Bloggang.com : weblog for you and your gang
สาเหตุของโรคปวดหลัง
สาเหตุของปวดหลัง
โรคปวดหลังส่วนใหญ่มักจะไม่ร้ายแรงร้อยละ 50หายในสองสัปดาห์ ร้อยละ 90 หายในสามเดือน ส่วนใหญ่เกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อหลังอักเสบมักจะหายได้ง่ายเนื่องจากกล้ามเนื้อมีเลือดไปเลี้ยงมาก
สาเหตุของโรคปวดหลังที่พบในคนอายุระหว่าง 20-60 ปี สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากโรคของหมอนรองกระดูก
* กล้ามเนื้อหลังอักเสบ
กล้ามเนื้อหลังอักเสบ Lumbar strian
กล้ามเนื้อหลังโดยเฉพาะกล้ามเนื้อบริเวณเอวจะเป็นกล้ามเนื้อที่สำคัญในการเดิน การนั่งและการยกของ เนื้อเยื่อหลังเช่น กล้ามเนื้อ เอ็นของหลังถูกยืดหรือหดเกร็งจะทำให้เกิดการอักเสบของหลัง การอักเสบของกล้ามเนื้อหลังเป็นภาวะที่พบบ่อยที่สุดในโรคปวดหลังซึ่งมีสาเหตุจาก การใช้กล้ามเนื้อหลังมากไป การใช้กล้ามเนื้อหลังผิดวิธี หรือการได้รับบาดเจ็บผู้ป่วยมักหายในเวลา 3 เดือน หากเกินกว่านั้นให้ถือว่าเป็นเรื้อรัง ผู้ป่วยกล้ามเนื้อหลังอักเสบมักจะเกิดในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีแต่สามารถเกิดได้ทุกอายุ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหลังเฉพาะที่และมักจะปวดหลังเกิดเหตุการณ์กระตุ้น การวินิจฉัยไม่ยากมักจะได้ประวัติการได้รับบาดเจ็บ ไม่มีอาการอ่อนแรงหรืออาการชา x-ray กระดูกหลังปกติ
การรักษา ประกอบด้วยการพักและการให้ยาแก้ปวดและลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ การประคบร้อนประคบเย็น การนวด การบริหารกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้อง ไม่ควรพักนานเพราะอาจจะเกิดผลเสีย ยาแก้ปวดก็ใช้ยา paracetamol ถ้าไม่หายปวดก็ให้ใช้ NSAID
ยาลดการอักเสบ NSAID
ยาแก้อักเสบหรือยาแก้ปวดที่แพทย์และผู้ป่วยนิยมใช้กันใช้ทั้งลดไข้ในเด็ก ลดอาการข้ออักเสบ แต่ยากลุ่มนี้ก็มีผลข้างเคียงหากใช้ยาไม่ถูกต้อง ท่านผู้อ่านที่ใช้ยากลุ่มนี้ต้องศึกษาถึงผลดีและผลเสียของยากลุ่มนี้ข้อบ่งชี้ในการใช้ยากลุ่มนี้ได้แก่
1. ใช้เป็นยาแก้ปวด Analgesic ได้แก่ยา Diclofenac; Fenoprofen; Floctafenine; Ibuprofen; Ketoprofen; Meclofenamate; Mefenamic Acid; Naproxen
2. ใช้ลดการอักเสบ Anti-inflammatory ได้แก่ยา Flurbiprofen; Indomethacin; Naproxen; Sulindac; Tenoxicam
3. ใช้แก้ปวดประจำเดือน Antidysmenorrheal ได้แก่ยา Diclofenac; Flurbiprofen; Ibuprofen; Indomethacin; Ketoprofen; Meclofenamate; Mefenamic Acid; Naproxen; Piroxicam
4. ใช้รักษาโรคเก๊า Antigout agentไดแก่ยา Diclofenac Fenoprofen; Floctafenine; Ibuprofen; Indomethacin; Ketoprofen; Naproxen; Phenylbutazone; Piroxicam; Sulindac
