช้า

เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าชนชาติยิวนั้น ขยัน ฉลาด ประหยัด อดทน อยู่ที่ไหน สร้างกลุ่มของพวกตนร่ำรวยทุกที่ เมื่อสมัยก่อน ถ้าคนเป็นหมอ วิศวกร นายธนาคาร ส่วนใหญ่จะเป็นคนยิว ว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว ขบวนการกวาดล้างชาวยิว เพียงแต่ไม่มีใครโดนถล่มเหมือนฮิตเลอร์ เข้าทำนองที่ว่า "คนชนะ คืออัศวิน..ผู้แพ้คือกบฏ"

พอเราย้อนมามองถึงภาพที่ชาวยิวที่ถูกต้อนให้เข้าไปในเตาแก๊สขนาดใหญ่ (โดนหลอกว่า ..จะปล่อยให้ไปอาบน้ำ) บางคนต้องยืนเข้าแถวเพื่อรอความตายนั้นเป็นครึ่งๆ วัน โดยที่พวกเขาไม่มีโอกาสรู้เลยว่า ตนนั้นมายืนรอความตายกันอยู่ เตาแก๊สทีว่าไม่ได้มีอยู่แห่งเดียวนะ มีอยู่หลายแห่งด้วยกัน เหตุที่ต้องยืนรอเพราะเตาไม่ว่าง การที่ชาวยิวถูกขังอยู่รวมกันนานๆ ทำให้เป็นโรคผิวหนัง ทุกคนเนื้อตัวสกปรก เต็มไปด้วยแผลพุพอง เมื่อถูกหลอกว่า จะปล่อยให้ไปอาบน้ำ ทุกคนก็ดีใจพอกัน ไปยืนรอเข้าแถวเป็นวันๆ

ก่อนหน้าที่จะกวาดต้อนอย่างเปิดเผยนี้ ได้มีการกวาดต้อนอย่างเงียบๆ ก่อน โดยเริ่มต้นที่เด็กๆ

มีการส่งเจ้าหน้าที่ของรัฐมาติดต่อกับพ่อแม่ของเด็ก โดยบอกว่า "รัฐบาลมาติดต่อกับพ่อแม่ของเด็ก โดยบอกว่า "รัฐบาลจะเป็นฝ่ายดูแลลูกของพวกท่าน" พ่อแม่ก็ดีใจมีการเลี้ยงฉลองกัน จัดข้าวจัดของพาลูกไปส่ง ยังมีภาพขาวดำที่พ่อแม่ของเด็กได้ถ่ายไว้ และนั่นคือภาพสุดท้ายของลูก เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ๆ ซึ่งใครๆ ที่เรียนประวัติศาสตร์ย่อมรู้ดี ถึงแม้เป็นเรื่องเก่าที่ผ่านมาถึง 60 กว่าปีแล้วก็ตาม แต่ความเศร้าสะเทือนใจในความโหดร้ายที่มนุษย์กระทำต่อมนุษย์ด้วยกัน ยังไม่ได้ลืมเลือนไปจากควาทรงจำของผุ้คนเลยแม้แต่น้อย ภาพเด็กน้อยผู้ไร้เดียงสา หน้าตากำลังน่ารัก สติปัญญาเฉลียวฉลาด หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง พวกเขาต้องถูกโยนลงไปในเตาแก๊สตายอย่างน่าเวทนา ความผิดของเขาแค่ว่า เกิดมาเป็นลูกชาวยิว เท่านั้นเอง...

ยิ่งมาได้ฟังจากปากของผู้ที่หนีรอดมาได้เล่าให้ฟัง คนเหล่านั้นเล่ามาเป็นครั้งที่หนึ่งร้อยแล้วก็ว่าได้ แต่ยังมีอาการตัวสั่นเทา ร้องไห้ไปด้วยเล่าไปด้วย ส่วนคนฟังที่มาจากอีกซีกโลกหนึ่งนั้น เคยได้ยินเรื่อราวพวกนี้จากหนังสือประวัติศาสตร์ เมื่อสมัยเรียน ม.ปลาย นั่งฟังอยู่ด้วยอาการหดหู่ใจ

แฟน "คส.คส." อีกท่านหนึ่งใช้นามว่า "นามสวรรค์" อ้างถึงอดีตนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว.คึกฤิทธิ์ว่า

ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ปราโมช เขียนไว้ในหนังสือเรื่อง "ยิว" ว่า

"รัฐบุรุษต่างๆ ที่เคยพูดจากับฮิตเลอร์นั้น มักจะตกตะลึงในความขาดความรู้และความหยาบคายของฮิตเลอร์"

