ช่วงนี้การใช้ชีวิตประจำวันที่นี่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ก็ยังต้องวางใจไม่ได้เลยซะทีเดียวเพราะยังมี After shockเรื่อยๆ เรื่องอาหารการกินก็ยังต้องระวังเรื่องสารปนเปื้อน แต่โดยภาพรวมแล้วสภาพความเป็นอยู่และสภาพจิตใจของคนที่นี่ค่อนข้างดีขึ้นมาก ที่บ้านไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลยก็ถือว่าโชคดีกว่าหลายๆคนมาก
มีเพื่อนคนญี่ปุ่นหลายคนถามว่า
"タイに逃げないですか?" (คุณไม่หนีกลับประเทศไทยเหรอ) เค้าใช้คำว่า"หนี"ค่ะ
ไม่รู้ว่าเค้าถามอารมณ์ไหน เราก็ได้แต่อึ้งกับคำถามของเค้า
ณ ตอนนั้นก็ได้แต่ตอบเค้าไปว่า "帰国しないです。大丈夫と思っているから"(ไม่กลับค่ะเพราะคิดว่ามันก็ไม่ได้อันตรายขนาดนั้น)
เป็นไงค่ะ คำตอบนางงามมากๆๆๆๆ แต่ก็คิดว่ามันก็ไม่ได้อันตรายอะไรมากจริงๆค่ะ อาจจะเพราะเราไม่ได้เจอเหตุการณ์แบบที่บ้านโดนซึนามิ สูญเสียคนในครอบครัวก็ได้ ก็เลยคิดว่าไม่เป็นอะไร และอีกอย่างก็เชื่อมั่นในประเทศเค้าค่ะ
แต่คิดอีกแง่หนึ่งการที่เรากลับบ้านก็อาจจะช่วยประหยัดอาหารการกิน ช่วยเซฟอะไรหลายๆอย่างได้ เพราะว่าช่วงนี้อาหารการกิน ตลอดจนไฟฟ้า น้ำมัน ก็ค่อนข้างมีจำกัด ถ้าเราออกจากประเทศเค้าไปก็ช่วยลดภาระตรงนี้ไปได้บ้าง อย่างว่าค่ะ ต่างคนก็ต่างจิตต่างใจค่ะ ทุกคนย่อมมีเหตุและผลเป็นของตนเองค่ะ
มีเพื่อนคนฮ่องกงคนหนึ่งค่ะ หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวกับซึนามิผ่านไปประมาณอาทิตย์หนึ่ง
เมลมาถามว่า "อยู่ที่ไหน ยังอยู่เซนไดอยู่เหรอ? ตอนนี้เค้ากับสามี(คนญี่ปุ่น)อพยพมาอยู่ที่โตเกียวแล้วนะ เซนไดนะอันตรายนะ รีบอพยพเถอะ"
ก็เลยเมลตอบไปว่า "อพยพไปไหนไม่ได้หรอกเพราะอาทิตย์หน้าสามีก็ต้องไปทำงานแล้ว ตอนนี้ไฟฟ้า ก็ใช้ได้แล้ว คิดว่าคงไม่เป็นไรหรอก แล้วถามกลับไปว่าสามีเธอไม่จ้องไปทำงานเหรอ?"
เค้าตอบมาว่า "สามีเค้าจะลาออกจากงาน" วันนี้เค้าก็เมลมาถามอีก บอกว่า "ตอนนี้อยู่ฮ่องกง อากาศ น้ำประปาของกินปลอดภัยไหม สารกัมมันตรังสีปนเปื้อนไหม?"
เมลตอบไปว่า"เรื่องอากาศกับน้ำก็มีปนเปื้อน แต่ก็ได้ถึงกับว่าเกินค่าที่เค้ากำหนดไว้"
ก็เลยคิดว่าเค้าคงกลัวจริงๆ แต่ชีวิตใคร ใครก็รักเป็นธรรมดา
จากเรื่องเครียดๆเปลี่ยนบรรยากาศมาดูดอกบ๊วยสวยๆกันดีกว่าจะได้สดชื่น....
