วันนี้จัดเต็ม 2 เมนู ได้แก่..ปลานิลนึ่ง+น้ำพริกปลาร้า กับ แกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง

วันนี้จัดหนัก 2 เมนูเลยค่ะ เพราะจขบ.ขี้เกียจรีวิวหลายรอบ - -
ไม่ช่ายยยยย

ความจริงก็คือขี้เกียจนั่นแล่ะ กร้ากกกก

รูปประกอบการรีวิวน้อยอย่างเคย เหตุผลก็เหมือนเดิมค่ะ
ขี้เกียจถ่ายรูป กับ โดนแม่เร่งตลอดเวลา -*-

มาเริ่มที่เมนูแรกกันเลยดีกว่าค่ะ


ปลานิลนึ่งกับน้ำพริกปลาร้า


ปลานิลที่ได้มาวันนี้เป็นตัวเล็กค่ะ เลยใช้ 2 ตัว
จริงๆกะนึ่งแค่ตัวเดียว แต่มีเสียงตามสายไล่หลังมาว่า..นึ่ง 2 ตัวนั่นแล่ะ เดี๋ยวไม่อิ่ม - - ไม่ใช่เสียงใครที่ไหน เสียงของท่านแม่สุดที่รักนั่นเอง

ส่วนประกอบของเมนูนี้ได้แก่

- ปลานิล

- ผักนึ่ง/ลวก (วันนี้ใช้ บล็อคโคลี่ กับ เห็ด)

- ผักสด (ผักชี กับ คื่นฉ่าย ซื้อมา ส่วนใบโหระพากับสาระแหน่ แล้วก็คื่นฉ่ายบางส่วนเด็ดเอาในกระถางหน้าบ้าน)

- ตะไคร้/ขิง/ข่า (เอาไว้ดับกลิ่นคาวปลาเวลานึ่ง)




เมื่อเตรียมวัตถุดิบทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ทำการล้างปลาเลยค่ะ
ของเราเวลาล้างปลาใช้เกลือค่ะ การล้างปลาไม่ให้เหม็นคาว และไม่ให้มีเมือก มีอยู่มากมายหลายสูตรเลยนะคะ เช่น เกลือ+น้ำมะนาว บางคนก็ใช้สารส้ม หรือน้ำส้มสายชู อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ ส่วนของเราล้างแค่เกลือก็พอค่ะ เพราะเดี๋ยวเวลานำไปนึ่งเราจะใส่พวกตะไคร้ ข่า ขิง ช่วยดับกลิ่นอีกรอบอยู่แล้่ว

หลังจากที่ล้างคาวปลาเสร็จก็จัดการบั้งเนื้อปลาให้เป็นริ้วๆตามใจชอบเลยค่ะ แต่พยายามบั้งให้ลึกจนถึงก้างหน่อยนะคะ แต่อย่าให้ถึงกับก้างขาด การบั้งปลาถี่ๆจะช่วยให้ปลาสุกเร็วขึ้น และเครื่องปรุงจะซึมเข้าไปเนื้อปลาได้ดี (อันนี้ในกรณีที่ทำปลานึ่งซีอิ้วหรือปลานึ่งที่ต้องราดพวกเครื่องปรุงลงบนตัวปลา) แต่ถ้านำไปนึ่งไม่ควรบั้งเนื้อปลาให้ถี่มาก เพราะเนื้อปลาจะเละ ดูไม่น่ารับประทาน

เวลานึ่งปลานอกจากจะยัดพวกตะไคร้ ใบมะกรูด หรือข่าใส่ตรงพุงปลาแล้ว มีอย่างหนึ่งที่เราชอบมาก ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน คือการหั่นขิงเป็นแว่นๆแล้วยัดใส่ตามรอยบั้งที่เนื้อปลา ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรอืเปล่านะ มีความรู้สึกว่า กลิ่นของขิงมันกระจายซาบซ่านไปทั่วร่างของปลายังไงก็ไม่รู้ 5555




และเนื่องจากว่าวันนี้นึ่งพร้อมกัน 2 ตัว ก็เลยจัดคอนโดสำหรับนึ่งปลาไว้ 2 ชั้น
เราตั้งเวลาที่เครื่องไว้ 30 นาที ปกติเราจะใช้่เวลาแค่25นาที สำหรับ 1 ตัว แต่วันนี้ขอ 2 ก็เลยต้องเพิ่มเวลาอีกนิดนึง อิอิ

