|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
บทความรศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
The more I read บทความรศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์, the more I clearly understand many facts that
0.) การเคลื่อนไหวโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ฉีกรัฐธรรมนูญ และก่อรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็นผลงานของแนวร่วมอำนาจนิยมขวา
จัด ที่มีกลุ่มจารีตนิยมเป็นผู้บงการตั้งแต่ต้นจนจบ มีกลไกราชการ-ทหารเป็นแขนขา และมีปัญญาชนในเมือง ประกอบด้วยนักวิชาการ ครู อาจารย์ ผู้
บริหารมหาวิทยาลัย ราษฎรอาวุโส นักเคลื่อนไหวองค์กรพัฒนาเอกชน สื่อมวลชนหนังสือพิมพ์ ทำตัวเป็น คนงานหามเสลี่ยงให้เผด็จการนั่ง ช่วย
สร้างวิกฤตปั่นป่วนให้เป็นเงื่อนไขรัฐประหาร
1.) ประชาชนชั้นล่างรู้สึกต่อต้านรัฐประหารอย่างชัดเจนและเข้าใจว่า ได้ถูกปล้นชิงสิทธิ เสรีภาพ และอำนาจอธิปไตยไป พวกเขาโกรธเคืองเมื่อคณะ
รัฐประหารใช้กำลังอาวุธเข้าควบคุมพื้นที่และการสัญจรของประชาชน และยิ่งโกรธเคืองเมื่อรัฐบาลจากรัฐประหารตั้งหน้าบั่นทอนและทำลาย
นโยบายประชานิยมอย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกเขายิ่งตระหนักชัดว่า รัฐประหารครั้งนี้ก็เพื่อแย่งชิงเอาผลประโยชน์ที่พวกตนเพิ่งได้มาตลอด 5 ปีนี้คืนไป
2.) การผูกขาดอำนาจรัฐโดยกลุ่มจารีตนิยม-ราชการที่รวมศูนย์โภคทรัพย์ความร่ำรวยและความสะดวกสบายทุกชนิดเอาไว้ที่พวกตนกลุ่มเล็ก ๆ ใน
เมืองหลวง โดยมีชนชั้นกลางในเมืองได้รับเศษผลประโยชน์ ไม่แบ่งปันทรัพยากรความมั่งคั่งไปสู่ประชาชนชั้นล่าง ไม่พัฒนาบริการของรัฐให้ทั่วถึง
เป็นธรรม ทั้งระบบราชการที่ทุจริต ข้าราชการสมคบกับกลุ่มทุนเก่าและกลุ่มทุนภูธร ทั้งหมดนี้กดทับอยู่บนความทุกข์ยากของประชาชนชั้นล่างทั่ว
ประเทศตลอดมา
3.) ชนชั้นล่างในเมืองและชนบทจึงเป็นผู้ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากระบอบประชาธิปไตยรัฐธรรมนูญ 2540 และจากนโยบายประชานิยมของ
รัฐบาล ที่สำคัญที่สุดคือ โครงการสุขภาพถ้วนหน้า (30 บาทรักษาทุกโรค) ทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากการพึ่งพาคลินิกแพทย์และระบบคนไข้อนาถา
ของโรงพยาบาลรัฐ ได้เข้าถึงทรัพยากรทางการแพทย์ที่มีคุณภาพเป็นครั้งแรก ได้รับการรักษาเอาใจใส่เยี่ยงเพื่อนมนุษย์ที่มีศักดิ์ศรี
4.) แต่โครงการประชานิยมกลับเป็นที่เกลียดชังโดยชนชั้นปกครองและชนชั้นกลางในเมือง โดยเฉพาะพวกนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย ราษฎร
อาวุโส และองค์กรพัฒนาเอกชน พวกเขาด่าทอโครงการประชานิยมว่า กระตุ้นลัทธิทุนนิยม-บริโภคนิยม ในหมู่ประชาชน มอมเมาซื้อเสียงจาก
ชาวบ้าน ก่อหนี้ให้ชาวบ้านตกเป็นทาสที่พึ่งพารัฐบาลตลอดไป คนพวกนี้ดูถูกดูแคลนคนชั้นล่าง ด้วยการวาดภาพว่า ชาวบ้านกู้เงินไปใช้จ่าย
บริโภคฟุ่มเฟือย กินใช้ตะกรุมตะกรามจนหมดตัว ส่วนคนที่เอาเงินไปลงทุนประกอบอาชีพ ก็โง่เง่าไร้ความสามารถจนขาดทุนสิ้นเนื้อประดาตัว สุด
