แฟชั่น ความงาม สุขภาพ ดวง สังคมแห่งการเรียนรู้และแบ่งปัน เพื่อแบ่งปันความรู้ เป็นวิทยาทาน ต่อ ๆ ๆกันไป เพื่อประโยชน์ที่จะบังเกิดขึ้น ในกาต่อยอดความรู้ต่าง ๆ
 
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
28 กรกฏาคม 2552
 
 
การกินอาหารเจและมังสาวิรัติ4

การกินเจ
"เจ" ตัวอักษรสีแดง บนพื้นสีเหลือง ชาวจีนถือว่า สีแดงเป็นสิริมงคล สีเหลืองเป็นสีแห่งผู้ทรงศีลตั้งใจบำเพ็ญตนให้บริสุทธิ์ เพื่อเตือนสติให้ผู้ที่กินเจระลึกว่า การไม่กินเนื้อสัตว์ คือ การปฏิบัติธรรมรักษาศีลความเป็นมนุษย์ เป็นการเจริญมหาเมตตาธรรมโดยแท้ จะทำให้เกิดสิริมลคลและก่อให้เกิดความสุข โดยตั้งอยู่บนหลักธรรม 2 ประการคือ การไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่นำเอาชีวิตสัตว์ทั้งหลายมาต่อชีวิตตนเอง และการไม่เบียดเบียนตนเอง โดยไม่รับประทานสิ่งที่ทำลายสุขภาพร่างกายให้ทรุดโทรม
การกินเจ ถือว่าเป็นประเพณีสำคัญอย่างหนึ่งของคนจีน จะเริ่มเทศกาลกินเจในวันที่ 1 - 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีน หรือช่วงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งมีตำนานกล่าวถึงการกินเจ เล่าต่อ ๆ กันมาว่า ในครั้งสมัยพระเจ้าแผ่นดินราชวงศ์ "ยิ่นฮ้วงสี" แปลว่า "ผู้เป็นเจ้าแห่งมนุษย์" มีพี่น้องรวมเก้าองค์ ซึ่งต่างมีอิทธิฤทธิ์วิเศษต่าง ๆ เป็นที่นับถือในหมู่คนจีนว่าเป็นผู้วิเศษ เมื่อล่วงลับจากโลกมนุษย์ ได้ขึ้นสวรรค์ไปจุติเป็นดาวจระเข้เรียงกัน 9 ดวง ผู้คนเรียกท่านว่า "เก้าฮ้วงฮุ้ดโจ้ว" ซึ่งแปลว่า "พระเจ้าเก้าพระองค์" เป็นผู้ถือบัญชีชื่อคนทั้งหลายในโลกมนุษย์ ถ้าใครถึงเวลาที่จะหมดอายุขัย ก็สามารถขอต่ออายุให้ยืนต่อไปได้อีกตามความปรารถนา ตามบุญวาสนา ความดีที่ตนทำไว้
ในวันขึ้น 1 - 9 ค่ำ เดือนเก้า จีน ซึ่งตรงกับเดือนตุลาคมของปฏิทินสากล เป็นเวลาที่ "เก้าฮ้วงฮุ้ดโจ้ว" ลงมาตรวจดูคนทั้งหลายในโลกมนุษย์ว่าใครทำผิดทำชั่ว ทำความดีงามอย่างไรบ้าง ท่านก็จะจดลงไว้ในบัญชีและบันดาลให้เป็นไปตามกรรมของผู้ทำนั้น ใครทำดีก็ได้ดี ใครทำชั่วก็ได้ชั่ว ใครทำชั่วแล้วกลับใจทำคุณงามความดีได้ ก็ได้ดี ฉะนั้นในช่วงนั้นคนจีนจึงกินเจเป็นการทำความดีให้ "เก้าฮ้วงฮุ้ดโจ้ว" ได้เห็น
ข้อควรถือปฏิบัติ สำหรับบุคคลที่จะเข้าร่วมพิธีกินเจ
1. บุคคลที่อยู่ในระหว่างการไว้ทุกข์ ห้ามเข้าร่วมพิธีกินเจอย่างเด็ดขาด
2. บุคคลที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ เข้าร่วมพิธีกินเจได้ แต่จะไปไหว้พระที่ศาลเจ้า หรือไปดูการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ในขณะที่พระเข้าทรงที่ศาลเจ้าไม่ได้
