Bloggang.com : : ปากกากับกาแฟ : Chilling at Kanchanaburi...เที่ยวเพลินเพลิน..สังขละ- เมืองกาญจน์

Chilling at Kanchanaburi...เที่ยวเพลินเพลิน..สังขละ- เมืองกาญจน์

ทริปนี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 ค่อนข้างที่จะลำบากนิดหน่อย เพราะว่าเป็นช่วงที่ฝนยังตกอยู่ (ตอนวางแผนกะว่าฝนคงไม่ตกแล้ว) Plan 3 วัน 2 คืน ก็คือ ไปนอนที่สังขละหนึ่งคืนและเมืองกาญจน์หนึ่งคืน เราออกเดินทางจากอนุสาวรีย์ไปเมืองกาญจน์ด้วยรถตู้ ราคา 110 บาท ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วก็ต่อรถตู้ที่ด้านหลัง บขส.ไปลงที่สังขละ ราคา 175 บาท ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง วิวข้างทางสวยมากๆ ธรรมชาติสุดๆ มาถึงก็เย็นล่ะ เข้าที่พักโดยวินมอเตอร์ไซด์ (ขอแนะนำให้ขอเบอร์พี่วินไว้เลยเพราะถ้าที่พักไกล จะได้โทรเรียกได้) เก็บของเข้าที่พักแล้ว ก็เลยคิดว่าจะเดินไปที่สะพานไม้ เพราะเค้าบอกว่าไม่ไกลมาก (จริงหรือ) ตลอดทางเดินมีเจ้าถิ่นเพียบ (Dogs) ยิ่งก่อนถึงทางลงมี เจ้าตัวใหญ่สีดำรอต้อนรับอยู่อีกอ่ะ (น่าจะลอร์ดไวเลอร์นะถ้าไม่ใช่ก็คล้ายอ่ะ แบบว่าไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่) ส่วนทางลงไปสะพานไม้ จะอยู่ด้านขวามือ ด้านหน้าของสามประสบรีสอร์ท เดินลงไปได้เพียงครึ่งทาง ก็เจอเจ้าถิ่นอีก

เราก็เลยเปลี่ยนใจเดินกลับ เพื่อไปหาอะไรกินที่ตลาดดีกว่า หาของกินแล้วก็ซื้อกลับมากินที่ห้องอีกเพียบ กลัวหิวตอนกลางคืน คืนนี้นอนเร็วเพราะเก็บแรงสำหรับวันพรุ่งนี้

ที่พักที่สังขละบุรี coffee berry's

บรรยากาศข้างในที่พัก

หน้าห้องพัก " Mocha"

เมื่อคืนนอนหลับสบาย

(แต่เพื่อนคงจะไม่มั้ง

เพราะคงจะฝันถึงเจ้าหอยทาก แบบว่าฝนตกอ่ะ มันเลยเกาะอยู่ที่กำแพงห้องน้ำ ส่วนเราชิวชิว) ตื่นตอนเจ็ดโมงเช้า เพราะว่าท้องฟ้าครึ้ม น่านอนต่อมาก ตอนแรกคิดกันว่าจะตื่นเช้าไปใส่บาตรที่สะพานไม้แต่ตื่นไม่ไหว (แต่ถ้าใครตื่นไหว ไปที่สะพานไม้ซัก 6โมงครึ่ง เค้ามีบริการเตรียมของใส่บาตรให้อ่ะ แถมบรรยากาศเหมาะกับการถ่าย video มากๆเลยหล่ะ) แถมตอนแปดโมงเช้าฝนก็ตกเลยนั่งถ่ายรูปกันที่ห้อง รอให้ฝนหยุดตกหรือซาๆลง จนเก้าโมงครึ่ง แล้วเราก็ได้ฤกษ์ โทรเรียกพี่วินไปส่งที่สะพานไม้ ไปถึงก็เหมาเรือลุงเณรไปชมเจดีย์จมน้ำกับเมืองบาดาล ในราคา 250 บาท / 2 ท่าน กะว่าค่อยกลับมาถ่ายรูป นั่งเรือไปก็ตื่นเต้น เพราะว่าบรรยากาศดี เค้าพานั่งเรือวนอยู่สองรอบ ให้ได้เห็นชัดๆ แล้วก็ถ่ายรูป