พอจัดแจงคอนโดให้ปลาเสร็จสรรพแล้วก็เริ่มนึ่งได้เลยค่า



ระหว่างรอก็ลวกผักกันค่ะ จริงๆแล้วการนึ่งผักจะช่วยคงคุณค่าของวิตามินได้มากกว่าการลวกผักในน้ำร้อน แต่ทว่า เราขี้เกียจเสียเวลารอนึ่งปลาต่อจากปลา ก็เลยขอลวกผักแทนไปก่อน ใช้เวลาลวกแป๊บเดียวเช่นเคย อย่าลวกนาน นอกจากผักจะไม่อร่อยแล้ว วิตามินที่อยู่ในผักก็จะละลายไปกับน้ำและความร้อนจนหมดด้วย



นอกจากผักลวกแล้ว ก็ยังมีผักสดทานแกล้มกับปลานึ่งด้วย
อย่างที่เคยเล่าไปในบล็อคที่แล้วว่าจขบ.นี้ไม่ชอบทานผัก พึ่งมาฝึกทานผักอย่างจริงก็ตอนที่เริ่มลดน้ำหนัก ก็เลยพยายามที่จะทานผักให้หลากหลาย จะได้ไม่เบื่อ ก็เลยเวลามีเมนูปลานึ่งทีไรก็ต้องมีทั้งผักนึ่งและผักสดทานคู่กันไปด้วย ได้คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนอีกต่างหาก อิอิ



หลังจากนั้นก็นั่งรอนอนรอว่าเมื่อไหร่คอนโดปลาน้อยของเราจะร้องเรียกให้เราไปเปิดคอนโดซักทีน้า ติ๊กต่อกๆๆๆ ติ๊งงงงงงง!!!! (เสียงคอนโดซึ้งนึ่งไฟฟ้าของเรามันร้องแบบนี้จริงๆนะ เวลามันร้องติ๊งทีนึงนี่ ตกใจเลย เสียงดังมากกกกก -*-)

ได้เวลาเอาปลาน้อยลงจากคอนโดซักที
ตอนที่อุ้มปลาน้อยลงจาน แล้วไปหยิบกล้องมาถ่ายรูป ก็มีเสียงสวรรค์ลอยมาอีกแล้ว(เหมือนเมื่อตอนที่แล้วเปี๊ยบ) ว่า..."สงสัยจะไม่ได้กินแล้วซะล่ะม้างงงงง มัวแต่ถ่ายรูปอยู่เนี่ย" - - แม่ไม่เข้าใจตุ้ม งือ~*

ก็เลยจัดไปรับหน้าทัพก่อน 1 ตัว อีกตัวเก็บไว้เป็นทัพหลัง ถ้าทัพแรกแตกเมื่อไหร่ค่อยส่งทัพหลังตามไปช่วย






ส่้วนของน้ำจิ้มปลานึ่ง โดยปกติเราจะทำสลับๆกันไป โดยมีช้อยท์ให้เลือกดังนี้

1. น้ำจิ้มแจ่ว
2. น้ำจิ้มซีฟู้ด
3. น้ำพริกปลาร้า




แต่วันนี้นึกอยากทานน้ำพริกปลาร้า เพราะเหตุว่าเมนูถัดไปจะทำแกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง ไหนๆก็จะทำอาหารออกแนวอีสานๆแล้วก็เอาให้มันเหมือนกันเลยดีกว่า อิอิ


