Bloggang.com : คนไม่หวาน : ขอเพียงใจจันทร์ yayoi

ขอเพียงใจจันทร์ yayoi

คุยกันก่อนครับ

วันนี้เอาเรื่อง “ขอเพียงใจจันทร์”มารีวิวให้อ่านกันดูครับ เรื่องนี้มีเพื่อนบางคนเคยรีวิวกันไปแล้วนะครับ(อยู่ในริตข้างๆนี่แหละ) แต่ด้วยความชอบส่วนตัวกับเรื่องนี้(อ่านหลายครั้ง) เลยเอามารีวิวให้เพื่อนๆลองไปหาอ่านดูกันครับ(แต่จะชอบเหมือนผมหรือปล่าวไม่รู้) เรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรัก ความห่วงใย ซึ่งกันและกัน ของสองพี่น้องที่กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่วัยรุ่น ซึ่งทั้งสองคนได้ดูแลกันมาตั้งแต่พ่อและแม่ได้ตายลง เรามาติดตามความดูความรัก ความห่วงใยในตัวพี่สาวที่มีให้น้องชายของเธอเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องหัวใจ ผ่านตัวละครที่ชื่อ “อรอินทุ์” “พัทธวีร์” “องอาจ” และ“พันธิตรา”จากงานเขียนของ “yayoi”กันครับ

ขอเพียงใจจันทร์

“อรอินทุ์”ต้องแปลกใจเมื่อเธอเห็นว่ามีราชรถมาจอดอยู่หน้าบ้านของเธอ

และเธอก็กรี๊ดกร๊าดหนักหนาเพราะมันเป็นรถของผู้มีอันจะกินเขามีใว้ใช้กัน(ส่วนเราไม่ค่อยจะมีกินขับไรดี)

เพราะมันคือBMW Series7 อะดิ และหญิงสาวก็ค่อยๆเอาเจ้า “กาเม่”Daihathu HIJET ปี91

ไปจอดต่อท้ายซีรี่เจ็ดอย่างสง่า และหญิงสาวยังไม่ทันดับเครื่องยนต์ก็มีสายแปลกๆ

เข้ามาที่โทรศัพท์ของเธอ แต่อรอินทุ์ไม่คิดอะไรเพราะเธอเป็นนักออกแบบเว็บไซต์อิสระ

ถึงแม้จะมีเบอร์โทรแปลกๆโทรเข้ามา เธอก็คิดว่าน่าจะเป็นลูกค้าบริษัทใดบริษัทหนึ่งโทรมา

จนหญิงสาวรับสายถึงได้รู้ว่าคนที่โทรมาก็คือพี่ชายของ “พันธิตรา”แฟนของ

“องอาจ”น้องชายของเธอเอง และหญิงสาวก็รู้มาจากน้องชายว่า “พัทธวีร์”เป็นคนที่หวงน้องสาวมากด้วย

หลังจากที่ใส่อารมณ์ดุเดือดผ่านสายโทรศัพท์กันแล้ว หญิงสาวก็ได้รู้ว่าเจ้าซีรี่เจ็ด

คันนั้นก็คือรถของชายหนุ่ม หลังจากที่อรอินทุ์ได้รู้ว่าเป็นรถใคร หญิงสาวได้เดินไปทุบกระจก

ข้างคนขับเรียกให้เขาลงมาคุยกัน หลังจากที่พัทธวีร์ได้ลงมาจากรถ หญิงสาวก็ต๊กใจอย่างมาก

เพราะเขาสูงกว่าเธอมาก ส่วนชายหนุ่มเมื่อเห็นหญิงสาวเขาก็แปลกใจเมื่อพบว่าอรอินทุ์

รูปร่างเหมือนแมวน่ารักๆ แต่ตอนนี้น่าจะเป็นแมวในภาคนางมารมากกว่า หลังจากนั้นทั้งคู่

ได้ประทะคารมกันโดยสรุปก็คือชายหนุ่มไม่อยากให้น้องสาวตัวเองมีแฟนในระหว่างที่เรียน

และให้หญิงสาวบอกกับน้องชายให้เลิกยุ่งกับน้องสาวของเขาแต่อรอินทุ์ไม่ยอมโดยคิดว่า

ทั้งสองคบกันนั้นไม่ได้ทำผิดอะไรและน้องชายเธอก็เป็นคนดี(ช่วงนี้หนุกหนานไปหาอ่านเอา)