5. ใช้ลดไข้ AntipyreticIbuprofen; Indomethacin; Naproxen
6. ใช้รักษาข้ออักเสบ Antirheumatic ได้แก่ยา Diclofenac; Diflunisal; Etodolac; Fenoprofen; Flurbiprofen; Ibuprofen; Indomethacin; Ketoprofen; Meclofenamate; Nabumetone; Naproxen; Oxaprozin; Phenylbutazone; Piroxicam; Sulindac; Tenoxicam; Tiaprofenic Acid; Tolmetin
7. ใช้ป้องกันอาการปวดศีรษะจากหลอดเลือด Vascular headache prophylactic ได้แก่ยาFenoprofen; Ibuprofen; Indomethacin; Mefenamic Acid; Naproxen
8. ใช้แก้ปวดศีรษะจากหลอดเลือดสมอง Vascular headache suppressantได้แก่ยา Diclofenac; Diflunisal; Etodolac; Fenoprofen; Floctafenine; Ibuprofen; Indomethacin; Ketoprofen; Meclofenamate; Mefenamic Acid; Naproxen
ข้อควรกระทำก่อนใช้ยากลุ่มนี้
1. แพ้ยา หากท่านผู้อ่านแพ้ยาดังต่อไปนี้ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชก่อนใช้ยา และไม่ควรใช้ยาในกลุ่มนี้เองเนื่องจากอาจจะแพ้ยา
* Aspirin or other salicylates
* Ketorolac
* Oxyphenbutazone
* ibuprofen (e.g., Suprol)
2. หากท่านผู้อ่านเป็นโรคหัวใจหรือโรคไตไม่สามารถรับอาหารที่มีเกลือมากไม่ได้ ต้องแจ้งแพทย์เนื่องจากยาในกลุ่มนี้บางตัวมีเกลือผสมอยู่ อาจจะทำให้โรคที่ท่านเป็นอยู่มีอาการทรุดลง
3. การตั้งครรภ์ เนื่องจากการใช้ยาในคนท้องอาจจะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ และอาจจะเกิดปัญหากับทารกดังนั้นจึงไม่ควรซื้อยารับประทานเองขณะตั้งครรภ์
4. ขณะให้นมบุตร ไม่ควรใช้ยาดังต่อไปนี้ indomethacin meclofenamate phenylbutazone piroxicam เนื่องจากมีรายงานว่าเกิดผลข้างเคียง
5. ผู้สูงอายุ อาจจะทำให้สับสน หน้า เท้าบวม ปัสสาวะออกน้อย
6. หากท่านผู้อ่านที่รับประทานยาอื่นร่วมด้วยต้องแจ้งแพทย์และเภสัชทุกครั้ง
7. ถ้าหากท่านมีโรคประจำตัวต้องแจ้งทุกครั้ง เช่น โรคหัวใจ โรคหอบหืด โรคลมชัก โรคเลือด โรคกระเพาะ โรคไต เป็นต้น
วิธีการใช้ยาที่ถูกต้องเป็นอย่างไร
หลังจากที่รับประทานยานี้แล้วท่านจะต้องทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
* ให้ดื่มน้ำทันที 1 แก้วและห้ามนอนราบเป็นเวลา 30 นาทีเพื่อป้องกันยาระคายเคืองต่อกระเพาะและหลอดอาหาร
* ให้รับประทานยานี้พร้อมอาหาร หรือรับประทานยาลดกรดร่วมด้วย
* ยาที่ออกฤทธิ์ช้า delayed-release (enteric-coated) ไม่จำเป็นต้องรับประทานพร้อมอาหาร หรือยาลดกรด
* ยานี้ให้กลืนห้ามเคี้ยว
* หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท Lumbar disc herniation