ต้องรีวิวน้ำพริกด้วยป่ะเนี่ย คงไม่ต้องหรอกเน๊อะ เพราะน้ำพริกปลาของเราก็เหมือนน้ำพริกทั่วๆไปที่คนอื่นเค้าทำกัน จะต่างกันก็เพียงแค่น้ำปลาร้าของเรามันอิมพอตมาจากยโสธรแค่นั้นแล่ะ 55555 (ถ้าจำไม่ผิดคิดว่าเป็นยโสนะ แหะๆ) พอดีญาติแบ่งน้ำปลาร้าใส่กระปุกมาให้ น้ำปลาร้านี้ได้มาจากญาติของญาติอีกที แอบส่งต่อมาหลายทอด เพราะเจ้าของเค้าไม่ให้สูตรใคร เจ้าของสูตรเค้าเป็นแชมป์ประกวดส้มตำระดับจังหวัดหลายสมัยซ้อน เค้าจะมีสูตรทำน้ำปลาร้าที่อร่อยมากๆ แล้าเค้าจะไม่บอกใคร ขนาดคนในครอบครัวเค้ายังไม่เปิดเผยเลย แต่เค้าขายสูตรอยู่นะ สูตรละ 1 แสนบ้าน ไม่ได้พิมพ์ผิดค่ะ เค้าขายสูตรน้ำปลาร้านี้ 1 แสนบาทจริงๆ คิดว่าเค้าบ้าแล้ว ยังมีคนบ้ากว่าค่ะ มีคนมาขอซื้อสูตรน้ำปลาร้านี้ 1 แสนบาทจริงๆ

ถ้าถามเรานะเรื่องรสชาติ มันอร่อยจริงๆ รสมันกลมกล่อมบอกไม่ถูก ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าของปลาร้า ออกหอมด้วยซ้ำ หวานนิดๆ นิดจริงๆ

เวลาจะไปทานส้มตำร้านแถวบ้านเราจะหิ้วกระปุกปลาร้านี้ไปด้วยแล้วให้เค้าใส่ให้ คนขายเค้าก็งงๆว่าหิ้วมาทำไม 5555 น้ำปลาร้าของเค้าก็มี เราก็เถียงว่าก็รสชาตมันไม่เหมือนกันนิคะ เค้าก็บอกเหมือนกันสิ เราก็เถียงว่าไม่เหมือน อันนี้ต้มมา อร่อย แม่ค้าก็บอกของเค้าก็ต้มสะอาดเหมือนกัน ว่าแล้วแม่ค้าก็เลยขอชิมน้ำปลานี้ ทีนี้ล่ะพยายามขอสูตรจากเรายิกๆ แต่อย่างที่บอกว่าเราก็ไม่รู้เหมือนกัน ได้รับอานิสงค์ส่งต่อมาอีกที ซึ่งตอนนี้ก็หมดแล้วด้วย แอบเสียดายอยู่เหมือนกันค่ะ

หยุดเรื่องน้ำปลาร้าไว้ก่อนดีกว่า 5555+ เดี๋ยวคนที่ไม่ทานปลาร้าจะพลอยเหม็นกลิ่นปลาร้าจากบล็อคเราไปด้วย อิอิ


ว่าแล้วก็จัดสำรับออกมารับหน้าแขกเหรื่อเลยดีกว่า ฮี่ฮี่




ปลานึ่งแบบชัดๆอีกที






ต่อด้วยเมนูแกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง



ไม่มีรูปประกอบขั้นตอนการทำนะคะ
ขออธิบายเป็นตัวหนังสือเอา เพราะรีบทำมาก ก็เลยไม่ทันได้ถ่ายรูปเก็บไว้

- ผักหวานป่า (เราซื้อมาจากโลตัสค่ะ เดี๋ยวนี้โลตัสเค้าพัฒนาขึ้นมาก เอาผักแปลกๆบ้านๆมาขายด้วย ขนาดใบตอง กับใบเตยยังมีขายเลยค่ะ อย่าว่าแต่ผักเลย ขนาดดินปลูกต้นไม้ยังมีขายเลยค่ะ ยอดมากจริงๆ)

- ใบแมงลัก (ผักอิตู่)

- พริกสด , หอมแดง , ข่า , ตะไคร้ , กระเทียม

- ไข่มดแดง (ถ้าชอบตัวแม่เป้งจะใส่ไปด้วยก็ได้)

- เห็ด (แม๋..ถ้ามีเห็เผาะก็จะดีมาก อร่อยสุดๆ เวลากัดเห็ดหรือเคี้ยวเห็ดลงไปนี่ กรุบๆๆๆ ชอบมาก แต่บางที่ก็เรียกเห็ดถอบ เคยคุยกับเพื่อนคนเหนืออยู่เชียงใหม่ว่าเราชอบกินเห็ดเผาะนะ เค้างง เราก็เลยอธิบายลักษณะไป เค้าก็..อ๋อ..เห็ดถอบ - -" สรุปว่าเรียกไม่เหมือนกัน)