หลังจากนั้นตัวต้นเหตุก็ขับรถมาถึงบ้าน อรอินทุ์ได้บอกให้น้องชายพาเพื่อนเข้าบ้านไป

และพันธิตราได้เขามาพาพี่ชายของเธอกลับบ้านไป หลังจากที่พัทธวีร์กลับไปแล้วองอาจ

ได้เขามาถามอรอินทุ์ว่าพัทธวีร์มาคุยอะไรกับเธอ หญิงสาวไม่ยอมบอกได้แต่ตัดบทไป

และคืนนั้นเององอาจได้เข้ามาถามอรอินทุ์เรื่องเงินและได้บอกหญิงสาวว่าโครงการแข่งขัน

หุ่นยนต์อาจจะใช้เงินเยอะแต่ยังไม่รู้เท่าไร หญิงสาวบอกไม่ต้องเป็นห่วงเธอจะให้

แล้วในคืนนั้นหญิงสาวก็นอนไม่หลับเมื่อคิดถึงเรื่องเงินที่จะต้องหาใว้ให้น้องชายของเธอ

พัทธวีร์ได้อ่านรายงานของ “บริษัท ศรีเอทิกดีไซน์ จำกัด”ที่เขาร่วมกับเพื่อนอีกสามคนมา

เปิดรับออกแบบเว็บไซต์และจดโมเดมเนม พบว่าผลประกอบการดีขึ่นจนคิดว่าน่าจะรับพนักงาน

เว็บดีไซเนอร์อีกตำแหน่งหนึ่ง และหลังจากประชุมกันแล้วก็เป็นที่ตกลงว่าจะเพิ่มในตำแหน่งนั้น

โดยให้พัทธวีร์สัมภาษณ์เหมือนเดิม บ่ายวันนี้อรอินทุ์ได้นั้งประจำเตรียมทำงาน หญิงสาวได้SIGN IN

โปรแกรมสนทนายอดนิยมอย่าง MSN เพื่อดูลิสต์รายชื่อว่ามีใครออนไลน์บ้าง อย่างเช่นเพื่อน

รุ่นพี่ที่รู้จักกันผ่านอินเตอร์เน็ตที่เขาได้พูดคุยกับเธอมาเกือบสามปีแล้ว โดยไม่เคยเห็นหน้าตาก็ตาม

รู้แต่ว่าเขาทำงานด้านไอทีอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง และวันนี้เขาก็ออนไลน์แต่ขึ่นBUSY

เธอเลยไม่ทักเขา แต่ฝ่ายตรงข้ามกับทักเธอเสียเอง หลังจากที่ได้คุยกันก็พบว่า “วิทวัส”

ได้เข้ามาเสนองานประจำให้หญิงสาว โดยบอกว่าที่บริษัทที่เขาทำงานกำลังเปิดรับเว็บดีไซเนอร์

แต่หญิงสาวก็เกี่ยงว่าเธอยังไม่จบปริญญาตรีเลยใครเขาจะมารับ แต่วิทวัสบอกว่าไม่เป็นไร

หุ้นส่วนแนะนำมา เรื่องวุฒิไม่ต้องเป็นห่วง วิทวัสได้บอกว่าจะเอาเว็บ “มิสจันทร์จ้าดอดคอม”

ไปให้เพื่อนดูก่อน และจะบอกอีกที และคืนนั้นเอง พัทธวีร์ก็ลองเปิดเว็บมิสจันทร์จ้า

ตามที่เพื่อนให้มาดู และเขาก็พบว่า คนที่ทำเวบนี้ฝีมือใช้ได้ จากผลงานที่ผ่านมา

นางสาวจันทร์จ้าคนนี้จะทำได้เสียทุกอย่าง ในกระการทำเว็บไซต์ และในคืนนั้นเองเขาก็ได้รู้ว่า

เจ้าของเว็บไซต์นี้ก็คืออรอินทุ์นั้นเอง หลังจากที่พัทธวีร์ได้รู้ว่า ใครคือเจ้าของเว็บนี้

เขาก็ได้โทรไปหาอรอินทุ์ และเขาแกล้งเสนอเงินให้เธอ โดยแลกกับให้น้องชายของเธอ

เลิกกับน้องสาวของเขา อรอินทุ์โมโหมากได้บอกให้เขาไปตายซะ และในสามวันถ้าเขามาเจอเธอ