เมื่อหมอนรองกระดูกเสื่อมก็จะมีการเคลื่อนของหมอนรองกระดูกเข้าไปในช่องไข สันหลัง หรือช่องที่รากประสาทโผล่ออกมาทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทดังกล่าว ตำแหน่งที่พบบ่อยคือข้อสันหลังระดับเอวที่ 4-5( L4- L5 )(lumbar segments 4 and 5) หรือ L5- S1 (lumbar segment 5 and sacral segment 1)ซึ่งจะมีอาการ
* รากประสาทระดับ L5 ถูกกดทับผู้ป่วยจะมีอาการกระดกนิ้วหัวแม่เท้าไม่ได้และเวลาเดินขาจะลากเนื่องจากยกเท้าไม่ขึ้น ชาหรือปวดบริเวณหลังเท้าอาจจะเร้าไปบริเวณก้น
ผู้ป่วยจะมีอาการชาบริเวณนี้
ผู้ป่วยไม่สามารถกระโดกเท้าขึ้น
รากประสาทระดับS1 ถูกกดทับผู้ป่วยไม่สามารถผุ้ป่วยจะเหยียดเท้าไม่ได้และมีอาการชาหรือปวดบริเวณผ่าเท้าและด้านข้างของเท้า
ผู้ป่วยจะมีอาการชาบริเวณนี้
ผู้ป่วยจะเหยียดเท้าไม่ได้
ผู้ป่วยที่มีอาการปวดร้าวเหมือนไฟช็อตจากเอวลงไปขาเรียก Sciatica ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะดีขึ้นภายใน 6 สัปดาห์ระหว่างที่รอให้หายอาจจะมีการรักษาเพื่อลดอาการปวดดังนี้
* การทำกายภาพ Physical therapy
* การนวดทางการแพทย์ Osteopathic/chiropractic manipulations
* การใช้ยาลดอาการอักเสบNon-steroidal anti-inflammatory drugs (NSAIDs)
* การใช้ยา Oral steroids (e.g. prednisone or methyprednisolone)
* การฉีดยาAn epidural (cortisone) injection
หากอาการปวดไม่หายใน 6 สัปดาห์ก็แนะนำให้ผ่าตัด
* หมอนรองกระดูกเสื่อม Degenerative disc disease
หมอนรองกระดูกเสื่อม lumbar degenerative disc disease
เกิดจากจุดเริ่มต้นที่มีการบิด (twisting)อย่างรุนแรงต่อหมอนกระดูกทำให้หมอนรองกระดูกไม่แข็งแรงไม่สามารถ เป็นข้อต่อที่ดีให้กับกระดูดหลัง และเกิดการอักเสบทำให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรัง
หมอนรองกระดูกไม่เหมือนกล้ามเนื้อที่มีเลือดและสารอาหารไปเลี้ยงมากเวลาเกิด โรคจึงหายได้เร็ว แต่หมอนรองกระดูกไม่มีเลือดไปเลี้ยงทำให้เป็นโรคเรื้องรังและอาการจะเป็นมาก ขึ้นเรื่อยๆ
การเสื่อมของหมอนรองกระดูกตามอายุมักจะไม่ก่อให้เกิดอาการปวดหลังเนื่องจากไม่มีการอักเสบและข้อหลังมีความมั่นคงดี
การรักษา
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ปวดไม่มากสามารถด้วยยาและการบริหารกล้ามเนื้อและออกกำลังกาย
* การบริหารโดยยืดกล้ามเนื้อต้น hamstring stretching
* การออกกำลังที่ใช้กล้ามเนื้อหลังน้อยdynamic lumbar stabilization exercises
* การออกกำลังกายแอโรบิคที่มีการกระแทกน้อย low-impact aerobic conditioning
สำหรับยาที่ใช้ได้แก่ยากลุ่ม NSAID paracetamol การผ่าตัดจะทำในรายที่มีอาการปวดมากไม่สามารถทำงานได้
* Isthmic spondylolisthesis