การที่ฮิตเลอร์ก่อสงครามใหญ่จนกลายเป็นสงครามโลกขึ้นมาได้ก็เพราะเขาตกอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมของคนเลวสารพัดรูปแบบ คนเลวเหล่านั้นปรากฏกายเข้ามาในชีวิตของฮิตเลอร์ในฐานะสมุนคนสนิท ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพวกจิตพิการและไม่สมประกอบด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเกอริง ผู้ติดยาเสพติดจนงอมแงม, ฮิมเมอร์ผู้มีสันดานไพร่ อาชญากร, รอมเมอซึ่งเป็นพวกลักเพศและก็อบเบลส์ผู้รักและหลงไหลตัวเอง

คนที่รายล้อมฮิตเลอร์เหล่านั้นต่างหากที่เป็นผุ้จุดชนวนสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นมาอย่างแท้จริง โดยช่วยกันยั่วยุปลุกปั่นท่านผุ้นำให้มัวเมาและยอมตกอยู่ในหมู่คนเลว สิ่งต่างๆ เหล่านี้ต่างหากที่เกิดขึ้นมามันก็ย่ำแย่ยิ่งถ้าคนโง่นั้นเกิดเป็นคนโง่ที่มีอำนาจวาสนาขึ้นมาด้วยแล้ว โลกก็ฉิบหายวายวอดไปในพริบตา เข้าตำราสงครามโลกครั้งที่2 ที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์บอกว่า เมื่อมองกันอย่างลึกซึ้งจริงๆ แล้วจะพบว่า ที่โลกต้องประสบชะตากรรมอันเลวร้ายเช่นนั้นก็เพราะเป็นยุคที่คนโง่และคนเลวมารวมกันมากที่สุด เป็นความลงตัวที่โหดร้ายนั่นเอง จึงได้เกิดโศกนาฏกรรมและร้ายแรงที่สุดบนหน้าประวัติศาสตร์โลก


ขอให้เหตุการณ์เช่นนั้นจงเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายในโลกนี้เถิด












 

Create Date : 21 ธันวาคม 2548
9 comments
Last Update : 27 ธันวาคม 2548 18:15:41 น.
Counter : 4477 Pageviews.

 

อย่างงี้ไม่ใช่เกลียดธรรมดาซ่ะแล้ว
แบบนี้ต้องเรียกว่า เกลียดเข้ากระดูกดำเลย

ผมคิดว่าไม่ใช่มีแต่ ฮิตเลอร์ นะที่เกลียดยิว ดูจากข่าวสารผมว่าทุกวันนี้มีคนไม่ชอบ ยิว อยู่เยอะเหมือนกันนะ (อย่างพ่อมดวงการเงิน ที่มาทุบตลาดเงินในเมืองไทย) แต่สำหรับผมน่ะ เฉยๆ ต่างคนต่างอยู่น่ะดีแล้ว ฮิตเลอร์ ผมก็ชอบเค้าในบางเรื่องนะ อย่างที่เคยอ่านเจอว่า ทำงานกับ ฮิตเลอร์ นี่ต้องทำให้ตรงกับความสามารถตัวเอง เคยอ่านเจอมาว่า ฮิตเลอร์ แบ่งลูกน้องเป้น 3 จำพวก

พวกแรก ฉลาดแต่ขี้เกียจ ก็ให้ทำงานแบบคอยสังการ
พวกที่สอง พวกไม่ฉลาด แน่นอนก็ต้องใช้แรงงานไป
พวกสุดท้าย พวกโง่แต่ทำเป็นอวดฉลาด พวกนี้ ฮิตเลอร์ เอาไปฆ่าหมดครับ แบบว่าถ้าหากให้ทำงานไปก็อาจจะทำให้งานเสียหายได้
จริงเท็จแค่ไหนไม่ยืนยันนะครับ แต่เคยอ่านเจอมาแบบนี้จริงๆ จากไหน็จำไม่ได้แล้ว (ต้องขออภัยด้วย)

 

โดย: merf1970 23 ธันวาคม 2548 13:09:57 น.  

 

ไม่มีอะไรจริงๆด้วยแฮ่ะ
(ก็เค้าบอกไว้แล้วว่า "อย่าจิ้มเข้ามาเลยไม่มีอะไรหรอก")
สงสัยถ้าทำงานกับ ฮิตเลอร์ ผมคงโดนเอาไปฆ่าตายแน่ๆ โทษฐานที่เค้าอุตสาห์บอกไว้แล้วยังไม่เชื่อ

 

โดย: merf1970 23 ธันวาคม 2548 13:13:22 น.  