เมืองบาดาล

เจดีย์จมน้ำ

ลงระหว่างทางกลับ เพื่อไปดูเจดีย์พุทธคยา (เจดีย์ทอง) แล้วก็วัดวังวิเวการาม (วัดหลวงพ่ออุตตมะที่ท่านมรณะภาพแล้วบรรจุไว้ในโลงแก้ว)

เจดีย์พุทธคยา

แล้วเราก็กลับมาถ่ายรูปที่สะพานไม้ เดินกันซักพัก เห็นร้านกาแฟ เราก็คิดว่าจะลองอีกซักครั้ง เพราะว่าลองสั่งโกโก้ที่ในตลาดแล้ว บอกได้คำเดียวว่า ไม่อร่อยอ่ะ แต่ก็ขอลองอีกที ที่นี่ละกัน โอ้โห!!! ผิดคาด เพราะว่าอร่อยอ่ะ แล้วมาที่นี่จะต้องลองขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วยให้ได้นะ เพราะว่าเป็นของขึ้นชื่อ อร่อยมากแต่แอบเผ็ด (ดีนะที่ยังไม่ได้เติมพริก) นั่งซักพัก แล้วก็กลับไปเก็บของที่ห้อง เพื่อเดินทางกลับไปเที่ยวต่อที่เมืองกาญจน์

พอถึงเมืองกาญจน์ ก็โทรไปที่พัก Ploy guesthouse เค้ามีบริการรับฟรี ระหว่างรอ เราก็แอบสอบถามราคารถตุ๊กตุ๊กที่เราจะเหมาไปที่โรงถ่ายพระนเรศวรพรุ่งนี้ (โทรไปสอบถามที่พร้อมมิตร บอกว่าเปิดให้เข้าชม แบบว่าเรากลัวเค้าติดถ่ายหนังกันนะ)ได้ราคาถูกที่สุด 400 บาท ของลุงปรีดา เพราะจากที่สำรวจก็จะแพงมาก เราก็เลยขอเบอร์โทรลุงไว้ ระหว่างทางไปที่พักก็จะผ่าน สุสานพันธมิตร แล้วก็เลี้ยวเข้าถนนแม่น้ำแคว โอย ยิ้มแก้มแทบปริ

เพราะว่าชอบมาก มี Bar เรียงราย แต่ไม่ได้พลุกพล่านนะ เงียบสงบ อาจจะเป็นเพราะว่ายังไม่ใช่ high season นี่ละความโชคดี ยิ่งไปกว่านั้น ที่พักยังถูกใจมาก สวย บรรยากาศดี ด้านหลังติดกับแม่น้ำแคว แล้วราคาก็ไม่แพง 700 บาท ถือว่าดีเลยหล่ะ

ถ่ายรูปที่พักเสร็จ ก็กะว่าจะเดินไป 7/11 แต่ว่าเจอ "ซาเล้ง" ซะก่อน ก็เลยเหมาไปกลับสะพานข้ามแม่น้ำแคว 60 บาท เดินถ่ายรูป ชมบรรยากาศซักพัก ก็กลับ ลงที่ 7/11 แล้วก็เดินกลับ ไปเจอร้านนวดเลยเข้าไปนวดไทย 1 ชม. 150 บาท ดีมากๆๆ ขอแนะนำเลย ชื่อร้าน Res & Relax spa ยายที่นวดแก่มาก นึกว่าจะไม่มีแรง ที่ไหนได้ แรงดีไม่มีตก โดนเส้นตลอด ;) แล้วเราก็เลือกส้มตำเป็นอาหารเย็น ก่อนจะเดินแบบแน่นท้องไปพักผ่อนสำหรับพรุ่งนี้ (กะว่าจะออกไปนั่งดริ้งซะหน่อย แต่สังขาลจะไม่ให้)