สาเหตุของโรคปวดหลังที่พบในคนอายมากกว่า 60 ปีสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากโรคข้อต่อ
* ข้อเสื่อม Facet joint osteoarthritis
ข้อกระดูกหลังเสื่อม Facet joint osteoarthritis
การเสื่อมของข้อสามารถเกิดได้ทุกข้อ เมื่อมีการเสื่อมจะสูญเสียกระดูกอ่อน และน้ำหล่อเลี้ยงข้อ เมื่อเวลาเคลื่อนไหวก็จะทำให้ปวด อาการที่สำคัญคือจะปวดมากในตอนเช้าเมื่อเวลาผ่านไปน้ำหล่อลื่นข้อมีมากขึ้นทำให้อาการปวดลดลง แต่สายๆจะปวดมากขึ้น
การรักษา
ผู้ป่วยมักจะรักษาได้ด้วยยาและการออกกำลัง บางรายที่ปวดมากก็ต้องผ่าตัด
* การบริหารโดยการยืดเส้น Stretching exercises โดยเฉพาะการยืดกล้ามเนื้อ hamstring muscles กล้ามเนื้อสะโพก และกล้ามเนื้อหลัง การบริหารดังกล่าวจะป้องกันอาการปวดหลัง
* สำหรับผู้ที่มีอาการปวดมากอาจจะให้การรักษาแบบ chiropractic or osteopathic manipulations
* การบริหารในน้ำซึ่งจะช่วยลงแรงที่กระทำยังกระดูกหลังจะช่วยบรรเทาอาการปวด
* ยาแก้ปวดที่ได้ผลดีคือ paracetamol ถ้าหากไม่ได้ผลก็สามารถใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAID
* การผ่าตัดจะทำในกรณีที่ปวดมาก แพทย์จะทำการเชื่อมกระดูกให้ติดกัน
* ท่อไขสันหลังตีบ Lumbar spinal stenosis
ท่อไขสันหลังตีบ Lumbar spinal stenosis
เมื่ออายุมากขึ้นข้อทุกข้อของร่างกายจะเสื่อมรวมทั้งข้อ Facet joint ซึ่งจะทำให้ข้อนี้ใหญ่ขึ้นก็จะไปเบียดเส้นประสาท เมื่อลุกยืนช่องที่จะให้รากประสาทผ่านจะเล็กลงทำให้การไหลของเลือดที่จะไ ปเลี้ยงเส้นประสาทลดลงจะเกิดอาการปวดหลังเมื่อยืน ผู้ป่วยโรคนี้จะรู้สึกสบายดีเมื่อนั่งหรือนอน แต่เมื่อเดินจะทำให้ปวดหลังยิ่งเดินมากจะทำให้ปวดมาก การใช้ไม้เท้าหรือการเข็นตะกร้าตามห้างจะช่วยลดอาการปวดหลัง
การรักษา
1. การรักษาโดยไม่ผ่าตัด
* การเปลี่ยนพฤติกรรม ผู้ป่วยมักจะรู้สึกสบายเมื่อหลังอยู่ในท่างอไปข้างหน้าเล็กน้อย เวลาเดินก็ใช้ไม้เท้าช่วย การออกกำลังใช้วิธีการขี่จักรยานอยู่กับที่
* การฉีดยาเข้าไขสันหลังอาจจะช่วยบรรเทาได้ชั่วคราวสามารถฉีดได้ปีละ 3 ครั้ง
2. การผ่าตัด เป็นการผ่าตัดเพื่อทำให้รูกว้างขึ้นส่วนใหญ่ได้ผลดี
* กระดูกหลังเสื่อม Degenerative spondylolisthesis
กระดูกสันหลังเคลื่อน Degenerative spondylolisthesis
ข้อที่กระดูกหลังประกอบด้วยข้อ 3 ข้อคือระหว่างกระดูกสันหลังขั้นกลางด้วยหมอนรองกระดูก ร่วมกับ ข้อ facet อีก2 ข้อ เมื่อมีการเสื่อมของ Facet joint osteoarthritis ก็ ทำให้ข้อกระดูกหลังไม่แข็งแรงโดยเฉพาะข้อที่มีการเคลื่อนไหวมากเช่นข้อ กระดูกสันหลังเอวข้อที่ 4-5 (L4-L5 ) ตำแหน่งที่พบรองลงมาได้แก่ข้อ L3-L4ทำให้มีการเคลื่อนที่ของข้อเกิดการกดทับรากประสาทและเกิดรูท่อประสาท ตีบ lumbar spinal stenosis.