เธอจะฆ่าเขา(หุหุน่ากลัว) และในวันนี้ขณะที่อรอินทุ์กำลังโม่งานอยู่ วิทวัสได้แจ้งมาว่า

ให้อรอินทุ์ไปสัมภาษณ์งาน ในวันพรุ่งนี้ตอนบ่าย หลังจากนั้นหญิงสาวได้สอบถามที่อยู่บริษัท

และนัดเจอกับวิทวัสที่บริษัทในวันรุ่งขึ่น โดยหญิงสาวจะไปเอง แล้วหญิงสาวก็จัดการหาเสื้อผ้า

เพื่อไปสัมภาษณ์งานในวันรุ่งขึ่น โดยในงานนี้พันธิตราได้ให้ความช่วยเหลือหญิงสาว

ในการเลือกซื้อเสื้อผ้าด้วย ในบ่ายวันรุ่งขึ่นนั้นเองอรอินทุ์ได้เดินทางไปถึงบริษัทที่นัดสัมภาษณ์เธอ

หลังใช้สายตาสำรวจตรวจตาว่าคงไม่มีอะไร(เธอเคยโดนหลอกมาแล้วเลยกลัวมาก)

หญิงสาวก็เดินเข้าไปในบริษัทนั้น และมีแม่บ้านมาพาเธอไปเขียนใบสมัคร ที่นี่เธอก็ได้พบ

กับวิทวัสตัวจริงเสียงจริง ที่เธอคุยกับเขามาเกือบสามปีโดยไม่เคยเห็นหน้า หลังจากที่อรอินทุ์

ได้ทักทาย “พี่วิท”ของเธอแล้ว วิทวัสได้พาหญิงสาวไปสัมภาษณ์งานกับเพื่อนของเขา

วิทวัสได้พาหญิงสาวเข้าไปพบเพื่อนเขา พออรอินทุ์เห็นชายหนุ่มคนนั้นถึงกับอึ้ง และจะ

ไม่ยอมเข้าไป จนวิทวัสต้องมาดันหญิงสาวเข้าไปในห้องและปิดประตู แล้วสงครามน้ำลาย

ระหว่างพัทธวีร์กับอรอินทุ์ก็ได้ระเบิดขึ่นมาอีกยก หลังจากที่เหนื่อยกันมาทั้งคู่แล้ว

ก็ถึงเวลาสัมภาษณ์งานเสียที หลังสัมภาษณ์เสร็จชายหนุ่มก็ถามอรอินทุ์ว่าจะเริ่มงานได้เมื่อไร

หญิงสาวแปลกใจที่เขายังรับเธอเข้าทำงาน(เธอรวนเขาตลอดเวลา) เธอได้ขอเวลาเครียร์งาน

ที่เธอรับใว้เสียก่อน โดยหญิงสาวขอเริ่มงานในเดือนหน้า พัทธวีร์ก็ตกลงตามนั้น

ก่อนอรอินทุ์กลับชายหนุ่มได้ถามเรื่องการเรียนของเธอว่า เหลือเยอะใหมกว่าจะจบ

หญิงสาวบอกว่าปีนี้น่าจะจบเพราะเหลือสี่ตัวเท่านั้น พัทธวีร์เลยบอกว่าเขาจะดูตารางสอบให้

เธอจะได้ไปสอบและจบในปีนี้ หลังจากนั้นวิทวัสได้มาพาหญิงสาวไปออกไป และในตอนดึก

คืนนั้นเองหลังจากหญิงสาวปั่นงานจนดึก ก็รู้สึกหิวขึ่นมา เธอเลยออกจากห้อง แล้วเธอก็พบ

น้องชายหลับอยู่ข้างนอก เธอพยามปลุกเขาให้เข้าไปนอนในห้อง แต่องอาจก็ไม่ยอมตื่น

เธอเลยไปหาหมอนและผ้าห่มมาให้น้องของเธอ แล้วหญิงสาวก็คิดถึงเรื่องตั้งแต่พ่อและแม่

ของเธอได้จากไป เธอได้อยู่กับน้องแค่สองคนตลอด มีกันและกันไม่เคยพรากจากกันเลย

แล้วหญิงสาวก็ซุกตัวลงนอกับน้องชายของเธอ ในตอนเช้าเมื่อองอาจตื่นขึ่นมาก็พบว่า

พี่สาวของเธอเริ่มจะป่วยเสียแล้ว องอาจจะอยู่ดูแลอรอินทุ์แต่หญิงสาวไล่ให้เขาไปมหาลัย