ท้ายมีแต่หนี้สินท่วมหัว ในสายตาของผู้ปกครองและปัญญาชนชั้นกลางในเมืองกลุ่มนี้ ประชาชนชั้นล่างถึงอย่างไรก็เป็นพวกโง่ อ่อนแอและไร้ความ
สามารถอยู่วันยังค่ำ สิ่งที่คนชั้นล่างควรทำไม่ใช่การดิ้นรนต่อสู้ด้วยตนเอง แต่เป็นชะเง้อ รอคอยหยาดฝนชุ่มฉ่ำอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัย เท่านั้น
พอ
5.) ชนชั้นปกครองอาจได้กระทำความผิดพลาดครั้งสำคัญที่สุดไปแล้วเมื่อวันที่ 19 กันยายน โดยประเมินพลังอำนาจทางจิตวิญญาณของพวกตนสูง
เกินไป ประชาชนชั้นล่างและชั้นกลางจำนวนหนึ่งได้ ตื่นจากฝันในเทพนิยาย รู้แจ้งว่า แท้จริงแล้ว อะไรคือปัจจัยขัดขวางประชาธิปไตยและเป็น
รากเหง้าของรัฐประหารครั้งแล้วครั้งเล่าตลอดหลายสิบปีมานี้ ผู้ปกครองกำลังบีบให้ประชาชนชั้นล่างและชั้นกลางต้องตัดสินใจเลือกที่เจ็บปวดและ
อันตรายที่สุดคือ การเลือกระหว่างระบอบอำนาจนิยมที่เป็นอำนาจรัฐผูกขาดของกลุ่มจารีตนิยม-ราชการและมีเปลือกนอกหุ้มห่อเป็น ประชาธิปไตย
แบบไทย ในด้านหนึ่ง กับระบอบประชาธิปไตยมหาชนที่ปวงชนชาวไทยเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย และเป็นผู้ใช้อำนาจนั้นด้วยตนเองในอีกด้าน
หนึ่ง เป็นการตัดสินใจเลือกระหว่างการยอมเป็น ราษฎร ที่อยู่ ข้างใต้ผงฝุ่นใต้ฝ่าเท้า ของผู้ปกครอง กับการลุกขึ้นยืนหยัด ประกาศตนเป็น
พลเมือง ที่มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อันเท่าเทียม มีสิทธิ เสรีภาพ เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยและใช้อำนาจนั้นด้วยตนเอง
6.) ปัญญาชน อาจารย์ นักวิชาการ ข้าราชการ ไปถึงราษฎรอาวุโสและองค์กรพัฒนาเอกชนที่อ้างตัวเสมอมาว่า เข้าใจชาวบ้าน และสมอ้างเป็น ตัว
แทนชาวบ้าน คนพวกนี้ใช้ชีวิตพรั่งพร้อมไปด้วยความสุขสบาย การศึกษาถึงมหาวิทยาลัยและต่างประเทศ อาศัยทุนการศึกษาและเงินภาษีของ
ประชาชน มีอาชีพตำแหน่งงานมั่นคง เจ็บป่วยมีเงินรักษา มีสวัสดิการในหน่วยงาน มีเงินซื้อบ้าน รถยนต์ สิ่งอำนวยความสะดวกและความบันเทิง
ทุกชนิด มีแหล่งเงินกู้ในระบบมากมายให้เลือก ไม่มีปัญหายาเสพติดใกล้บ้าน ไม่ต้องกลัวอิทธิพลอำนาจเถื่อน เจ้าหน้าที่รัฐไม่มายุ่งเกี่ยวรังแก ไม่
ต้องพึ่งพานักการเมือง ผลก็คือ ชนชั้นกลางในเมืองนั่นแหละที่มักไม่สนใจการเลือกตั้งและประชาธิปไตย กระทั่งรังเกียจการเลือกตั้งและนักการ
เมืองว่า ทุจริต
7.) ประชาชนชั้นล่างในเมืองและชนบทกำลังครุกรุ่นไปด้วยความโกรธ พวกเขามีจำนวนนับสิบล้านคนทั่วประเทศ มีการจัดตั้งผ่านเครือข่าย
ธรรมชาติในชุมชนและองค์กรท้องถิ่นต่าง ๆ เป็นกองทัพหลวงแห่งประชาธิปไตยที่รอวันยาตราทัพ มีเป้าหมายชัดเจนคือ เรียกร้องประชาธิปไตย
ทวงอำนาจอธิปไตย เอารัฐธรรมนูญ 2540 กลับคืนมา ให้มีการเลือกตั้งโดยทันที วันนี้ ประชาชนชั้นล่างในเมืองและชนบทเปรียบเสมือนฟางแห้ง
กองสุมกระจายอยู่ทั่วประเทศ รอเพียงเกิดประกายไฟและลมพายุ โหมกระพือให้เป็นไฟป่าไหม้ลามทุ่งเท่านั้น!
Create Date : 31 พฤษภาคม 2550 |
|
0 comments |
Last Update : 31 พฤษภาคม 2550 1:46:52 น. |
Counter : 375 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
พ่อของแผ่นดิน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|