เนื่องจากมีการกดทับเส้นประสาท การรักษาจึงมักจะผ่าตัดเพื่อลดการกดทับเส้นประสาทและการเชื่อมกระดูกให้ติดกัน
นอกจากนั้นยังพบสาเหตุอื่นๆอีกพร้อมทั้งอาการของโรค
สาเหตุและอาการของโรคปวดหลัง
โรค : โรคที่เกิดจากข้อและกล้ามเนื้อ (ข้อเสื่อม กล้ามเนื้อหลังอักเสบ)
อาการ : ไม่มีอากาชาขา ปัสสาวะอุจาระปกติ กดหลังจะปวด
โรค : หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทSciatica (herniated disc)
อาการ : ปวดขาร่วมกับหลัง ปวดแบบไฟช็อต เมื่อนอนยกเท้าขึ้นจะทำให้ปวด
โรค : กระดูกหลังหักSpine fracture (compression fracture)
อาการ : ประวัติได้รับอุบัติเหตุ มีโรคกระดูกพรุน กดบริเวณที่หักจะปวด
โรค : ข้อเคลื่อน Spondylolysis
อาการ :มักเกิดในนักกีฬาเช่น ฟุตบอล ยกน้ำหนัก ยิมนัสติก จะปวดเมื่อแอ่นหลัง
โรค :มะเร็ง
อาการ :ผู้ป่วยจะมีน้ำหนักลด มีไข้ มีประวัติมะเร็ง
โรค :SLE
อาการ :ผู้ป่วยจะมีไข้ ปวดข้อนิ้ว มีผื่นที่หน้า
โรค :การติดเชื้อ
อาการ :มีไข้ อาจจะติดยาเสพติด เป็นวัณโรค กดบริเวณโรคจะเจ็บ
โรค :การติดเชื้อ
อาการ :มีไข้ อาจจะติดยาเสพติด เป็นวัณโรค กดบริเวณโรคจะเจ็บ
โรค :หลอดเลือดแดงใหญ่โป่ง Abdominal aortic aneurysm
อาการ :ผู้ป่วยจะปวดท้อง ปวดหลัง ไม่มีท่าที่สบาย คลำได้ก้อนในท้อง
โรค :ไขสันหลังตีบ spinal stenosis
อาการ :กลั้นปัสสาวะและอุจาระไม่ได้ ชาบริเวณก้น มีอาการอ่อนแรงของขา
โรค :คอพอกเป็นพิษ Hyperparathyroidism
อาการ :อาการจะค่อยเป็นค่อยไป มักจะมีแคลเซียมในเลือดสูง มีนิ่ว
โรค :นิ่วในไต Nephrolithiasis
อาการ :ปวดมวนๆร้าวลงขาหนีบ ปัสสาวะมีเลือด
Create Date : 20 ตุลาคม 2551
Last Update : 20 ตุลาคม 2551 20:24:14 น.
5 comments
Counter : 3483 Pageviews.
Share
Tweet
สวัสดีค่ะคุณแม่น้องแปงแปง
คิดถึงค่ะ..
ขอบคุณข้อมูลที่ดี ๆ อ่านแล้วมีประโยชน์
I_sabai จะมีอาการปวดหลังบางครั้งค่ะ
คิดอะไรไม่ออก ก็ใช้พาราฯ ไว้ก่อน
โดย:
I_sabai
วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:19:52:07 น.