แล้วในตอนเที่ยงนั้นเองหญิงสาวก็ได้ไข้ขึ่นไม่สามารถรับโทรศัพท์ของน้องเธอได้จนองอาจเป็นห่วง

จะโดดเรียนแต่พันธิตราได้บอกว่าจะไปดูอรอินทุ์ให้เอง แต่แม่ของพันธิตราก็ให้ไปซื้อของด้วยกัน

เธอเลยต้องขอความช่วยเหลือจากพี่ชายของเธอ โดยขอให้พัทธวีร์ไปดูอรอินทุ์แทนเธอ

หลังพัทธวีร์รู้ข่าวจากน้องสาว เขาได้รีบออกจากที่ทำงานตรงไปที่บ้านของหญิงสาวทันที

แล้วชายหนุ่มก็ได้พบว่าหญิงสาวกำลังไข้ขึ่นอย่างมาก พัทธวีร์ได้ดูแลหญิงสาวจนไข้ลดลง

และเขาเองก็เผลอหลับไป จนสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ของหญิงสาวดังขึ่น พัทธวีร์ได้รับสาย

เลยรู้ว่าเป็นองอาจได้โทรมา เขาได้บอกกับองอาจว่าเขามีเรื่องจะคุยด้วย ให้รีบกลับมาองอาจรับปาก

แล้วพัทธวีร์ก็ไปทำอาหารใว้ให้คนป่วย เมื่อหญิงสาวฟื่นคืนสติก็ลุกออกมาตามกลิ่นอาหาร

(เหมือนไรฟะ) เมื่อมาถึงในครัวหญิงสาวก็ตกใจ เมื่อพบพัทธวีร์เข้า แต่หญิงสาวกำลังหิวได้เร่ง

เขาให้รีบทำอาหารใวๆ แล้วชายหนุ่มก็ต้องแปลกใจเมื่อหญิงสาวเป็นคนว่าง่าย ขนาดดื้อ

ไม่ยอมกินยาแต่แค่ขู่ไม่ยอมให้กินอาหารเธอก็ยอมทำตาม(นางเอกก็มีจุดอ่อนนิ)

และพัทธวีร์ก็ได้รู้ว่าอรอินทุ์จะเป็นคนว่าง่าย เอาอีกตอนที่เธอกำลังหิวเท่านั้น(คร้ายไรฟะ)

หลังจากทานโจ๊กและทานยาแล้ว หญิงสาวก็คุยสักพักก็หลับไปเพราะฤทธ์ยา ชายหนุ่มเลยอุ้ม

หญิงสาวเข้าไปนอนในห้อง และชายหนุ่มก็ต้องรีบออกมาเพราะกลัวใจตัวเอง(ก๊ากๆๆ)

แล้วองอาจก็ได้กลับมาได้ถามถึงพี่สาวเขา เมื่อรู้ว่าอยู่ในห้องก็รีบเดินไปดู เมื่อองอาจออกจากห้อง

ของอรอินทุ์มาแล้ว พัทธวีร์ได้เรียกองอาจไปคุย เรื่องการคบหากับน้องสาวของเขา

และได้บอกถึงความไม่เหมาะสมต่างๆให้องอาจได้ฟัง หลังจากนั้นพัทธวีร์ก็กลับไป

หลังจากอรอินทุ์หายดีหญิงสาวก็ปั่นงานจนเสร็จ และเธอก็มีเวลาพักผ่อนอีกสองวัน

ก่อนที่เธอจะไปเริ่มงานประจำในวันจันทร์ แล้วในวันเสาร์นั้นเอง หญิงสาวรู้สึกว่าว่างเลยคิดจะ

แต่งสวนหลังบ้านของเธอ หญิงสาวเลยควบเจ้ากาเม่คันเก่งไปสวนจตุจักร หลังจากที่หญิงสาว

ได้แวะร้านโน้นเกี่ยวร้านนี้จนของเริ่มจะไม่มีมือที่จะถือของแล้วนั้น ก็ได้ยินเสียงทักทายเธอเขา

หลังจากรู้ว่าเขาเป็นใคร หญิงสาวก็แปลกใจว่าคนอย่างพัทธวีร์มาเดินสวนจตุจักรด้วยหรือ

หลังจากได้พูดกันชายหนุ่มก็อาสาช่วยหิ้วของให้เธอ(เกือบทั้งหมด) แล้วหญิงสาวก็เขาร้านนั้น