ช่วงนี้การใช้ชีวิตประจำวันที่นี่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ก็ยังต้องวางใจไม่ได้เลยซะทีเดียวเพราะยังมี After shockเรื่อยๆ เรื่องอาหารการกินก็ยังต้องระวังเรื่องสารปนเปื้อน แต่โดยภาพรวมแล้วสภาพความเป็นอยู่และสภาพจิตใจของคนที่นี่ค่อนข้างดีขึ้นมาก ที่บ้านไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลยก็ถือว่าโชคดีกว่าหลายๆคนมาก
มีเพื่อนคนญี่ปุ่นหลายคนถามว่า
"タイに逃げないですか?" (คุณไม่หนีกลับประเทศไทยเหรอ) เค้าใช้คำว่า"หนี"ค่ะ
ไม่รู้ว่าเค้าถามอารมณ์ไหน เราก็ได้แต่อึ้งกับคำถามของเค้า
ณ ตอนนั้นก็ได้แต่ตอบเค้าไปว่า "帰国しないです。大丈夫と思っているから"(ไม่กลับค่ะเพราะคิดว่ามันก็ไม่ได้อันตรายขนาดนั้น)
เป็นไงค่ะ คำตอบนางงามมากๆๆๆๆ แต่ก็คิดว่ามันก็ไม่ได้อันตรายอะไรมากจริงๆค่ะ อาจจะเพราะเราไม่ได้เจอเหตุการณ์แบบที่บ้านโดนซึนามิ สูญเสียคนในครอบครัวก็ได้ ก็เลยคิดว่าไม่เป็นอะไร และอีกอย่างก็เชื่อมั่นในประเทศเค้าค่ะ
แต่คิดอีกแง่หนึ่งการที่เรากลับบ้านก็อาจจะช่วยประหยัดอาหารการกิน ช่วยเซฟอะไรหลายๆอย่างได้ เพราะว่าช่วงนี้อาหารการกิน ตลอดจนไฟฟ้า น้ำมัน ก็ค่อนข้างมีจำกัด ถ้าเราออกจากประเทศเค้าไปก็ช่วยลดภาระตรงนี้ไปได้บ้าง อย่างว่าค่ะ ต่างคนก็ต่างจิตต่างใจค่ะ ทุกคนย่อมมีเหตุและผลเป็นของตนเองค่ะ
มีเพื่อนคนฮ่องกงคนหนึ่งค่ะ หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวกับซึนามิผ่านไปประมาณอาทิตย์หนึ่ง
เมลมาถามว่า "อยู่ที่ไหน ยังอยู่เซนไดอยู่เหรอ? ตอนนี้เค้ากับสามี(คนญี่ปุ่น)อพยพมาอยู่ที่โตเกียวแล้วนะ เซนไดนะอันตรายนะ รีบอพยพเถอะ"
ก็เลยเมลตอบไปว่า "อพยพไปไหนไม่ได้หรอกเพราะอาทิตย์หน้าสามีก็ต้องไปทำงานแล้ว ตอนนี้ไฟฟ้า ก็ใช้ได้แล้ว คิดว่าคงไม่เป็นไรหรอก แล้วถามกลับไปว่าสามีเธอไม่จ้องไปทำงานเหรอ?"
เค้าตอบมาว่า "สามีเค้าจะลาออกจากงาน" วันนี้เค้าก็เมลมาถามอีก บอกว่า "ตอนนี้อยู่ฮ่องกง อากาศ น้ำประปาของกินปลอดภัยไหม สารกัมมันตรังสีปนเปื้อนไหม?"
เมลตอบไปว่า"เรื่องอากาศกับน้ำก็มีปนเปื้อน แต่ก็ได้ถึงกับว่าเกินค่าที่เค้ากำหนดไว้"
ก็เลยคิดว่าเค้าคงกลัวจริงๆ แต่ชีวิตใคร ใครก็รักเป็นธรรมดา
จากเรื่องเครียดๆเปลี่ยนบรรยากาศมาดูดอกบ๊วยสวยๆกันดีกว่าจะได้สดชื่น....
@sendai