3. บุคคลที่มีประจำเดือน เข้าร่วมพิธีกินเจได้แต่จะไปไหว้พระที่ศาลเจ้า หรือไปดูการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ในขณะที่พระเข้าทรงที่ศาลเจ้าไม่ได้
4. บุคคลที่เข้าร่วมพิธีกินเจ ห้ามร่วมประเวณีอย่างเด็ดขาด
5. บุคคลที่เข้าร่วมพิธีกินเจ ห้ามดื่มของมึนเมาอย่างเด็ดขาด
6. บุคคลที่เข้าร่วมพิธีกินเจ ห้ามรับประทานอาหารที่เป็นของสดคาว เนื้อสัตว์ต่าง ๆ อย่างเด็ดขาด
7. บุคคลที่เข้าร่วมพิธีกินเจ ต้องชำระร่างกายให้สะอาดก่อนเข้าพิธี และรักษาความสะอาดของร่างกายอยู่เสมอ
8. บุคคลที่เข้าร่วมพิธีกินเจ ต้องประพฤติชอบทั้งกาย วาจา และใจ
สิ่งที่ผู้รับประทานอาหารเจควรปฏิบัติ ดังนี้
1. กินผักสดหรือผลไม้อย่างน้อยที่สุด วันละ 1 ครั้ง โดยอาจจะสลับมื้อกัน และเพื่อไม่ให้เป็นการขาดสารอาหาร ควรรับประทานผัก ผลไม้ ให้ต่างชนิดกันในแต่ละวัน
2. ไม่ควรรับประทานเฉพาะของแห้งหรือของเค็ม เช่น เต้าหู้ยี้ เต้าเจี้ยว ต้มเค็ม ผักแห้ง ควรมีอาหารที่ประกอบขึ้นใหม่ ๆ เช่น สลัดผักสดน้ำใส ผัดยอดผักกับซีอิ๊วขาว ฯลฯ
3. เพื่อป้องกันการขาดโปรตีน ควรรับประทานอาหารประเภทถั่ว หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วต่าง ๆ โดยผสมลงไปในอาหารทุก ๆ มื้อ
4. การประกอบอาหารไม่ควรต้มหรือเคี่ยวนาน ๆ เพราะจะทำให้สูญเสียวิตามินได้ง่าย และเพื่อเป็นการเพิ่มพลังงาน เพราะอาหารส่วนใหญ่ที่รับประทานจะให้พลังงานต่ำ มีน้ำและใยอาหารมาก ฉะนั้นควรแก้ปัญหานี้โดยเพิ่มปริมาณไขมัน โดยใช้วิธีปรุงอาหารเป็นทอด หรือ ผัด แทนการนึ่งหรือต้ม
อาหารโปรตีนที่ใช้แทนเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ที่ขอแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้รู้จัก คือ
มี่กึน หรือ กลูเต็น เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งในหลายชนิดที่มีอยู่ในแป้งสาลีชนิดหนัก (HARD WHEAT) หรือแป้งสาลีที่ใช้ทำขนมปัง โปรตีนจะมีประมาณ 40 %
"อาหารเจ" เป็นอาหารที่ปรุงโดยปราศจาก เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ และยังต้องงดเว้นพืชผัก 5 ชนิด ได้แก่
1. กระเทียม ทั้งหัวกระเทียม และต้นกระเทียม
2. หอม ต้นหอม ใบหอม ดอกหอม ทั้งหอมแดงและหอมใหญ่
3. หลักเกียว ลักษณะคล้ายหัวกระเทียม แต่เล็กกว่า
4. กุยช่าย มีลักษณะใบคล้ายใบหอม แต่แบนและเล็กกว่า
5. ใบยาสูบ รวมทั้งบุหรี่ ยาเส้น ของเสพติด มึนเมา
ผักเหล่านี้ เป็นผักที่มีรสหนัก กลิ่นรุนแรง เชื่อว่าจะทำลายพลังธาตุทั้ง 5 ในร่างกาย เป็นเหตุให้อวัยวะหลักสำคัญ (ไต ปอด ตับ หัวใจ ม้าม) ทำงานไม่ปกติมีฤทธิ์กระตุ้นจิตใจ อารมณ์ให้เร่าร้อน ใจคอหงุดหงิดโกรธง่าย และยังมีผลทำให้พลังธาตุในร่างกายรวมตัวไม่ติด