ออกร้านนี้อีกกว่าครึ่งชั่วโมง(เวลาสาวชวนไปซื้อต้นไม้ระวังๆกันหน่อยนะครับอาจจะเป็นนักกล้ามโดยไม่ตั้งใจก๊ากๆ)

หญิงสาวยังมีน้ำใจซื้อน้ำให้เขาด้วย(น้ำใจมาก) แต่เขาไม่มีมือที่จะถือ หญิงสาวเลยต้องเป็น

คนป้อนใส่ปากเขา(ช่วงนี้หวานๆแหววๆดีครับ) หลังจากนั้นหญิงสาวได้พาพัทธวีร์ไปหากาโม่รถของหญิงสาว

แต่เจ้ากาเม่ก็เกิดอาการงอนซะอย่างงั้นเลยสตาร์ทไม่ติด ชายหนุ่มเห็นอย่างนั้นเลยอาสาไปส่ง

หญิงสาวที่บ้าน และให้โทรไปหาอู่ประจำมาลากรถไปซ่อม หลังจากนั้นชายหนุ่มก็พาหญิงสาวไปที่รถของเขา

อรอินทุ์ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่า วันนี้พัทธวีร์ใช้รถโฟร์วิล ไม่ใช้เจ้าซีรี่เจ็ดคันที่เธอแอบปลื้ม

(เป็นใครก็ปลื้มฟะ) และระหว่างรอช่างมาลากเจ้ากาเม่ไปซ่อมอยู่นั้น พันธิตราได้โทรมา

เล่าเรื่องที่องอาจเปลี่ยนไป ระหว่างที่พันธิตราเล่าอยู่นั้น หญิงสาวก็ลองใช้ฟังค์ชั่นในโทรศัพท์

ให้คุ้มกับราคาที่แสนจะแพงหน่อย(ใครมีโทรศัพท์ดีๆ คุณใช้ฟังค์ชั่นในนั้นครบใหมครับ)

หลังจากนั้นหญิงสาวก็อัดเสียงสนทนาระหว่างเธอกับพันธิตราใว้ หลังจากคุยจบก็มีสายเข้ามา

และหญิงสาวก็รู้ว่าเจ้ากาเม่ได้รับการดูแลแล้ว แล้วพัทธวีร์และอรอินทุ์ก็เดินทางกลับบ้านของหญิงสาวกัน

หลังทั้งสองคนมาถึงบ้านหญิงสาว อรอินทุ์ได้เอาน้ำมาให้เขา และอรอินทุ์ขอเวลาเขาสิบนาที

เพื่อให้พัทธวีร์ฟังเสียงน้องสาวเขาที่หญิงสาวอัดใว้ หลังพัทธวีร์ได้ฟังเสียงน้องของเขาแล้ว

ชายหนุ่มรู้สึกเสียใจมาก จนหญิงสาวได้ปลอบโยนเขาจนหายจากอาการเศร้าใจ และขณะนั้นเอง

หญิงสาวก็ตกใจและกลัวแมงมุมเป็นอย่างมาก กลัวจนจะช็อคพัทธวีร์เลยพาหญิงสาวเข้าบ้านไป

และเขาได้ออกมาไล่แมงมุมแต่มันหนีหายไปแล้ว และเมื่อหญิงสาวหายจากอาการกลัวบ้างแล้ว

เธอก็ได้ช่วยทำแผลให้เขา จากที่เธอจิกลงบนแขนเขาจากที่เธอกลัวแมงมุม หลังจากนั้นพัทธวีร์

ก็โทรตามน้องสาวเขา มาตกลงเรื่องระยะเวลาที่จะไปใหนกันสองคนกับองอาจ แล้วพัทธวีร์ก็ช่วย

หญิงสาวลงต้นไมในสวน แล้วทั้งคู่ก็คุยปรับความเข้าใจกันจนหมด สักพักพันธิตราก็เดินทางมา

ถึงบ้านของอรอินทุ์ และได้ไปทำอาหารให้ แล้วทั้งคู่ก็ทำสวนเสร็จทั้งสองคนเลยต่างคนต่างไปอาบน้ำ

หลังหญิงสาวเข้าห้องเธอก็รู้ว่า หัวใจเธอได้มี “ความรู้สึกดี..ที่เรียกว่ารัก”เข้าแล้ว(เน่ามะหุหุ)