หลงเข้ามาอ่านเพราะตอนนี้ปวดหลังมากคับ ขอบคุณข้อมูลดีๆมีประโยชน์
มากคับ เพิ่งไปหาหมอมา คุณหมอบอก กระดูก L3S1 อักเสบคับ
ตอนนี้ยังนั่งนานไม่ได้เลยคับ
มีวิธีการรักษาดีๆช่วยแนะนำหน่อยนะคับ mokngam@hotmail.com
โดย: np. IP: 117.47.11.54 วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:21:56:50 น.
เนเธกเนเธ เนเธกเนเธ เนเธกเนเธ
เธซเธฅเธเธกเธฒเธเธดเธเนเธเนเธงเธข เธญเธดเธญเธด
เนเธเธทเนเธญเธซเธฒเธเธตเธเธฐ thank ^_^
โดย: dan IP: 124.157.129.164 วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:21:44:48 น.
จากข้อความที่ได้อ่านได้ความรู้มาก เพราะตัวเองมีอาการปวดหลัง และกนกบ ตอนนี้มีอาการขาบวม ซึ่งเป็นมาหลายปี ซึ่งตอนนี้รักษาอยู่ ตอนนี้กินยาและให้กายภาพบำบัด
โดย: นางสาวเฉลิมศรี อรรคพันธุ์ IP: 125.26.6.202 วันที่: 27 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:40:15 น.
ok'
โดย: สมบูรณ์ สถิตย์รัตนชีวิน IP: 49.49.99.239 วันที่: 20 กรกฎาคม 2555 เวลา:23:44:01 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
แม่น้องแปงแปง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [
?
]
แป๊ว แม่น้องแปงแปง
Group Blog
<<
ตุลาคม 2551
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
20 ตุลาคม 2551
การเลือกหมอนและการเลือกซื้อเตียง
การเลือกเก้าอี้และการรักษาโรคปวดหลัง
การออกกำลังกายหลัง
สาเหตุของโรคปวดหลัง
All Blogs
การเลือกหมอนและการเลือกซื้อเตียง
การเลือกเก้าอี้และการรักษาโรคปวดหลัง
การออกกำลังกายหลัง
สาเหตุของโรคปวดหลัง
โรคปวดหลัง
การแกว่งแขน รักษาโรค
หยุด! ทำร้ายกระดูกสันหลังกันเถอะ
บอกลาอาการปวดหลัง
วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นของมะเร็งชนิดต่างๆ
ปวดศรีษะบอกอะไรเราบ้าง
เคล็ดลับดีๆของการลดน้ำหนัก 10
เคล็ดลับดีๆของการลดน้ำหนัก 9
เคล็ดลับดีๆของการลดน้ำหนัก 8
เคล็ดลับดีๆของการลดน้ำหนัก 7
เคล็ดลับดีๆของการลดน้ำหนัก 6
เคล็ดลับดีๆของการลดน้ำหนัก 5
เคล็ดลับดีๆของการลดน้ำหนัก 4
เคล็ดลับดีๆของการลดน้ำหนัก 3
เคล็ดลับดีๆของการลดน้ำหนัก 2
เคล็ดลับดีๆของการลดน้ำหนัก 1
Diet Tip ใช้ได้จริง 3
Diet Tip ใช้ได้จริง 2
Diet Tip ใช้ได้จริง 1
ปัญหาอยู่ไหนแก้ให้ถูกจุด
กินอย่างไรให้น้ำหนักลด 3 : เทคนิคควบคุมน้ำหนัก
กินอย่างไรให้น้ำหนักลด 2 : กุญแจสำคัญในการลด
กินอย่างไรให้น้ำหนักลด 1 : ความอ้วนมาจากไหน
ปวดหลังป้องกันไม่ยาก
เตือนนั่งหน้าจอคอมฯ นานระวังอาการเริ่มต้นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