//www.thaifreemag.com


ธรรมเนียมการกินเจ
การกินเจ นั้นเป็นการถือศีลอย่างหนี่ง เจ เป็นคำจีน แปลว่า อุโบสถ การกินเจที่ถูกต้อง และครบถ้วน นอกจากจะต้องงดเว้นการกินเนื้อสัตว์แล้ว ยังจะต้องถือศีล ประพฤติตนให้สะอาดทั้งกาย วาจา ใจ จึงจะเป็นการกินเจที่สมบูรณ์

การกินเจที่แท้จริง เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ด้วยหลักธรรม 2 ประการ ได้แก่ กินอย่างไม่เบียดเบียนผู้อื่น และ กินอย่างไม่เบียดเบียนตนเอง ซึ่งการกินอย่างไม่เบียดเบียนผู้อื่นคงไม่ต้องอธิบาย แต่การกินอย่างไม่เบียดเบียนตนเอง คือการกินอาหารที่ไม่ไปทำลายสุขภาพร่างกายตน

ในสมัยโบราณ ชาวจีนเชื่อว่าเลือดและเนื้อของสัตว์ที่ถูกฆ่าตาย มีพิษร้ายแฝงอยู่มากมาย ซึ่งความเชื่อนี้จะสอดคล้องกับศาสนาอิสลามที่ไม่กินหมู โดยการที่กินเจจะไม่กินผักที่มีกลิ่นฉุน อันได้แก่ กระเทียม หัวหอม กุ่ยช่าย หลักเกียว(คล้ายกระเทียมแต่เล็กกว่า) และใบยาสูบ เพราะผักเหล่านี้มีรสหนัก กลิ่นรุนแรง คนจีนโบราณเชื่อว่ามีสารพิษที่ทำลายพลังธาติทั้งห้าในร่างกาย เป็นเหตุให้อวัยวะหลักสำคัญภายในทั้งห้า ทำงานไม่เป็นปรกติดังนี้

กระเทียม ทำลายธาตุไฟในร่างกาย ทำให้หัวใจทำงานไม่เป็นปรกติ
หัวหอม ทำลายธาตุน้ำในร่างกาย ทำให้ไตทำงานไม่เป็นปรกติ
กุยช่าย ทำลายธาตุไม้ในร่างกาย ทำให้ตับทำงานไม่เป็นปรกติ
หลักเกียว ทำลายธาตุดินในร่างกาย ทำให้ม้ามทำงานไม่เป็นปรกติ
ใบยาสูบ ทำลายธาตุโลหะในร่างกาย ทำให้ปอดทำงานไม่เป็นปรกติ

ในบรรดาผักกลิ่นฉุนนี้ กระเทียมถือว่าเป็นยา เมื่อป่วยและร่ายกายต้องการก็กินได้ และนี่คือที่มาแห่งความแตกต่างระหว่าง เจกับมังสวิรัติว่า มังสวิรัติไม่กินเนื้อสัตว์ใดๆ แต่กินไข่กับผักทุกชนิด ส่วนการกินเจนั้น ไม่กินเนื้อสัตว์ใดๆ ไม่กินไข่ และไม่กินผักกลิ่นฉุนทั้งห้าชนิดที่กล่าวมาข้างต้น จึงจะครบถ้วนบริบูรณ์
________________________________________