ตื่นตอนเจ็ดโมงเช้า อาบน้ำแต่งตัวเก็บของ แล้วก็ไปทานอาหารเช้า โทรนัดลุงมารับตอน แปดโมงสี่สิบห้า check out เพื่อไปโรงถ่ายพระนเรศวร (แนะนำให้เตรียมชุดสวยๆ เตรียมมาใส่ถ่ายรูปได้เลย เพราะว่าฉากสวยอ่ะ) ไปถึงก็ 9 โมงกว่า ค่าเข้าคนละ 100 บาท มีรถกอล์ฟให้เช่าด้วย แต่เราเลือกเดินเพราะว่าด้านในมีรถรางบริการ เราไปถึงแทบจะไม่มีคนเลย เดินไปได้ซักพัก ทัวร์ลง คนเดินกันเยอะมาก เราก็เลยรีบมุ่งหน้าไปที่สตูดิโอ จะได้ถ่ายรูปก่อน ค่าแต่งตัวและถ่ายรูป 150 บาท ได้ประมาณ 5 ภาพ (ขอแนะนำให้คิดท่าโพสต์เอง พร้อมกับแต่งหน้ามาให้เต็มที่เลย เพราะเค้าคิดค่าแต่งหน้าเพิ่ม) เค้าจะ write ลงแผ่นซีดีให้ หลังจากถ่ายรูปเสร็จ เราก็เดินกันต่ออีกซักพัก แล้วก็กลับ ให้ลุงไปส่งที่ท่ารถตู้ บขส. กลับ กทม. จริงมีอีกหลายที่ที่เราไม่ได้ไปอ่ะ อย่างเช่น ด่านเจดีย์สามองค์ วัดถ้ำเสือ คิดว่าจะกลับมาเที่ยวอีกแน่ๆ เพราะว่าประทับใจมาก ;)

Have a good Trip to Kanchanaburi everyone !!!

Create Date : 17 ตุลาคม 2554

Last Update : 26 ตุลาคม 2554 8:13:15 น.

4 comments

Counter : 1080 Pageviews.

ขอโทษที่ไม่ได้อยู่คุยกันนะคะ พี่หญิง coffee berry คะ ถ้ามีโอกาสคงได้เจอกันที่สังขละอีกนะคะ

โดย: yingyohyo

วันที่: 18 ตุลาคม 2554 เวลา:12:02:29 น.

ไม่เป็นไรค่ะ โอกาสหน้าไปอีกแน่นอนค่ะ เดี๋ยวรวมพลก่อนค่ะ

โดย: ปากกากับกาแฟ

วันที่: 18 ตุลาคม 2554 เวลา:15:46:31 น.

ขอบคุณนะคะที่ไปให้กำลังใจที่บล็อก เพิ่งได้มีโอกาสมาเปิดเม้นนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักคนสวยบล้อกนี้คะ

โดย: We Are FroM BeLGiUM

วันที่: 21 ตุลาคม 2554 เวลา:18:04:32 น.

ดีใจที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ เข้าไปดู blog ของคุณ we are from Belgium ชอบมากเลยค่ะ เป็นคนชอบเที่ยวเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ได้เขียนได้แค่นี้ เพราะที่เหลือลืมไปแล้ว ว่าไปทำอะไร เดินทางยังไง เดี๋ยวจะพยายามเขียนอีก จะได้แลกเปลี่ยนกันดูนะค่ะ
ปล. จะคอยติดตามอ่านของคุณ we are from Belgium อีกนะค่ะ สู้สู้ ค่ะ

โดย: ผึ้ง (ปากกากับกาแฟ

) วันที่: 21 ตุลาคม 2554 เวลา:22:47:39 น.