หลังจากนั้นองอาจก็กลับมา และทานอาหารด้วยกัน องอาจและพันธิตราก็ทำการตกลงเรื่องต่างๆกับพัทธวีร์

แล้วเช้าวันนี้ก็เป็นวันทำงานวันแรกของอรอินทุ์ องอาจได้พยายามปลุกหญิงสาวในเช้าวันนี้มาสามรอบแล้ว

ก่อนที่อรอินทุ์จะลุกขึ่นมาอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน และเมื่อองอาจรู้ว่าพี่สาวลุกแล้ว

เขาก็เข้าครัวไปทำกับข้าวให้พี่สาวเธอกิน แล้วสักพักอรอินทุ์ก็เข้ามานั้งโต๊ะเตรียมที่จะกินข้าวเช้ากับองอาจ

สักพักหนึ่งองอาจก็ได้ยินเสียงรถมาจอดหน้าบ้าน เขาเลยออกไปดู ก็พบราชรถซีรี่เจ็ดมาเกยพี่สาวเขา

โดยพัทธวีร์ได้ขับเจ้าซีรี่เจ็ดมารับพี่สาวเขา หลังจากนั้นองอาจได้ไปเรียกพี่สาวให้

แล้วทั้งคู่ก็ไปทำงานด้วยกัน หลังอรอินทุ์นั้งมาในรถ เธอได้ถามชายหนุ่มว่าเจ้าซีรี่เจ็ดคันนี้มีชื่อใหม

หลังจากที่หญิงสาวได้รู้ว่ายังไม่มีชื่อแส่ อรอินทุ์ก็ตั้งให้ว่า “อุลตร้าบีเอ็มเซเว่น” หรือเรียกว่า

“เซเว่น”ก็ได้ และชายหนุ่มก็ยอมรับในชื่อนี้ แล้วทั้งคู่ก็เดินทางมาถึงที่ทำงาน พอวิทวัสเห็น

อรอินทุ์ก็เข้ามาทัก และถามว่ามากับใครหญิงสาวได้แต่อึกอัก แล้วพัทธวีร์ก็เดินมา

และทักวิทวัสโดยไม่ทักอรอินทุ์ ทั้งหมดได้เดินเขาที่ทำงานด้วยกัน พอถึงเวลาประชุมวิทวัส

ก็ให้อรอินทุ์แนะนำตัว แล้วก็ถึงตอนเที่ยงอรอินทุ์นึกว่าพัทธวีร์จะมาพาไปกินข้าว

แต่วิทวัสเป็นคนที่มาพาหญิงสาวไปทานแทน โดยบอกว่าพัทธวีร์ติดธุระมาพาหญิงสาว

ไปกินข้าวไม่ได้ หลังจากทั้งหมดมาถึงร้านอาหาร
ได้สั่งของมาทานกัน

สักพักหนึ่งพัทธวีร์ได้พาหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาที่ร้านด้วย วิทวัสได้บอกอรอินท์ว่าแป็นแฟนเก่าพัทธวีร์

ตั้งแต่ตอนอยู่ต่างประเทศแล้ว อรอินท์พอรู้เข้าก็หึงเล็กๆในใจ และในตอนเย็นนั้นเองวิทวัส

ได้มาบอกว่าจะไปส่งหญิงสาวแทนพัทธวีร์ และบอกว่าพัทธวีร์ติดธุระสำคัญ หญิงสาวคิดว่าพัทธวีร์

ไปกับสาวคนเมื่อกลางวัน แต่จริงๆแล้วพัทธวีร์พาแม่และน้องๆของเขาไปทานข้าวตามสัญญาที่ให้ใว้

เช้าวันรุ่งขึ่นเมื่อพัทธวีร์ไปรับหญิงสาว เขาก็ได้รู้ว่าอรอินท์ได้หนีไปทำงานแล้ว เมื่อเขาไปถึง

ที่ทำงานพัทธวีร์ได้ส่งข้อความไปหาอรอินท์ หลังจากที่ที่อรอินท์ได้วินแตกไปแล้ว

ทั้งคู่ก็ได้ปรับความเข้าใจกัน แล้วในตอนเย็นพัทธวีร์ก็พาอรอินท์ไปส่งที่บ้าน แล้วบอกว่าในตอนเช้า