อ้างอิง : หนังสือ Gourmet & Cruisine ฉบับประจำเดือนกันยายน 2544
22 กันยายน 2546



ประโยชน์ของการ กินเจ ในมุมมองที่แตกต่าง
ประโยชน์ของการกินเจทุกคนไม่จำเป็นต้องมองแง่เดียวกัน การปฏิบัติในการกินเจก็ไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทั้งหมด เพียงแต่ยึดหลักที่เป็นหลักสำคัญในการกินเจไว้ก็เพียงพอแล้ว คือ การงดเว้นการกินเนื้อสัตว์ เลือกกินเฉพาะพืช ผัก ผลไม้ ซึ่งในส่วนนี้เกิดจาก แง่มุมมองการกินเจบนปลายทางของผลประโยชน์ที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปจะมีการมองประโยชน์ของการกินเจในมุมมองต่อไปนี้

ประโยชน์ของการกินเจในมุมมองของศาสนา
มุมมองของศาสนา จะมองประโยชน์ของการกินเจในแง่ของชีวิตและจิตใจ ได้แก่
• บังเกิดเมตตาจิต เกิดความสงบ สุขุม เยือกเย็น อารมณ์ไม่ฉุนเฉียว ไม่หุนหันพลันแล่น ไม่โมโหง่าย ดวงธรรมญาณอันบริสุทธิ์จะปรากฏออกมา ซึ่งจะช่วยเกื้อกูลส่งเสริมให้บารมีธรรมสูงขึ้นเรื่อยๆ
• ทำให้มีสติมั่งคง มีสมาธิแน่วแน่ ไม่ประมาทเลินเล่อ เป็นประโยชน์ ต่อการดำเนินชีวิต และการทำงาน สามารถรอดพ้นจากภัยต่างๆ เช่น ภัยธรรมชาติ ภัยจากสัตว์ ภัยจากเคราะห์กรรม เมื่อวิญญาณออกจากร่างก็จะไปสู่ภพภูมิที่ดี
• หยุดการทำบาป ตัวเวรกรรมที่ผูกพัน ทำให้ไม่เกิดการอาฆาต พยาบาท ทำให้ปราศจากศัตรูทั้งมนุษย์และสัตว์ที่คิดมุ่งทำร้ายตามจองเวร
• หลังจากกินเจต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน สิ่งไม่ดีจะถูกขับออกไป ความรู้สึกขุ่นมัวมืดมนจะหมดไป ความสดใสจะปรากฏขึ้นในจิตใจ ถ่ายทอดออกไปสู่ใบหน้าให้มีความสะอาดสดใส
• ผู้ที่กินเจ รวมทั้งครอบครัวและบุตรหลาน และคนในปกครองจะเกิดความรุ่งเรืองในชีวิต มีเหตุให้เกิดอยู่ในดินแดนอารยะ มีแต่ความอุดมสมบูรณ์ ปราศจากการทำร้าย รบราฆ่าฟัน ไม่มุ่งร้ายทำลายชีวิตซึ่งกันและกัน
• ทำให้จิตสะอาดไม่ฟุ้งซ่าน จิตที่สะอาดจะทำให้มองเห็นกายอันแท้จริง สามารถสู่นิพพานได้ในที่สุด
เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ความคุ้มครองอารักขา ไม่ให้สิ่งเลวร้ายหรือวิญญาณชั้นต่ำเข้ามาทำร้าย
ผู้ที่มองประโยชน์ของการกินเจในแง่ของศาสนา จะมีการปฎิบัติที่เคร่งครัดกว่า การมองประโยชน์ของการกินในแง่อื่นซึ่งมักจะให้ผลที่สามารถมองเห็นได้ อย่างเกินคาดเกินความคิดคำนึงพื้นฐานของคนทั่วไป เช่น การลุยไฟ การใช้เหล็กเสียบแทงตนเองหรือม้าทรงต่างๆ ในเทศกาลกินเจที่จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดตรังนั่นคือ ความเชื่ออันแรงกล้าทำให้เกิดสิ่งที่คนคิดว่าเป็นไปไม่ได้เสมอ
ประโยชน์ของการกินเจในมุมมองของแพทย์แผนปัจจุบันและแผนโบราณ