 

ยิ้มแก้มแดง อากาศหนาว

ตอนเรียนอาจารย์เล่าให้ฟังว่ามีบุคคล 4 ประเภท คือ
ฉลาด ขี้เกียจ ,ฉลาด ขยัน , โง่ ขี้เกียจ และ โง่ขยัน
สามพวกแรกยังพอใช้ให้ทำงานได้
แต่ถ้าเป็นโง่แล้วดันทะลึ่งขยันอีก ให้เอาไปฆ่าทิ้ง
เพราะรังแต่จะทำให้งานเสีย

 

โดย: hidden file 23 ธันวาคม 2548 15:41:14 น.  

 

สวัสดีปีใหม่2549ครับคุณ hidden file
ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่2549 ขออำนาจ
คุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ในสากลโลกจงดลบันดาลให้คุณ hidden file
และครอบครัวมีแต่ความสุขความเจริญ
การงานก้าวหน้า ไม่เจ็บไม่จน นอนขอให้ได้เงินหมื่น
ตื่นขอให้ได้เงินแสน ตลอดปี 2549

 

โดย: เกลอแก้ว 29 ธันวาคม 2548 1:52:12 น.  

 

Happy New year ครับ

 

โดย: dont wanna no 31 ธันวาคม 2548 11:14:28 น.  

 

 

โดย: -`๏'- MeIKha 31 ธันวาคม 2548 16:27:30 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะ มาช้าไปหน่อยคงไม่สายไปนะคะ
มีความสุข ไม่เจ็บ ไม่จน สุขภาพแข็งแรงนะค๊า

 

โดย: นุทศรี!! 5 มกราคม 2549 0:16:02 น.  

 

อยากจะเรียนถึงข้อผิดพลาดในข้อความอยู่นิดหนึ่ง
จริงๆ ลูกน้องของ ฮิตเลอร์ที่ อ.หม่อม บอกว่าเป็นพวกลักเพศ นั้น ไม่ใช่ รอมเมล จริงๆ แล้ว คือ แอนส์ เริม อดีตหัวหน้าหน่วย เอสเอ ( กองทหารประจำพรรคนาซี ก่อน ฮิตเลอร์ขึ้นเถลิงอำนาจ) ส่วนรอมเมลนั้นเป็นจอมพลของกองทัพเยอรนัน ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในจอมพลที่วงการทหารของโลกให้ความนับถืออย่างมาก แม้แต่นายกอังกฤษในสมัยสงครามโลก วินสตัน เชอร์ชิล ยังยกย่องว่าเป็นผู้ที่น่ากลัวสำหรับกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรเป็นอย่างมาก โดยชื่อที่ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดีก็ คือ จิ้งจอกทะเลทราย จากสมรภูมิรบทางด้านแอฟริกาเหนือ

 

โดย: ง IP: 203.155.221.253 6 มกราคม 2549 16:04:06 น.  

 

ยิวจะยึดพัทยาอยู่แล้วยังไม่รู้ตัวกันอีกไอ้ที่เรียกว่าคนไทย
โง่หรือเปล่ามัวแต่กลัวชาติอื่นอยู่ได้

 

โดย: 8o.orympk IP: 124.122.204.210 11 กรกฎาคม 2555 16:57:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


hidden file
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





หยดน้ำเล็กๆ ทำให้เธอมีชีวิตอยู่ได้
คนไม่ยอมขายวิญญาณ ใครสักคนบอกฉัน
ชีวิต...งานศิลป์ที่มีลมหายใจ
ดำรงชีพอย่างขาดศิลปะ
คงไม่ต่างจากโคกระบือที่เขาสนตะพาย
เส้นทางที่ฉันขีดฉันวาดมันเองกับมือ
มันก็แค่ทางเล็กๆ ดูยุ่งเหยิง
ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป
ที่ยากก็ตรงที่ทำให้ใครๆ เขาเข้าใจไม่ได้ แค่นั้นแหละ



มีความฝันตราบที่ยังมีลมหายใจ
คนที่ไม่มีความฝันก็เหมือนตายไปแล้ว
คนตายแล้วย่อมไม่หลับฝัน
คนไม่มีความฝัน - คนตาย



เป็นเรื่องแปลกที่ว่า
เมื่อเรารักใครแล้วหากเขาทำผิดพลาด
เรามักโกรธเขามากกว่าคนอื่น
เพราะเรามีความคาดหวังในคนที่เรารักไว้สูง
พอไม่ได้ดั่งใจ
ก็โกรธหรือน้อยใจเขามากกว่าคนอื่น
ดังนั้น การให้อภัย
จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการครองชีวิตคู่



Destiny can be change

Time sometimes flows backwards

Snow can fall in the Spring

and even a frozen heart can come back to life...




ปฏิทินพระจันทร์

Friends' blogs
[Add hidden file's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.