-เครื่องปรุงรส น้ำปลา , น้ำปลาร้า , เกลือ



วิธีการทำก็แสนจะง่ายมากเลยค่ะ


ขั้นแรกตำพริกแกง โดยใส่ข่า , กระเทียม , พริก , เกลือ , หอมแดง ลงไปโครกในครกเบาๆ ถ้าอยากได้สีของน้ำแกงแบบจัดจ้านก็เปลี่ยนจากพริกสดเป็นพริกแห้งได้นะคะ แต่ของเราอยากให้น้ำแกงใสๆเลยใส่เป็นพริกสด 1 เม็ดพอเป็นพิธี อิอิ (ก็หนูกลัวเผ็ดอ่ะ T-T)


หลังจากได้พริกแกงแล้ว ก็ตั้งหม้อใส่น้ำ ใส่ตะไคร้หั่นท่อนลงไปในน้ำ (พอดีตะไคร้มันตำยากก็เลยเอาใส่หม้อทั้งอย่างนั้นเลย แหะๆ)


พอน้ำเริ่มเดือดก็ใส่พริกแกงลงไป ปรุงรสด้วยน้ำน้ำปลาร้า และปลาเล็กน้อยค่ะ เพราะน้ำปลาร้าเค็มอยู่แล้ว อีกอย่างในเครื่องแงก็มีเกลือผสมอยู่ด้วยนิดนึงแล้ว แกงผักหวานของเราใส่เครื่องปรุงรสแค่นี้ค่ะ จะไม่ใส่พวกน้ำมะขามเปียกหรือน้ำตาลอะไรเพิ่มแล้ว


พอน้ำเดือดได้ที่ก้จัดการเอาเห็ดลงไปเลยค่ะ แต่เห็ดสุกเร็วอยู่แล้ว จากนั้นก็ตามด้วยไข่มดแดง (ลืมบอกไปว่าไข่มดแดงควรจะล้างน้ำให้สะอาดซะก่อนนะคะ แล้วค่อยนำมาลงหม้อ)


หลังจากที่ใส่ไข่มดแดงแล้วก็ปิดไฟเลยค่ะ แล้วค่อยใส่ผักหวานป่า แล้วรีบยกหม้อลงทันที มิฉะนั้น ผักหวานจะเหี่ยวจนเกินไป ถ้าจะทานผักหวานให้อร่อยต้องให้มันกรุบๆนิดๆ ที่สำคัญไข่มดแดงก็จะไม่แข็งจนเกินไปด้วยค่ะ



บอกข้อมูลโภชนาการของไข่มดแดงกันซักนิด เผื่อมีคนอยากทราบว่าทานไข่มดแดงมากๆแล้วจะเป็นอันตรายมั้ย

ตามตัวเลขของกรมอนามัย ไข่มดแดงนั้นมีโปรตีนสูง 8.2 กรัม/100 กรัมของไข่มด ซึ่งมีมากพอสมควร สำหรับไขมันในไข่มดแดงจะน้อยกว่าในไข่ไก่มากเพราะมีเพียง 2.6 กรัมเท่านั้น เมื่อเทียบกับในไข่ไก่ซึ่งมีมากถึง 11.7 กรัมสรุปคือ แคลอรีจากไข่มดแดงก็เลยมีน้อยกว่าไข่ไก่ เพราะฉะนั้นไข่มดแดงนี่แล่ะคือแหล่งโปรตีนที่สุดยอดที่สุด

และในปัจจุบันนี้ไข่มดแดงไม่ต้องไปสอยเอาตามป่าตามเขาแล้วนะคะ เค้าสามารถเลี้ยงได้ มีไข่มดแดงกระป๋อง(OTOP)ขายแล้วด้วย ส่งไปขายถึงเมืองนอกอีกต่างหาก แต่ถ้าเก็บตามฤดูกาลแบบชาวบ้านล่ะก็ ช่วงฤดูร้อนอย่างเดือนมีนาคม เมษายนและพฤษภาคมนี่แล่ะค่ะที่ไข่มดแดงจะอร่อยที่สุด เพราะจะได้ไข่ที่ใบใหญ่มากๆ