เขาจะมารับ ในตอนเย็นวันรุ่งขึ่นนั้นเอง อรอินท์ก็ได้รับโทรศัพท์จากอู่ให้ไปดูรถ

พอพัทธวีร์ได้รู้ก็เลยไปส่ง เมื่อไปถึงอู่รถหญิงสาวก็ตกใจมากเมื่อเห็นสภาพรถ เจ้าของอู่บอกว่า

เด็กอู่เอารถไปลอง แล้วโดนรถใหญ่ชนมา หญิงสาวได้แต่เสียใจถึงแม้จะเสียดายรถแต่ทำอะไรไม่ได้

เจ้าของอู่บอกว่าจะชดใช้ให้ แต่อรอินท์ก็รู้ว่าเจ้าของอู่คงไม่มีเงินให้ หญิงสาวเลยบอกไม่เป็นไร

หลังจากนั้นพัทธวีร์ได้พาหญิงสาวกลับบ้าน อรอินท์เสียใจและเงียบจนถึงบ้าน เมื่อถึงบ้านพัทธวีร์

ได้ทำอาหารให้หญิงสาวกิน ก่อนที่กลับไป นับแต่นั้นมาทุกวันก็มีเจ้าเซเว่นคอยรับและส่งหญิงสาวตลอด

(โชคดีเจงๆ) แล้วก็ถึงวันหยุดอีกครั้ง องอาจและพันธิตราจะไปดูหนังกัน แต่เมื่อพันธิตราไปขอพัทธวีร์

เขาบอกว่าให้ชวนอรอินท์ไปด้วย ทั้งหมดเลยวางแผนว่าจะไปแยกคู่กันที่โรงหนัง

เมื่อไปถึงโรงหนัง ทั้งอรอินท์และพัทธวีร์ไม่อยากดูหนังเลยเดินทางไปสวนจตุจักร(เรื่องนี้ใช่ฉากลูกทุ่งดี)

หลังจากทั้งคู่เดินจนเหนื่อยแล้ว ทั้งคู่ก็กลับไปหาน้องกันและได้ชวนกันไปทานข้าวที่บ้านพัทธวีร์

งานนี้พัทธวีร์ได้วางแผนใว้แล้วว่าจะต้องพาอรอินท์ไปทานข้าวที่บ้านให้ได้ เมื่อทั้งหมดไปถึงบ้านของพัทธวีร์

เขาได้แนะนำอรอินท์ให้รู้จักแม่ของเขา แม่ของพัทธวีร์ชอบอรอินท์มาก(ชอบที่เป็นคนตรงๆ)

แม่ของพัทธวีร์ได้ให้อรอินท์เรียกเธอว่าแม่อีกด้วย หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไป จนกระทั้งถึง

การแข่งขันหุ่นยนต์ที่องอาจและพันธิตได้ส่งเข้าแข่งขันด้วย ทั้งอรอินท์และครอบครัวพันทธวีร์ได้ไปเชียร์ด้วย

แต่หุ่นขององอาจกลับแพ้ในครั้งนี้ องอาจเศร้ามาก อรอินท์ได้แต่ปลอบน้องชายของเธอ

จนกลับบ้านด้วยกันโดยพันทธวีร์ไปส่ง แล้วเร่องราวต่างๆก็ผ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั้งทางมหาลัยขององอาจ

มีทุนไปเรียนต่อทางด้านหุ่นยนต์ที่ประเทศญี่ปุ่น องอาจอยากไปแต่เขาเป็นห่วงพี่สาวของเขา

การไปคราวนี้เขาต้องไปเรียนถึงสองปี แล้วพี่เขาจะอยู่อย่างไร มาดูการตัดสินใจในอนาคตของ

พี่สาวและน้องชายของคู่นี้กันครับว่า เพื่ออนาคตข้างหน้าพวกเขาจะทำอย่างไร ในเมื่อเขา

และเธอมีกันแค่สองพี่น้องเท่านั้น และไม่เคยจากกันเลย มาติดตามผลงานการเขียนของ “yayoi”กันครับ

ขออภัยนะครับถ้าตัวหนังสือจะชิดไปหน่อย ผมพยายามแก้แล้วแต่มันแก้ไม่ได้ ถ้าใครมีข้อแนะนำอย่างไรก็บอกกันได้นะครับ พอดีปลุกปล้ำมันแล้วแต่มันก็เว้นบันทัดไม่ได้ เลยต้องลงอย่างงี้อะครับ

แล้ววันหลังผมจะเอาเรื่องต่อจากเรื่องนี้มาลงให้อ่านนะครับ

Create Date : 06 มกราคม 2551

Last Update : 13 มกราคม 2551 19:28:08 น.