Friends' blogs
lozocat
ป้ามด
เนยสีฟ้า
Candydolls
gadeja
KungGuenter
Suessapple
thattron
Paradijs
แม่ของลูกสาว
duen_narak
Malee30
ดอกหญ้าเมืองเลย
maew_kk
ย่าชอบเล่า
ญามี่
ดอกฝิ่นในสายลมหนาว
ขุนพลน้อยโค่วจง
สาระ....จริง
แค่ฟ้ามีดาว ^^
thaispicy
แพรวขวัญ
beautyswan
Hawaii_Havaii
deeplove
Stjerne Ng
เซียน_กีตาร์
Paviewเองจ๊ะ
หมูฟ้าใส
คนชุมแสง
Opey
ไผ่สวนตาล
I_sabai
Flowerfun
มาเรีย ณ ไกลบ้าน
naydin
inasuma
รมย์รวินท์
ยัยลูกหมู
KurodaBB
ladysamui
เริงฤดีนะ
ร่มไม้เย็น
kun_isara
vanilla_ole
หอมกร
Complicatedgirl
ต้นอ้อท้าลม
loppy-poompuy
tudong
Mind learner
emmycookie
นักล่าน้ำตก
satineesh
อิ่ม_Aim
tanjira
nonnoiGiwGiw
jrom
fifty-four
tiny
Madam_Hatyai
ดอยสะเก็ด
addsiripun
Huiling
ลักกี้
ชมพร
ratana_sri
sierra whiskey charlie
swordsman
ตะวันหรรษา ทะเลอาแจ่มใส
พรหมญาณี
ณ ปลายฉัตร
khumpoonboontawee
cengorn
ดาวมฤตยูเทพร่ำไห้
noomind
ปูขาเก เซมารู
Incheon
แม่อ้วนคนสวย
นกน้อยจงแกร่ง
Iaun_Tor
kuk-42
มัชชาร
ข้ามขอบฟ้า
jamaica
เกศสุริยง
ป้าณู
oranuch_sri
เล็กใหญ่น้องฟ้าใส
Webmaster - BlogGang
[Add แม่น้องแปงแปง's blog to your web]
Links
Thai Breastfeeding Center
รักลูก
Real Parenting
Clinicrak
โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)
weddingsquare
F.N.P.Studio by Niphon
Mother&Care
PaewPankPank Hi 5
MyTagged
On-Diet.com
ClinicOnline
For mum and me
BangkokHealth
ครัวไกลบ้าน
ยูแคนคุ๊กไทย
ตารางแคลอรี่
My Gallery
บ้านอ้อมกอดขุนเขารีสอร์ท
The Scenery Resort
Thai Parent
Lovekid
อนุบาลดอทคอม
ฟอนต์.คอม : เติมวิญญาณใส่งานอักษร
Brookside Valley Resort
Color Codes ป้ามด
Zalim-code
สมาคมนักเรียนเก่าบดินทรเดชา
Longdo Dictionary
ห้องชานเรือน
Wedding Gallery ของแม่แป๊วและพ่อเก่ง
บ้านฟ้าใส
พนาลี โฮม แอนด์ แคมปิ้ง
พรรคเพื่อไทย
บ้านเรือรีสอร์ท
ดังตฤณ
พจนานุกรมไทย (ราชบัณฑิตยสถาน)
M&C แม่และเด็ก
โรงเรียนสารสาสน์วิเทศบางบัวทอง
Xanproduct
ประชาไท
คลีนิคเด็ก
Bestmomclub
บ้านกลางทุ่ง
Swiss Valley HIP RESORT
la toscana
Go Ratchaburi
Royal Goodview Resort and Farm
BlogGang.com
MY VIP Friend
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
สวัสดีค่ะคุณแม่น้องแปงแปง
คิดถึงค่ะ..
ขอบคุณข้อมูลที่ดี ๆ อ่านแล้วมีประโยชน์
I_sabai จะมีอาการปวดหลังบางครั้งค่ะ
คิดอะไรไม่ออก ก็ใช้พาราฯ ไว้ก่อน