สรุปก็คือ ถ้าคนที่ทาน ไม่มีอาการแพ้ไข่มดแดงอยู่ก่อนแล้ว ก็ทานได้สบายใจหายห่วงค่ะ




จริงๆแล้วสาเหตุที่อัพบล็อคอาหาร 2 อย่างภายในคราวเดียวกันก็เพื่อบล็อคหน้าจะเริ่มเล่าเรื่องประสบการณ์การลดน้ำหนักของตัวเองค่ะ

เพราะสาเหตุหลักๆที่สร้างบล็อคนี้ขึ้นมาก็เพื่อจะบอกเล่าประสบการณ์ให้เพื่อนสนิทมิตรสหายได้เข้ามาอ่านกันเนี่ยแล่ะค่ะ เพราะว่าตอบคำถามกันจนเบื่อ คำถามก็เดิมๆว่าทำอะไร กินอะไร กินยาลดความอ้วนด้วยมั้ย บลาๆๆๆๆ มันไม่ใช่ถามกันแค่คนสองคนไงคะ มันหลายคนมาก พอมากเข้าก็ชักเริ่มจะขี้เกียจตอบ เลยกะว่าจะเล่าลงบล็อคมันเลยแล้วกัน ให้มาอ่านกันเอาเองดีกว่า 5555

หลังจากที่เป๋ไปเรื่องโน้นเรื่องนี้ เป๋มารีวิวทำอาหารบ้างอะไรบ้างก็เลยขอกลับมาทำสิ่งที่ตั้งใจไว้แต่แรกก่อน อิอิ

แล้วเจอกันบล็อคหน้าค่ะ
เดี๋ยวขอไปคิดหัวข้อแล้วก็เรียบเรียงเรื่องก่อนค่ะ พอดีว่าตอนที่เริ่มลดน้ำหนักนั้นไม่ได้จดบันทึกอะไรไว้เลย ขนาดอาหารที่ทำทาน ณ ช่วงเวลานั้นก็ไม่ได้ถ่ายไว้ โดยเฉพาะรูปตอนที่พีค(อ้วน)ที่สุดก็ไม่มี แต่จะพยายามหาที่ใกล้เคียงที่สุดมาค่ะ ^0^



Create Date : 08 พฤษภาคม 2554
Last Update : 12 กรกฎาคม 2554 23:28:38 น. 13 comments
Counter : 10904 Pageviews.

 
งะมีปลาร้าด้วยอะ


โดย: ตะวันเจ้าเอย วันที่: 8 พฤษภาคม 2554 เวลา:2:11:09 น.  

 
ขอร่วมวงด้วยคน น่ากินทั้งนั้น


โดย: ต้นข้าวรวงรัก วันที่: 8 พฤษภาคม 2554 เวลา:2:24:53 น.  

 
น่ากินมากมายค่ะเมนูนี้
ภาพสวยอีกต่างหาก
ที่บ้านกินปลาแลชอบปลากันทุกๆคนค่ะ


โดย: Willkommen วันที่: 8 พฤษภาคม 2554 เวลา:2:55:58 น.  

 
ขอหม่ำด้วยค่ะ
ปลานิลนึ่งกับน้ำพริกปลาร้าแล้วมีผักนึ่งแยะๆ นี่ชอบมาก
ทานผักแทนข้าวไปเลย เวลานึ่งก็ชอบยัดเครื่องต้มยำ
ใส่ท้องปลาแยะๆ ถ้าเอาอบหรือเผาก็พอกเกลือแยะๆ เค็มๆ มันๆ ดี คุณตะแน๋วนึ่งปลาสวยนะดูแห้งดีจัง

แฮ่..แฮ่..อยากกินแกงไข่มดแดงอีกรอบ แต่แกงใส่
เครื่องแกงแบบนี้และใส่ใบแมงลักด้วย แม่เคยทำ
แกงแบบนี้ให้กินอยู่หน ไม่ค่อยชอบกลิ่นใบ
แมงลักมันฉุน (แต่ทีในแกงเลียงกลับชอบ อาจจะ
เพราะใบแมงลักกับเครื่องแกงตะไคร้มั๊ง)
เห็ดถอบก็ชอบ ต้องแบบอ่อนๆ กัดทีเนื้อขาวจัวะ



โดย: narellan วันที่: 8 พฤษภาคม 2554 เวลา:7:18:54 น.  