10 comments

Counter : 1322 Pageviews.

โหหหห อึ้งเลยค่ะ จขบ.ขยันพิมพ์มากเลย
เห็นเล้วปวดนิ้วแทนเลยจ้า

โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง

วันที่: 6 มกราคม 2551 เวลา:23:45:57 น.

ชอบเล่มนี้เหมือนกันค่ะ

โดย: Rabby_Ruby

วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:22:37:03 น.

ตอนพิมพ์ได้กด enter เว้นบรรทัดหรือเปล่าคะ จะทำให้อ่านง่ายกว่านี้ค่ะ

เรื่องนี้ชอบมากเหมือนกัน ชอบบุคลิกนางเอกที่ไม่หวานมาก ลุย ๆ ดี

โดย: กระปุกกลิ้ง

วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:16:44:45 น.

หรือถ้ายังไงลองพิมพ์ ใน notepad ก่อนก็ได้ค่ะ แล้วค่อย copy มาแปะในหน้าเขียน blog

โดย: กระปุกกลิ้ง

วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:16:46:24 น.

ขอบคุณคุณตานนท์สำหรับการรีวิวนะคะ
ดีใจที่ชอบพี่แพทกับยัยหนูอินค่า ^^

รอรีวิวเล่มต่อไปนะคะ
หวังว่าจะไม่มีเล่มไหนของ yayoi ทำให้คุณตานนท์ผิดหวังนะ

โดย: yayoi (สายลมโชยเอื่อย) IP: 124.121.190.215 วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:22:02:25 น.

เล่มนี้อยากอ่านค่ะ นักเขียนคนโปรดด้วย หุๆ

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:14:30:52 น.

แวะ
มาเยือน
ครับ อิ อิ อิ
************

โดย: คนสาธารณะ

วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:23:33:44 น.

ดอกคูณริมฝั่งโขง# พิมพ์อยู่สามวันครับกว่าจะจบ ต้องพยายามเรียบเรียงใหม่ เลยช้าไปหน่อยครับ

Rabby_Ruby # ตอนนี้เจอเรื่องต่อจากเรื่องนี้แล้วครับ ใว้ว่างๆจะเอารีวิวมาให้อ่านกันครับ

กระปุกกลิ้ง # ลองหมดแล้วครับทั้งเอนเตอร์และตอนนี้ก็พิมพ์ในเวิล์ดอยู่ครับแล้วถึงได้ก๊อปปี้มาวางใว้ในนี้อะครับ แต่ก็ขอบคุณนะครับสำหรับคำแนะนำ

yayoi # สำหรับเรื่องขอเพียงใจจันทร์นั้น โดยส่วนตัวผมนั้นชอบ ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนระหว่างอรอินธุ์กับวิทวัสนะครับ เพราะสองคนนี้รู้จักกันผ่าน MSN แต่ในความเป็นผู้ชายที่ได้เปรียบในสิ่งต่างๆมากมาย แต่ก็ยังหวังดีกับคนอื่นอยู่ แม้คนๆนั้นจะไม่เคยพบหน้ากันเลย เลยรู้สึกชอบตัวละครตัวนี่ครับ

สาวไกด์ใจซื่อ # ถ้าคนโปรดก็ต้องติดตามอีกสองเรื่องที่เหลือนะครับ

คนสาธารณะ # ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยมชมบ้านผม

และตอนนี้กำลังซึ้งๆกับหนังช่องเจ็ดเรื่อง The letter จดหมายรัก อยู่อะครับ พระเอกสมกับเป็นพระเอกจริงๆ เล่นเอาน้ำตาท่วมจอ ชิชิ

โดย: คนไม่หวาน

วันที่: 12 มกราคม 2551 เวลา:10:31:47 น.

เว้นบรรทัดหน่อยก็ดีนะคะ ปวดตาจัง
เดี๋ยวหายปวดตาแล้วจะกลับมาเก็บรายละเอียดอีกทีนะคะ

โดย: แก้วกังไส IP: 124.120.184.11 วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:5:35:36 น.

แก้ให้แล้วครับเจ้าแก้ว กว่าจะได้เกือบตายหุหุ

โดย: ตานนท์ (คนไม่หวาน

) วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:19:35:40 น.