• ให้พลังเย็น โดยได้รับพลังงานจากฟรุกโตส ซึ่งมีในผักและผลไม้ เป็นพลังงานที่ไม่ทำร้ายร่างกาย
• ช่วยขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ทำให้ไม่มีสารพิษตกค้าง เพราะกากใยในพืชผักช่วยระบบการย่อยและระบบขับถ่าย ทำให้ไม่เป็นโรคเกี่ยวกับลำไส้ รวมถึงโรคที่เกิดจากระบบขับถ่ายผิดปกติต่างๆ เช่น โรคริดสีดวงทวาร
• หากรับประทานเป็นประจำ จะช่วยฟอกโลหิตในร่างกายให้สะอาด เซลล์ต่างๆ ในร่างกายจะเสื่อมช้าลง ทำให้ผิวพรรณผ่องใส มีอายุยืนยาว สายตาดี แววตาสดใส ร่างกายแข็งแรง มีความต้านทานโรค มีความคล่องตัว รู้สึกเบาสบายไม่อึดอัด
• ทำให้ปราศจากโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน โรคตับ โรคสำไส้ โรคเกาต์ ฯลฯ เพราะได้รับอาหารธรรมชาติที่มีประโยชน์ ซึ่งไม่เป็นสาเหตุของโรคต่างๆ และยังช่วยป้องกันโรคร้ายเหล่านี้
อวัยวะหลักของร่างกาย และอวัยวะเสริมทั้ง ๕ ทำงานได้อย่างเต็มสมรรถภาพ อวัยวะหลัก ได้แก่ หัวใจ ไต ม้าม ตับ ปอด
อวัยวะเสริมทั้ง ๕ ได้แก่ ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะ ปัสสาวะ กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี
• ผู้ที่กินเจ จะมีร่างกายที่สามารถต้านทานต่อสารพิษต่างๆ ได้สูงกว่าคนปกติทั่วไป ได้แก่
ยากำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าแมลง หรือสารเคมีที่เป็นอันตราย อื่นๆ
อวัยวะหลัก ได้แก่ หัวใจ ไต ม้าม ตับ ปอด
มลภาวะที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ทั้งจากรถยนต์และโรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯ ซึ่งมีปะปนอยู่ในอากาศรวมถึงแหล่าอาหารและน้ำดื่ม
กัมมันตภาพรังสี จากการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ และ การทำสงคราม สารอาหารจากพืชพัก ช่วยให้เซลล์ในร่างกายทนต่อการทำลายจากกัมมันตภาพรังสีได้
ในทางการแพทย์ การกินเจ มีประโยชน์ในการรักษาโรคที่สามารถพิสูจน์และมองเห็นได้จัดเจนกว่า ประโยชน์ในทางศาสนาเป็นเรื่องที่ไม่ละเอียดเท่าเรื่องของศาสนาจึงสามารถมองเห็นได้ง่ายกว่าเป็นธรรมดา แม้ว่าการปฎิบัติจะไม่เคร่งครัดเท่ากับความต้องการประโยชน์ทางด้านศาสนา
ประโยชน์ของการกินเจในมุมมองทางด้านโภชนาการ
การกินเจ มักจะมีคนสงสัยว่า ได้อาหารครบ ๕ หมู่หรือไม่ โดยเฉพาะโปรตีน ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าโปรตีนในเนื้อสัตว์เป็นโปรตีนที่มีคุณภาพดีกว่าโปรตีนในพืช ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด เพราะแท้จริงแล้วมีคุณค่าทางอาหารใกล้เคียงกัน และโปรตีนในถั่วยังมีถึง ๑๐ ชนิด ด้วยกัน นอกจากนี้อาหารในหมู่อื่นก็ยังมีอยู่ในพืชครบทั้งสิ้น จึงขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการกินอาหารมากกว่าว่า กินครบ ๕ หมู่หรือไม่


รวบรวมข้อมูลโดย : งานพัฒนาและจัดการสารสนเทศ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศห้องสมุด.
//www.lib.ru.ac.th






Create Date : 28 กรกฎาคม 2552
Last Update : 28 กรกฎาคม 2552 18:02:01 น. 0 comments
Counter : 543 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

inmonany
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add inmonany's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com