 
หูยยยยย อาหารบ้านนี้จัดมาแบบเต็มพิกัด เมนูสุขภาพ โดนใจคะ
โดยเฉพาะจานปลานิล นึ่งได้น่ากินมาก แต่ไม่ทานน้ำพริกปลาร้านี่จิ
งั้นคงต้องเอามาทานกับน้ำจิ้มแจ่วพริกป่นแซบ ๆ แล้วกันนะคะ


โดย: บ่งบ๊ง วันที่: 8 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:05:23 น.  

 
ว้าว อาหารน่าทานจริง วันนี้มีแต่ของอร่อยหลายบ้านเลยค่ะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 8 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:14:50 น.  

 
เอิ่ม... ท้องชักร้องแล้วล่ะค่ะ อิอิ^^


โดย: dayydream_m วันที่: 8 พฤษภาคม 2554 เวลา:11:27:43 น.  

 
สวัสดีจ๊ะหนูแน๋ว
ตามกลิ่นน้ำปลาร้ามาจ๊ะ

โอ้โห...ถึงกับมีกระปุกน้ำปลาร้าสูตรเด็ด
พกติดตัวตลอดเวลา ถ้ามาเดินแถวบ้านป๋า
อาจจะโดนกระชากกระเป๋า แย่งกระปุกน้ำปลาร้าได้ง่ายๆ จะหาว่าไม่เตือน 555

ปล.มาปูเสื่อ รอดูรูป before and after จ๊ะ


โดย: multiple วันที่: 8 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:30:12 น.  

 
มาแล้วจ๊ะ ชาลีตามมาชมเมนูเด็ดด้วยคนนะคะ
ชอบน้ำจิ้มแบบใส่ปลาร้าเหมือนกันจ๊ะ
หรือว่าจะใส่แมงดาในน้ำจิ้มก็อร่อยดีเหมือนกันนะ
ว่าแล้วอยากกิน อิๆ

ส่วนแกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดงนี่ชอบมากกกกก
ได้ซดน้ำและกินเปล่าๆ ไม่กินข้าวยังได้เลย ^^

จะรอชมบล๊อกต่อไปด้วยนะ
เพราะสนใจเกี่ยวกับการลดน้ำหนักอยู่จ๊ะ

วันนี้ชาลีมีขนมปังหน้าหมู สูตรไม่อมน้ำมัน
เพราะใช้น้ำมันนิดเดียวมาฝากด้วยนะ ^^
(ชาลียังไม่ลงบล๊อกนะ อิๆ)



โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 8 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:00:29 น.  

 
อร่อยแน่ๆ เลยแม่หนูยิมชอบผักหวานป่ามากเลยคะ เห็นปลาน้ำลายก็สอ แหะๆ ๆ


โดย: gymstek วันที่: 8 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:43:29 น.  

 
สวัสดียามเช้าวันจันทร์ครับ
เห็นแกงเลียงผักหวานของคุณ จขบ. แล้วน้ำลายสอเลยครับ ที่บ้านผมจะเป็นแกงจืดผักหวานใสไขครับ ขั้นตอนไม่ยากอะไร ต้มน้ำเปล่า ใส่หัวหอมแดงไปสักหน่อย เหยาะน้ำปลาไปอีกนิด รอจนเดือด ใส่ผักหวาน เติมเกลือไปอีกนิดเพิ่มรสชาติ แต่อย่าให้เค็มนะครับ รสชาติต้องหวานน้ำผักหวานครับ พอทำท่าจะเดือดอีกครั้ง ใส่ไข่ไก้ลงไปหนึ่งพอ ตีให้แตกก่อนที่จะสุกครับ ไข่จะกระจายทั่วน้ำซุป เท่านี้ก็เสริฟได้แล้วครับ สูตรพ่อครัวหัวป่า ตำราคุณย่าครับผม

ผักหวานมีอีหลายเมนูหครับ ผัดน้ำมันหอย ผัดไข่ จิ้มน้ำพริกก็อร่อย



โดย: boiishi วันที่: 9 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:05:09 น.  

 
อ่อ มีวิธีทำจ้า เค้าเรียกว่า

Action เหมือนเรา บันทึกวิธีทำเอาไว้ 1 ครั้ง
พอครั้งต่อไป เราก็กด ปุ่มครั้งเดียวก็ใช้ได้เลย
เด่ยววันนี้จะเอาวิธีทำมาลงให้นะ

ปูลู . มาให้ชิมหน่อย จะได้รู้ว่าหวานรึป๊าววว ก๊ากกกกก


โดย: iboombey วันที่: 9 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:09:15 น.  

 
- คุณWillkommen ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมบล็อคค่า จริงๆแล้วเราไม่ค่อยชอบทานปลาเท่าไหร่ค่ะ เคยมีประสบการณ์ก้างปลาติดคอแล้วต้องไปให้หมอช่วยคีบออก ก็เลยไม่ทานปลานับแต่นั้นเป็นต้นมา จนกระทั่งเริ่มที่จะลดน้ำหนักนี่แล่ะค่ะ ถึงต้องกลับมาทานปลาอีกครั้ง

และล่าสุดเมือ่เดือนที่แล้วนี่เอง ทำต้มยำปลาทูน้ำใส แล้วก้างปลาทูติดคอค่ะ ติดอยู่เป็นวันเลย กะว่าวันรุ่งขึ้นจะไปหาหมอแล้วเชียว พอดีลองใช้วิธีโบราณดูเอาขนมปัง 3 แผ่นยัดเข้าปากแล้วตามด้วยน้ำผลไม้ แก้วใหญ่ๆ 1 แก้ว สุดท้ายก้างปลามันก็หลุดค่ะ


โดย: จขบ.เองจ้า (ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว ) วันที่: 9 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:27:09 น.  

ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]





(ต้อง log in ก่อนนะคะถึงจะเช็คข้อความได้)
lozocat
lozocatlozocat
ขอปิดบล็อกก่อนนะคะ เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เข้ามาเม้นท์เมื่อไหร่ แอบเกรงใจเพื่อนๆที่เข้ามาเม้นท์รอค่ะ



จขบ.นี้ค่อนข้างไร้สาระนิโหน่ยนะคะ อิอิ

สาระไม่มีหน้าตาดีไปวันๆ เอิ๊กกกกกก เพราะงั้นอย่าหวังที่จะได้รับสาระประโยชน์จากการเข้ามาอ่านบล็อกนี้ให้มากนักนะคะ เน้นขำๆค่ะ ฮ่าๆๆ

และเนื่องจากจขบ.นี้แต่งกลอนไม่เป็น ร้องเพลงไม่เก่ง จำชื่อคนสัตว์สิ่งของก็ไม่ค่อยได้ ยิ่งเรื่องที่ีจะให้ขีดๆเขียนๆอะไรยาวๆน่ะเร๊อะ ไม่มีทางหร๊อก อิอิ

เพราะงั้นอาจจะมีงงๆมึนๆบ้างนะคะเวลาอ่านเนื้อหาในบล็อกนี้ ทำใจนิสสนุงค่ะ



ถ้าโพสข้อความไม่ได้ สามารถทิ้งข้อความไว้ใน shout box ด้านล่างนี้ได้เลยจ้า



กรอบและบีจีที่เห็นทั้งหมดส่วนใหญ่ในบล็อกนี้จขบ.นำมาจากบล็อกของคุณ lozocat ค่ะ ต้องขอบคุณคุณ lozocat สำหรับกรอบและบีจีน่ารักๆมาไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ



ใครที่กำลังรู้สึกท้อเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก ลองอ่านประสบการณ์การลดน้ำหนักของจขบ. จาก 82 Kg. ให้เหลือ 60 Kg. ภายในปีครึ่ง ดูนะคะ เผื่อจะทำให้คุณมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง PART I , PART II


lozocatlozocat
lozocat
lozocat
lozocat
lozocat
บล็อกนี้จะแสดงผลได้ดีเมื่อใช้ Firefox นะคะ ถ้าเข้าด้วยเว็บเบราเซอร์ตัวอื่นอาจจะมีเพี๊ยนๆนิดหน่อยค่ะ ไม่ต้องแปลกใจไปนะคะ อิอิ
lozocat
lozocat







lozocat

lozocat


.
.lozocat




เริ่มนับ 16 มิ.ย. 54
Free counters!


lozocat.lozocat
lozocat
lozocatlozocat
lozocatlozocat
lozocat
lozocatlozocat
lozocatlozocat
lozocat
lozocatlozocat
lozocatlozocat
lozocat
lozocatlozocat

lozocatlozocat
lozocat
lozocatlozocat

lozocatlozocat
lozocatlozocat
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
8 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.